บทที่ 198 อยากเป็นหนึ่งเดียวของคุณ
1/
บทที่ 198 อยากเป็นหนึ่งเดียวของคุณ
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
บทที่ 198 อยากเป็นหนึ่งเดียวของคุณ
บทที่ 198 อยากเป็นหนึ่งเดียวของคุณ นารากับปุริม นาราควงแขนมากับปุริม ใบหน้าของเธอนั้นประดับด้วยรอยยิ้มน้อยๆราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิ แต่ใบหน้าของปุริมนั้นไม่ได้แสดงอารมณ์ใดใด แต่ใบหน้าเช่นนั้นเมื่อผสมกับร่างกายของเขาแล้วก็ให้ความรู้สึกว่าเท่มาก ผู้หญิงที่อยู่ในที่นี่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “หล่อจัง” “หยุดฝัน ปุริมไม่สนใจเธอหรอก” “แหม ฉันจะฝันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอมิทราบ” “ชิ...” หญิงสาวเบ้ปากท่าทางดูเหยียดหยาม “ได้ยินมาว่าตอนนี้เปมิกาคือแฟนคนปัจจุบันของปุริม คู่สร้างคู่สมอยู่นะ” “แล้วอย่างไร หากยังไม่ได้แต่งงาน ผู้หญิงอย่างเราๆก็มีโอกาสกันทั้งนั้น” “เหอะ” ใครสักคนหัวเราะออกมา “เขามีอะไรดีกัน บริษัททัดธนกรุ๊ปจำกัดจล้มละลายอยู่แล้ว แต่เขายังมีกะจิตกะใจมาร่วมงานแฟชั่นโชว์อะไรแบบนี้อีก” “เป็นไปไม่ได้ หนังสือพิมพ์ไม่เห็นรายงานข่าวนี้เลย น่าจะผ่านพ้นช่วงวิกฤตมาแล้วแหละ” “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ฉันได้ยินอาบอกมาว่า หุ้นในครานั้นไม่ใช่ปุริมที่ซื้อไป แต่โดนใครสักคนที่อยู่ในความลับนั้นซื้อไปต่างหาก” “มีเรื่องแบบนี้ด้วย” “ใช่ เป็นเรื่องจริง พวกแกรอดูได้เลย บางทีภายในวันสองวันนี้คนในความลับอาจจะถูกเปิดตัวก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้น บริษัททัดธนกรุ๊ปจำกัดคงถูกเปลี่ยนมือ ปุริมจะเป็นอย่างไรล่ะ ความหล่อเขามันกินได้ด้วยหรือ” “แบบนั้นฉันก็ชอบ ฉันชอบเขา ไม่ได้ชอบเงินของเขา...” ผู้หญิงในกลุ่มนั้นคุยไร้สาระกันไปเรื่อยเปื่อย เพ็ญนีติ์ยืนฟังเงียบๆอยู่รอบนอก เหมือนกับผู้ชมธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่เธอสนใจตอนนี้ไม่ใช่ปุริม แต่เป็นเปมิกาที่อยู่ข้างกายปุริม เธอต้องคอยจับตามองเปมิกาเพื่อตามหาอ้อยกับส้ม ดังนั้นเธอจึงไม่อาจละสายตาไปจากเปมิกาได้ เย็นนี้เปมิกาไปไหน เธอก็จะตามไปเช่นกัน “ว้าว ปุริมพูดแล้ว เขาเก่งมากเลย” “เสียงของเขามีเสน่ห์มาก” “มันมีอะไรกัน ฉันว่าเขาก็แค่ผู้ชาย” แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่ามีผู้หญิงชอบเขามากมายขนาดไหน แต่เมื่อผ่านอะไรมามากมาย ตอนนี้เมื่อมองปุริม ใจของเพ็ญนีติ์ไม่ได้รู้สึกอะไรอีกแล้ว มันสงบ เขาไม่มีความหมายอะไรกับใจของเธออีกแล้ว เป็นเขาที่ส่งเด็กๆให้กับนารา เพียงเพราะเขาเชื่อหลักฐานปลอมๆที่นาราส่งไปให้เขา คิดแล้วก็น่าขำ ใครจะมารู้จักเด็กๆไปมากกว่าเธอที่เป็นแม่คนนี้กัน ปุริม ไอ้คนเลว “สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี...” เสียงของเขาที่ดังมาไมโครโฟนทั้งเบาและหวานหู แน่นอนว่ามันช่างน่าดึงดูด แต่เธอเลยวัยมามาก ใจของเธอแก่แล้ว เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมารอคอยความรักอีกแล้ว ความรักของเขา เธอคงรอไม่ไหว และเธอไม่ต้องการมันแล้ว “คุณผู้หญิง ซื้อดอกไม้ไหม...” เด็กน้อยคนหนึ่งถือตะกร้าดอกไม้มา มีดอกกุหลาบมากที่สุด สายตากวาดมองในตะกร้าแต่ในนั้นไม่มีดอกกุหลาบสีน้ำเงินแม้แต่ดอกเดียว เพ็ญนีติ์เอ่ยปากถาม “ทำไมถึงไม่มีดอกกุหลาบสีน้ำเงินเลยล่ะ” “อือ มันถูกชายคนหนึ่งสั่งซื้อทุกวันเลย ได้ยินว่าเขากว้านซื้อดอกไม้นี้กับร้านดอกไม้ทุกร้านในเมืองดรัลเลย ดังนั้นจึงไม่มีขายในเมืองนี้แล้ว” “อย่างนั้นหรือ ขอบคุณมาก” “โหย ใครกันที่เป็นคนซื้อดอกกุหลาบสีน้ำเงินมากมายขนาดนั้น มันอาจจะเพราะแฟนสาวของชายหนุ่มคนนั้นชอบมันมาก” “แบบนั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องซื้อมันทุกวันไหม แถมซื้อเยอะมาก จากร้านดอกไม้ทุกร้านของเมืองดรัลเลยนะ เขาคงรักผู้หญิงคนนั้นมาก ฉันเองก็อยากเจอคนที่รักฉันได้มากขนาดนั้นบ้างจัง ให้ตายวันพรุ่งนี้ฉันก็ยอม” “แหวะ อย่ามาพูดเรื่องเป็นๆตายๆแถวนี้นะ ดูเร็ว ปุริมเองมาอีกแล้ว โหย เขาหล่อมากเลย...” ข้างๆนั้น มีแต่คำพูดที่ดูคลั่งไคล้ของเด็กสาว สายตาของเพ็ญนีติ์ละมาจากหน้าจอที่กำลังแสดงงานแฟชั่นโชว์ของเมืองดรัล ชุดสบายๆกับรองเท้าออกกำลังกาย เพื่อที่เธอจะได้วิ่งได้ไว เมื่อเห็นว่างานใกล้จะจบ ทันใดนั้นเธอก็คิดวิธีขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง วิธีที่จะเข้าไปใกล้ที่ที่เปมิกาอยู่ได้ เพียงแค่เข้าใกล้ได้ เธอเชื่อว่าตัวเองจะตามหาเด็กๆเจอแน่ ในตอนนี้ พวกเธอจะหนาวไหม พวกเธอจะหิวหรือไม่นะ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดใจ รอบๆลานจอดรถนี้ เพ็ญนีติ์ไล่ดูรถทุกคันที่จอดอยู่ เธอจำรถของปุริมได้ รถของเปมิกาเธอเองก็จำได้ ยังจำรถของเปมิกาที่ปุริมเคยขึ้นในครั้งที่แล้วได้ เธอมาช้าไป ตอนนั้นปุริมได้ควงเปมิกาไปเดินพรมแดงด้วยกันแล้ว ดังนั้นเธอเลยไม่รู้ว่าพวกเขามาด้วยวิธีไหน จึงทำได้แค่วิ่งหาไปเรื่อยๆเท่านั้น รอบด้านของลานจอดรถนั้นมีต้นไม้ปลูกไว้ เงาของกิ่งไม้พาดผ่านตัวรถ ถือเป็นจุดลับสายตาคน ข้างหลังนั้น เสียงของพิธีกรสาวกำลังประกาศชื่อนางแบบและนักออกแบบที่ดีที่สุดของงาน แบบนี้หมายความว่างานแฟชั่นโชว์ได้จบลงแล้ว แต่เธอยังไม่เห็นรถของปุริมหรือรถของเปมิกาเลย รอบด้าน ฝูงชนเริ่มแยกย้ายกันกลับแล้ว เพ็ญนีติ์หยุดลง เธอรีบไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะที่นี่มันกว้างมาก มันยากที่เธอจะหารถของเขาสองคนเจอภายในเวลาอันน้อยนิดเช่นนี้ จดจ้องอยู่ที่หน้าจอ ในที่สุดเธอก็เห็นปุริมและเปมิกาแล้ว พระเจ้า ตำแหน่งที่เธออยู่กับทางที่พวกเขากำลังจะไปมันอยู่ตรงข้ามกัน โชคดีที่เธอเลือกที่จะหยุด เพ็ญนีติ์รีบวิ่งแซงใครหลายคนเพื่อไปยังทางที่เปมิกาและปุริมกำลังไป เร็วอีก ต้องเร็วขึ้นอีก ฝูงคนนั้นน่ารำคาญนัก มันทำให้เธอไม่สามารถไปเร็วได้อย่างที่ใจคิด หอบหายใจ ในที่สุดเธอก็หาร่างของทั้งสองเจอในฝูงคนนี้ ห่างจากเธอไปประมาณสิบเมตรได้ เพ็ญนีติ์ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้มากกว่านี้แล้ว และไม่สามารถโผล่ไปตรงหน้าของพวกเขาได้ สายตากวาดมองไปยังทางที่พวกเขากำลังไป ในที่สุดตรงลานจอดรถตรงนั้น เธอก็เจอกับรถเต่าสีกุหลาบแดงที่เหมือนกับของเธอไม่มีผิดจอดอยู่ตรงนั้น อ้อมไปด้านข้าง พวกเขากำลังเดิน ส่วนเธอกำลังวิ่ง เพ็ญนีติ์วิ่งมาถึงข้างๆรถในที่สุด มีต้นไม้หนึ่งต้นที่บดบังทัศนวิสัยอยู่ ทำให้เธอมองสองคนที่กำลังเดินมาได้ไม่ชัด ทำได้เพียงสังเกตสีเสื้อของพวกเขาเอา เร็วเข้า เธอต้องเร่งแล้ว ไม่มีใครรู้จักรถเต่าดีไปมากกว่าเธอ นั่นคือรถที่ทำให้เธอไปเสี่ยงตายมาแล้ว แต่ตอนนี้เธอทำได้แค่หลบซ่อนไปก่อนเท่านั้น เพ็ญนีติ์วิ่งไปท้ายรถ สมองสั่งการให้เปิดท้ายรถทันที แต่ท้ายรถยังไม่ทันได้ถูกเปิดออก ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของปุริมและเปมิกาดังขึ้นมา พระเจ้า เข้ามาใกล้เธอแล้ว เพ็ญนีติ์ที่ได้ยินก็เริ่มใจเต้นรัว เธอกำลังเปิดท้ายรถ ดังนั้นรปภ.จึงคิดว่าเธอเป็นเจ้าของรถ เลยไม่ได้ให้ความสนใจอะไรนัก กัดฟันทนแล้วออกแรงเพิ่ม ในตอนที่เธอเริ่มคิดว่ามันไม่น่าจะเปิดได้แล้ว จู่ๆมันก็เปิดขึ้นมา สวรรค์ เธอช่างโชคดีเสียจริง ทั้งร่างกระโดดเข้าไปหลบในท้ายรถอย่างรวดเร็ว แล้วรีบปิดมันลงทันที สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เธอรู้สึกว่าใจของตัวเองเต้นรัวจนเหมือนกับจะหลุดออกมา เป็นฉากที่ระทึกขวัญเหลือเกิน เพราะในตอนที่เธอนอนที่ท้ายรถ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูแทบจะในทันที ชายหนุ่มหญิงสาวขึ้นมาบนรถแล้ว ครั้งนี้เหมือนปุริมจะเป็นคนขับและเปมิกานั่งอยู่ข้างๆ เพราะเสียงที่ดังมาจากทางคนขับคือเสียงของปุริม เขามีรถเป็นของตัวเอง แต่ทุกครั้งมักจะมาด้วยรถของเปมิกา นี่มันแปลกมาก แต่เธอคิดว่ามันก็ปรกติ เพราะรถของเปมิกาก็เป็นเขาที่ซื้อให้ ดังนั้นรถเธอก็เหมือนรถเขา “ปุริม ฉันง่วงมากเลย คุณล่ะคะ” “อย่างนั้นผมจะไปส่งคุณแล้วกัน” “ได้ค่ะปุริม” น้ำเสียงของเปมิกาเต็มไปด้วยความยินดี เหมือนรอโอกาสที่เขาจะไปส่งเธออย่างนี้มานานแสนนาน “เมื่อเย็นผมเห็นคุณทานน้อยมาก หิวไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงติดกังวล นั่นทำให้เพ็ญนีติ์นึกถึงเรื่องในอดีต เขาเองก็พูดกับเธอแบบนี้เหมือนกัน “นิดหน่อยค่ะ ปุริม เดี๋ยวกลับไปแล้วฉันจะทำก๋วยเตี๋ยวให้ทานดีหรือไม่คะ” “คุณทำก๋วยเตี๋ยวได้หรือ” “ได้สิค่ะ ฉันเคยเรียนมา แต่ก็ทำได้แค่แบบง่ายๆเท่านั้นล่ะค่ะ พวกเราใส่เครื่องปรุง เนื้อ ไข่ไก่ แล้วก็ไส้กรอกด้วย คุณจะต้องชอบแน่เลยค่ะ” “ครับ” เหมือนว่าปุริมที่ขับรถอยู่กำลังอารมณ์ดี เพราะหลังจากที่รับคำแล้วเขาก็ผิวปากขึ้นมา นั่นเป็นทำนองเพลงเก่าเพลงหนึ่ง มันดังขึ้นภายในรถเต่าคันนี้ เพ็ญนีติ์ได้ยินอย่างชัดเจน แต่ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาจะผิวปากเป็นทำนองเพลงได้เก่งขนาดนี้ เธอจำได้แค่ว่าเขาชอบไวโอลิน นั่นคือสิ่งที่เพ็ญภัทร์ชอบ และดอกเยอบีร่าที่เพ็ญภัทร์รักที่สุด แต่ครั้งนี้เป็นเพราะเพ็ญภัทร์ทำร้ายเขา เขาผิวปากอยู่นาน และอาจจะเพราะผิวปากจนเหนื่อยแล้ว จึงค่อยๆเงียบลง แต่รถยังคงวิ่งต่อไป เมื่อเห็นเขาไม่ได้ผิวปากแล้ว นาราจึงพูดขึ้นมา “ปุริมคะ ฉันได้ยินช่วงนี้คุณซื้อดอกไม้ไว้เยอะมาก มันจริงไหมคะ” “ครับ ใช่แล้ว” ปุริมชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะยอมรับ เสียงของหญิงสาวอยู่ใกล้ๆชายหนุ่ม “ปุริมคะ คุณจะเอามาให้ฉันหรือคะ” “ฮะฮะ ให้ทะเลน้ำเงินแก่คุณครับ” เสียงของเขาแผ่วเบา แต่ทุกๆคำนั้นเพ็ญนีติ์ได้ยินอย่างชัดเจนทุกคำ เขาต้องการมอบมันให้กับนาราตั้งแต่แรก เขาส่งดอกกุหลาบสีน้ำเงินให้กับผู้หญิงของเขาทุกคน แน่นอนว่าไม่รวมเพ็ญภัทร์ ตอนนี้เธอก็ยังคงรู้สึกว่าดอกเยอบีร่านั้นสวยที่สุด เพราะมันคือหนึ่งเดียว เคยคิดอยากเป็นเพียงหนึ่งเดียวของคุณ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน ตื่นจากฝัน หัวใจแตกเป็นเสี่ยงจนไม่สามารถประกอบใหม่ได้อีกแล้ว ตอนนี้ เธอแค่อยากทำเป้าหมายให้สำเร็จให้เร็วที่สุด เธอต้องหาอ้อยและส้มของเธอให้พบ ความฝันทุกอย่าง แค่มีรอยยิ้มของเด็กๆนั่นคือสิ่งที่สวยงามที่สุด ปุริม พวกเราขาดกัน ค่อยๆหลับตา เสียงเพลงเก่าเพลงหนึ่งดังขึ้นในรถ ไม่ต้องถามว่าฉันมาจากที่ไหน บ้านเกิดของฉันนั้นอยู่ที่ห่างไกล ทำไมถึงต้องร่อนเร่มาจากแดนไกล เพื่อนกน้อยที่สยายปีกบนฟ้ากว้าง เพื่อลำธารที่ไหลบนภูเขา เพื่อผืนหญ้าที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ร่อนเร่มาจากแดนไกล
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 198 อยากเป็นหนึ่งเดียวของคุณ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A