ตอนที่ 150 พวกเขาบ้าไปแล้ว
1/
ตอนที่ 150 พวกเขาบ้าไปแล้ว
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 150 พวกเขาบ้าไปแล้ว
ตอนที่ 150 พวกเขาบ้าไปแล้ว หลังจากที่รเมศจัดแจงทรงผมของตัวเองเรียบร้อยแล้วนั้น เขาจึงเอ่ยถามขึ้น “จะถ่ายกันเมื่อไหร่?” “รเมศ โฆษณาถ่ายทำเสร็จแล้วนะ” ผู้จัดการก้มหน้าลง อย่างรู้สึกเลี่ยงไม่ได้ “หมายความว่าอะไร?” รเมศมองเขาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “พวกเขาเปลี่ยนตัวพระเอก...” “ประสาทหรือไง!ไม่นึกเลยว่าจะกล้าเปลี่ยนตัวผม พวกเขารู้ไหมว่าผมเป็นใคร?” รเมศทั้งอายุยังน้อย และยังมีชื่อเสียง ไม่มีใครกล้าไม่ไว้หน้าเขาเช่นนี้ ตั้งแต่เขาเข้าวงการมาจนถึงวันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจอกับการเปลี่ยนตัวนักแสดง เขาไม่สามารถยอมรับกับเรื่องนี้ได้เลย กำปั้นทุบลงบนเบาะด้านหลังของเก้าอี้ “เปลี่ยนตัวเป็นใครกัน ผมจะทำให้มันไสหัวออกไปจากวงการนี้ซะ!” เขาคิดว่าเบื้องหลังของเขาเช่นนี้ จะทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถรับงานได้อีก “ผมจะบอกพ่อ กล้าทำแบบนี้กับผม ผมจะทำให้พวกนั้นใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น!นังผู้หญิงสารเลวจิดาภานั่นก็ด้วย” รเมศพูดออกมาอย่างถือตัว หลังจากที่เขาโด่งดังในช่วงกี่ปีมานี้ เขาก็ไม่เคยที่จะมองใครอยู่ในสายตาเลยแม้แต่คนเดียว ถูกทำให้อับอายขายหน้าเช่นนี้ เขาทนไม่ได้จริงๆ เมื่อผู้จัดการเห็นว่าเขาโมโหเช่นนี้แล้วนั้น จึงรีบกดโทรออกหาคุณณัฏฐ์ในทันที “ผู้กำกับครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? รเมศตัดสินใจมาถ่ายทำทั้งๆที่ยังไม่สบายอยู่แบบนี้ เจ้าตัวมาถึงกองถ่ายเรียบร้อยแล้ว แต่มีคนงานบอกว่า โฆษณาถ่ายเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว?” “ถ่ายเสร็จแล้วจริงๆนี่ครับ” ผู้กำกับตอบกลับไปด้วยความเฉยเมย “ก็ในเมื่อคุณรเมศไม่สบาย ก็อยู่บ้านพักผ่อนไปสิครับ จะไปที่กองถ่ายทำไมกัน?” “รเมศเซ็นสัญญากับทางWMแล้ว พวกคุณมีสิทธิอะไรมาเปลี่ยนตัวนักแสดง!แบบนี้เป็นการทำผิดสัญญาสิครับ! แล้วผมก็บอกไปแล้ว ว่าเป็นเพราะรเมศไม่สบายถึง....” “เมื่อสิบนาทีที่แล้ว แฟนคลับของเขาได้โพสต์รูปลง พบดาราดังกำลังว่ายน้ำอยู่” ผู้กำกับหัวเราะออกมาแล้วย้อนถามกลับ “ไม่สบาย เลยลงไปอยู่ในสระว่ายน้ำหรือครับ?” ผู้จัดการถึงกับไม่สามารถตอบคำถามนี้ออกมาได้ “อย่าคิดว่าพวกเราโง่แล้วจะยอมให้พวกคุณเล่นตัวกันได้แบบนี้” ผู้กำกับไม่ไว้หน้าพวกเขา แล้วเอ่ยพูดกับพวกเขาต่อด้วยความเย็นชา “การถ่ายทำโฆษณานั้นราบรื่นดีมาก หน้าที่ของผมก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ส่วนเรื่องสัญญา พวกคุณไปหาทางWMเถอะนะ ไม่เกี่ยวอะไรกับผม” รเมศเป็นคนก่อเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้นเอง เขาจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวของเขาเอง และในขณะที่ผู้กำกับจะวางสายไปนั้น ผู้จัดการของรเมศจึงตะโกนถามออกมา “ถ้าอย่างนั้นคุณบอกผมหน่อยว่าเปลี่ยนตัวเป็นใคร?” กล้าแย่งเอาโฆษณาของรเมศไปเช่นนี้ คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ เพียงแต่ปลายสายมีแต่เพียงเสียงเอ่ยเตือนของผู้กำกับออกมาเพียงแค่ว่า “อย่าอยากรู้สถานะของคนๆนี้เลย พวกคุณทำอะไรเขาไม่ได้หรอก” และหลังจากนั้นสายก็ถูกตัดไป ผู้จัดการกำโทรศัพท์มือถือของตัวเองแน่นด้วยความโมโหเสียจนพูดอะไรไม่ออก “เปลี่ยนตัวเป็นใคร?” รเมศเอ่ยถามอย่างร้อนใจ เขาอยากจะรู้ว่าใครกันที่กล้าหาญเช่นนี้ “เขาไม่ให้พวกเรารู้ บอกเพียงแต่ว่าเราทำอะไรเขาไม่ได้” “แล้วหาเรื่องผมได้ง่ายกว่าอย่างนั้นหรือ?” รเมศเบะปากด้วยความเหยียดหยาม แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แก้ไขข้อความแล้วโพสต์ไปยังweiboของตัวเอง “เข้าวงการมานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ ไม่เป็นไรนะ วันพรุ่งนี้ของนายจะสดใสเหมือนเดิมแน่นอน!” “ถ้าไม่อยากผิดหวัง ก็จะต้องตัดสินใจให้แน่วแน่ ขอเพียงเข้มแข็งให้มากขึ้น ก็จะไปถึงความฝันได้อย่างแน่นอน” คำพูดเช่นนี้จะทำให้เรียกร้องความสนใจจากแฟนคลับได้ดี ราวกับว่าเขากำลังเจอเรื่องแย่ๆอยู่ บวกกับอายุเฉลี่ยของเหล่าบรรดาแฟนคลับของเขานั้นยังถือว่าอายุยังน้อยกันนัก พวกแฟนคลับมากจะแสดงความเสียใจและจะรู้สึกเจ็บใจแทนเขาด้วย บรรดาแฟนคลับต่างก็พากันสืบเสาะค้นหากำหนดการการถ่ายทำของเขากับWM และนักแสดงนำหญิงอย่างจิดาภา หรือโฆษณาถูกคนแย่งไปอย่างนั้นหรือ? และยังมีแฟนคลับตามสืบข้อมูลทางฝ่ายจิดาภา ถามเรื่องวงใน แต่ภพธรก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับไป เพียงไม่กี่นาที ข้อความนี้ได้ถูกส่งต่อไปกว่าแสนครั้ง รเมศมองหน้าจอมือถือของเขาอย่างพอใจ ในเมื่อพวกเขาจะทำเรื่องให้มันวุ่นวาย เขาก็จะเล่นเป็นเพื่อนเอง! เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครที่จะสร้างกระแสได้เก่งไปกว่าเขาแล้ว เมื่อนักแสดงชายคนดังถูกแย่งโฆษณา อีกทั้งเป็นเพราะเขาเองที่เป็นคนเปิดเผยเรื่องนี้บนอินเตอร์เน็ต ทำให้มีการส่งต่อเรื่องราวไปไม่น้อย ผลกระทบจากเรื่องนี้ก็เริ่มแพร่ขยายไปในวงกว้างขึ้น คนที่เคยถูกรเมศรังแกนั้นต่างก็พากันแอบหัวเราะเยาะเขา ใครกันแน่ที่มีความกล้าหาญถึงเพียงนี้ กล้าขัดใจเขาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ หากดูจากนิสัยของเขาแล้วนั้น หากคนๆนี้ปรากฏตัวขึ้น จะต้องถูกเขี่ยทิ้ง แล้วต้องถูกให้ออกไปจากในวงการนี้อย่างแน่นอน และดูเหมือนว่าจะเป็นทางฝ่ายWMฝ่ายเดียวที่เปลี่ยนตัวนักแสดง ถึงทำให้รเมศไม่พอใจเช่นนี้ เหล่าบรรดาแฟนคลับนั้นต่างพากันฮึกเหิม รู้สึกว่าไอดอลของตัวเองถูกเจ้าของแบรนด์สบประมาทและทำให้ขายหน้า ดาราศิลปินที่เจิดจ้าเช่นนี้ไม่นึกเลยว่าจะถูกพวกเขาเปลี่ยนตัว มีอย่างที่ไหนกัน! และยังมีคนสังเกตว่านางเองโฆษณาครั้งนี้นึกไม่ถึงว่าจะเป็นจิดาภา? ทำไมที่ไหนมีการโต้แย้งกัน จะต้องมีเธออยู่ที่นั่น! "จิดาภาอีกแล้วหรือ?เธอสร้างกระแสทุกวันแบบนี้ไม่เหนื่อยหรือไงกัน?" "ทำไมกลายเป็นจิดาภาสร้างกระแสไปแล้ว เธอเป็นBrand ambassadorของWMนะ ระหว่างการถ่ายทำเธอก็ทำหน้าที่ของเธอเสร็จสิ้นในช่วงเวลานั้น เธอจะมีอำนาจในการเปลี่ยนตัวนักแสดงหรือไงกัน?" บรรดาแฟนคลับของจิดาภาออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงแทนเธอ "ใครจะไปรู้ ก่อนหน้านี้ก็มีแต่ข่าวไม่ดีไม่ใช่หรือ?" "จิดาภาเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนมาโดยตลอด แต่ก็ยังคงมีคนอิจฉาเธอ พากันวิพากษ์วิจารณ์เธอลับหลังไปต่างๆนานา" หลังจากที่ภพธรเห็นข่าวพวกนี้แล้ว เขารู้สึกเป็นห่วงจิดาภาเป็นอย่างมาก แต่การแสดงออกของเธอยังคงดูสงบนิ่งเหลือเกิน ราวกับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเรื่องจะกลายมาเป็นเช่นนี้ "ตอนบ่ายรเมศไปที่กองถ่ายมา เมื่อเขารู้เรื่องที่เปลี่ยนตัวนักแสดง ก็ลงโพสต์ไปว่าตัวเองรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม" "ฉันล่ะนึกออกเลยว่าอารมณ์ตอนนั้นของเขา คงจะโมโหจนแทบจะบ้าตายแน่ๆ" พี่นัฎเดาออกมา ภพธรมองเธออย่างรู้สึกจนปัญญา แล้วเอ่ยพูดกับจิดาภาว่า "เป็นผมที่แนะนำให้กับผู้กำกับเอง รอให้รเมศรู้เรื่องนี้ คงจะต้องกัดไม่ปล่อยแน่ๆ" สไตล์อย่างเขานั้น คงมีความเป็นไปได้มากที่จะเป็นเช่นนั้น "คนที่เล่นตัวก่อนเป็นเขาต่างหาก จะเปลี่ยนตัวนักแสดงไม่ได้เชียวหรือ?แบบนี้ก็มาโทษพวกเราเนี่ยนะ?" พี่นัฎรู้สึกกลุ้มใจขึ้นมาบ้าง "เขาออกมาด้วยท่าทีแบบนี้ พวกแฟนคลับคงจะสนับสนุนน่าดู คงไม่เชื่อว่าพวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยสักนิด" พี่นัฎได้ยินดังนั้นแล้ว ก็เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา "บนอินเตอร์เน็ตมีพวกแฟนคลับถ่ายรูปเขาไว้ด้วยวันนั้น นั่นก็สามารถพิสูจน์ได้ว่ารเมศไม่ได้ป่วยจริง อีกทั้งยังเป็นการจงใจปั่นป่วนกองถ่าย พวกคุณเก็บรูปนั้นไว้ให้ดี..." "แล้วยังมี ก่อนหน้านี้ที่รเมศเองก็เคยมีทำในแบบคล้ายๆกันกับครั้งนี้อีก ผมอยากจะเก็บรวบรวมหลังจากศิลปินเหล่านั้นไว้ หากจำเป็นต้องใช้จริงๆ ก็จะได้เปิดเผยออกไปให้หมด" ภพธรเอ่ยขึ้นก่อน เป็นผู้จัดการส่วนตัวอย่างเขาจำเป็นต้องทำเช่นนี้ เพื่อปกป้องจิดาภา จิดาภาเข้าใจความหมายของเขา จึงพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ภพธรคิดอยู่สักพักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้น "วันนั้นคุณจิรภาสก็อยู่ที่กองถ่ายด้วย เรื่องบางเรื่องหากให้เขาออกหน้าให้ มันน่าจะหาทางออกได้ง่ายขึ้นนะครับ" "เขาเป็นสามีของฉัน ฉันสามารถพึ่งพาเขาได้ แต่ฉันจะไม่ใช้ประโยชน์จากเขาอย่างแน่นอนค่ะ" "การถ่ายทำครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ยากที่จะลืมของฉันครั้งหนึ่ง ฉันจะจดจำไว้ในใจตลอดไป แต่เรื่องอื่น ฉันเชื่อว่าฉันสามารถจัดการได้ เพราะฉะนั้น ครั้งต่อไปคุณอย่าพูดแบบนี้อีกเลยนะคะ" "ถึงจะแต่งงานแล้ว ฉันก็สามารถจะมีชีวิตของตัวเอง มีเส้นทางของตัวเองได้...." เธอต้องการชีวิตที่เป็นอิสระ และต้องการความรักที่สมบูรณ์แบบด้วยเช่นกัน "จิดาภา ความคิดคุณนี้ช่างมีความพิเศษมากเสียจริงๆ"
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 150 พวกเขาบ้าไปแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A