ตอนที่ 4
ตอนที่ 4
เธอรู้ว่าการพูดแบบนี้ไม่มีมารยาท แต่ ณ ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่น คงต้องลองดูสักครั้ง
“หนู......อีกหน่อยหนูจะใช้คืนคุณสองเท่าเลยค่ะ” ปาณีกุ้มหน้า อธิบายว่า “หนูกำลังจะเข้าเรียนมหาลัย แต่หนูไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอม......”
ธามนิธิหันหน้ากลับมา มองเธอด้วยสายตานิ่งๆ
หญิงสาวเหมือนจะตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น มือที่กำชายเสื้อนั้นเริ่มแดดก่ำ ใบหน้าก็เริ่มแดงระเรื่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่ธามนิธิตั้งใจสังเกตหน้าตาของหญิงสาว
แม้ว่าเธอจะมาทำงานที่นี่ และเขาก็เคยเจอหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยใส่ใจเลย
ขนตาของหญิงสาวนั้นเรียวยาว มีความพลิ้วไหว ดวงตาสีดำสนิทของเธอประกายสวยคล้ายดวงตาของกวาง ใบหน้าที่อ่อนโยนขาวผ่องนั้นเต็มไปด้วยคอลลาเจน ดูแล้วรู้ได้เลยว่าเธออายุยังน้อย
แม้รูปร่างหน้าตาจะไม่ได้สวยเลิศเลอเพอร์เฟค แต่ก็ยังคงมีความน่ารักสดใส
ธามนิธิเม้มปาก สำหรับคำขอของหญิงสาว
หากในเวลาปกติ เขาต้องช่วยเหลือเธอแน่นๆ แต่ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีนัก เลยอยากแกล้งเธอสักหน่อย
“เราไม่ใช่ญาติและไม่ใช่เพื่อน ทำไมฉันต้องช่วยเธอด้วย?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ปาณีถึงกับตัวแข็ง เธอรู้ว่าตัวเองโดนปฏิเสธอีกแล้ว
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆและไม่ได้พูดอะไร กำลังจะหันหลังเดินกลับไป ธามนิธิก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันช่วยเธอก็ได้ แต่มีข้อแม้หนึ่งอย่าง”
“ข้อแม้อะไรคะ?”
ปาณีนิ่งไป
“แต่งงานกับฉัน”
แต่งงานกับเขา?
ปาณีนึกว่าตัวเองหูฝาดไป เธอจึงถามอีกรอบว่า “อะไรนะคะคุณอา?”
“ฉันต้องการเจ้าสาวเพื่อที่จะแต่งงานกับฉัน”
ธามนิธิพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ตอนเขาพูดประโยคนี้ น้ำเสียงเหมือนคนที่กำลังพูดว่าสภาพอากาศวันนี้ก็ไม่เลวนะ
ที่ผ่านมา ด้วยตำแหน่งหน้าที่ของเขา คนที่อยากแต่งงานกับเขาต่อแถวยาวเป็นหางว่าว ตำแหน่งคุณนายวิสิทธิ์เวชนี้ดึงดูดคนยิ่งนัก
แม้ว่าตอนนี้เขาจะพิการ หากเขาอยากหาภรรยาสักคนก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาอยากแกล้งปาณีก็เท่านั้นเอง
ปาณีมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ได้โปรด ปีนี้เธอเพิ่งจะอายุ 18 เองนะ!
แม้ว่าคุณอาคนนี้จะดูหน้าเด็ก แต่เธอเคยได้ยินคนใช้คนก่อนพูดว่านายคนนี้อายุ 28 ปีแล้ว
ให้ตายสิ อายุมากกว่าเธอ 10 ปีเชียวนะ!
ฉันจะแต่งงานกับคนที่อายุมากกว่าฉันเท่าตัวได้ยังไงกัน?
ความเงียบเริ่มเข้าปกคลุมทั้ง 2 คน
ปาณีไม่พูดสักคำ ยืนอยู่ที่เดิมอย่างทำตัวไม่ถูก
สักพัก ธามนิธิที่อยู่ตรงหน้าเธอก็หัวเราะออกมา
เขาคิดในใจ คนที่ยังอยู่ในวัยที่น่ารักแข็งแรงแบบปาณีจะมาชอบคนพิการอย่างฉันได้ยังไงกัน
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เธอไปเถอะ”
ต่อไปไม่ต้องมาที่นี่อีก
......
มองไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้ฝนตกตั้งแต่เมื่อไหร่ ปาณีไม่ได้พกร่มติดตัว แม้ใจจริงอยากออกไปตั้งแต่ตอนนี้ แต่กลับต้องนั่งรออยู่ ในบ้านเนื่องจากฝนตกหนักมาก
เธอนั่งอยู่บนโซฟา มองไปทางธามนิธิอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
พูดจากใจจริง แม้ธามนิธิจะอายุมากไปหน่อยก็จริง แต่รูปร่างหน้าตาหล่อเหลามาก คิ้วที่คมได้รูป ดวงตาที่เป็นประกาย ใบหน้าที่เหมือนรูปปั้นแกะสลัก คางที่สวยได้รูป ทำให้คนมองไม่สามารถละสายตาไปได้เลย
ปาณีนิ่งอยู่ตรงนั้น
เธอกำลังคิดว่าหากเธอยังไม่สามารถยืมเงินไปเรียนได้ สุดท้ายก็ต้องโดนแม่บังคับให้แต่งงานกับชายแก่อยู่ดี
ชายแก่คนนั้นไม่รู้จะขี้เหร่แค่ไหน
และเมื่อคิดถึงเรื่องที่แฟนหนุ่มเวนัสทิ้งเธอไปคบกับติรยา ปาณีก็ยิ่งเศร้ามากขึ้น
คิดถึงอนาคตอันมืดมัวของตัวเอง ปาณีจึงคิดว่าถ้าอย่างนั้นก็แต่งกับคุณอาคนนี้เลยซะดีกว่า!
ปาณียืนขึ้น เดินไปยืนอยู่ตรงหน้าธามนิธิ พร้อมกับพูดว่า “คุณอา ถ้าหนูแต่งงานกับคุณอา หนูจะได้เรียนต่อใช่ไหมคะ?”
ธามนิธิอึ้งกับคำพูดของหญิงสาว “เธอ......ตกลงแล้วรึ?”
“หนูยอมรับข้อตกลงค่ะ หนูยินดีแต่งงานกับคุณ”
ปาณีใช้พลังความกล้าที่ไม่เคยมีในทั้งชีวิตของเธอพูดคำมั่นสัญญานี้ออกไป
เมื่อไวยาตย์เอาสัญญาแต่งงานมาให้เธอ เธอก็ยังคงไม่อยากเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เอกสารขาวดำมากมายรอเธอไปเซ็น มือที่จับปากกานั้นมีความสั่นเล็กน้อย แต่เธอก็ลงลายมือชื่อของตัวเองลงไปอย่างไม่ลังเล
เก็บสัญญาฉบับนี้ไว้ ไวยาตย์อธิบายต่อว่า “ตอนนี้คุณเพิ่งจะอายุ 18 ปี ยังไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ต้องรออีก 2 ปีถึงจะทำได้”
หลังจากได้ยินประโยคนี้ ปาณีก็พูดว่า “ในบัตรประชาชนของฉันอายุ 20 ปีแล้ว ตอนนี้ฉันสามารถไปจดทะเบียนสมรสได้ค่ะ”
ไวยาตย์ประหลาดใจเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยครับ”
เหมือนกับว่าเธอคนนี้ถูกลิขิตมาเพื่อเป็นภรรยาของคุณธามนิธิ
เธอโชคดีอย่างมากที่ได้แต่งงานกับคุณธามนิธิ