ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
ฤดูร้อนของเมืองชลธีทั้งร้อนอบอ้าวและยาวนาน ในห้องที่ไม่มีแอร์ อุดอู้เหมือนอยู่ในหม้อนึ่งอันใหญ่
ปาณีใช้พัดในมือพัดไปมา อากาศในห้องร้อนจนทนไม่ไหว เธอจึงเปิดประตูแล้วเดินออกไป
เมื่อเดินไปถึงมุมหนึ่งของห้องรับแขก เธอได้ยินเสียงทะเลาะกัน
“แม่ ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่อยากไปเรียน! แม่จะบังคับฉันทำไม!”
“เพิ่งจะอายุ 16 เธอก็ไม่อยากเรียนแล้วใช่ไหม? กินเกมส์ที่เล่นอยู่แทนข้าวได้รึไง?”
“ผมไม่ได้เล่นเกมเฉยๆสักหน่อย ความฝันของผมคือเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ! การเรียนไม่เหมาะกับผม!”
ปาณีรู้เลยว่าน้องชายกำลังทะเลาะกับแม่เพราะว่าไม่อยากไปเรียน
เธอกำลังจะเดินหันหลังกลับ แต่ได้ยินน้องชายพูดขึ้นว่า “บ้านเราจนขนาดนี้ อีกเดี๋ยวพี่สาวก็จะเข้ามหาลัยแล้ว บ้านเราไม่มีเงินมากพอที่จะส่งเราเรียนทั้งสองคนหรอก”
“เรียนมหาลัยอะไรกัน? เดี๋ยวพี่สาวเธอก็ต้องแต่งงาน พ่อเธอได้หาคู่ครองที่ดีไว้ให้แล้ว ขอแค่พี่สาวเธอแต่งงานไป บ้านเราก็จะสุขสบายแล้ว”
“อะไรนะ? พี่สาวจะแต่งงาน? พี่สาวรู้เรื่องรึยัง?”
ปาณีหยุดนิ่ง
เธอคิดว่าตัวเองคงหูฝาดไป
เธอเพิ่งจะอายุ 18 เองนะ แม้ในบัตรประจำตัวประชาชนของเธอจะเป็นอายุ 20 ปีก็ตาม นั่นเป็นเพราะการวางแผนมีลูกคนที่สอง กฎหมายกำหนดหากลูกคนแรกเป็นผู้หญิง สามารถมีลูกคนที่สองได้ แต่อายุต้องห่างกันสี่ปี ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับ พ่อแม่ของเธอจึงแจ้งเกิดอายุมากกว่าความเป็นจริงสองปี
และพ่อแม่ของเธอตอนนี้กลับอยากให้เธอรีบแต่งงาน
“พี่สาวเธอเป็นลูกผู้หญิง จะช้าหรือเร็วก็ต้องแต่งงานอยู่ดี จะเรียนไปทำไมเยอะแยะ! อีกอย่าง ฝ่ายชายยินดีให้บ้านตั้งสองหลังเป็นค่าสินสอดทองหมั้นเชียวนะ”
บ้านสองหลัง?
ปาณีกำหมัดไว้แน่น
ในสายตาของแม่ เธอมีค่าเทียบเท่าบ้านแค่สองหลังเองหรอ?
ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อแม่รักน้องชายมากกว่าเสมอ เมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดน้อยใจเลย เพราะคิดว่าน้องชายอายุยังน้อย เธอจึงรักและยอมน้องมาโดยตลอด แต่หลังจากได้ยินที่แม่พูดเช่นนั้นแล้ว จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความโกธรเคือง
เพราะอะไร เพียงเพราะว่าฉันเกิดเป็นลูกผู้หญิงหรอ ฉันถึงไม่มีสิทธิ์ได้เรียนต่อ?
การเรียนของฉันดีกว่าน้องชายแท้ๆ!
แม่ลำเอียงมาก!
ปาณีรู้ว่าตัวเองไม่สามารถทนรออีกต่อไปได้ แม่ต้องไม่ส่งฉันเรียนแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะกู้เงินไปเรียน
.......
ปาณียืนอยู่หน้าบ้านเพื่อนสนิทของเธอ ติรยา นึกถึงบทสนทนาเมื่อครู่แล้ว น้ำตาได้ไหลออกมาจากดวงตาของปาณีไม่ขาดสาย
ติรยาเปิดประตูออกมาเห็นเพื่อนสาวยืนร้องไห้จึงรีบถามว่า “ปาณี เป็นอะไร? ร้องไห้ทำไม?”
ปาณีเช็ดน้ำตา เดินตามเพื่อนสนิทเข้าไปในบ้าน
คุณทัตดา (แม่ของติรยา) เห็นปาณีเข้ามาในบ้านจึงกวักมือเรียกเธอ “ปาณี มานั่งนี่สิลูก”
ปาณีมีความเกรงใจเล็กน้อย แม้ว่าทุกครั้งที่มาบ้านเพื่อน คุณทัตดาก็ดีกับเธอมาตลอด แต่ครั้งนี้เธอมาเพื่อขอยืมเงิน
นั่งลงได้ไม่นาน ปาณีก็พูดว่า “คุณน้าคะ หนู......หนูขอยืมเงินกับคุณน้าได้ไหมคะ?”
คุณทัตดาตกใจเล็กน้อย “ปาณี มีอะไรหรือเปล่าลูก มีปัญหาอะไรหรอจ้ะ?”
ปาณีกำชายเนื้อตัวเองไว้แน่น มีความลำบากใจที่ต้องพูดเช่นนี้ “แม่ของหนู......ไม่ให้หนูเรียนมหาลัย หนู......หนูอยากขอยืมเงินกับคุณน้า อีกหน่อยหนูจะคืนคุณน้าแน่นอนค่ะ คุณน้าจะคิดดอกเบี้ยก็ได้นะคะ......”
เมื่อพูดจบประโยค ความเงียบก็เข้าปกคลุมเป็นเวลานาน
ในขณะที่ทุกคนเงียบนั้น ปาณีรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เธอก้มหน้าลง ไม่กล้ามองดูสีหน้าของคุณทัตดา
คุณทัตดาถอนหายใจแล้วพูดว่า “ปาณีจ้ะ ไม่ใช่ว่าน้าไม่อยากช่วยหนูนะ แต่ช่วงนี้การเงินของบ้านน้าก็ไม่ค่อยดีนัก เลยไม่สามารถเอาเงินก้อนนี้ออกมาได้......”
ใครๆก็รู้ว่าฐานะทางบ้านของปาณีไม่ดี ถ้าให้ยืมเงินแล้วคงไม่ได้คืนแน่ๆ
แม้ว่าครอบครัวของคุณทัตดามีกำลังพอที่จะช่วย แต่กลับไม่มีทีท่าว่าจะช่วยเหลือปาณีใดๆ