ตอนที่204 ขอโทษด้วยนะ
1/
ตอนที่204 ขอโทษด้วยนะ
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่204 ขอโทษด้วยนะ
ตอนที่204 ขอโทษด้วยนะ “อยู่ในห้องของเธอน่ะสิ เธอปวดท้อง นั่งอยู่บนเตียงสั่งคนนะ มิเช่นนั้น ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วุ่นวายจริงๆ”เธอถอนหายใจคล้ายกับจะอารมณ์เสีย แล้วยังฉลาดและไม่พูดถึงเรื่องของเด็กๆ ใช่แล้ว เธอเป็นคนมาใหม่ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้เรื่องอ้อยและส้มถูกขังอยู่ที่ชั้นห้า “ใช่ฝึกซ้อมอะไรอยู่หรือเปล่า” พูดออกไปตามปาก แค่อยากให้ชายชรารีบปล่อยไปเร็วๆ “หม่ามี๊” ส้มเรียกด้วยเสียงต่ำ เธออยากฉี่ อั้นไม่ไหวแล้ว สีหน้าของเพ็ญนีติ์ซีดมาก มองหาชายชราอย่างรีบร้อน โชคดีที่เขาได้หันตัวกลับไปที่ห้องเฝ้าหน้าประตูแล้ว ดังนั้น ไม่ได้ยินเสียงต่ำๆของส้ม เอามือลูบหัวของส้ม “ออกไปค่อยฉี่” ไม่มีเวลายุ่งกับลูกๆแล้ว “อย่าส่งเสียง” ประตูใหญ่ ฮัวลา เปิดออกแล้วเครื่องบินบนดาดฟ้า ณัฏฐพลเป่านกหวีด เขาก็ดูออกหน่อยแล้วว่าเรื่องราวเป็นแบบนี้ ที่แท้ปุริมไม่ใช่ไม่สนพวกเด็กๆแต่ว่าให้รถคันนั้นที่อยู่ข้างล่างให้คนพาพวกเด็กๆออกไป ตามองไปที่รถเต่าสีชมพูกุหลาบ ที่ขับออกไปจากประตูใหญ่ของคฤหาสน์ ตามองไปที่รถคันนั้นที่ค่อยค่อยหายไปในความมืด ณัฏฐพลบิดมือให้เกิดเสียง แล้วก็พูดที่เครื่องกระจายเสียงวิทยุ“ถอยทัพ” บนดาดฟ้ากำลังต่อสู้กันอยู่ อีกแป๊ปนึงก็ถอยทัพกลับไปที่เครื่องบิน การต่อสู้ที่มีจุดประสงค์ร้ายครั้งนี้ ต่อสู้ยากมาก หัวหน้าบอกแล้ว จะให้มีคนตายไม่ได้ แค่บาดเจ็บได้อย่างเดียว ดังนั้นพวกเขาจะเบาก็ไม่ได้ จะแรงเกินไปก็ไม่ได้อีก แรงนี้ควบคุมได้ยากมาก นี่ถึงจะต่อสู้กับคนพวกนี้ได้นานหน่อย เพียงแต่ว่า นอกจากต่อสู้กับพวกเขาแล้วก็ไม่ได้ทำเรื่องอื่น ดังนั้น ณัฏฐพลพูดว่า ถอยทัพ ให้พวกเขางงงวย ก็รู้สึกว่าตัวเองมาเสียเปล่าอย่างนั้นล่ะ แต่ว่า หน้าที่ของทหารก็คือทำตามคำสั่ง เจ้านายให้กลับก็ต้องกลับ ทำสิ่งต่าง ๆ ให้เรียบร้อย วางลงได้ก็วางลง แล้วรีบวิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์ ไม่ถึงสิบวินาที ที่ดาดฟ้าก็เหลือแค่ปุริมคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงนั้น เงาที่สูงใหญ่วิ่งไปที่ริมดาดฟ้า เขามองไปที่ด้านล่าง ไม่รู้ว่าเพ็ญนีติ์ เขาขว้างกุญแจรถลงไป ไม่รู้ว่าเธอได้เก็บหรือเปล่า ตอนที่เขากำลังมองหาอยู่นั้น ข้างหลังก็มีน้ำเสียงล้อเล่นหน่อยๆของณัฏฐพล “ไปตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าได้เห็นกับตาตัวเองว่าพวกเธอไปแล้วละก็ ฉันก็ไม่ตะโกนถอยทัพหรอก” ปุริมโล่งอกและถอนหายใจ แล้วก็กระโดดขึ้นเครื่องบินพูดว่า “ไปกัน” เครื่องบินบินขึ้นทันทีบินอยู่ที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนแห่งเมืองดรัลปุริมมองไปที่ข้างนอกเครื่องบินอย่างเงียบๆ คนได้ออกไปจากคฤหาสน์ของนาราแล้ววันเหล่านั้นก็เหมือนกับความฝัน ผู้ชายแข็งแกร่งอย่างเขาผอมลงเยอะมาก “จอดที่ที่ใดสักที่หน่อย” “ตามใจหรอ” ณัฏฐพล ขยับคิ้วมองเขาอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขาไม่ดีเลย “ใช่ รีบจอด” “จอดเถอะ”ณัฏฐพลลงจอดตามคำสั่งอย่างยิ้มๆ “แต่ว่า ฉันไม่แน่ใจว่าเธอขับรถไปที่ไหนของเมืองดรัล ปุริม คุณดูแลตัวเองเถอะ ที่เหลือก็ไม่เกี่ยวอะไรกับหัวหน้าแล้ว “ เครื่องบินจอดลงแล้ว ปุริมเหยียมออกไปจากเครื่องบินณัฏฐพลรีบให้คนเดินเครื่องและบินออกไปจากเขาไกลๆทันที มองไปรอบๆ ปุริมโง่แล้ว เครื่องบินเร็วจริง แรงนิดเดียวก็มาถึงเขตนอกเมืองแล้ว พระเจ้า เงาของแท็กซี่ก็ไม่มีเลย มิน่าล่ะเมื่อตะกี้นี้ณัฏฐพลยิ้มอย่างร้ายๆ เพียงโทษเขาที่ในใจเป็นห่วงอยู่แต่ เพ็ญนีติ์และลูกๆ ดังนั้นไม่ได้ไปใส่ใจอะไร เงยหน้าขึ้นตะโกนไปบนท้องฟ้า” ณัฏฐพล นายกลับมาเดี๋ยวนี้” เครื่องส่งรับวิทยุกลับไม่มีเสียงตอบรับเกินความคาดคิดว่าหมอนั่นปิดเครื่องส่งรับวิทยุและไม่สนใจเขาแล้ว มองไปบนท้องฟ้าอย่างทำอะไรไม่ถูก ปุริมถอนหายใจยาว หลังจากนั้นใช้เท้าก้าววัดเส้นทางผ่านเมืองดรัล ในที่สุดเพ็ญนีติ์ก็พาลูกๆทั้งสองออกมาจากที่อยู่ของนารา ขับรถอย่างรวดเร็ว ขับเร็วได้เท่าไหร่ก็เร็วเท่านั้น “ส้ม ก็ฉี่หมดรถนั่นแหละ ไม่ต้องกลัว พวกเราเดี๋ยวก็ลงจากรถแล้ว” รถคันนี้ถ้าหายไปแล้ว ขับรถคันนี้ทำให้นาราหาเธอเจอได้ง่าย ดังนั้นจึงให้ส้มฉี่ไปเลย ฉี่ในรถของนารา เธอถึงจะคลายความแค้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะกลัวไม่ปลอดภัย เธอก็อยากเจอนาราแล้วตบหน้าสักหน่อย แต่ว่าคนจะฝืนแข็งแกร่งไม่ได้ ความปลอดภัยของลูกๆถึงจะสำคัญที่สุด “หม่ามี๊ หนูฉี่เสร็จแล้ว” “โอเค เตรียมลงจากรถ” “หม่ามี๊ ทำไมต้องลงจากรถด้วย” อ้อยไม่เข้าใจ จะรู้ซะที่ไหนว่าไม่มีอะไรลึกลับ แปลกใจและถาม คนได้ฟื้นฟูค่อยๆกลับมาสู่สภาพปกติ ทำให้เพ็ญนีติ์อดไม่ได้ที่จะดีใจ “อืม หม่ามี๊ไม่ชอบรถคันนี้ รถคันนี้เป็นของป้าคนเลวนั่น พวกเราไม่นั่งรถนี้” “ใช่ ไม่นั่งรถคันนี้อย่างเด็ดขาด” ส้มคล้อยตาม เป็นเอกฉันท์ว่าทิ้งรถคันนี้ เพ็ญนีติ์จอดรถไว้ข้างถนน ปิดประตูดังเพิ่ง ในยามค่ำคืนมีคนเดินอยู่แค่คิดว่าจอดรถปกติ ไม่มีใครมาสนใจ เพ็ญนีติ์เปิดประตูแถวหลังของรถ อุ้มลูกออกมาทีละคน ปวดใจจังเลย ได้อุ้มลูกๆ ก็รู้สึกอนิจจัง กำลังจะปิดประตูรถแล้วออกไป ทันใดนั้นคิดขึ้นได้ว่าในตัวไม่มีเงินเลย ตอนนี้เธอจะโทรศัพท์ก็ยังไม่ได้ สถานการณ์ด่วน ของทุกอย่างได้ทิ้งไว้ที่บ้านของนารา ดูในรถคันนั้นอย่างละเอียดอีกรอบ เห็นในรถมีสองร้อยหยวน ก็พอแล้ว เงินของนาราฟรีๆทำไมไม่เอา จูงมือพวกเด็กๆเดินไป หาที่ที่สันโดษ จะให้นาราเจอพวกเธอไม่ได้อย่างเด็ดขาด ในที่สุดข้างหน้าก็มีตู้โทรศัพท์เพ็ญนีติ์จูงลูกๆเดินไป กลับค้นพบว่าไม่มีเหรียญ รีบหมุนกลับมา อยู่จากนี่ไม่ไกลมีร้านเล็กๆ พาพวกเด็กๆไป เจอของกิน พวกเด็กๆกลืนน้ำลายเพ็ญนีติ์ซื้อขนมปังสองห่อกับน้ำส้มสองขวด พวกลูกได้กิน เธอก็มีเศษตังค์ จากนั้นก็กลับไปที่ตู้โทรศัพท์ นอกจากนภนต์แล้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะว่า เธอจำได้แค่เบอร์โทรของนภนต์ ก่อนหน้านั้นนภนต์รับสายเธอไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่เขตพื้นที่บริการหรือปล่า โทรศัพท์โทรติดแล้ว อารมณ์ของเธอซับซ้อนมาก แล้วก็ตื้นเต้นมาก ถ้าหากนภนต์ไม่ช่วยเธอ เธอมีแค่แบงค์ร้อยสองใบไม่มีทางที่จะพาลูกๆหนีไปได้ แต่ว่า โชคดีที่นภนต์รับสายเร็วมาก“เพ็ญนีติ์ ใช่เธอไหม” เสียงที่รีบร้อนนั้นทำให้ในใจของเพ็ญนีติ์ผ่อนคลาย “อื้ม ฉันเอง” “ฉันก็รู้ว่าต้องเป็นเธอ ฉันไม่อยู่เมืองดรัล ดังนั้นก่อนหน้านั้นที่เธอโทรหาฉัน เวลาช้าหน่อยถึงรู้ เพ็ญนีติ์ เธออยู่ที่ไหน เธอทำไมหายไปละ ฉันไปที่ที่บ้านชานเมืองของเธอ แต่ทว่า หายังไงก็หาไม่เจอ” “นภนต์ ฉันดีมาก ลูกๆอยู่ข้างกายฉัน คุณวางใจเถอะ” “เด็กๆถูกช่วยออกมาแล้วใช่ไหม” ที่แท้ เขารู้ตั้งนานแล้ว ก็ขานรับอย่างเบาๆ “ใช่แล้ว พวกเธอดีมากนภนต์ ฉันอยากให้คุณช่วยฉัน” ไม่อยากพูดถึงปุริมอีกแล้ว คิดถึงแต่ก่อนนารานำความอัปยศอดสูให้เธอ เธอแค้นใจมาก “ได้ เธอพูดมาเถอะ ขอเพียงแต่ช่วยได้ ฉันก็จะช่วย” “ให้เงินฉันหน่อย แล้วก็ส่งฉันออกจากเมืองดรัล” “เมื่อไหร่” “ตอนนี้ ตอนกลางคืน” เธออยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วจริงๆ นาราไม่ปล่อยเธอไว้แน่ ถูกจับอีกล่ะก็ เธอและลูกๆ อาจจะไม่โชคดีแบบนี้แล้ว “ได้ เจอกันที่ไหน” เพ็ญนีติ์ มองไปที่รอบกายของเขาเอง ไม่ไกลจากนี้มีที่พักขนาดเล็ก ก็คือแบบที่พักที่ครอบครัวเปิดเอง เธอบอกชื่อของที่พักไป แล้วถึงจะพูดว่า“นภนต์ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” “ฉันอยู่ข้างนอก ไม่อยู่ที่เมืองดรัล ฉันจะส่งคนให้ไปส่งเธอออกไป เขาจะไปส่งเธอเอง” “ได้ ฉันก็อยู่ที่ตู้โทรศัพท์ข้างนอกที่พักนั้นรอเขา” เธอขานรับเบาๆก่อนหน้านั้นนภนต์มีทริปธุรกิจตลอด แต่ว่าครั้งนี้แปลกนิดหน่อย เด็กๆเกิดเรื่องแล้ว เขาก็รู้ดี ยังมิอยู่ที่เมืองดรัลช่วยเธอ แต่กลับจากไปแล้ว นี่ทำให้เธออดที่จะแปลกใจไม่ได้ นี่ไม่เหมือน นภนต์แต่ก่อนที่เป็นห่วงเธอและลูกๆ “เพ็ญนีติ์ เธอดูแลตัวเอดีๆนะ ฉันไปกำชับสั่งให้คนไปหาเธอแล้ว” เธอรู้สึกเหมือนจะร้องไห้“นภนต์ เรื่องที่ฉันหาคุณมาช่วยฉัน ขอให้คุณไม่ต้องบอกใครนะ ได้ไหม” “ได้” “บอกปุริมไม่ได้เด็ดขาด” นภนต์อะไรก็รู้ไปหมด ทำให้เป็นการรับรองได้ว่าระหว่างเขาและปุริมต้องมีความสัมพันธ์อันซับซ้อนเป็นแน่ แต่ว่าตอนนี้เธอไม่อยากเจอปุริมที่สุด ไม่อยากเจอตลอดชีวิต “ได้” ยังคงเป็นคำเดี่ยวๆ แล้วนภนต์ก็วางสายทันที เธอรู้ว่าเขาไปหาคนมาช่วยฉันออกไปจากที่นี่แล้ว พูดจริงแล้ว สำหรับเมืองดรัล เธอก็จากไปไม่ลงจริงๆ โดยแก่นแท้แล้วเธออยู่ที่นี่มาหลายปี ทำให้เธอมีความผูกพันแล้ว แต่ว่า ตอนนี้เธอเลือกที่จะยอมแพ้ ที่นี่ทิ้งความทรงจำอันแสนทรมานให้กับเธอ คิดถึงก่อนหน้านั้นเกิดเรื่องต่างๆขึ้น ความจริงแล้วเธอก็เฉียดตายมาหลายครั้ง นั่งโอบกอดลูกๆอยู่ที่หน้าตู้โทรศัพท์ ที่ไหนเธอก็ไม่กล้าไป กลัวว่าถ้าไปแล้วจะพลาดการมาของคนนั้น ลูกๆพิงที่ร่างกายของเธอและนอนหลับไปแล้ว นอนหลับอย่างสนิทมาก นอนหลับอย่างงฝันหวานมาก เพียงแต่รอยช้ำบนร่างกายของพวกเธอก็ยังไม่มีเวลาช่วยพวกเธอจัดการ ตอนนี้ ก็ต้องพาพวกเธอจากไปแล้ว รอประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว ในที่สุดข้างหน้าก็ปรากฏรถหนึ่งคันขึ้นมา แสงไฟรถอันแสบตาส่องมาหาเธอ ทำให้เธอจากที่มีความมึงงง ก็ตื่นทันที หน้าต่างรถเปิดออกแล้ว มีผู้ชายคนหนึ่งมองมาที่เธอ “สวัสดีพี่นภนต์ให้ผมมา” มาเร็วจังเลย เธอยืดตัวตรง อุ้มส้มเข้าไปนั่งในรถ “ขอบคุณ ฉันไปอุ้มอีกคนหนึ่ง” แต่ผู้ชายคนนั้นกลับก้าวเท้าก้าวใหญ่ข้ามเธอไปอุ้มอ้อยที่นอนพิงตู้ทีศัพท์อยู่ “เล็กมากเลย คุณไม่พูดผมก็ไม่เห็นหล่อนนะเนี่ย ขึ้นรถเถอะ”ใบหน้าของผู้ชายมีรอยแผลเป็นแผลเป็นที่ยาวและแคบ ทำให้เขาดูน่ากลัว ครั้งแรกที่เห็นเพ็ญนีติ์รู้สึกกลัวบ้าง แต่ว่าดูไปนานๆก็ชินแล้ว คนจะดูแค่หน้าตาไม่ได้ เธอเชื่อคนที่ นภนต์ ส่งมา นั่งดีๆแล้ว เด็กๆยังคงพิงเธอและนอนหลับไป ให้เธอรู้สึกกระดากกระเดื่อง พูดอย่างเบาๆ “ไปกันเถอะ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่204 ขอโทษด้วยนะ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A