ตอนที่ 155 ญาณินีคุณจะต้องเสียใจ

ตอนที่ 155 ญาณินีคุณจะต้องเสียใจ "เขาคงอยากเห็นฉันเป็นตัวตลก แต่กลับไปไม่ได้คิดว่าทางคุณญาณินีจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ และเพื่อชื่อเสียงของโอเล เธอคงจะไม่ยอมรับเรื่องนี้แน่" จิดาภาพลิกดูรูปของWM ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยน อารมณ์ของเธอไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องราวเหล่านี้มาตั้งแต่แรกแล้ว "จริงๆแล้ว วันนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาพบคุณญาณินีก็ได้นะครับ" ภพธรรู้สึกว่าจิดาภาไม่จำเป็นต้องมาที่โอเลเพื่อมาเจออุปสรรคเหล่านี้ "คุณญาณินีอยากพบฉัน ฉันก็ต้องมาสิคะ" จิดาภาวางวารสารลง "คุณมีอะไรอยากจะพูดกับเธอ?" ภพธรครุ่นคิดในความหมายของจิดาภา "ไม่หรอกค่ะ ฉันแค่อยากจะรู้ว่าตอนที่เธอต้องมาเสียใจภายหลังแบบนี้ เธอจะมีอาการเป็นอย่างไรบ้างเท่านั้น" จิดาภาเอ่ยบอกเขาพลางไปยังถนนด้านนอกหน้าต่าง ภพธรพยักหน้ารับ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาก็จะเชื่อในการตัดสินใจของจิดาภา ถ้าหากเธอต้องการเธอก็สามารถเซ็นสัญญากับบริษัทของสามีเธอได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องมาดิ้นรนอยู่ที่นี่เลยเสียด้วยซ้ำ และไม่นาน รถก็ขับมาจอดยังที่จอดรถของโอเล กลุ่มนักข่าวกลุ่มหนึ่งราวกับรู้ข่าวนี้ก่อนแล้ว เมื่อเห็นรถของจิดาภาเข้ามานั้นต่างก็พากันล้อมรอบรถของเธอไว้ แต่ภพธรและพี่นัฎคอยปกป้องกันเธอเอาไว้ เธอจึงเดินเข้าประตูโอเลไปได้อย่างปลอดภัย เลขาของญาณินีพาพวกเธอมายังห้องประชุม นี่คือสิ่งที่ญาณินีจัดไว้ให้ เพียงแต่ในห้องประชุมไม่ได้มีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น ภารดีและจิรสุดาก็อยู่ด้วยเช่นกัน เวลานี้ ศิลปินหญิงที่มีคุณค่าที่สุดในโอเลมารวมกันครบทั้งหมดแล้ว ในตอนที่จิดาภาปรากฏตัวนั้น จิรสุดามองเธอแวบหนึ่ง แต่เนื่องจากมีคนอื่นๆอยู่ด้วย เธอจึงไม่ได้ลุกขึ้นไปทักทายจิดาภา จิดาภามองออก ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาร้าย ส่วนคนอื่นๆนั้น เธอไม่รู้ เบื้องลึกเบื้องหลังของจิรสุดานั้นลึกลับเป็นอย่างมาก แต่เธอมีสายเลือดเป็นลูกครึ่งอยู่เล็กน้อย ดังนั้นใบหน้าดูมีมิติ เป็นที่รู้จักกันมาก และเป็นเพราะนิสัยที่เรียบร้อยทำให้เธอเป็นที่โด่งดังไม่น้อย โอเลมีวันนี้ เธอเองก็ลงแรงไปไม่น้อยเช่นกัน สองสามปีมานี้เธอมีความสามารถโดดเด่นกว่าคนอื่นๆในวงการภาพยนตร์นานาชาติ อีกทั้งเธอยังมีอนาคตที่สดใสรอเธออยู่อีกด้วย ญาณินีเห็นจิดาภาเข้ามาแล้วนั้น ไม่ได้เอ่ยทักทายเธอก่อน แต่กลับเอ่ยขึ้นมาเลย “ในเมื่อทุกคนมากันครบแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน วันนี้ที่เชิญพวกคุณมา คืออยากจะให้พวกคุณได้รู้จักกัน” “และส่วน...จิดาภา ฉันจะคืนงานให้กับคุณ แต่คุณจะต้องรับปากฉัน ว่าจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมอีก!” “ฉันทำอะไรผิดคะ?” จิดาภาย้อนถามกลับอย่างไม่เกรงใจ “ทุกๆการตัดสินใจของบริษัทล้วนแต่เพื่อเส้นทางในวงการบันเทิงของคุณ ทำไมภารดีกับจิรสุดายอมรับในสิ่งเหล่านี้ได้ แต่คุณถึงทำไม่ได้ ถ้าคุณเชื่อฉันตั้งแต่แรก เรื่องราวทั้งหมดก็คงไม่เป็นแบบนี้!” สีหน้าของญาณินีแสดงออกมาไม่ค่อยจะดีนัก “ถ้าคุณฟังเสียหน่อย ถึงจะมีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น คงไม่ต้องมารับผิดชอบผลที่ตามมาแบบนี้” การคุกคามกันเช่นนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่แย่มาก “ไปทานข้าวกับนักแสดงชาย ก็สามารถจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างนั้นหรือคะ?” “นั่นเพื่อเป็นการสร้างแรงผลักดัน เพิ่มความนิยมให้กับคุณ!” คำพูดของจิดาภาทำให้ญาณินีรู้สึกไม่เห็นด้วย “ฉันขี้เกียจที่จะทะเลาะกับคุณแล้ว ฉันขอถามคุณหน่อย ว่าคุณอยากจะกลายเป็นนักแสดงระดับนานาชาติไหม?” “ฉันอยากค่ะ แต่จะต้องไม่ใช้วิธีนี้ของคุณ ฉันรู้ค่ะที่คุณบีบบังคับเพื่อให้ฉันยอม และตั้งใจจะเรียกให้พวกเธอมาพร้อมกันที่นี่ ถ้าหากฉันไม่พยักหน้ารับ ก็จะให้ฉันถอนตัวออกไป ใช่ไหมคะ?” จิดาภาฉลาดมากจริงๆ ความฉลาดเช่นนี้บวกกับนิสัยที่เป็นคนกล้าพูดกล้าทำของจิดาภานั้น ทำให้ญาณินีต้องรู้สึกกดดันเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว “....ใช่ ฉันมีความคิดนี้ สัญญาการแสดงของคุณฉันได้แบ่งให้พวกเขาไปแล้ว นอกจากจะร่วมมือกับฉัน คุณก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” เธอมั่นใจว่าจิดาภาจะไม่กล้าแตกคอกับโอเลง่ายๆอย่างแน่นอน เธอเป็นประธานของโอเล เธอจะเสียหน้าไม่ได้ ดังนั้นทั้งหมดนี้จิดาภาจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ จิดาภาจึงยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ด้วยแววตาที่มีประกาย “ฉันพนันได้เลยค่ะว่าคุณจะต้องเสียใจที่พูดแบบนี้ออกมา คุณญาณินี แล้วคุณจะต้องกลับมาขอร้องฉัน” คำพูดของเธอเช่นนั้น ทำเอาภารดีและจิรสุดาดูโง่เขลาไปเลย จิดาภาไม่อยากจะอยู่ในวงการนี้ต่อไปแล้วหรือ? ถึงได้พูดจาเช่นนี้กับญาณินีออกมา! ความมั่นใจของเธอนั้นช่างน่าตกใจยิ่งนัก ญาณินีนั่งพิงพนักพิงเก้าอี้ เธอรวบผมอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วยกรอยยิ้มขึ้น เธอรู้สึกว่าจิดาภาคงจะกำลังฝันอยู่ เธอมีความมั่นใจอะไรกันถึงทำเช่นนี้! ภารดีแสดงอาการว่าอย่างจนปัญญาออกมา มีเพียงแววตาของจิรสุดาเพียงเท่านั้นดูเหมือนจะกำลังกังวล จิดาภาทำเช่นนี้ นั่นเท่ากับเป็นการปิดทางตัวเองแท้ๆ ทำไมกัน? “ได้สิ แล้วฉันจะรอดู” “เพียงแต่ละครของคุณถูกแบ่งออกไปหมดแล้ว เดิมทีฉันคิดจะคุยดีๆกับคุณ แล้วจะใช้วิธีอื่นเพื่อชดใช้ให้กับคุณ แต่ดูเหมือนว่าคงไม่จำเป็นแล้วสิ” จิดาภาไม่ได้แสดงความรู้สึกเจ็บปวดออกมาเนื่องจากคำพูดนี้ของเธอ แต่กลับตอบรับกลับไปอย่างง่ายดาย “ถ้าเช่นนั้นก็ไว้เพียงแค่นี้นะคะ ฉันขอตัวกลับก่อน” “พอดีเลย พวกเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า” ญาณินีวางสัญญาโฆษณาและละครที่เดิมทีเป็นของจิดาภาลง จิดาภาไม่ได้สนใจการประชดเหน็บแนมเธอเลย ในขณะที่กำลังจะหันหลังกลับออกไปนั้น กลับมีความรู้สึกผิดหวังแทรกเข้ามา เธอเคยคิดว่าที่โอเลจะคุ้มค่ากับการที่เธอต้องพยายาม คุ้มค่ากับการที่เธอต้องทุ่มเท แต่วิธีของญาณินีนี้.... และตอนที่เธอเดินออกมาจากห้องประชุมนั้น ภพธรได้ยินข่าวคราวเรื่องนี้จากปากของพนักงานคนอื่นๆมาบ้างแล้ว “จิดาภา คุณโอเคไหม?” “ฉันไม่เป็นไรค่ะ เพียงแต่รู้สึกว่าละครเรื่องนี้น่าจะยังไม่น่าจบเร็วเช่นนี้” เธอมีลางสังหรณ์ ว่าเรื่องที่จะทำให้คนผิดหวังได้อีกนั้นน่าจะเป็นฉากหลังจากนี้ “ตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่บริษัทsj ฉันไม่เคยทำร้ายใครมาก่อนเลย แต่ผลที่ออกมาล่ะ?” “เพื่อนหักหลัง คู่หมั้นนอกใจ ดูจะหลากหลายมากกว่าบทละครอีกนะคะ....” “ระหว่างคนเรา ความเชื่อใจที่มาจากใจจริงนี่มันยากขนาดนั้นเลยหรือคะ?” จิดาภาพึมพำกับตัวเอง แล้วฝังเอาความรู้สึกที่เลี่ยงไม่ได้เช่นนี้ไว้ในใจของตัวเอง พูดเรื่องพวกนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไรกัน เธอจะต้องมุ่งมั่นในเส้นทางของเธอ “คุณภพธร ฉันอาจจะต้องทำให้คุณเดือดร้อนไปด้วย” จิดาภาต้องการจะขอโทษเขา ถ้าหากเธอเป็นเหมือนศิลปินคนอื่นๆที่ยอมเชื่อฟังที่ญาณินีจัดการให้ล่ะก็ ภพธรก็คงจะไม่ต้องมารู้สึกลำบากใจที่เป็นคนกลางเช่นนี้หรอก? “คุณไม่ได้ผิด ผมจะไม่บังคับให้คุณต้องก้มหัวให้คุณญาณินี และอีกอย่างจิดาภาคนที่ผมรู้จัก เธอจะไม่ทำในสิ่งที่เธอไม่มั่นใจ” ในเมื่อจิดาภากล้าพูดเช่นนั้นตอนอยู่ในออฟฟิศของญาณินีแล้วนั้น ก็คงจะต้องมีวิธีเอาชนะได้อย่างแน่นอน ถูกระงับงาน? ถูกภายในของบริษัทต้นสังกัดแบน? ถึงแม้ว่าเงื่อนไขภายนอกนั้นจะเลวร้ายถึงเพียงนี้ ภพธรเองก็เชื่อว่าจิดาภาจะสามารถกำจัดวงล้อมเหล่านั้นได้ เธอคงจะไม่ยอมแพ้กับเรื่องนี้อย่างแน่นอน อีกทางด้านหนึ่ง จิรภาสก็ได้รับข่าวนี้แล้วเช่นกัน สีหน้าของเย็นชากว่าปกติมาก และเต็มไปด้วยความโกรธอย่างเห็นได้ชัด ตฤณเองก็ไม่เคยเห็นประธานของเขามีอารมณ์เช่นนี้เลยมาก่อน.... ก่อนที่จะแต่งงานกับจิดาภานั้นบริษัทโอเลไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย แต่ตอนนี้ ญาณินีที่ถือว่าเป็นเจ้าของสังกัดจิดาภา แต่ทำเรื่องเช่นนี้กับเธอ ทั้งยังกล้าระงับงานของเธออีกด้วยอย่างนั้นหรือ? ตอนนั้นที่เลือกโอเลให้เป็นฐานขั้นแรกของจิดาภานั้น เป็นเพราะเขาพลาดเอง ไม่นึกเลย....ว่าญาณินีจะกล้าเหยียบย่ำสิ่งที่มีค่าที่เขารักมากที่สุดเช่นนี้ หากมองอีกมุมหนึ่ง ถ้าจิดาภาเข้ามาเค.เอฟเพราะเรื่องนี้แล้วล่ะก็ เขาคงจะพิจารณาให้โอเลได้ดิ้นรนต่อไปอีกซักสองสามวัน เส้นทางข้างหน้าในอนาคตของโอเลจะเป็นอย่างไร คงต้องดูการเป็นไปของสถานการณ์นี้เสียแล้ว สำหรับจิดาภาแล้วนั้นเขารู้ดีว่าเธอจะไม่ยอมปล่อยอะไรง่ายๆอย่างแน่นอน