บทที่ 175 คุณพ่อที่ดี   1/    
已经是第一章了
บทที่ 175 คุณพ่อที่ดี
บทที่ 175 คุณพ่อที่ดี “คุณนั่งลงเถอะ ฉันตอบกลับอันนี้เสร็จ ก็เสร็จแล้วค่ะ” “ธุรกิจไม่ได้แย่เลย ดูแล้วยังขยายไปได้อีกด้วย” “แค่นี้ก็ยุ่งมากๆแล้วค่ะ ถ้าขยายใหญ่กว่านี้คงจะไม่มีคนมาดูแลเด็กๆแน่” “ก็จ้างพนักงานสิครับ” เขายิ้ม น้ำเสียงที่มีเสน่ห์ในค่ำคืนเช่นนี้ราวกับไวน์ที่มีกลิ่นหอมหวานและรสชาติกลมกล่อม “เวลานี้ยังไม่คิดจะทำค่ะ ช่วงนี้ฉันยุ่งเหลือเกิน” เธอรับปากนภนต์ไปแล้ว หากผ่านปีใหม่ไปจะช่วยเขาดูแล้วบริษัทขายส่งไม้แปรรูป พรุ่งนี้ก็ต้องไปแล้ว กลัวว่าภายหลังเธอจะยุ่งมากขึ้นไปอีก “ยุ่งกับอะไรครับ” เขาก้มหยิบบุหรี่ขึ้นมา หยิบมันไว้ในมือไม่ได้มีท่าทีจะจุดติดอะไร แต่มันสะท้อนกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอ จึงทำให้เธอเห็นได้อย่างชัดเจน “พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงาน ไปกันเถอะค่ะ พวกเราเดินไปข้างนอกกัน” เดาได้ว่าเขาทนอาการติดบุหรี่นี่มานานแล้ว เมื่อมีเด็กๆอยู่ด้วยเขาจึงไม่ได้สูบมัน เธอมองมันอยู่ตลอด ดังนั้นจึงสื่อเช่นนี้เพื่อชวนออกไปข้างนอก “อือ ไปกันเถอะ เด็กๆหลับกันหมดแล้ว” “ขอบคุณค่ะ คุณเป็นคุณพ่อที่ดีนะคะ” มุมปากของเขาขยับ ในหัวนั้นฉายภาพหน้าท้องของเธอที่มีรอยแผลเป็น ความจริงเขาไม่ได้เป็นคุณพ่อที่ดีเลย แต่เมื่อได้มองแผ่นหลังของเธอที่เดินอยู่ข้างหน้าแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพียงแค่ใช้ปากคาบบุหรี่ไว้ หยิบไฟแช็กขึ้นมาแล้วเดินตามเธอออกไปข้างนอก แสงจันทร์สีเงินที่หนาวเหน็บสาดส่องมาที่ลานบ้านนี้ รอผ่านเดือนนี้ไป ฤดูใบไม้ผลิก็จะมาแล้ว แสงจันทร์ก็จะไม่ได้หนาวอีกต่อไป มองเธอที่กระชับคอเสื้อเข้าหากัน เขาจุดหัวบุหรี่แล้วสูบมันแล้วพ่นออกมา ก่อนจะกล่าวออกมาเบาๆ: “หนาวไหม” “ไม่หนาวค่ะ” แต่ความจริง ก็หนาวอยู่นิดหน่อย ตอนนี้หนาวจากตอนกลางวันมามาก ชานเมืองก็เป็นเช่นนี้ ไม่ได้อบอุ่นเหมือนกับในตัวเมือง แต่อากาศของชานเมืองนั้นดี ที่ในเมืองอบอุ่นนั้นเป็นเพราะคนและรถที่เยอะสร้างมันขึ้นมา เธอบอกว่าไม่หนาว แต่มือของเขาก็ยังลดต่ำลง แล้วคว้าเข้าที่เอวของเธอ รั้งให้เธอขยับเข้าไปใกล้เขาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ใจของเธอนั้นกลับเต้นอย่างบ้าคลั่ง “ปุริมคะ ไม่เอา” เธอยื่นมือไปจับแขนของเขาเพื่องัดเขาออก ไม่อย่างนั้นใจของเธอจะสับสนเกินไป แต่พอแตะโดน เขาก็สะดุ้งไปทั้งตัว จนความเจ็บนั้นไปแสดงอยู่บนคิ้วของเขา เพ็ญนีติ์ใจสั่น เธอยื่นมือไปถลกแขนเสื้อของเขาตรงที่เธอเพิ่งโดนไป ทันใดนั้นแผลก็ปรากฏขึ้นมา ถึงแม้จะเป็นแค่บาดแผลภายนอกเท่านั้น แต่มันก็ช้ำจนคนที่เห็นรู้สึกกลัว “ทำไมถึงไม่ไปทำแผลที่โรงพยาบาลคะ” มือของเธอขยับเล็กน้อย แต่ก็ไม่ยอมปล่อยแขนที่บาดเจ็บของเขาไป ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องลิฟต์นั่นเขาถึงได้บาดเจ็บแบบนี้ เขายิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ได้เป็นอะไรเลยครับ ผมมีแค่แผลที่ตรงนี้เท่านั้น แต่คุณก็มาเห็นจนได้ ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆครับ ทายาก็หายแล้ว กระดูกก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย” แต่แผลช้ำขนาดนี้ เขาใส่เสื้อ แล้วมีแขนเสื้อคอยบังอยู่ เมื่อเย็นก็ไม่แสดงท่าทีใดๆตอนที่ทานข้าวกับเธอและเด็กๆ แม้แต่ตอนที่เล่นกับเด็กๆก็ด้วย สวรรค์ เขาไม่เจ็บเลยหรือ หน้านิ่วคิ้วขมวด เธอในตอนนี้ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เมื่อเห็นเธอนิ่งไม่พูดอะไร เขาก็กล่าว: “ไม่เป็นอะไรจริงๆครับ ผมกลัวว่าคุณและเด็กๆจะเป็นกังวลเลยไม่ได้บอกอะไร คุณดูสิ ตอนนี้ไม่ใช่ว่าคุณกำลังกังวลอยู่หรือ ไปเถอะ พวกเราเข้าไปในบ้านกัน” โยนบุหรี่ในทิ้งลงบนพื้น แล้วขยี้เบาๆ ราวกับว่าจะพาเธอเข้าไปบ้านจริงๆ “ทำ... คุณจะทำอะไร” เขาโน้มลงมาข้างหูของเธอ ลมหายใจร้อนของเขาทำให้เธออุ่นขึ้นมา “เขาไปถอดเสื้อผ้าให้คุณตรวจอย่างไรล่ะครับ บางทีแบบนี้คุณอาจจะสบายใจมากขึ้น” “หะ ปุริม คุณ...” รัวมือตีลงไปบนอกของเขาอย่างไม่เกรงใจ “ไอหยา...” เขาร้องเสียงเบา ทำให้เธอมองใบหน้าของเขาจากแสงจันทร์กระทบลงมาใบหน้าของเขาดูเจ็บปวด มือจึงชะงักไป คิดว่าเธอคงไปโดนแผลของเขาอีกแล้ว เธอหยุดลง แต่มือของชายหนุ่มกับยื่นเข้ามา แล้วจับมือของเธอไว้ทันที จูงเธอจนไปถึงหน้าประตู “ข้างนอกหนาวนะครับ เข้าไปข้างในเถอะ” ใบหน้าของเธอแดง เพิ่งจะรู้สึกขึ้นมาว่านั่นเขาตั้งใจทำ ตรงอกของเขาไม่เคยมีแผลใดๆทั้งนั้น เข้าห้องไปอย่างเงียบๆ ในตอนนั้นไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับขาดี อยากบอกเขาว่าเขาควรไปได้แล้ว แต่พูดอย่างไรก็พูดไม่ออก ทันใดนั้น เธอก็นึกได้ว่าครั้งก่อนส้มที่เล่นอยู่ข้างนอกไม่ระมัดระวังจนเจ็บที่ขาเธอจึงไปซื้อยาแก้วปวดมา ดึงเขาลงนั่งที่โซฟา “คุณนั่งลงก่อน ฉันจะไปเอายามาให้คุณ แขนข้างคุณหากไม่ทายาไว้ มันจะยิ่งปวด” เขายิ้มบาง ก่อนจะพยักหน้า ท่าทางเช่นนั้นทำให้เธอต้องรีบหนีไป ไม่อย่างนั้นมันจะเหมือนว่าเธอกำลังเชิญชวนเขาทำอะไรสักอย่าง นำยาผ้ากอซมา เด็กๆเล่นกันข้างนอกมักได้แผลกันมาบ่อยๆ ดังนั้นเธอจึงต้องมีเตรียมไว้บ้าง ย้ายเก้าอี้มานั่งตรงหน้าเขา เขายอมสั่งแขนที่ได้รับบาดเจ็บมาให้เธอแต่โดยดี ก่อนจะกล่าวอย่างอ้อมแอ้ม “เบามือหน่อยนะครับ ผมกลัวเจ็บ” เธอเผลอหัวเราะขึ้นมา “ปุริมคะ ตอนนี้คุณเหมือนเด็กเลยค่ะ” “ครับ ดังนั้นจึงอยากให้คุณมาดูแลผม” เธอค่อยป้ายยาให้เขาอย่างเบามือ กลัวว่าเขาจะเจ็บ ดังนั้นจึงทาอย่างช้าๆ “คะ คุณโตกว่าฉันนะคะ โตขนาดนี้แล้ว ยังจะให้ฉันดูแลอีกหรือคะ” “ผมได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นคุณต้องดูแลผมสิครับ” “แล้วยังจะขับรถอีกหรือ คุณไม่กลัวจะเกิดอุบัติเหตุเลยหรือไงคะ” ยิ่งทายาก็ยิ่งเห็นว่าแผลของเขานั้นน่ากลัวขนาดไหน “ครับ เช่นนั้นคืนนี้ผมไม่ขับแล้ว” เธอใส่ยาเสร็จแล้ว จึงกำลังพันผ้ากอซให้กับเขา “แบบนั้นฉันจะช่วยคุณโทรหานรวรนะคะ ให้เขามารับคุณ” “อย่าเลยครับ โทรไปตอนนี้คงไม่ดี” มือหนึ่งของเธอจับปลายผ้าไว้ แล้วอีกทางก็ใช้ฟันเพื่อมัดปม ทำเสร็จแล้ว กล่าว: “ทำไมถึงไม่ดีกันคะ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างขำขัน “นรวรเพิ่งจะแต่งงานไป เวลานี้เขาคงเพิ่งจะเข้านอนนะครับ” “อ้อ” ใบหน้าของเพ็ญนีติ์แดงก่ำ รีบปล่อยแขนของเขาไปทันที “เสร็จแล้วค่ะ ไม่อย่างนั้นให้ฉันไปส่งคุณก็ได้” หากเขาอยู่ที่นี่ ใจของเธอต้องเต้นรัวตลอดแน่ นั่นต้องทำให้เธอไม่เป็นสุขอย่างยิ่ง “แล้วเด็กๆล่ะ ถึงจะนอนกันอยู่ แต่ถ้าปล่อยพวกเธอนอนอยู่แล้วมีคนมาขโมยตัวไปจะทำอย่างไรกัน” ใช่แล้ว เธอลืมมันไปได้อย่างไร เวลานั้นเองที่เพ็ญนีติ์ไม่ทันได้ระวัง “ไม่อย่างนั้น... ไม่อย่างนั้นให้ฉันโทรหาเลขาของคุณก็ได้ค่ะ” “เพ็ญนีติ์ คุณไม่กลัวว่ามันจะรบกวนคนอื่น แต่ผมกลัว ช่างมัน ให้ผมนอนที่นี่กับคุณคืนหนึ่งเถอะ” ชายหนุ่มตัดสินใจว่าจะนอนที่นี่ “ปุริมคะ ที่นี่มีแค่เตียงเดียว” และโซฟาก็ไม่เหมาะสำหรับเป็นที่นอนเท่าไหร่่ เป็นแค่ที่นั่งเดียวสองตัวเท่านั้นเอง เธอซื้อมาจากตลาดขายของเก่า ไม่สามารเป็นเตียงนอนได้แน่ๆ “ผมนอนที่พื้นก็ได้” “ไม่... ไม่ดีหรอกค่ะ” เธอไม่มีพรม พื้นต้องเย็นเป็นน้ำแข็งแน่ ถึงแม้จะมีผ้าห่มแต่มันก็ยังเย็น มันต้องไม่ได้อยู่แล้ว เขาแย้มยิ้ม “คุณไปนอนเถอะ ผมตัดสินใจจะนอนที่พื้นแล้วเดี๋ยวผมหาทางแก้ไขปัญหาเอง คุณไม่ต้องกังวลไป” “ไอหยา คุณไปนอนบนรถเถอะค่ะ” ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงรถที่อยู่ข้างนอกได้ “ไม่ล่ะครับ ตรงนั้นไม่สบาย ยืดขาไม่ได้” คิดไม่ออกจริงๆว่ายังมีที่ไหนที่นอนได้ หากทำให้เขาไม่สบายไป เธอจะไปนอนกับอ้อยและส้มก่อนได้อย่างไร สะบัดหัวไปมา นี่มันช่างลำบากเสียจริง เขาผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เธอไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรเลย เหมือนกับมองเห็นในที่แคบของเธอ เขายิ้มพลางชี้ไปยังชุดคลุมท้องและชุดเด็กอ่อนที่ซ้อนกันจนสูง: “อย่างไรครับ หากผมนอนตรงนี้ ก็คงได้แล้วนะครับ” ตาของเธอเป็นประกายขึ้นมา เธอไม่ได้คิดถึงเสื้อผ้าสำเร็จรูปพวกนี้เลย “ค่ะ ได้แล้ว มาฉันย้ายเอง” รู้ว่าเขานั้นเจ็บแขนอยู่ เธอจึงจะเข้าไปย้ายให้ “ผมเอง คุณมานั่งเถอะ นี่คือวิถีของลูกผู้ชาย” เขากล่าวแล้วลงมือจริงๆ และยังใช้แขนที่บาดเจ็บอีกด้วย “เหอะ ถ้าคุณจะเคลื่อนได้เองขนาดนี้ อย่างนั้นก็ขับรถกลับไปเองเลยสิค่ะ” มองเขาที่ใช้แขนที่บาดเจ็บย้ายของไปมา เธอก็กล่าวอย่างกรุ่นโกรธ “ครับ เช่นนั้นคุณมานี่เถอะ” เขารีบดึงแขนกลับไป และไม่ได้ขยับมันอีก ค่ำคืนนี้ เขาเลือกที่จะหลับนอนที่บ้านเล็กนี้ บ้านนั้นเล็กมาก แต่มีอ้อยและส้ม แล้วก็ยังมีเธอ ..... ตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่ บนที่นอนสำเร็จรูปไม่มีปุริมอยู่แล้ว ผ้าห่มถูกเปิดไปแล้ว เขาออกไปแล้ว รีบใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปข้างนอก ลานบ้านนั้นมีแม่ของต้นน้ำกำลังตากผ้าอยู่ เมื่อเห็นเธอเดินออกมา ก็ยิ้มแล้วกล่าว: “เพ็ญนีติ์ คุณตื่นเช้าจังค่ะ” “ค่ะ ใช่ค่ะ ใช่แล้ว คือคุณได้เห็น...” ตอนที่จะถามแม่ของต้นน้ำว่าได้เห็นปุริมบ้างหรือไม่ แต่ทันใดนั้นเธอก็เก็บคำพูดไป เช้าตรู่ขนาดนี้แต่มาถามแม่ของต้นน้ำว่าได้เห็นผู้ชายเดินออกมาจากบ้านของเธอหรือไม่ นั่นมันไม่ปรกติ มันจะทำให้คนคิดกันไปไกล “อ้อ ฉันนึกขึ้นมาได้ เมื่อวานอ้อยเอาผ้าขนหนูกลับมาด้วยค่ะ” กวาดตามองไปรอบๆ ทำเหมือนทุกอย่างไม่มีอะไร แล้วหันหลังกลับเข้าบ้านไป ทันใดนั้นเธอก็นึกได้ว่าลืมถามเรื่องลิฟต์กับเขาไปเสียสนิท หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างนาน แต่กลับพิมพ์ไปแค่สี่คำ “ขับรถปลอดภัย” เขาคงยังไปได้ไม่นาน เพราะตอนที่เธอตรงไปยังที่ที่เขานอน บนที่นอนนั้นยังมีความอุ่นจากตัวของเขาอยู่ ทำอาหารเช้าแล้ว เรียกอ้อยกับส้มตื่นขึ้นมาทานพร้อมกันแล้วไปส่งพวกเธอที่โรงเรียนอนุบาล รับปากกับนภนต์ไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อวานเขายังส่งข้อความอย่างเป็นทางการเพื่อเตือนให้วันนี้เธอต้องเข้าไปที่บริษัทด้วย นั่นก็ต้องไปแล้ว แต่อย่างไรอยู่ที่นั่นก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนกัน แต่แค่จะส่งของได้ช้าเท่านั้น บริษัทเพ็ญภนต์การขายส่งไม้แปรรูป เมื่อมายืนอยู่ที่หน้าบริษัท พอเห็นชื่อแล้วเธอก็อยากจะขำ นภนต์ตั้งชื่อได้ตลกมาก คำว่าภนต์เหมือนกับชื่อเขา และคำว่าเพ็ญเหมือนชื่อของเธอ ส่ายหัวไป แล้วก็เดินไปยังเคาเตอร์ด้านหน้า “คุณผู้หญิงคะ ไม่ทราบว่ามาสอบถามราคาไม้แปรรูปหรือคะ” เธอเหมือนนักธุรกิจหรือ บางทีครึ่งปีที่ทำธุรกิจร้านออนไลน์นี้เธอคงได้รับบรรยากาศของนักธุรกิจมาไม่มากก็น้อย ยอมรับไปเพื่อที่ได้ไม่ต้องแสดงตน “ค่ะ ฉันมาดู อยากจะค้าปลีกไม้แปรรูป ไม่ทราบว่าราคาของพวกคุณเป็นอย่างไรคะ” พนักงานต้อนรับหญิงพายมือไปทางขวาที่ที่เป็นห้องโถงทำงานขนาดใหญ่ของพนักงาน แล้วกล่าว: “คุณผู้หญิงสามารถสอบถามกับพนักงานขายของเราได้เลยค่ะ จะต้องทำให้คุณพอใจแน่นอน”
已经是最新一章了
加载中