บทที่69 ผู้ก่อกวน   1/    
已经是第一章了
บทที่69 ผู้ก่อกวน
บทที่69 ผู้ก่อกวน จัดการกับเด็กเสร็จเรียบร้อย เป้ยฉ่ายเวยก็เตรียมตัวไปทำงาน เพราะว่าเธอลางานแค่ครึ่งวัน พักนี้เธอลาบ่อยมาก มันดูไม่ค่อยดี ดังนั้นเธอจึงต้องฝืนใจลารุ่ยรุ่ยไปอย่างไม่เต็มใจ “ผู้จัดการร้าน คุณกลับมาก็ดีแล้ว เกิดเรื่องแล้วค่ะ” เสี่ยวซงรีบดึงเป้ยฉ่ายเวยเข้าไปในมุมสงบและพูดขึ้นอย่างประหม่า เป้ยฉ่ายเวยไม่เข้าใจอะไรเลยเธอจึงถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้น” “เมื่อวานนี้สำนักงานใหญ่มาที่นี่ คุณเพิ่งลาพักร้อนไปสองสามครั้งเมื่อเร็วๆนี้ใช่ไหมคะ ฉันได้ยินเฉินสิ้วหลิงรายงานคุณเมื่อวานนี้ ดูเหมือนว่าสำนักงานใหญ่ก็จะมีความคิดเห็นมา ว่าจะจัดการกับคุณอย่างไร” เป้ยฉ่ายเวยกระพริบตา เฉินสิ้วหลิงคือรองผู้จัดการของเธอ ถ้าหากว่าเธอโดนปลด ตำแหน่งผู้จัดการก็ต้องตกเป็นของหล่อน ถึงแม้ว่าเธอจะลาหยุดหลายครั้ง เธอก็ใส่ใจความเคลื่อนไหวของทางในร้านตลอด ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร “เสี่ยวซงอย่าตื่นเต้นไป ทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็พอแล้ว เรื่องนี้ฉันจัดการเอง” “ผู้จัดการมันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คุณคิด” เสี่ยวซงพูดขึ้นก่อนที่จะถูกลากให้ออกไป “คราวนี้สำนักงานใหญ่ส่งผู้ชายคนหนึ่งมาสังเกตการณ์ ดูจากสถานการณ์เมื่อวานนี้ ผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นชู้รักของเฉินสิ้วหลิง” “....ชู้รัก” เป้ยฉ่ายเวยสั่นเล็กน้อย คำนี้ดูเหมือนว่าจะตรงไปตรงมาไปหน่อยรึเปล่า เสี่ยวซงพูดอย่างเหยียดหยาม “ไม่ใช่หรอไง ฉันได้ยินมาว่า ผู้ชายคนนั้นมีภรรยาอยู่แล้ว แล้วกับเฉินสิ้วหลิงจะไม่ให้เรียกว่าชู้รักได้ยังไงกัน” “เสี่ยวซงขอบคุณมาก แต่ฉันไม่ได้ทำผิดพลาดอะไรใหญ่โต พวกเขาทำอะไรฉันไม่ได้ รีบไปทำงานกันเถอะ ไม่อย่างนั้นจะโดนคนว่าเอาได้” ในใจเป้ยฉ่ายเวยก็รู้สึกหดหู่ เฉินสิ้วหลิงไม่ได้เพิ่งคิดอยากได้ตำแหน่งผู้จัดการร้านแค่วันสองวันนี้ ตลอดมาเธออดทนอดกลั้นมาเป็นเวลานาน แน่นอนว่าเธอต้องมีความมั่นใจในตัวเองมาก เสี่ยวซงยังอยากจะพูดอะไรอีก ร่างที่สง่างามก้าวเดินเข้ามา พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมส่งกลิ่นฟุ้งลอยมา “เสี่ยวซง เธอไม่รู้จักทำหน้าที่ให้ดี ยังจะแอบมาอู้ตรงนี้อีก” “พี่เฉิน ฉัน…” เสี่ยวซงไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร ที่จริงเธอต้องการแอบมาบอกข่าว ตอนนี้ถูกจับได้แล้ว อนาคตแย่แน่ๆ เป้ยฉ่ายเวยดูเหมือนจะเห็นความกังวลใจของเสี่ยวซง เธอจึงพูดขึ้นมาลอยๆ “ฉันเองมีเรื่องงานที่ฝากให้เสี่ยวซงทำ” เธอหยุดสักครู่และกล่าวต่อไป “เสี่ยวซงรีบไปจัดการงานเถอะ” “ทราบแล้วค่ะผู้จัดการ” เสี่ยวซงมองเป้ยฉ่ายเวยอย่างซาบซึ้ง เธอก้มหัวไม่กล้ามองเฉินสิ้วหลิงและกลับเข้าไปในร้าน เฉินสิ้วหลิงไม่มองเสี่ยวซงสักนิด เธอเอาแต่ชื่นชมเล็บสีแดงสดบนนิ้ว ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะสังเกตุเห็นท่าทางของเป้ยฉ่ายเวย เธอกล่าวด้วยความประหลาดใจ “นี่ใช่คุณเป้ยผู้จัดการร้านของเรารึเปล่านะ อุ้ยไม่ได้เจอกันหลายวัน แทบจะจำไม่ได้แล้วนะคะ” “พี่เฉินมีอะไรอีกรึเปล่าคะ” เฉินสิ้วหลิงแก่กว่าเธอหลายปี เป้ยฉ่ายเวยยังเรียกเธออย่างสุภาพว่าพี่เฉิน ถ้าหากว่าเธอรู้จักหน้าที่ของตัวเอง ก็คงไม่มายืนหาเรื่องเธออยู่ตรงนี้ เห็นได้ชัดว่าเฉินสิ้วหลิงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะมีที่พึ่งแล้ว ท่าทางเสแสร้งแกล้งทำที่เธอเคยทำในเช่นวันอื่นๆดูเหมือนว่าไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เธอจึงพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา “เป้ยฉ่ายเวย เธอไม่ต้องอยู่ที่นี่เพื่อที่จะแสร้งทำกับคนที่สำนักงานใหญ่ส่งมาหรอกนะ เธอคงไม่รู้ว่ามันหมายความว่าไงใช่ไหม” “หมายความว่าอย่างไร” เป้ยฉ่ายเวยถามอย่างไม่กระพริบตา เฉินสิ้วหลิงโกรธมาก เธอเกลียดการแสดงออกอันสงบนิ่งของเป้ยฉ่ายเวยเช่นนี้มาก “เป้ยฉ่ายเวย การประเมินของเดือนนี้ คุณลางานไปแล้วสี่ครั้ง และยังมีสินค้าในโกดังที่ไม่ได้มาตรฐานอีกหนึ่งล๊อต เธอคิดว่าเธอจะยังคงรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้หรือไม่” “เรื่องแรงวันที่ฉันลาไปก็อยู่ในขอบเขตที่บริษัทกำหนดให้ลาได้ สำหรับสินค้าที่พี่พูดถึง ผู้ตรวจสอบก็น่าจะเป็นคนของพี่ใช่ไหมล่ะ” เป้ยฉ่ายเวยพูดจบเธอก็ไม่สนว่าเฉินสิ้วหลิงจะว่าอย่างไร เธอเดินตรงเข้าไปในร้านเลยทันที เฉินสิ้วหลิงเห็นเป้ยฉ่ายเวยเดินห่างออกไป หล่อนก็โมโหจนกระทืบเท้า ผู้หญิงคนนี้เมินเฉยใส่เธอ สมควรตาย เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ตำแหน่งผู้จัดการร้านของที่นี่ควรจะเป็นของเธอต่างหาก อย่างไรก็ตามคนที่สำนักงานใหญ่ส่งมา ตำแหน่งผู้จัดการร้านของเธอใกล้จะถึงจุดจบแล้วล่ะ เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัวอย่างผิดหวัง เฉินสิ้วหลิงคิดตื้นเกินไป ไม่ต้องพูดถึงว่ายอดขายของเธอในแต่ละปีนั้นอยู่ในอันดับต้นๆของบริษัท ช่วงเวลาปกติแล้วเธอลาพักนั้นนับว่าน้อยมาก ความจริงแล้วการที่เธอทำโอทีก็ไม่สามารถชดเชยการลาหลายครั้งนี้ได้ “ผู้จัดการร้าน คุณโอเคมั๊ยคะ เฉินสิ้วหลิงสร้างปัญหาให้กับคุณรึเปล่า” เสี่ยวซงมองซ้ายมองขวา เห็นว่าเฉินสิ้วหลิงยังไม่กลับมา เธอจึงย่องไปถามเงียบๆ “ไม่เป็นอะไร แต่ว่าเธอช่วยประกาศบอกคนอื่นหน่อย เลิกงานแล้วมีประชุม” เป้ยฉ่ายเวยกำชับ ตั้งแต่ที่แผนกต้อนรับด้านหน้าจนถึงในห้องรับรอง เรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในร้านหรือว่าการต้อนรับบุคคลสำคัญนั้นต้องให้เธอทำด้วยตัวเอง ในเวลาปกติแล้วเธอจะอยู่ที่ห้องรับรองคอยจัดการกับเรื่องทั่วไป ในความเป็นจริงแล้วผู้จัดการร้านไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น เป้ยฉ่ายเวยยังไม่ทันได้นั่งพัก เสี่ยวซงก็วิ่งมาหน้าตาตื่น และดึงมือเธอออกไปทางด้านนอก “ผู้จัดการไม่ได้การแล้วค่ะ ทางด้านนอกเกิดเรื่อง” “เกิดเรื่องอะไร” เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้ขัดขืน เธอให้เสี่ยวซงลากตัวเธอไป “ไม่รู้มนุษย์ป้าที่ไหนมาบอกว่ารองเท้าของเรามีปัญหา โวยวายหยิ่งยโสมาก ทำเอาลูกค้าคนอื่นในร้านหนีเตลิดกันไปหมด” เสี่ยวซงเดินไปเล่าสถานการณ์ให้เป้ยฉ่ายเวยฟังไป “เราไปดูกันก่อนเถอะ” เป้ยฉ่ายเวยขมวดคิ้วและไม่ได้พูดอะไรอีก มาโวยวายตอนไหนไม่มา ดันมาโวยวายตอนที่เธอเพิ่งจะกลับมาทำงาน ช่างบังเอิญเสียจริงว่าไหม เป้ยฉ่ายเวยออกมาจากห้องรับรอง เธอเห็นสตรีท่านหนึ่งรูปร่างจ้ำม่ำ เธอยืนถือรองเท้าของร้านเธออยู่และตะโกนบอกคนรอบๆ เสียงดังสนั่น “ทุกคนมาดูเร็วเข้า นี่ขนาดเป็นร้านแบรนด์เนมยังขายของกระจอกอย่างนี้ ฉันซื้อไปใส่ยังไม่ถึงวันก็พังแล้ว” “ผู้จัดการร้านของพวกเธอมัวซ่อนอยู่ที่ไหน ขายของไม่จริงใจ ทุกคนอย่ามาซื้อของร้านนี้นะคะ” มนุษย์ป้าคนนั้นพูดแล้วก็ขว้างปารองเท้าลงพื้น ให้ทุกคนได้เห็นกันชัดๆ พนักงานในร้านเห็นเป้ยฉ่ายเวยปรากฎตัวขึ้น พวกเขาก็รีบเดินไปข้างๆเธอ ทุกคนล้วนรุมถามเธอ “ผู้จัดการ ทำยังไงดีคะ” “รองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าคู่ที่เธอซื้อไปจากทางร้านเราเมื่อวานจริงๆ แต่เมื่อวานตอนที่ตรวจสอบมันก็ยังดีอยู่ค่ะ” “ใช่ค่ะ รองเท้าในร้านต้องได้รับการตรวจสอบก่อนถึงจะขายออกไป ไม่น่าจะพังเร็วขนาดนี้ค่ะ” มนุษย์ป้าคนนั้นสาวเท้ายาวก้าวเข้ามา หล่อนดึงพนักงานที่พูดคนนั้นและด่าขึ้นเสียงดัง “เธอพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร “เธอจะหาว่าฉันตั้งใจทำรองเท้าพังแล้วมาแบล็คเมลล์พวกคุณอย่างนั้นเรอะ” “พระเจ้าช่วย พวกคุณร้านใหญ่โตแต่กลับรังแกลูกค้า รังแกผู้หญิงตัวคนเดียว หรือว่าเพราะเมื่อวานตอนฉันซื้อรองเท้าคุณ แล้วฉันถามว่าลดราคาได้หรือไม่ พวกคุณดูถูกดูแคลนฉันแต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้ยังมาใช้คำพูดน่าเกลียดแบบนี้อีก” มนุษย์ป้ามองไปรอบๆและเธอก็กรีดร้อง และชี้ไปทางพวกเขา “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ เมื่อสองสามวันก่อนฉันก็มาซื้อรองเท้าที่ร้านนี้นะ ต่อไปฉันจะไม่มาซื้อที่นี่อีกแล้ว” “ช่างน่ากลัวเสียจริง คนขอส่วนลดก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรอ ถ้าไม่ลดก็อย่ามาดูถูกคนอื่นแบบนี้เลย” “วันหลังต้องอยู่ให้ไกลจากร้านนี้แล้ว” อัพเดทครั้งหน้า:10 ธ.ค. 2019 จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อนนะจ๊ะ
已经是最新一章了
加载中