ตอนที่ 156 อ้อมแขนที่กว้างที่สุด

ตอนที่ 156 อ้อมแขนที่กว้างที่สุด คืนนั้น จิรภาสกลับมาบ้านเร็ว เขาอยากจะใช้เวลาเพื่อมาอยู่กับจิดาภา ถึงแม้ว่าเธอยังคงดูเข้มแข็ง แต่เธอก็คงจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก จิดาภาเป็นผู้หญิงที่มีความคิดมากที่สุดที่เขาเคยเห็นมา เธอรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร และจะไม่ยอมละมือง่ายๆหากเพราะสาเหตุมาจากเรื่องอื่นเป็นอันขาด และเพราะเป็นเช่นนี้ เธอก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน เมื่อจิรภาสเดินเข้ามา จิดาภาที่ได้ยินเสียงนั้นจึงเดินออกมาต้อนรับเขา “กลับมาแล้วหรือคะ? ฉันทำอาหารเสร็จพอดี คุณไปล้างมือก่อนแล้วค่อยมาทานนะคะ” “ตอนนี้คุณยังมีอารมณ์มาทำอาหารอีกหรือครับ?” จิรภาสยิ้มแล้วเข้าไปโอบเอวเธอไว้ “ไม่ยิ้มแล้วคุณจะให้ฉันร้องไห้หรือไงกันคะ? ถ้าฉันร้องไห้เพราะเรื่องแบบนี้ น้ำตาของฉันก็คงดูไร้ค่าเกินไปแล้วล่ะค่ะ” จิดาภากระพริบตาแล้วหันมาคล้องคอเขาไว้ “อีกอย่างฉันมีสามีที่รักฉันมากขนาดนี้อยู่ด้วย ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร ฉันก็จะผ่านมันไปได้อยู่แล้ว!” จิรภาสกอดเธอไว้ในอ้อมกอดของเขาแน่น แล้วกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน “ผมไม่อยากเห็นคุณเจ็บ ถูกคนอื่นหลอกใช้ประโยชน์แบบนี้....ผมเองก็รู้สึกเจ็บปวด” เขาเป็นประธานบริษัทเค.เอฟ เป็นราชาแห่งวงการบันเทิง ส่วนเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่เขารักคอยประคับประคองมากับมือ จะให้เขาทนมองข่าวลือภายนอกเช่นนี้ เขาทำไม่ได้ “มีคุณคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังฉัน ฉันถึงได้มีความกล้าแบบนี้ ไม่อย่างนั้น....ฉันอาจจะถูกพวกเขาแกล้งเสียจนต้องเสียน้ำตาก็ได้นะคะ” จิดาภาออดอ้อนเขา เพราะมีเขา เธอถึงจะก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง จิรภาสถูกคำพูดนี้ของเธอกล่อมเสียจนต้องยอม ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อคุณผู้หญิงพูดแบบนี้แล้ว ผมคงต้องฟังตามคำสั่งแล้วล่ะครับ” สามีภรรยาอย่างพวกเขาไม่อยากจะหาเรื่องใส่ตัว แต่ถ้าหากญาณินียังคงบีบและกดดันเธออยู่เช่นนี้ ก็อย่าโทษว่าจิดาภาไร้ความปราณีแล้วกัน ......... เช้าตรู่ของวันถัดมา โฆษณาของWMจะฉายออกอากาศแล้ว บรรดาแฟนคลับของรเมศพากันตื่นเต้น พวกเขารอที่จะเยาะเย้ยผู้กำกับและจิดาภา ในเมื่อมีศิลปินที่อยากจะมาแทนที่ตำแหน่งนักแสดงนำชายแทนรเมศเช่นนี้ ก็รอดูแล้วกัน “แฟนคลับพวกนี้ช่างยั่วยุกันดีเสียจริงๆ” รเมศดูคำวิพากษ์วิจารณ์ในโทรศัพท์มือถือ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างพอใจ “ผมแค่แสดงออกมาว่าไม่ดีใจเพียงแค่นั้น พวกแฟนคลับไม่มีสมองพวกนั้นก็ไปโจมตีจิดาภาแทนผมแล้ว ถ้าหากผม...” “เอาล่ะ อย่าพูดถึงเลย เดี๋ยวจะมีคนมาได้ยิน!”ผู้จัดการดึงรเมศไว้ “ครั้งที่แล้วที่เธอไปเปิดเผยเรื่องที่จิดาภาถูกโอเลแบน นั่นก็เป็นเรื่องเป็นราวไม่น้อยแล้วนะ” “ผมไม่ได้พูดอะไรผิด!” รเมศกำลังเตรียมตัวไปพบกับผู้จัดละครเรื่องหนึ่ง รู้สึกสบายใจ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องโฆษณาของWMที่กำลังจะฉายนั้น เขาก็รู้สึกหงุดหงิดบ้างเล็กน้อย “เป็นเพราะผมใช้พวกแฟนคลับพวกนั้น ถึงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ คุณจะไปเข้าใจอะไร!” ผู้จัดการส่วนตัวของเขาไม่สามารถจะหยุดความเย่อหยิ่งของเขาไว้ได้เลย จึงทำได้เพียงปิดปากตัวเองไว้เท่านั้น มีฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทางต้นสังกัดของรเมศ บวกกับแรงผลักดันของบรรดาแฟนคลับ เชื่อว่าเมื่อโฆษณาของWMออกฉายแล้วนั้น ผลตอบรับก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่นัก พวกเขารอที่จะหัวเราะเยาะจิดาภากันอยู่แล้ว ในเวลาเดียวกัน จิดาภานั่งอยู่บนโซฟาในออฟฟิศของประธานบริษัทเค.เอฟ เธอกำรีโมทไว้ หากเทียบกับถ่ายรูปด้วยกันครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกรอคอยและตื่นเต้นมากกว่าเสียอีก พวกเขาแสดงเป็นคู่รัก จะมีคนมองออกและจำสถานะของจิรภาสได้หรือเปล่า หรือจะสังเกตเห็นถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงของพวกเขา ส่วนจิรภาสที่นั่งดูเอกสารอยู่ข้างๆเธอนั้นกลับไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆเลยสักนิด ขณะที่โฆษณาออกอากาศฉายอยู่นั้น จิดาภามองเห็นการแสดงความรู้สึกของเธอบนหน้าจอ เธอมองเขาอย่างอาลัยอาวรณ์ ราวกับมองโลกทั้งใบที่เต็มไปด้วยความสุขและความหวานตลบอบอวลเช่นนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าแดง แน่นอนว่า ฉากทั้งหมดนั้นไม่ได้ปรากฏให้เห็นใบหน้าของจิรภาสเลย มีเพียงแค่ด้านหลังและมือของเขาเพียงเท่านั้น WMใช้รูปที่ทั้งสองคนคลอเคลียแนบชิดกันเป็นรูปตอนฉากจบ แล้วประกอบด้วยเสียงดนตรีพร้อมกับฟิลเตอร์ ทำให้ฉากที่ปรากฏให้เห็นนั้นสวยงามเสียจนทำให้คนที่ดูถึงกับตกตะลึงจนแทบหยุดหายใจ หลังจากที่โฆษณาฉายออกไปแล้วนั้น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ทางบริษัทWMได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นการโปรโมตกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ชุดแหวนแต่งงานนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น และตามด้วยโทรศัพท์มือถือของภพธรที่มีคนโทรเข้าเสียจนแทบจะระเบิด มีหลายคนที่อยากจะติดต่อเชิญให้จิดาภาไปถ่ายละคร ทั้งยังมีผู้กำกับที่เอ่ยถามถึงสถานะของคนที่ร่วมงานด้วยกันกับเธอ อยากให้ทั้งสองคนได้ร่วมงานแสดงคู่กันอีก .... โฆษณาครั้งนี้ของWMได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อเห็นแฟนคลับและชาวอินเตอร์เน็ตต่างก็พากันรู้สึกว่าภาพนั้นช่างสวยงาม แล้วก็พากันสั่งจองแหวนคู่รักกันแทบจะทันที เนื่องจากการแสดงของจิดาภาทำให้ผู้คนได้รับรู้ถึงความสุขของความรักที่แท้จริง อีกทั้งการแต่งงานควรจะเป็นการยกระดับความรักได้ด้วยเช่นกัน! แหวนแต่งงานเป็นคำสัญญาระหว่างคนสองคน แต่ไม่ใช่ข้อผูกมัด “พระเจ้า ผู้ชายคนนี้คือใครกัน ให้จิดาภาคบกับเขาเลยได้ไหม!” “ครั้งนี้บริษัทWMถ่ายโฆษณา หรือว่าถ่ายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์กันแน่ ดูยังไงก็ไม่เบื่อเลย” “หวานกันขนาดนี้ ยอมเลยจริงๆ” “แม้ว่านักแสดงนำชายจะไม่ได้เผยให้เห็นหน้าตา แต่คุณสมบัติของเขาช่างพอดีเสียเหลือเกิน ดูมีพลังกว่ารเมศอีก เปลี่ยนเป็นแฟนคลับเขาดีกว่า!” “ผู้ชายคนนี้หล่อเหลือเกิน....” ไม่มีใครคิดว่าโฆษณาชิ้นนี้จะได้รับกระแสที่ดีเช่นนี้ จิดาภาและผู้ชายที่แสนลึกลับคนนี้ได้กลายเป็นบุคคลที่ถูกค้นหามากที่สุดไปแล้ว ส่วนทางด้านรเมศนั้นก็ได้ถูกลืมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บรรดาแฟนคลับเหล่านั้นที่จากเดิมคอยรอหัวเราะเยาะจิดาภานั้น พอได้เห็นโฆษณาชิ้นนี้แล้วนั้น ทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะโจมตีจิดาภาได้เลย พวกเขาเองล้วนก็รู้สึกว่าเป็นการถ่ายทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก! ดูจากความสูงและคุณสมบัติแล้วนั้น รเมศราวกับจะไม่สามารถมาเป็นคู่แข่งกับผู้ชายลึกลับคนนี้ได้เลย นอกจากจะไม่เห็นหน้าแล้ว ในส่วนอื่นๆนั้นก็สมบูรณ์แบบเหลือเกิน บนอินเตอร์เน็ตปรากฏโพสต์หนึ่งขึ้นมา “โชคดีที่เปลี่ยนตัวรเมศ ทำให้พวกเราได้เห็นคู่จิ้นคู่ใหม่” “ชื่นชมจริงๆ เบื้องหลังของผู้ชายคนนี้ช่างเท่ห์เหลือเกิน!” หลังจากที่รเมศเพิ่งประชุมเสร็จนั้น เขาจึงอยากรู้การตอบรับของโฆษณา เขารอดูละครเรื่องนี้มาตลอด แต่ผู้จัดการส่วนตัวของเขากลับไม่ยอมส่งโทรศัพท์มือถือให้เขาเลย เขาจึงเอ่ยออกมาอย่างรำคาญ “เอาโทรศัพท์มาให้ผม!” “รเมศ...เธออย่าดูเลยดีกว่านะ” ผู้จัดการของเขาอ้ำๆอึ้งๆ “ไร้สาระ!” รเมศแย่งมือถือของเขามากจากในมือของผู้จัดการ แล้วเปิดดูด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยนั่น แต่หลังจากที่เขาดูโฆษณานั้นเสร็จแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และยังมีคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นอีก.... “คนนี้มันเป็นใคร!” รเมศตะโกนออกมาด้วยความโมโห “นึกไม่ถึงเลยว่าพวกนั้นจะบอกว่าหล่อกว่าผม? พวกนั้นตาบอดกันหรือไง!” ผู้จัดการไม่กล้าตอบอะไร ไม่ใช่ว่าพวกเขาตาบอด แต่เป็นเพราะรเมศใช้ชีวิตอยู่แต่กับความคิดความเพ้อฝันของตัวเอง แยกแยะความจริงไม่ได้ต่างหาก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวของรเมศ ควรจะอยู่ฝั่งรเมศ แต่หลังจากที่เขาดูโฆษณาชิ้นนั้นแล้ว คงต้องพูดอย่างเป็นกลางว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นต่อกว่ารเมศอยู่มากเลยทีเดียว! เพียงแต่รเมศนั้นถือดีคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นจึงไม่ยอมก้มหัวให้ใครทั้งนั้น “ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอปรับเปลี่ยนนิสัยและอารมณ์ของตัวเองเสียหน่อย ผู้บริหารถามก็อย่าแสดงอาการแบบนี้ออกมา” “จะให้ผมยอมหรือ ไม่มีทาง!” รเมศโมโหแล้วเตะประตูเดินออกไปอย่างหัวเสีย ผู้จัดการส่วนตัวต้องเดินไปตามเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากเมื่อครู่เขาไม่พูดอะไรออกไปเลย เขาคงจะต้องเดือดร้อนเพราะอารมณ์เช่นนี้ของตัวเองในไม่ช้าก็เร็ววันนี้อย่างแน่นอน เขายังคงไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องนี้ ทำให้เขาสูญเสียแฟนคลับไปถึงเกือบห้าแสนคน