ตอนที่ 158 การสัมภาษณ์

ตอนที่ 158 การสัมภาษณ์ “ได้ ถ้าอย่างนั้นผมจะตอบตกลงทางฝ่ายนั้นไป” ภพธรสนับสนุนเธออยู่แล้ว เขาเองก็อยากจะดูว่าจิดาภาจะตอบโต้กลับไปด้วยวิธีไหน “อีกเรื่องนึงค่ะ ฉันอยากให้คุณทำอะไรให้เสียหน่อย ฉันอยากให้คุณปล่อยข่าวเรื่องที่คุณญาณินีต้องการให้ฉันหายไป และที่เธอมีเจตนาที่จะแบนฉันจริงๆ อีกทั้งที่เธอกำลังเริ่มแผนเรื่องนี้แล้วด้วย” เธอจะต้องโยนเหยื่อไว้ก่อน ให้รายการสัมภาษณ์นั้นดูมีความสมบูรณ์มากขึ้น มีการวางกับดักไว้เช่นนี้ จรินทร์จะต้องถามถึงเรื่องที่เกี่ยวกับโอเลอย่างแน่นอน “ได้ เดี๋ยวผมจะเริ่มเตรียมไว้ให้” รอจนจิดาภาวางโทรศัพท์ไปแล้วนั้น จิรภาสจึงลุกขึ้นมาจากโต๊ะทำงานเขา แล้วเดินมานั่งข้างๆเธอ แล้วโอบเธอเข้ามาให้อยู่ในอ้อมกอดของเขา “ถ้าหากถึงตอนนั้นแล้วเขาถามคุณว่าคุณแต่งงานแล้วหรือยัง คุณจะตอบเขาไปว่าอย่างไรครับ?” “คุณอยากให้ฉันตอบว่าอย่างไรล่ะคะ?” จิดาภายิ้มแล้วซุกลงไปในอ้อมกอดของเขา จิรภาสดีดไปที่ปลายจมูกเธอเบาๆ มองเธอด้วยความเอ็นดู “คุณจะตอบอย่างไรก็ได้” เขากระซิบ “หลังจากที่ญาณินีได้รับข่าวนี้แล้ว เธอจะต้องไม่ให้คุณรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้แน่ๆ” ที่จิดาภาทำเช่นนี้ ก็เท่ากับว่าเธอกำลังยั่วยุญาณินีอยู่ “นั่นเป็นเพราะเธอล้ำเส้นของฉันก่อนนี่คะ!” แววตาของเธอมุ่งมั่น “ฉันเป็นศิลปินของโอเล แต่ฉันไม่ได้เป็นหมากที่เธอจะให้ฉันเดินไปไหนตามความต้องการของเธอได้แบบนั้น ไม่ว่าจะเริ่มใหม่กี่ครั้ง ฉันจะไม่ยอมรับปากในสิ่งที่ฉันไม่อยากทำอยู่แล้ว” แม้อยากจะมีชื่อเสียง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีแย่ๆแบบนั้น “โอเคครับ....ไม่ทำ” จิรภาสกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น “ฉันรู้ค่ะว่าวงการนี้มีเรื่องการเอาตัวเข้าแลกมากมายเหลือเกิน แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องเป็นอย่างพวกเขา คุณญาณินีต้องการจะควบคุมฉัน แต่ฉันไม่อยากจะถูกเธอควบคุม” เธอจะพิสูจน์ให้เห็นด้วยการกระทำของเธอ ว่าเธอจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด “คุณจิรภาสคะ ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกว่าฉันเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงโทษตัวเอง” “ฉันไม่อยากให้คุณคิดแบบนี้ คงไม่มีใครคิดหรอกค่ะ ว่าคุณญาณินีจะแตกหักกับเราได้เร็วขนาดนี้” “แล้วจะว่าไป เรื่องราวในตอนนี้ก็ยังไม่ถึงจุดจบเลยด้วย ฉันจะต้องชนะอย่างสวยงามแน่นอนค่ะ” เธอยิ้มแล้วจูบเขาด้วยความอ่อนโยน เพื่อปลอบใจหัวใจที่อ่อนไหวของผู้ชายคนนี้ “ได้แต่งงานกับคุณ นี่เป็นโชคดีในชีวิตของผมจริงๆ” เขารู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป อาจจะควบคุมได้ยาก เขาจะต้องยื่นมีเข้าไปช่วยในช่วงเวลาที่จำเป็น เพื่อปกป้องจิดาภา หากเขาออกโรงนั้น ญาณินีคงจะต้องรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้ของเธอตลอดไปแน่ เพิ่งจะผ่านช่วงเที่ยงคืนไปไม่นาน บนหน้าอินเตอร์เน็ตมีความจริงบางอย่างปรากฏขึ้น ว่าเรื่องที่รเมศพูดมาทั้งหมดในครั้งที่แล้วนั้นเป็นความจริง โอเลมีเจตนาจะระงับงานของจิดาภาที่เพิ่งจะเซ็นสัญญากับทางบริษัทไป เนื่องจากช่วงระยะเวลาสองสามวันมานี้จิดาภาได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ดังนั้นข่าวนี้ใช้เวลาไม่นานในการแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ทางฝั่งโอเลก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเรื่องนี้ และประกาศออกมาแล้วว่าญาณินีเดินทางไปต่างประเทศ จากนั้นนักข่าวก็เริ่มหันมาหาทางภพธร ต้องการจะรู้ความจริงจากทางฝ่ายจิดาภา แต่ถามไปถามมาแล้วนั้น มีเพียงคำตอบเดียวนั่นก็คือ “จิดาภาจะรับคำเชิญให้เข้าร่วมในรายการสัมภาษณ์ของคุณจรินทร์” ความหมายก็คือ เธอจะพูดความจริงทุกอย่างในรายการนั้น และนี่ก็ทำให้โลกจากภายนอกรู้สึกว่าโอเลกำลังระงับงานจิดาภาอยู่จริงๆ อีกทั้งยังมีการลงมือไปแล้วเสียด้วยซ้ำ หากมิเช่นนั้นแล้วทำไมจิดาภาจะต้องคอยเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอดเช่นนี้ เพียงแต่ความนิยมที่ร้อนแรงของจิดาภานี้ ทำไมโอเลถึงได้หยุดรับงานให้เธอโดยไม่มีสาเหตุเช่นนี้กัน มี หรือมีเงินอยู่แล้ว ไม่ต้องหารายได้แล้วอย่างนั้นหรือ? หลังจากที่ญาณินีรู้ข่าวนี้แล้ว เธอรู้สึกโมโหเสียจนตัวสั่นไปหมด แต่ไม่ว่าเธอจะทำลายข้าวของอย่างไร ก็ไม่สามารถระบายความโมโหที่อยู่ภายในใจนี้ของเธอได้เลย เธอไม่สามารถรับความอวดดีของจิดาภาได้อีกต่อไปแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าข่มขู่เธอแบบนี้? “เรียกคมสรให้มาหาฉันที่ออฟฟิศเดี๋ยวนี้!” หลังจากที่จงกลออกไปจากโอเลแล้ว เธอแทบจะไม่ได้พบคมสรเป็นการส่วนตัวเลย แต่ครั้งนี้ คนที่เธอสามารถพึ่งพาได้คงมีเพียงเขาเท่านั้น “คุณญาณินี เรียกผมหรือครับ?” คมสรเองก็เห็นข่าวแล้วเช่นกัน เขาคาดเดาได้ถึงสาเหตุที่จิดาภาเรียกเขามาพบ “จิดาภาจะไปสัมภาษณ์ในรายการของจรินทร์ ฉันต้องการให้คุณช่วยฉัน!” คมสรถอนหายใจ แล้วนั่งลงบนโซฟา “ตอนนั้นผมกับคุณจงกลก็เคยบอกคุณแล้วว่าไม่ให้คุณเซ็นสัญญากับเธอ แล้วก็ไม่ให้ภพธรกลับมา แต่คุณก็ไม่ยอม ตอนนี้....” “ฉันไม่อยากฟังเรื่องพวกนี้ ฉันอยากจะรู้ ว่าคุณมีวิธีจัดการเรื่องนี้ได้ไหม?” ญาณินีเคาะโต๊ะ ด้วยท่าทางที่ดูเด็ดขาด “ก็มีแหล่ะครับ” คมสรเอ่ยบอกความคิดของตัวเองออกไป “จุดเด่นที่สุดของจิดาภาคือ เธอเป็นคนอ่อนไหว เธอจะให้ความสำคัญกับเรื่องของความรู้สึก ผู้ช่วยที่ชื่อนัฎของเธอนั้นเธอเห็นเขาเป็นคนในครอบครัวของเธอคนหนึ่ง ผมคิดว่าคุณน่าจะลงมือได้จากคุณนัฎนี่แหล่ะครับ” “ผมจำได้ว่าจิดาภาเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความรู้สึกที่ดูคลุมเครือของเธอไว้ แล้วยังบอกว่าเธอไม่มีแฟนด้วย คุณสามารถใช้เรื่องที่เธอมีแฟนแล้วเรื่องนี้เปิดโปงเธอได้ เป็นในทิศทางที่ว่าเธอตั้งใจจะหลอกลวงแฟนคลับ...” ในตอนนั้นจิดาภาแต่งงานไปแล้ว แน่นอนว่าเธอก็ไม่มีแฟนอยู่แล้ว แต่พวกเขาคงคิดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่าจิดาภาจะแต่งงานแล้ว “อีกทั้ง ภพธรเองก็จะต้องออกห่างไปจากจิดาภา และพอถึงตอนนั้น จิดาภาก็จะไม่เหลือใครเลยแม้แต่คนเดียว” ญาณินีได้ฟังที่เขาพูดมาดังนั้น เธอเพิ่งจะรู้สึกว่าจริงๆแล้วคนที่น่ากลัวที่สุดนี้อยู่ไม่ไกลตัวเธอเลย “คุณนี่แผนสูงยิ่งกว่าจงกลเสียอีกนะ” “ขอเพียงแค่จัดการกับปัญหาได้ ก็พอไม่ใช่หรือครับ?” คมสรลุกขึ้น ตอนนี้เขาได้ทำตามคำขอร้องของจงกลที่เธอต้องไปจากที่นี่ เพื่อช่วยเธอแก้แค้นแล้ว ญาณินีจะไม่ยอมรับก็คงไม่ได้ว่าวิธีของคมสรนั้นจะคงจะได้ผลจริงๆ เธอต้องการให้จิดาภาพ่ายแพ้! ……. หลังจากที่จิดาภาตัดสินใจรับการสัมภาษณ์ของจรินทร์แล้ว กระแสภายนอกของเธอนั้นนับว่าไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น จากแหล่งสนับสนุนที่เคยถูกแบ่งไปให้กับภารดีและจิรสุดานั้นก็ถูกให้ทางฝ่ายเจ้าของแบรนด์เรียกร้องให้กลับมาเป็นของจิดาภาอีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาเห็นแหวนแต่งงานของบริษัทWMที่ขายดิบขายดี และได้รับการตอบรับที่ดีมาก จึงคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้จิดาภามาเป็นBrand ambassadorให้กับพวกเขา และเมื่อภารดีรู้ข่าวแล้วนั้น เธอจึงไปหาญาณินีที่ออฟฟิศเธอทันที “คุณญาณินี ฉันน่ะยังไงก็ได้ ฉันฟังที่บริษัทจัดการให้อยู่แล้ว แต่นี่ทางเจ้าของแบรนด์นั้นเรียกร้องมาต้องการเปลี่ยนตัวเป็นจิดาภา หากไม่เปลี่ยน บริษัทจะต้องจ่ายค่าชดเชยที่ผิดสัญญา” “ซึ่งนั่นไม่ใช่ยอดเงินน้อยๆเลยนะคะ” ญาณินีคิด ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด แบรนด์เหล่านั้นตอนแรกตกปากรับคำเธอเป็นอย่างดี รู้สึกว่าภารดีและจิรสุดามีแนวโน้มกระแสที่ค่อนข้างสูง แต่ดูสถานการณ์ในตอนนี้แล้วอาจจะไม่ถูกต้องตามนั้น จึงมาหาเรื่องเธอเช่นนี้! ไม่นึกเลยว่าพวกเขาจะมองว่าแนวโน้มกระแสของจิดาภาจะดีกว่าภารดีและจิรสุดา? ตาบอดกันไปแล้วจริงๆ “ฉันเองก็ไม่คิดว่าความนิยมของฉันกับจิรสุดาจะเทียบกับจิดาภาไม่ได้เช่นนี้ เธอคงมีวิธี ที่สามารถทำให้เธอยืนหยัดจนถึงตอนนี้ได้....อายุก็เท่านั้นแล้ว ไม่ดูแลตัวเองดีๆ ยังจะออกมาก่อความวุ่นวายอีก” จิรสุดาที่ได้ยินคำพูดไม่น่าฟังเหล่านั้นแล้ว เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณญาณินีคะ ถ้าเช่นนั้นให้คุณจิดาภารับงานนั้นไปดีกว่าค่ะ” ญาณินีไม่ยอมรับในข้อเสนอนี้ แต่ให้เธอเสียเงินค่าชดเชยนั้นก็เป็นไปไม่ได้ เธอจึงทำได้เพียงให้เลขาไปเจรจากับฝ่ายนั้น หวังว่าจะให้แต่ละฝ่ายถอยกันคนละก้าว แต่ผลไม่ได้เป็นไปตามที่คาดคิด เนื่องจากพวกเขายังคงเอาแต่เรียกร้องเพียงอย่างเดียวคือถ้าไม่จ่ายค่าชดเชย ก็ต้องให้จิดาภารับงานนี้! ญาณินีโทรหาจิดาภาด้วยความโมโห ให้เธอไปที่บริษัทในทันที แต่ขณะนั้น จิดาภากำลังดูหนังอยู่กับจิรภาสที่บ้านของพวกเขา จึงตอบกลับไปเพียงแค่ประโยคเดียว “คุณภพธรเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน เขาเป็นตัวแทนของฉันได้ คุณมีอะไรก็หาเขาได้เลยค่ะ” พูดจบ เธอก็กดตัดสายไปเลยทันที ตอนนั้นญาณินีต้องการจะแบ่งแหล่งสนับสนุนเธอให้ใครก็แบ่งโดยไปไม่ได้บอกเธอเลยแม้แต่นิด ตอนนี้อยากจะยัดมันกลับมาให้เธอ คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก