บทที่ 189 ช่างต่ำช้านัก   1/    
已经是第一章了
บทที่ 189 ช่างต่ำช้านัก
บทที่ 189 ช่างต่ำช้านัก สวมอย่างไม่ลังเล ต้องใส่เพื่อที่จะไม่ได้เป็นจุดสนใจ และไม่ถูกจับได้เสียก่อน เลือกมาแล้วใส่ทันที หลังจากนั้นก็รีบวิ่งไปยังห้องส่วนตัวของVIPที่อยู่ตรงสุดทางเดินนั้น กุหลาบรีบร้อนจากไป เมื่อเห็นว่าประตูไม่ได้ล็อค เพ็ญนีติ์ก็รู้สึกดีใจ ก้มมองชุดที่ตัวเองสวมใส่ และยังมีไวน์ขวดหนึ่งที่คว้าติดมือมาด้วย สูดลมหายใจลึกๆแล้ว เพ็ญนีติ์จึงเปิดประตูเข้าไป บีบเสียงต่ำและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ติดสั่น “ขออนุญาตค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการเหล้าเพิ่มหรือไม่คะ” แต่เมื่อกล่าวจบเธอก็ชะงักนิ่ง ในห้องส่วนตัวนั่นมีเสียงหอบหายใจดังขึ้น บนโซฟามีเงาตะคุ่มๆของชายหญิงคู่หนึ่ง ถึงแม้จะยังใส่ชุดอยู่ แต่มันเริ่มหลุดลุ่ยแล้ว เสื้อผ้าของผู้หญิงคนนั้นแทบจะปิดไม่มิด ทั้งร่างนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่สิ้นสุด เสน่ห์เหลือล้นราวกับน้ำที่ล้นเอ่อ เธอสงสัย คิดไว้แล้วว่าคนในห้องต้องเป็นปุริม และผู้หญิงที่อยู่ในห้องด้วยกันนี้ก็คงเป็นใครสักคนของhok clubแน่ๆ แต่เธอกลับมาเจอสิ่งที่เกินคาดไปมาก ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือนารา น้องสาวของเพ็ญภัทร์ ไม่ใช่ตัวปลอม นั่นเธอแน่ๆ “ไม่เอา ออกไป” ในตอนที่เพ็ญนีติ์ชะงักนิ่ง นาราก็ตวาดเสียงดัง “ค่ะ” เพ็ญนีติ์บีบเสียงอีกครั้ง แล้วค่อยๆถอยหลัง แต่สายตายังคงไม่ละไปจากนาราและผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามกับเธอ รูปร่างของชายคนนั้นเหมือนกับปุริมมาก ต่อให้เขาเป็นศพเธอก็จำเขาได้ มันต้องเป็นเขา ต้องเป็นเขาแน่ๆ แต่ถ้าหากยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ต์เต็มเธอก็ไม่กล้าลงมือ หากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ปุริม เธอคงโดนนาราเปิดเผยตัวตน และการที่เธอเข้ามาในห้องนี้จะกลายเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมทันที ในตอนที่กำลังสิ้นหวัง แต่เสียงของนาราก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “แกเข้ามานี่ วางเหล้าไว้บนโต๊ะแล้วรีบออกไปซะ” สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปกะทันหันทำให้เพ็ญนีติ์ชะงักไป นิ่งไปชั่วครู่ เมื่อดึงสติกลับมาได้ก็รีบเดินเข้าไปทันที เมื่อเข้ามาในห้องส่วนตัวนี้แล้ว เงยหน้ามองโต๊ะข้างหน้าโซฟา บนนั้นมีเหล้าอยู่ไม่กี่ขวด แต่มันหมดไปแล้ว หมายความว่าผู้ชายคนนั้นได้นั่งดื่มกับนารามานานแล้ว เพ็ญนีติ์ไม่กล้าเงยหน้ามอง ถึงแม้จะไม่ได้เงยหน้ามองนารา แต่เธอก็รู้ว่านารากำลังมองสำรวจเธอ แต่ยังโชคดีที่นารามองไม่ออกว่าเป็นเธอ เมื่อมาถึงโต๊ะ เพ็ญนีติ์ค่อยๆวางขวดเหล้าลง นารากลับกล่าวอย่างรีบร้อน “รีบวางสิ แล้วออกไปไวๆ” เธอปล่อยมือจากเหล้าขวดนั้น ผมยาวลดมาบดบังอยู่ข้างหน้า ลอบมองผ่านม่านผม ในที่สุดเธอก็ได้เห็นใบหน้าด้านข้างของชายคนนั้น ใบหน้าแบบนั้น ต่อให้เป็นศพเธอก็รู้ว่าเขาคือใคร และใช่ นั่นคือปุริม “ออกไป” เธอชะงักนิ่ง นาราจึงตวาดอีกครั้ง ชายหญิงกอดก่ายกัน นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เห็นเป็นปรกติในห้องส่วนตัวแห่งนี้ พนักงานที่นี่ต่างก็คุ้นชินกันแล้ว แต่ทันใดนั้นเพ็ญนีติ์ก็รู้สึกเหมือนฟ้าถล่มดินทลาย หากเป็นเขากับเพ็ญภัทร์ เธอยังรู้สึกว่ามันคือเรื่องปกติ เพราะในใจของเขานั้นรักเพ็ญภัทร์เนิ่นนาน นี่คือเรื่องที่เขาไม่กล้าพูดกับเธอ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับเป็นน้องสาวของเพ็ญภัทร์ ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงรถเต่าของนาราขึ้นมา มันเหมือนรถเต่าที่ปุริมเคยให้เธอมา สายตาของเธอมืดมนทันตา ที่จริงเขามีความสัมพันธ์กับนารามาตั้งนานแล้ว ฉีกยิ้มเย็น เขาเป็นอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ทั้งหมดนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ เธอจะไม่สนใจ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าการที่เธอล้างตัวเธอเองให้สะอาดในเมื่อเช้านั่นคือการกระทำที่ถูกต้องแล้ว จากวันนี้ไป ตัวตนของเขาจะไม่มีทางมาอยู่บนร่างของเธออีก ไม่ออกไป และรีบพุ่งเข้าไปหาปุริมทันที เธอคว้าไหล่เขาไว้ แล้วกล่าวเสียงเย็น “คุณบอกฉันมา อ้อยกับส้มอยู่ที่ไหน บอกฉันมา แล้วฉันจะไปทันที” เพียงแค่รู้เธอก็จะไป ไปให้ไกลจากที่นี่ จากนี้เขาจะอยู่จะตายก็จะไม่ขอเกี่ยวข้องอีก ครั้งนี้เธอจะไม่อยู่ที่เมืองดรัลต่อแน่ ยังไงก็ไม่ “เพ็ญนีติ์หรือ ทำไมถึงเป็นเธอ” แต่ว่าคนที่ตอบเธอนั้นไม่ใช่ปุริม แต่เป็นนาราที่อยู่ตรงข้ามปุริม น้ำเสียงของเธอนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่คิดว่าจะได้มาเจอเพ็ญนีติ์ตอนนี้ในห้องส่วนตัวนี่เลยจริงๆ “ฉันมาหาอ้อยกับส้ม ฉันแค่ต้องการให้เขาบอกมาว่าเด็กๆอยู่ที่ไหน รู้แล้วฉันจะรีบออกไปทันที” ไม่ได้บีบเสียงของตัวเองอีกต่อไป เธอกล่าวเสียงแข็ง น้ำเสียงนั้นฟังดูรู้ว่ากำลังอดกลั้น เห็นชุดที่หลุดมาเกือบครึ่งของนาราในตอนนี้ เธอก็ไม่เขินอายอีกแล้ว เขาเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว หาใช่ว่าเธอไม่รู้ไม่ แต่เธอก็โง่ไปรักเขา โง่อย่างสมบูรณ์แบบ “ได้ เช่นนั้นก็ถามมา ถามเสร็จแล้วก็ไป แกพูดเองนะ ไม่ใช่ว่าฉันโกรธแกจนรีบไล่หรืออะไร อย่างไรฉันก็ยังมองมาแกเป็นพี่เป็นน้องอยู่” เหอะ เราไม่ใช่พี่น้องกัน พี่น้องของเธอคือเพ็ญภัทร์ แต่รำคาญที่จะต้องใส่ใจ จึงเลือกที่จะหันมาคาดคั้นปุริม “ปุริมคะ อ้อยกับส้มล่ะ คุณรีบบอกฉันมาสิ” แต่ชายหนุ่มกลับไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำ แถมสายตายังไม่ยอมละออกจากหน้าอกของนาราอีกด้วย นี่ท่าทางยั่วยวนของผู้หญิงคนนั้นมันสำคัญกว่าเรื่องของเด็กๆอีกหรือ เธอง้างมือหมายจะตบเพื่อเรียกสติเขา อยากให้เขารีบๆบอกเธอมาสักทีว่าเด็กๆอยู่ที่ไหนกันแน่ แต่คิดไม่ถึง เขาคว้าข้อมือเธอได้ทันก่อนที่มันจะถึงตัวเขา มือใหญ่ของเขากำข้อมือเธอไว้แน่น “ออกไปซะเพ็ญนีติ์ อย่ามารบกวนผมกับนารา พวกเรากำลังคุยธุระกันอยู่” เขาได้สติแล้ว แต่ก็ยังคงไม่แลมาทางเธอ มันยังคงจ้องร่างของนาราเขม็ง “เหอะเหอะ...คุยหรือ แล้วคุยอะไรกันหรือ ปุริม คุณมันน่าขันนัก ฉันพูดแล้ว แค่คุณบอกฉันมาว่าอ้อยกับส้มอยู่ที่ไหน ฉันจะไปทันที จะไม่อยู่ตรงนี้ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว” น้ำเสียงที่แน่วแน่นั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า คำพูดของเขาทำร้ายเธอ คำพูดที่ไร้ความรู้สึกนั่นทำร้ายเธออย่างจัง มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่ได้พูดกับเธอ แต่ตอนที่เขาตะโกนว่า เพ็ญนีติ์ นั่นมันชัดมาก จนไม่มีทางผิดแน่ ปุริมกำข้อมือของเธอแรงขึ้น จนทำให้เพ็ญนีติ์เริ่มเจ็บ แต่เธอกัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงใดใด ชายหนุ่มค่อยๆหันหน้ามา ในที่สุดเขาก็หันมามองหน้าของเธอ ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างร้ายกาจ ผู้ชายเช่นนี้มักจะล่อลวงผู้หญิงได้มากที่สุด เขามีเสน่ห์เหลือล้น ทั้งร่างเต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนแบบชายหนุ่ม เสน่ห์นั้นทำให้ผู้หญิงไม่สามารถละสายตาไปจากเขาได้ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้น่าดึงดูดสำหรับเธออีกต่อไปแล้ว ตอนนี้มีแต่เพียงความเกลียดชังเท่านั้น “ปล่อยมือฉัน อย่าทำให้ฉันเกลียดเลย” คิดเช่นนั้น และเผลอพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว ปุริมไม่ปล่อย และเขายังกำข้อมือของเธอไว้แน่น และเขาก็กล่าวออกมาทีละคำ ทีละคำ “ออกไป ไม่อย่างนั้น ผมจะเรียกการ์ดมาลากคุณออกไป ถึงตอนนั้นอย่ามาพูดว่าผมทำอะไรไม่ไว้หน้าคุณแล้วกัน” “ไว้หน้าหรือ ปุริม คุณเคยคิดสนใจจะไว้หน้าฉันตอนไหนกัน” อยู่ต่อหน้าเธอยังจ้องมองนาราเขม็ง เขาทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน ไฟในใจของเธอในตอนที่หาเขาไม่เจอเริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้มันร้อนกว่าเดิม จนไม่มีอะไรมาดับได้อีกแล้ว มือของชายหนุ่มยังคงเพิ่มแรงขึ้น จนเพ็ญนีติ์ได้ยินเสียงกระดูก ใบหน้าของเธอแสดงออกว่าเจ็บปวด แต่ไม่ส่งเสียงใดใดแม้แต่คำ เพียงตั้งใจฟังสิ่งที่ปุริมกำลังจะกล่าว “หากไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนคลอดอ้อยกับส้มมา ผมเรียกการ์ดนานแล้ว หากคุณไม่ใส่ใจ อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจเลย” ยืนมือไปกดกริ่งของห้อง “ส่งคนมาเอาผู้หญิงในห้องผมออกไป ผมไม่ต้องการเหล้า” กล่าวจบ เขาก็ผลักเธอออกอย่างแรง แรงจนเพ็ญนีติ์ล้มลงไปด้านข้าง ร่างกายที่กระแทกกับพรมไม่ได้ทำให้เจ็บแต่อย่างใด แต่เธอรู้สึกเหมือนอกกำลังจะระเบิดเสียมากกว่า เธอไม่ได้กลัวที่จะโดนลากออกไป แต่เธอกลัวที่จะไม่ได้รู้เรื่องของอ้อยและส้มมากกว่า “ปุริม เด็กๆอยู่ที่ไหนกัน คุณบอกฉัน คุณบอกฉันมาเดี๋ยวนี้” เพ็ญนีติ์ปรี่เข้ามาปุริมอีกครั้ง เธอขาดผู้ชายคนนี้ได้ แต่เธอขาดลูกๆของตัวเองไม่ได้ “ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณออกไปเดี๋ยวนี้” “ปุริม อะไรคือไม่เกี่ยวกับฉันกัน นั่นคือเด็กๆที่ฉันอุ้มท้องและตลอดมาสิบเดือน และเป็นฉันที่เลี้ยงมาหกปีด้วยตัวคนเดียว ปุริม คุณจะทำอะไรอีก ทำไมถึงบอกฉันไม่ได้กันว่าพวกเธออยู่ที่ไหน คุณต้องการขโมยพวกเธอไปจากฉันหรืออย่างไรกัน” ตะโกนเสร็จ เธอก็กลัวจริงๆว่าจะมีคนมาลากเธอออกไป เธอไม่เข้าใจปุริมสักนิด เขาในตอนนี้เหมือนคนแปลกหน้า ต่างกับผู้คนที่มอบความอบอุ่นให้เธอเมื่อคืนราวฟ้ากับเหว “แล้วจะทำไม วันนี้พวกเธออยู่กำมือผม จะทำอะไรมันก็เรื่องของผม ไปซะ ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกต่อไป” เขาตวาดลั่น สองตาแดงก่ำ เกลียดจนเหมือนอยากจะฆ่าเธอก็ไม่ปาน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้กัน เพ็ญนีติ์ชะงักนิ่ง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วไปแล้ว มันเร็วจนเธอเริ่มมองไม่ออก คิดไว้ว่าที่เขาเปลี่ยนไปได้เพราะเพ็ญภัทร์ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาในตอนนี้จะรีบไล่เธอเพื่อนารา “นี่มันทำไมกัน” ใจเธอเริ่มหนักอึ้ง กล่าวถามเสียงแผ่ว แต่ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ ส่ายหน้าจนผมปลิว ทุกอย่างเริ่มพร่ามัว แต่ความเจ็บกลับยิ่งชัดเจน ประตูถูกเปิดออก บอดี้การ์ดและพี่แดงรีบปรี่เข้ามาหาเธอ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอ พี่แดงกล่าวอย่างสับสน “เพ็ญนีติ์ แกมาได้อย่างไรกัน” “ลูก ฉันต้องการลูกคืน อย่ามาโดนตัวฉันนะ...” สายตาเห็นชายสองคนกำลังจะเข้ามาจับแขนของเธอ เพ็ญนีติ์จึงกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก จนไม่ได้สนใจฟังคำพูดของพี่แดงเลย “ลากเธอออกไป ฉันไม่ต้องการเห็นผู้หญิงคนนี้ในhok clubอีก” น้ำเสียงเย็นชาของชายหนุ่ม เป็นตัวชี้ชะตาชีวิตของเธอ เขากำลังไล่เธอ ชายทั้งสองจับแขนสองข้างของเธอในทันที “กรี๊ด ปล่อยฉัน” เธอเหมือนกับสัตว์ร้ายที่ต้องการจะอาละวาด อย่างไรก็ตาม ชายฉกรรจ์ที่คุ้นชินกับสถานการณ์นี้ ย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้หนีอย่างแน่นอน เพ็ญนีติ์ขบกรามอย่างไม่อยากยอมแพ้ เธอแค่อยากให้พวกเขาปล่อยเธอ แค่อยากรู้ว่าอ้อยและส้มอยู่ที่ไหนเท่านั้น ตอนนี้เธอช่างต่ำต้อย หากไม่ใช่เพื่อเด็กๆ เธอจะไม่ยอมตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เธอจะหันหลังกลับอย่างมีศักดิ์ศรี แต่เพราะมันเกี่ยวข้องกับอ้อยและส้ม เธอจึงยอมทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดที่มี อัพเดทครั้งหน้า วันที่27 พ.ย. 2019 จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน
已经是最新一章了
加载中