บทที่ 160 ยิ้มราวกับดอกไม้ผลิบาน
1/
บทที่ 160 ยิ้มราวกับดอกไม้ผลิบาน
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 160 ยิ้มราวกับดอกไม้ผลิบาน
บทที่ 160 ยิ้มราวกับดอกไม้ผลิบาน “ส้ม บอกหม่ามี๊ หนูมีความลับอะไรหรือไม่” “ได้ค่ะ แบบนั้นพวกหนูนอนกับหม่ามี๊ เปลี่ยนห้องกันเถอะ” เด็กน้อยก็วิ่งไปยังอีกห้องหนึ่งแทน ดึงแขนของเพ็ญนีติ์ตามเข้าไปด้วย เป็นห้องพักที่หรูหราและกว้างขวาง ตอนที่เดินผ่านโถงทางเดิน เพ็ญนีติ์ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย คิดแค่อยากรีบอาบน้ำก่อน แล้วล้มตัวนอนพักบนเตียงสักครู่ หลังจากนั้นค่อยไปทานข้าว ช่วงพักผ่อนก็ต้องทำตัวมาพักผ่อนจริงๆ เลยช่วงปีใหม่ไปเธอก็ต้องกลับมายุ่งอีกครั้ง บางที ปุริมก็ถือว่าตัดสินใจได้ถูกเวลาจริงๆ เมื่อถึงจุดสิ้นสุดของห้องโถงทางเดิน เธอเงยหน้าขึ้น แต่ก็อ้าปากค้างขึ้นมาทันที สวรรค์ ดอกกุหลาบสีน้ำเงินมากมาย เป็นสีน้ำเงินที่สะดุดตา เป็นสีน้ำเงินที่เหมือนกับความฝัน ดูไม่เป็นความจริงเลยสักนิด “หม่ามี๊ เตียงนี้...” จิตใต้สำนึกของเธอสั่งให้เดินตรงไปที่เตียงทันที ยื่นมือหยิบช่อดอกกุหลาบสีน้ำเงินขึ้นมาดม กลิ่นหอมอ่อนนั้นลอยเข้ามาในจมูกทันที พวกเด็กๆต้องรู้กันอยู่แล้ว ดังนั้นถึงได้อยากจะนอนห้องข้างๆแล้วยกห้องนี้ให้แก่เธอ... พอจะพูด โทรศัพท์ก็มีเสียงเข้ามาว่ามีข้อความถูกส่งมา นิ้วขาวกดปุ่มที่โทรศัพท์ เป็นข้อความที่ส่งมาจากปุริม “ตอนเที่ยงว่างไหมครับ” อันนี้มันเกี่ยวกับอะไร พวกเธอมาด้วยกัน หากบอกว่าไม่ว่างก็จะเป็นการโกหกเกินไปหน่อยไหม “มีเรื่องอะไรคะ” “จะชวนคุณไปทานข้าวเที่ยงด้วยกัน” แค่คำว่า ‘ชวน’ คำเดียว ก็ทำให้เธอคิดไปถึง ‘นัดเดท’ ได้ รีบตอบกลับไปทันที “เด็กๆต้องไปด้วย” “ได้ครับ ตามคุณบัญชา” เขาตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “เพียงแค่คุณรับปากเดทนี้ก็พอ” เธอนิ่งไป ทันใดนั้นก็นึกถึงคำพูดของเขาตอนที่เพิ่งออกจากลิฟต์มา: เพ็ญนีติ์ พวกเรามาเริ่มต้นกันใหม่เถอะ... ใบหน้าจู่ๆก็ร้อนขึ้นมา “อ้อย ส้ม ไปอาบน้ำเร็วค่ะ” เกลียดสายตาของเด็กทั้งสองที่จ้องเขม็งมาที่เธอเหลือเกิน เป็นครั้งแรกที่เธออยากผลักเด็กๆออกห่างจากตัวเอง เธอต้องการความสงบ ต้องการเวลาพิจารณาท่าทางของเขาในตอนนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรหัวใจของเขาก็เพิ่งได้รับบาดเจ็บมา จะมาเริ่มต้นใหม่กับเธอได้อย่างไรกัน แต่เมื่อเด็กๆได้หายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว หัวใจของเธอก็ยังคงเต้นรัวอยู่ สับสนมาก สับสนอะไรขนาดนี้กัน แล้วจู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา ไม่ได้มองแม้แต่น้อย เธอคิดว่าเป็นปุริม จึงรีบรับ “ไม่ใช่ว่าบอกแล้วหรือว่าจะพาเด็กๆไปทานข้าวด้วยกัน คุณยังต้องการอะไร...” “เพ็ญนีติ์ ผมเอง” เพ็ญนีติ์ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะนั่งลงที่พื้นพรม “คุณจำรูญ มีเรื่องอะไรหรือคะ” ทำไมถึงได้คิดว่าสายจากจำรูญจะเป็นของปุริมไปได้นะ เมื่อคิดเรื่องที่น่าละอายใจขึ้นมาได้ หน้าของเธอก็แดงอย่างห้ามไม่อยู่ เวลานี้เขาโทรมาทำไมกัน “สวัสดีปีใหม่ครับ” เขากล่าวเสียงแผ่ว น้ำเสียงนั้นอบอุ่นกว่าในครั้งแรก “สวัสดีปีใหม่ค่ะ” ปีใหม่วันที่สี่ เป็นเรื่องปรกติที่จะมาเยี่ยมเยียนกัน แต่เดิมเขาแค่อยากไปเยี่ยมเท่านั้น “ไปชานเมืองแล้วคุณไม่อยู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือครับ” เขาถามกลับมา นั่นทำให้เพ็ญนีติ์เข้าใจน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงในตอนแรกขึ้นมา แต่เดิมเขาคงเห็นว่าเธอไม่อยู่ถึงได้โทรมา เขาไม่ได้ตั้งใจจะมารบกวนแต่อย่างใด “เปล่าค่ะ ฉันออกมาฉลองวันปีใหม่ที่อุทยานธรณีวิทยาภูเขาไฟ” ตอบอย่างไม่ได้คิดอะไร เมื่อคิดว่าเขาและญาณินท์ได้เลิกกันแล้ว แต่ก็คงมีคุณค่าต่อกันและกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะดูไม่มีทางจะกลับมาคืนดีกันได้ แต่ก็ยังคงเป็นเพื่อนกันได้ ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน คงไม่ต้องตัดขาดขนาดนั้น ท้ายที่สุดเขาก็เป็นรักแรกของเธออยู่ดี รักแรกนั้นสวยงามที่สุด มันทำให้ผู้หญิงต่างก็ลืมยากที่สุด คำพูดนั้นคือสัจธรรมอย่างแท้จริง “จริงหรือ ผมอยู่สวนพฤกษชาติที่อยู่ใกล้ๆนี่ เพ็ญนีติ์ เดี๋ยวผมไป จะได้ช่วยดูแลเด็กด้วย” เขาหัวเราะก่อนจะวางสายไป “คะ เดี๋ยวรอก่อน...” แต่ว่าจำรูญช่างเป็นคนที่ลื่นไหลเก่งมาก รีบวางสายทันที ไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสปฏิเสธเลย ช่างมัน ไปตามใจเขาเถอะ ชายหนุ่มหย่าแล้ว เธอเองก็ไม่ได้แต่งงาน แต่ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปได้เช่นกัน มันเรื่องอะไรของเขากัน ปุริมเองก็มีผู้หญิงมากมายแล้วทำไมเธอถึงมีเพื่อนของตัวเองบ้างไม่ได้กัน เป็นเพียงแค่เพื่อนชายเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น ในตอนที่เจอจำรูญครั้งที่แล้ว เธอเองก็พูดกับเขาไปอย่างชัดเจนมากที่สุดแล้ว เด็กๆออกมากันแล้ว ร่างที่เปียกน้ำเดินออกมาพร้อมกับเช็ดไปด้วย “ตาหม่ามี๊แล้วค่ะ” “ค่ะ ดูทีวีไปนะ หม่ามี๊อาบน้ำครู่เดียว” ถือชุดสำหรับเปลี่ยนแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป น้ำอุ่นจากฝักบัวรดมาตามร่างกาย ในจมูกร้อนขึ้นมา เลือดกำเดาจึงไหลอีกครั้ง ทำให้เธอรับเงยหน้าทันที จากนั้นก็ตบตีที่หน้าผากอย่างยุ่งเหยิง เป็นเวลานาน เลือดจึงหยุดไหล ดึงกระดาษทิชชูมาอุดที่จมูกไว้ เลือดกำเดาไม่ได้ไหลมานานแล้ว โชคดีที่อยู่ในห้องน้ำ ไม่อย่างนั้นคงทำให้เสื้อผ้าและห้องต้องเลอะไปด้วยแน่ มองตัวเองในกระจกผ่านไหล่ไป จมูกที่มีกระดาษทิชชูยัดอยู่นั้นช่างดูประหลาด ทันใดนั้นประตูก็ถูกผลักเข้ามา “เพ็ญนีติ์ ทำไมเลือดถึงไหลกัน” เธอรีบหันหลัง ห้องน้ำที่น่าตายนี่จู่ๆก็มาท่อตัน ทำให้น้ำจากฝักบัวไหลออกจากห้องน้ำไป น้ำนั้นกลายเป็นสีแดง จนดูน่าตกใจ เมื่อครู่เธอมัวแต่สนใจที่จมูกเท่านั้น จึงไม่ทันได้สนใจว่าน้ำในห้องน้ำนั้นท่วมข้อเท้าของเธอแล้ว ”ว้าย...” ร้องอย่างตกใจ เธอเริ่มตอบสนองหลังจากที่กระพริบตา กลางวันแสกๆร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอถูกปุริมกวาดมองอย่างรวดเร็ว แต่ข้างหลังของเขานั้น คืออ้อยและส้มที่วิ่งตามมาจนหอบ... แต่ที่ทำให้เพ็ญนีติ์เศร้าที่สุดคือปุริม เขาแต่งตัวได้เรียบร้อยมาก แม้แต่แขนเสื้อของเสื้อเชิ้ตทั้งสองข้างยังถูกพับขึ้นจนแคบ เหมือนกับว่าจะไปร่วมงานเลี้ยงแบบทางการอย่างไรอย่างนั้น ”คุณ... คุณออกไป...” สะบัดมือ เธอรีบปิดประตูห้องอาบน้ำเสียงดัง โดนเห็นร่างกายที่เปลือยกายเช่นนั้นทำให้เธออับอายมากจริงๆ เธอแรงนั้นเยอะมาก หลังจากที่ประตูถูกปิดไปแล้วยังทุบมันซ้ำด้วย ข้างนอกนั่น ก็มีเสียงที่ยังไม่วางใจของปุริมดังลอยมา “เพ็ญนีติ์ คุณไม่เป็นอะไรจริงๆหรือ” เพ็ญนีติ์ก้มตัวลงทำความสะอาดห้องน้ำ แต่เดิมมันตันเพราะผ้าที่เด็กๆทิ้งไว้เมื่อครู่ “ครื้น” น้ำบนพื้นห้องน้ำนั้นรีบไหลลงท่อไปอย่างรวดเร็ว สายตาจ้องมองคราบเลือดจนมันหายไปหมด เพ็ญนีติ์ถอนหายใจยาวๆ แล้วตอบกลับชายหนุ่มข้างนอกด้วยเสียงนิ่ง: “ฉันแค่เลือดกำเดาไหลค่ะ” “เช่นนั้นก็ดี ล้างเสร็จแล้วก็ออกมาครับ ผมรอคุณไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันอยู่” “ค่ะ” เสียงของเบาจนแทบไม่ได้ยิน เมื่อครู่เธอเพิ่งคิดว่าจะทำมองข้ามเขาไป ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ใจมันกลับเต้นรัว จะห้ามอย่างไรก็ห้ามไม่อยู่ ล้างเสร็จอย่างรวดเร็ว รีบเสื้อผ้าแล้วเดินออกไป ในห้องนั้นมีชายหนุ่มและเด็กๆที่แต่งตัวเสร็จแล้วกำลังรอเธออยู่ เธอเดินไปพลางเช็ดผมไปด้วย น้ำก็หยดตามทางอย่างช่วยไม่ได้ ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดใจ เช็ดจนกระทั่งไม่มีน้ำหยดอีกแล้ว เธอจึงหยิบหวีขึ้นมาเช็ดผมที่ชื้นๆ แล้วมองสำรวจอ้อยและส้ม “ทำไมถึงไม่ใส่ถุงเท้าคะ” “หม่ามี๊ ทานข้าวเสร็จก็ไปว่ายน้ำแล้วนะคะ หนูไม่อยากใส่ถุงเท้า” “หนูด้วย ใส่ถุงเท้าแล้วน่าเกลียดมากเลยค่ะ” “ไม่ได้ อากาศหนาวนะคะ ไม่ใส่ก็จะหนาวเอา” หญิงสาวกลัวความหนาวที่สุด อากาศหนาวนั้นไม่ดีต่อไต นั่นจะช่วยเสริมพละกำลังให้กับผู้หญิง “หม่ามี๊ แด๊ดดี๊บอกว่าไม่ใส่แล้วจะหนาวนะคะ” มือเล็กของส้มดึงเสื้อของปุริมไว้ ส่งสัญญาณให้เขาช่วยพูดแทนพวกเธอที แต่มือที่อยู่ด้านหลังของปุริมนั้นมีความลับอยู่ ตอนนี้ก็ยืมมือของส้มเพื่อเข้าใกล้เพ็ญนีติ์ ในตอนที่เพ็ญนีติ์เดาไม่ออกว่าเขาต้องการทำอะไร มือที่อยู่ข้างหลังของเขานั้นก็ส่งตรงมาข้างหน้าของเธอ ดอกกุหลาบน้ำเงินช่อใหญ่ก็ได้มาอยู่ตรงหน้าของเธอ ช่อดอกไม้นี้ดูสดใหม่กว่าที่อยู่บนเตียงเสียอีก ท่าทางของเขาดูจริงจังมาก “เพ็ญนีติ์ เรื่องวันนั้นที่ร้านอาหารกินสุข ตอนนี้ผมอยากขอโทษคุณจริง” คิดว่าเขาลืมมันไปแล้ว คิดว่านั้นคือเรื่องปรกติของเขา แต่ทันใดนั้นเขาก็ขอโทษเธอ นั่นทำให้เธอชะงักนิ่งไป แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องตอบกลับเช่นไร “หม่ามี๊ วันนั้นแด๊ดดี๊ผิดไปแล้ว แด๊ดดี๊ไม่ควรดึงเสื้อหม่ามี๊แบบนั้น เมื่อคืนหนูกับอ้อยพูดกับแด๊ดดี๊แล้ว แด๊ดดี๊รู้ว่าตัวเองผิดแล้ว แด๊ดดี๊บอกว่าวันนี้แด๊ดดี๊จะขอโทษหม่ามี๊ หนูกับอ้อยยังไม่เชื่อเลย แต่หม่ามี๊ดูสิคะ ตอนนี้แด๊ดดี๊ก็ขอโทษหม่ามี๊อย่างจริงใจแล้ว” เมื่อเห็นว่าเพ็ญนีติ์ที่ไม่รับช่อดอกไม้และไม่ตอบกลับปุริม ส้มจึงกลายเป็นคนพูดแทนปุริม เพ็ญนีติ์รู้สึกใจอ่อน ตอนที่อยู่บนรถคิดว่าเด็กๆได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วแต่ก็ยังทำราวกับว่าไม่อะไรกับปุริมอีก แต่ตอนนี้กลับเป็นเธอที่คิดไปเอง รู้สึกเจ็บไปทั้งจมูก เธอก้าวไปหนึ่งก้าวมองพวกเด็กๆ “มา ให้หม่ามี๊กอดหน่อย” อ้อยและส้มรีบเดินมาหาเธอ “หม่ามี๊...” กอดรัดไว้ในอ้อมกอดของเธอ เป็นเด็กที่ตัวนุ่มนิ่มจริงๆ เธอไม่อยากปล่อยมือเลย ความจริงในใจของเด็กๆนั้นเธอก็ยังสำคัญที่สุด ดูเธอสิไม่มีความมั่นใจในตัวเอง จนพาลอิจฉาปุริมไปหมด ชายหนุ่มถือดอกไม้จนมือแข็งอยู่กลางอากาศ เป็นเวลานาน เธอก็ยังไม่ลุกขึ้นยืน ยังคงกอดอ้อยและส้มไว้แน่น ใบหน้ายังคงถูไปมากับเส้นผมของอ้อยและส้ม ข้างหลังนั้น ชายหนุ่มก็กล่าวขึ้นอีกครั้ง: ”เพ็ญนีติ์ ขอโทษ” ขอโทษเป็นครั้งที่สองแล้ว เธอยังคงไม่รับมันอีกหรือ ปุริมเหม่อมองผมของเธอที่ยังชื้นอยู่ ผมยาวขนาดนี้ถ้าลอยอยู่ในน้ำคงสวยมาก มันดูสวยงามเหมือนกับดอกไม้น้ำ เพ็ญนีติ์เพิ่งรู้สึกตัวขึ้น ปล่อยอ้อยและส้มไป เธอลุกขึ้นอย่างอารมณ์ไม่ดี “ฉันไม่อยากได้ดอกไม้ของคุณหรอกนะ” “ไม่อยากได้นั่นก็สิ้นเปลืองแล้ว มา อ้อยกับส้มมารับแทนหม่ามี๊ไปที” เขาช่างไกล่เกลี่ย และหาที่ให้ตัวเองได้เก่งจริงๆ เธอไม่รับเขาก็ให้เด็กๆรับไว้แทน อ้อยรีบปรี่เข้าไปหาทันที ”แด๊ดดี๊ให้หนูนะคะ หนูรับแทนหม่ามี๊เอง สวยมากๆเลยค่ะ แด๊ดดี๊ทีหลังต้องให้ดอกไม้กับหนูด้วยนะ” “ฮ่าฮ่า...” เพ็ญนีติ์หัวเราะแล้ว หัวเราะราวกับดอกไม้ที่กำลังผลิบาน ทันใดนั้นในใจก็มีความสุขขึ้นมา ”ไปกันเถอะ พวกเราไปทานอาหารเที่ยงกัน” ปุริมรีบหันไปสบตากับส้ม ส้มจึงรีบหันมากล่าวกับเพ็ญนีติ์อย่างรู้งาน: “หม่ามี๊คะ ให้อภัยแด๊ดดี๊เถอะนะคะ แด๊ดดี๊บอกว่าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” อะไรคือไม่ได้ตั้งใจ ดึงเสื้อเธอเพื่อใช้เธอระบายความโกรธ หากว่าเพ็ญภัทร์ไม่เกิดเรื่อง น่ากลัวว่าเขาคงจะดึงคอเสื้อเธอต่อไป ผู้ชายคนนี้ กี่ครั้งแล้วที่แล้วที่เปลี่ยนไปเพราะเพ็ญภัทร์ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นเถอะ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 160 ยิ้มราวกับดอกไม้ผลิบาน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A