บทที่ 179 ไม่สนใจเขาแล้ว
1/
บทที่ 179 ไม่สนใจเขาแล้ว
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 179 ไม่สนใจเขาแล้ว
บทที่ 179 ไม่สนใจเขาแล้ว เพ็ญนีติ์สีหน้าดูปกติ ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ เพื่อนร่วมงานก็เริ่มปลงได้หมดแล้ว ทุกคนต่างเริ่มพูดคุยทักทายกันตามชีวิตปกติประจำวัน บางทีขอมีเสียงของเพ็ญนีติ์เอ่ยแทรกเข้ามาด้วย บรรยากาศดูปรองดองกลมเกลียวกัน เธอรู้สึกชอบที่นี่ จนกระทั่งถึงเวลาทำงาน ทุกคนจึงเริ่มทยอยกันเข้าประจำตำแหน่งโต๊ะทำงานตัวเอง พึ่งจะเริ่มได้ไม่นาน ก็มีดอกกุหลาบสีน้ำเงินช่อหนึ่งถูกส่งมา เธอรับมาโดยที่ไม่เอ่ยถามใดๆ ที่แท้เป็นของพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำอย่างป้าเหมียว ปุริม คุณไม่รู้สึกเลยหรอว่ามันสิ้นเปลือง? ช่างเถอะ ไม่สนใจเขาแล้ว เขาเป็นถึงระดับผู้บริหาร วางแผนรอสั่งการอย่างเดียวก็พอแล้ว ดูท่าว่าคงจะว่างเกินไปจนเบื่อสินะ ไม่เหมือนเธอเลย ยุ่งจนจะตายอยู่แล้วเนี้ย ยุ่งต่ออีกตลอดทั้งช่วงบ่าย เธอค่อยๆเข้าใจถึงขั้นตอนงานเกี่ยวกับทิศทางทรัพยากรไม้ต่างๆแล้ว และเรียกได้ว่าเริ่มจะชำนาญมือแล้ว “เลขาเพ็ญนีติ์คะ เลิกงานแล้ว เดี๋ยวฉันจะช่วยคุณปิดหน้าต่างนะคะ” “ขอบใจจ๊ะ” เธอเก็บข้าวของ เตรียมตัวเลิกงาน จากนั้นต้องรีบไปรับพวกลูกๆที่โรงเรียนอนุบาล วันนี้นภนต์ไม่มา เธอต้องนั่งรถประจำทางไปเอง ถือกระเป๋าเดินออกจากห้องทำงานอย่างรีบร้อน กลัวที่สุดว่าลูกจะปล่อยให้ลูกๆรอนานเกินไป แต่ว่ายังไม่ทันก้าวพ้นประตูออกไป เพ็ญนีติ์มองเห็นรถ beetle ที่คุ้นตาจอดอยู่ลานหน้าบริษัท “คุณผู้หญิง นี่คือกุญแจครับ” ลุงเป็นคนดูแลรถยื่นกุญแจมาให้เธอ “เวลาเลิกงานรถมันเยอะ แต่ว่าอย่าปล่อยให้ตำรวจจราจรมาลากรถไปอีกนะครับ ไม่งั้น ครั้งหน้าอาจจะไม่โชคดีได้คืนมาแบบครั้งนี้ก็ได้” “ลุง...ลุงว่าอะไรนะ?” รถคันนี้เหมือนจะเป็นรถที่บ้านของนภนต์ แต่ว่าทำไมถูกตำรวจจราจรลากกลับมาให้ล่ะ “เมื่อสักครู่มีตำรวจจราจรสองนายลากรถมาให้ แล้วยังบอกอีกว่าค่าปรับจ่ายหมดเรียบร้อยแล้ว ก็เลยส่งกลับคืนมาให้” ปุริมทำบ้าอะไรของนายเนี้ย จะมาทำให้ดูดีขึ้น หรือว่ามาทำลายชื่อเสียงกันกันแน่เนี้ย เธอรับมาแล้วจากไป “ขอบคุณค่ะ” “เดี๋ยวก่อน” คุณลุงคนนั้นเรียกเธอไว้อีกครั้ง หันกลับมาอย่างเงียบๆ ไม่รู้จริงๆว่ายังมีเครื่องบินอะไรรอเธออยู่ “อย่าลืมใบขับขี่นะครับ ไม่งั้นเวลาถูกตรวจจับจะถูกหักคะแนนเอาได้” เธอมีใบขับขี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เหมือนไม่เคยสอบมาก่อน แต่ว่า ลุงคุณนั้นยื่นสมุดเล่มเล็กๆให้เธอ นั่นก็คือใบขับขี่ ช่างเถอะ เรื่องนี้คุณลุงคนนี้คงไม่รู้เรื่องอะไรด้วย คงจะเจตนาดี “ขอบคุณค่ะ” เธอรับใบขับขี่มา รถที่อยู่ข้างหน้าช่างขวางหูขวางตาเหลือเกิน จอดไว้ตรงนี้ไม่ขับออกไปยิ่งรู้สึกรำคาญลูกกระตา ดูซิแค่นี้ คนที่เดินเข้าเดินออกก็เอาแต่จ้องมองเธอและรถของเธอ และคงต้องคิดในอีกแง่หนึ่งแน่ๆ แต่ว่าถ้าขับออกไป เธอก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เพราะเธอและปุริมได้ขีดเส้นกั้นโลกไม่ยุ่งเกี่ยวกันแล้ว อุทยานธรณีวิทยาภูเขาไฟก็ยอมไปเป็นเพื่อนเขาตามที่รับปากแล้ว เธอและเขาไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันอีกต่อไปแล้ว “เลขาเพ็ญนีติ์ รถใหม่หรอครับ แรงไม่เบาเลยนะครับ” เพื่อนร่วมงานชายคนหนึ่งแซวขึ้นอย่างอิจฉา อีกคนหนึ่งก็มายืนอยู่ข้างเขาแล้วเอ่ยขึ้น “รถ beetle ทรงผู้หญิงสวยงามจริงๆ เลขาเพ็ญนีติ์มันดูเหมาะกับคุณมากจริงๆ” ที่นี้หน้าประตูใหญ่ เธอไม่อยากอยู่นานกว่านี้แม้แต่นาทีเดียว ยกกุญแจที่อยู่ในมือขึ้นมา “อั๊ยย๊า ฉันต้องรีบไปรับลูกๆแล้ว” อยู่นานกว่านี้พนักงานทั้งบริษัทคงมามุงดูเยอะกว่านี้กันพอดี รีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกว่าตัวเองมีพรสวรรค์ด้านการขับรถ ไม่เคยเรียนขับรถกับใคร แต่พอขับแล้วรู้สึกคล่องแคล่วเป็นอย่างดี ไม่นานก็ขับรถออกมาจากบริษัทได้ ขับรถไปก็โทรศัพท์หาปุริมไปด้วย “ฮัลโหล ใครต้องการรถของคุณ คุณสั่งให้นรวรมาขับเอากลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันไม่ต้องการของของคุณ” “เหอะๆ งั้นข้าวที่คุณเคยกิน กลิ่นหอมของดอกไม้ที่คุณเคยดมล่ะ? ทำไมไม่คืนมันให้กับผมด้วย?” “ปุริม ฉันไม่เคยดมดอกไม้ของคุณ และก็ไม่เคยกินข้าวของคุณด้วย ดังนั้น คุณกรุณาอย่าได้คิดเองเออเองไปคนเดียว ดอกไม้ต่อไปก็ไม่ต้องส่งมาแล้ว” “แต่ว่า ข้าว คุณได้กินมันหมดแล้วนะ เป็นไงบ้าง อร่อยไหม?” ใจของเพ็ญนีติ์เดือดขึ้นอีกครั้ง เริ่มเข้าใจแล้ว ที่แท้กับข้าวทั้งหมดมื้อกลางวันเป็นเขาเองหรอที่ส่งมา เธอคิดว่าเขาส่งมาแค่ดอกไม้ คิดไม่ถึงว่ากับข้าเหล่านั้นก็ให้คนส่งมาถึงบริษัทด้วย “ปุริม คุณจะทำอะไรกันแน่?” “เป็นแฟนกับผม” เขาเอ่ยขึ้นผ่านลำโพงมาสียงต่ำ แต่ว่าน้ำเสียงของเขาช่างดูเผด็จการยิ่งนัก มี่อย่างที่ไหนขอให้คนอื่นมาเป็นแฟนตัวเองด้วยน้ำเสียงแบบนี้ “ปุริม นี่คุณกำลังขอ หรือว่ากำลังสั่งกันแน่?” “แน่นอนว่าต้องกำลังขอสิ เป็นยังไง ตกลงหรือไม่ตกลง ? ถ้าคุณตกลง ตอนเย็นเราไปดูหนังกัน” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยเสน่ห์แรงดึงดูดบวกกับอารมณ์ที่คมคายดึงดูดให้ผู้คนต้องตอบตกลง แต่ว่า เพ็ญนีติ์กลับปฏิเสธไปทันทีโดยไม่คิด “ไม่ตกลง ตอนเย็นฉันต้องอยู่กับเด็กๆ อีกอย่าง ฉันต้องส่งของออนไลน์ให้ลูกค้าที่สั่ง ไม่ว่าง” “อืม ถ้ามีคนช่วยคุณดูลูก และช่วยคุณส่งของ คุณจะตอบตกลง?” “อืม น่าจะใช่” เธอตอบไปงั้นๆแหละ เพราะรู้ดีว่า ส้มและอ้อยจะไม่ยอมอยู่กับคนแปลกหน้าอย่างแน่นอน เธอไม่กลัวสักนิดว่าปุริมจะมาไม้ไหน “โอเค งั้นตอนเย็นเจอกัน” พูดจบ ชายหนุ่มก็วางสาย เหลือเพียงแค่เสียงตู๊ดๆที่ทำให้คิ้วของเพ็ญนีติ์ขมวดเข้าหากัน ผู้ชายคนนี้ นับวันยิ่งได้คืบจะเอาศอก พอนึกถึงที่เขาบอก ฉันรักเธอ ในฝันไม่หยุด ใจของเธอก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว “หม่ามี๊ในที่สุดก็มาสักที ดูสิเนี้ยว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว” เพ็ญนีติ์รีบมองไปที่คุณครู “ขอโทษนะคะ ฉันเลิกงานค่ำไปหน่อย รบกวนแล้วค่ะ” “ไม่เป็นไรคะ คุณแม่ยุ่ง เราเข้าใจค่ะ งานก็สำคัญ” ดีที่คุณครูอารมณ์ดี ยิ้มให้ไม่ว่าอะไร “ขอบคุณนะคะ งั้นฉันไปก่อนนะคะ” “หม่ามี๊ รถหม่ามี๊หรอคะ?” เด็กๆมองรอบไปที่รถ จากนั้นก็เริ่มสงสัยกระซิบกัน “ใช่จ๊ะ ลูกคุยไรกันคะ” “หม่ามี๊ รถคันนี้ แดดดี๊เป็นคนซื้อให้หม่ามี๊ใช่ไหมคะ” “คือ...เอ่อ ช่างมันเถอะ” เธอไม่ได้อยากได้มัน แต่เขากลับสั่งคนให้ส่งมา ยังมีชื่อของสิ่งของต่างๆ ตอนนี้แม้ขนาดใบขับขี่ก็ไปทำให้เธอแล้ว ให้เธอสามารถขับรถบนท้องถนนได้อย่างถูกกฎจราจรทั้งหมด “หม่ามี๊ แล้วทำไมหม่ามี๊ไม่ยอมรับแด๊ดดี๊สักทีละคะ? สำคัญที่แดดดี๊คือแดดี๊คือแดดี๊ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดไป เธอยื่นมือไปลูบหัวของส้มและอ้อย “มีเรื่องบางเรื่องพวกลูกๆก็ไม่เข้าใจ ไปกันเถอะ เรากลับบ้านกันเถอะ” เด็กๆกระโดดโลดเต้นดีใจขึ้นรถ “หม่ามี๊ พวกเราเข้าใจค่ะ แดดดี๊บอกว่าแดดดี๊ชอบหม่ามี๊” เอ๋อ ขนาดกับเด็กๆยังป่าวประกาศ “บอกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” “ตอนที่อยู่อุทยานธรณีวิทยาภูเขาไฟ แดดดี๊แอบบอกกับพวกเรา ยังบอกว่าอย่าบอกหม่ามี๊อีกนะ หม่ามี๊ พวกเราอยากอยู่กับแดดดี๊ ไม่งั้น ให้แดดดี๊ย้ายมาอยู่กับพวกเราก็ได้” “บ้านเราเล็กไปลูก” “เล็กไปไม่เป็นไรเลยค่ะ แค่ชอบก็พอแล้ว” ในใจเริ่มสั่น จะให้ปุริมมาอยู่ที่แคบๆเป็นเวลานานๆแบบนี้เป็นเขาไม่ยอมหรอก “เหอะเหอะ ได้เลย ถ้าพบแดดดี๊ หม่ามี๊จะชวนให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน” “ไชโย ดีใจจังเลย” ขับรถไป ก็รู้สึกว่าทางมันสั้นลงไปหรือเปล่า พึงจะขับไปได้ไม่นานก็รู้สึกว่าถึงบ้านแล้ว แต่ว่าที่สนามหน้าบ้านมีรถสองคันจอดอยู่รอแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่า ปุริมจะมาถึงแล้ว เลื่อนกระจกรถลงถาม “คุณมาทำอะไร?” “ไปดูหนัง” เธอกระพริบตาอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่มีใครดูลูก อีกอย่างส้มกับอ้อยไม่ยอมอยู่กับคนแปลกหน้า” เธอตอบแบบนี้เพื่อเป็นการปฏิเสธเขาไป “ฉันดูเองไง คุณลองถามพวกเขาดูสิว่าจะยอมอยู่กับผมไหม?” “อะไรนะ”.... เธอคิดว่าไปดูหนังกับเขาแค่สองคนเท่านั้น ที่ไหนได้ พวกเด็กๆก็จะเอาไปด้วย เล่นไม้นี้ช่างเด็ดจริงๆ “ไม่ได้ ฉันยังมีเอกสาร ยังมีของที่ต้องจัดการส่ง” ปุริมผิวปากมองเข้ามาในรถอย่างสบายใจ รีบสาดสายตามองไปที่คนส่งพัสดุที่รอรับอยู่ “คุณเปิดประตู เปิดคอมพิวเตอร์ก็พอแล้ว ทุกอย่างที่นี้มีบอดิการ์ด รับประกันว่าจะไม่มีสิ่งใดหายไปแม้แต่ชิ้นเดียว ให้พวกเขาห่อและส่งให้ก็เรียบร้อยแล้ว” นี่คือทำธุรกิจของเธอเองไม่ใช่หรอ? ทำไมอยู่ดีๆเขามาจัดการเองหมดแล้วล่ะ “ปุริม ไม่ได้” “คุณเป็นตนพูดเองนิ เพียงแค่มีคนดูแลเด็กให้ ส่งพัสดุให้ คุณรับปากผมว่าจะไปดูหนังกับผม ไปกันเถอะ” เธอพูดไม่ออก แต่ว่า กำลังจะปฏิเสธ ส้มและอ้อยที่อยู่เบาะข้างๆ จึงดึงเสื้ออยู่ข้างๆ “หม่ามี๊ตอบตกลงเถอะ พวกเราไม่เคยไปดูหนัง พวกเราอยากดู” “หม่ามี๊ หนูอยากกินป๊อบคอน” “หม่ามี๊ แดดดี๊อย่ากให้หม่ามี๊ผ่อนคลายสักหน่อย ทำงานมันเหนื่อย นี่เรียกว่าพักผ่อนค่ะ” นี่มันอะไรและอะไรเนี้ย “ใครบออกเรื่องแบบนี้กับลูกๆค่ะ?” หรือว่าปุริมจะแอบไปที่โรงเรียน แอบตกลงอะไรไว้กับส้ม และอ้อยก่อนรึเปล่า? อันนี้น่าจะเป็นไปได้ ไม่งั้น ทำไมพวกเขาช่างพูดช่างเจรจาขนาดนี้ อ้อยมองส้ม ส้มมองอ้อย “เพื่อนๆที่โรงเรียนมักจะมีพ่อแม่พาไปดูหนังอยู่บ่อยๆ พวกเพื่อนๆเขาก็พูดกันแบบนี้ค่ะ” “หม่ามี๊ไปเถอะค่ะ ตอบตกลงเถอะคะ” เห็นแก่เด็กๆทั้งสองงอแงอยากไปแบบนี้ เพ็ญนีติ์ก็ใจอ่อนแล้ว ใช่แล้ว เด็กๆไม่เคยไปดูหนังมาก่อนเลย ช่างเถอะ ตอบตกลงพวกเขาไปสักครั้งเถอะ “ก็ได้ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ” “ไชยโย โอเคค่ะ แดดดี๊ งั้นข้าวเย็นเราจะทานกันที่ไหนค่ะ?” ส้มได้โผล่หน้าออกมาจากรถ และถามขึ้น ท่าทีที่แสดงออกมายิ่งทำให้เพ็ญนีติ์รู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น เด็กทั้งสองคนนี้จริงๆแล้วใช่เธอเป็นคนคลอดออกมาเองหรือเปล่านะ ทำไมรู้สึกเหมือนว่าคลอดออกมาจากท้องของปุริมยังไงอย่างนั้น? ทำไมถึงดูสนิทสนมกับเขาจังนะ? ปุริมเปิดประตูรถ “มา มาขึ้นรถของแดดดี๊ ตอนนี้เราจะไปกินกัน กินเสร็จแล้วค่อยไปดูหนังกัน” เด็กๆรีบเปิดประตูลงรถ และขึ้นไปนั่งบนรถของปุริมทันใด “หม่ามี๊ ลงมาเร็วๆค่ะ พวกเราจะไปดูหนังกัน” มองเห็นเด็กๆดูตื่นเต้นดีใจ เพ็ญนี้จึงคิดว่าถ้าจะไปทำลายความสุขของเด็กๆก็คงจะไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าเธอก็ไม่อยากจะนั่งรถคันเดียวกันกับเขา จึงรีบบอกกับปุริมว่า “ คุณขับรถคุณไป ฉันก็จะขับรถของฉันไป” ใครบอกให้เข้าส่งรถมาเองล่ะ เธออยากจะขับรถไปเอง “โอเค ผมจะขับอยู่ข้างหน้า นำทางให้คุณเอง” เขายิ้มหน้าชื่น หัวเราะเบิกบาน ทำไมต้องดีใจขนาดนี้นะ ก็แค่ไปกินข้าวสักมื้อ ดูหนังสักเรื่องเองไม่ใช่หรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กๆ เธอจะไม่ยอมมาสนใจเขาอีกแล้วจริงๆ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 179 ไม่สนใจเขาแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A