ตอนที่ 2 ความฝันตอนมหาลัย
1/
ตอนที่ 2 ความฝันตอนมหาลัย
The star เธอคือดวงดาวที่ลับฟ้า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 2 ความฝันตอนมหาลัย
ตอนที่ 2 ความฝันตอนมหาลัย แปดปีก่อน กชวรรณเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่เพิ่งอายุสิบแปดปีเท่านั้น หลังจากที่เธอสอบเข้ามหาลัยเสร็จเรียบร้อย ก็เดินยิ้มกลับบ้านอย่างมีความสุข เธอพูดว่า “พ่อคะแม่คะ หนูตัดสินใจแล้ว หนุจะไม่เรียนหนังสือแล้ว หนูจะเริ่มทำงาน หาเงิน แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ หนูอยากให้น้องได้เรียนมหาลัย” “เด็กโง่ ลูกเริ่มมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” พ่อพูดกับกชวรรณ บนหน้าเขามีแต่รอยยิ้ม เนื่องจากเธอเป็นลูกที่เข้าใจในทุกอย่าง ทำให้เขาสบายใจ “ถ้าลูกไม่เรียนหนังสือแล้ว งั้นลูกอยากจะทำงานอะไร?” แม่เธอถาม แต่ว่าใบหน้าของเธอกลับไม่มีรอยยิ้ม เธอคิดว่าลูกสาวเธอมีวุฒิการศึกษาแค่นี้ คงอยากที่จะหางานทำได้ โดยเฉพาะตอนนี้ที่โลกพัฒนาไปไกลแล้ว ถ้าไม่มีปริญญา ก็คงหางานทำดีๆไม่ได้ เพราะตอนนี้ใครๆก็มีวุฒิมัธยมปลายกันทั้งนั้น “ตอนนี้หนูก็ยังไม่รู้ หนูแค่อยากลองดูก่อน ดูว่ามีงานไหนที่เหมาะกับหนูไหม ถ้าหนูก็จะทำ เพราะหนูเป็นคนที่อดทนต่อความยากลำบากได้” กชวรรณพูดด้วยรอยยิ้ม เต็มไปด้วยความมั่นใจ ถึงแม้ว่าบ้านเธอจะจน แต่เธอไม่เคยคิดว่าเป็นปมด้อย แต่กลับเป็นคนที่สดใสมากๆ “เด็กดี พ่อกับแม่รู้ว่าลูกเข้าใจ ดังนั้นพวกเราไม่สามารถให้ลูกออกไปทำงานได้ ลูกไปเรียนมหาลัยก่อน เพราะว่าพวกเรารู้ว่า ลูกต้องสอบได้มหาลัยที่หวังไว้แน่นอน” พ่อเธอพูด จริงๆแล้วก่อนหน้าเขาก็รู้ดีว่าตอนเรียนเธอได้คะแนนดีมาก ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ที่หนึ่ง แต่เธอก็ไม่เคยหลุดที่สามเลย “แต่ว่า….แต่ว่าหนูไม่อยากให้พ่อแม่ลำบากแล้ว นอกจากหนู ก็ยังมีน้องชายที่พ่อแม่ต้องจ่ายค่าเทอมให้ แล้วตอนนี้บ้านเราก็…..” “เอางี้ เรื่องในบ้านหนูไม่ต้องกังวล โอเคไหม? นี่เป็นหน้าที่ของพ่อแม่อย่างพวกเรา ลูกบอกพวกเรามาว่าครั้งนี้สอบมหาลัยไหน จุฬาหรือว่าธรรมศาสตร์?” “หนูก็ไม่รู้ ถึงแม่คะแนนหนูจะถึง แต่ว่าหนูไม่อยากไปเรียนไกลแบบนั้น” “ทำไมหล่ะ?” พ่อเริ่มไม่เข้าใจ เขาได้ยินจากครูที่ปรึกษามาว่า ลูกสาวเขาสามารถสอบเข้าสองมหาลัยนั้นได้ “เพราะหนูอยากอยู่ใกล้บ้าน แบบนี้จะได้กลับมาหาพ่อแม่ได้บ่อยๆ พ่อแม่ก็รู้ว่าหนูเป็นคนห่างบ้านไม่ได้ ถ้าต้องจากบ้านไปนานๆ หนูทนไม่ได้แน่ๆ” “เด็กโง่ พูดแบบนี้ได้ยังไงกัน โตแล้วต้องออกไปเผชิญโลก อย่าบอกนะว่าลูกไม่รู้จักคำนี้ แล้วก็พอลูกโต ก็ต้องแต่งงานนะ ถึงตอนนั้นลูกก็ต้องห่างพ่อแม่ไปอยู่ดีไม่หรอ?” พ่อเธอพูด เขารู้ว่าลูกสาวของตัวเองชอบมีความคิดแบบนี้ เพราะเธอเป็นคนที่ใส่ใจคนในครอบครัวอยู่เสมอ ต่อให้เธอออกไปเรียนมัธยม แต่เธอก็กลับบ้านมาทุกเดือนอยู่ดี จากนั้นไม่นาน ผลสอบมหาลัยก็ออกมาแล้ว พอพ่อแม่ได้รู้คะแนนของลูกสาว พวกเขาก็ดีใจกันมาก แต่ก็รู้สึกถึงแรงกดดันไปพร้อมๆกัน เพราะว่าถ้าลูกสาวของพวกเขาไปเรียนที่กรุงเทพจริงๆล่ะก็ ค่าเทอมก็ต้องแพงขึ้น เพราะว่าสองมหาลัยนั้นเป็นมหาลัยดังของกรุงเทพ แล้วก็ยังมีค่าเดินทางนับเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ว่าพวกเขาก็ยังยิ้มและพูดกับลูกสาว ให้เธอไปเรียนมหาลัยอย่างไม่ต้องกังวลอะไร รอเรียนจบ หางานดีทำ แล้วค่อยกลับมาตอบแทนก็ยังได้ ว่าที่พวกเขายังไม่รู้ก็คือ สุดท้ายลูกสาวของพวกเขาก็ไม่ได้เลือกที่จะไปเรียนที่กรุงเทพ เพราะตอนที่สมัครสอบมหาลัย เธอไม่ได้เขียนชื่อสองมหาลัยนั้นลงไป เธอเขียนแต่มหาลัยที่อยู่ในจังหวัดของเธอ และเป็นมหาลัยประจำจังหวัด ความตั้งใจของเธอนั้นมันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้ว สุดท้าย ถึงแม้ว่าใครต่างก็แปลกใจในความคิดของกชวรรณ โดยเฉพาะครูประจำชั้นของเธอ เพราะการเลือกของเธอทำให้เขาขาดทุน เมื่อก่อนที่โรงเรียนมีกฎอยู่หนี่งข้อ นั่นก็คือ ถ้าห้องเรียนไหนมีคนที่สอบติดจุฬาหรือธรรมศาสตร์ ครูประจำชั้นจะได้เงินจำนวนสองหมื่นบาท ดังนั้นเมื่อครูประจำชั้นได้รู้การเลือกของกชวรรณ เขาก็เสียใจอย่างมาก แต่ว่าขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเธอได้ เพราะเธอเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ถ้าเธอตัดสินใจในเรื่องอะไรไปแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะไปเปลี่ยนความคิดของเธอได้ กชวรรณเลือกเรียนในมหาลัยศิลปะระของจังหวัด ที่เลือกเรียนมหาลัยนี้นั่นก็เพราะเธอคิดว่าตัวเองก็หน้าตาดีไม่น้อย ส่วนสูงก็ได้ นอกจากนี้ เธอคิดว่าถ้าเรียนมหาลัยประเภทนี้ อย่างน้อยก็น่าจะได้เรียนรู้ศิลปะต่างๆบ้าง อย่างเช่นการเต้นเอย ร้องเพลงเอย และต่างๆอีกมากมาย เพราะเธอก็แนคนที่ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว ดังนั้น เธอคิดว่าถ้าเรียนจบได้ ก็อาจจะกางานทำดีๆได้ ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะได้สามารถแบ่งเบาภาระครอบครัวได้เร็วๆ ตอนที่เธอเรียนมาลัยได้ปีแรก สถนการณ์ของบ้านก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าพ่อแม่ของเธอได้รับความไว้ใจจากเจ้านาย เลยส่งต่อกิจการให้พาอแม่ของเธอทำต่อ ถึงตอนที่เธออยู่มหาลัยปีสอง บ้านของกชวรรณก็ดีขึ้นอีก พ่อแม่ของเธออาศัยที่เมื่อก่อนขี่จักรยานทำงาน ตอนนี้ก็ได้ซื้อรถเล็กๆไว้ขับแล้ว แล้วก็กชวรรณในตอนนั้น ไม่ต้องกังวลอะไรมาก ทุกเดือนพ่อแม่ของเธอจะส่งเงินมาให้ เธอยังไม่ทันได้ใช้หมดพ่อแม่ก็ส่งมาให้เพิ่มอีก ดังนั้นกชวรรณก็ได้เริ่มกลายเป็นคนที่ชอบแต่งตัว เมื่อก่อนเธอไม่ได้ใส่ใจในการแต่งตัวมากเท่าที่ควรเพราะเธอไม่มีโอกาส แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอมีทุกอย่าง และไม่ต้องใช้ชีวิตแบบเดิมอีกต่อไป จนถึงตอนช่วงปีสาม เมื่อเธอได้ไปดูคอนเสิร์ตของไอดอลที่ชอบนั้น เธอก็ได้หลงใหลไปกับแสงบนเวที ความโดดเด่นของไอดอลหรือแฟนคลับที่บ้าคลั่งอยู่ด้านล่างเวที คิดว่าถ้าเธอได้เป็นดาราล่ะก็ จะดีสักแค่ไหนนะ ตัวเองจะสามารถอยู่บนเวทีมีความสุขไปกับความรู้สึกที่มีคนชื่นชอบมากมาย และเป็นเพราะว่าการดูคอนเสิร์ตในครั้งนั้น ทำให้เธอเริ่มหยิ่งยโส และตัดสินใจว่าหลังจากที่เรียนจบ จะเป็นดารา แต่เธอนั้นก็รู้ว่า เด็กสาวที่มาจากครอบครัวธรรมดาๆ ไม่มีใครคอยหนุนหลัง โอกาสที่จะได้เป็นดาราก็ถือว่าน้อยมาก แม้เธอรู้ว่าโอกาสที่มีมันน้อย แต่เธอก็ยังคงไม่เปลี่ยนความคิด เพราะว่าตอนที่อยู่หอ เพื่อนร่วมห้องของเธอเคยพูดชมเธอว่า “กชวรรณ ถ้าฉันสวยแบบเธอก็คงดี เธอเป็นคนที่สวยที่สุดในชั้นเรา ฉันคิดว่ารูปร่างและหน้าตาของเธอ เป็นสิ่งที่ดาราสาวส่วนใหญ่อิจฉา เธอไม่ต้องสนใจว่าพวกดาราตอนอยู่หน้ากล้องนั้นสวยแค่ไหน เพราะจริงๆแล้วมันก็เป็นผลมาจากการแต่งหน้าทั้งนั้น แต่ว่าเธอ ตอนนี้ไม่ได้แต่งหน้าก็ยังสวย ถ้าเธอแต่งหน้าสักนิด ดาราก็ดาราเถอะ” เป็นเพราะว่าเพื่อของเธอพูดแบบนี้ ทำให้กชวรรณยิ่งมั่นใจใจการตัดสินใจของตัวเอง ตอนที่เธอยืนอยู่หน้ากระจก มองดูหน้าตารูปร่างของตัวเอง เธอก็คิดว่าตัวองสวยกว่าดาราหลายๆคนเสียอีก ไม่อย่างนั้น ตอนที่เธอมาเรียนหนังสือ จะมีคนมาจีบเธอเยอะขนาดนี้ได้ยังไง เพียงแต่ว่าเธอไม่ได้ตอบตกลงก็เท่านั้น เพราะเธอคิดว่าการมีแฟนตอนมหาลัยเป็นสิ่งที่ถูกต้องนัก และก็เป็นเพราะว่าความคิดแบบนี้ ทำให้ชีวิตมหาลัยทั้งสี่ปีของเธอ ไม่เคยมีแฟนเลยสักคน เธอยังคงเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์ แม้แต่ความรักเธอยังอ่อนด้อยนัก แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความฝัน เธอคิดว่าตัวองไม่ได้ไร้เดียงสาแล้ว เพราะเธอคิดว่านี่เป็นจุดมุ่งหมายที่ใหญ่ที่สุดในชีวิ เธอต้องเริ่มขยันที่จะไปยังเป้าหมายนี้ให้ได้ หลังจากที่เธอมีความคิดแบบนี้ เธอก็เริ่มวางแผน ในอีกสองปีที่เหลือในชีวิตมหาลัยนี้ เธอควรทำอะไร ต้องทำอะไร หรือไม่ควรทำอะไร ตอนที่เธอฝีกเต้น เธอเป็นคนที่เต้นดีคนหนึ่งเลย ดังนั้นเธอจึงได้รับคำชมจากอาจารย์บ่อยๆ และตอนที่เธอเต้นให้งานโรงเรียน ตอนยืนอยู่บนเวที เธอรู้สึกได้ถึงท่าเต้นของเธอที่ทำให้เธอมั่นใจ แถมยังมีการร้องเพลงที่เธอทำได้ดี ทำให้เธอชอบเสียงของตัวเองมาก ตอนที่อาจารย์เห็นว่าเธอนั้นเต้นได้ดี เลยมาถามเธอว่า หลังจากเรียนจบ ไม่อยากมาเป็นผู้ช่วยอาจารย์ที่นี่เหรอ มาช่วยสอนนักเรียน เพราะว่าอาจารย์เรียมที่จะเปิดคลาสสอนเต้นในโรงเรียนอยู่ เงินเดือนก็ถือว่าดีเลย “อาจารย์คะ หนูมีแพลนอย่างอื่นอยู่ค่ะ ดังนั้น หนูอยู่ที่นี่ไม่ได้ ขอบคุณมากค่ะ” กชวรรณพูดกับอาจารย์ “งั้นเธอวางแผนอะไรไว้ บอกอาจารย์ได้หรือเปล่า?” อาจารย์ถาม “จริงๆแล้ว…หนูอยากป็นดารา” กชวรรณคิดอยู่นานกว่าจะพูดออกไป อาจารย์เพียงแต่พยักหน้าอย่างยิ้มๆ เธอคิดว่าคนมีความคิดนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่เธอไม่คิดว่ากชวรรณจะมีความคิดแบบนี้ ทำให้เธอคิดว่ากชวรรณนั้นโตขึ้นแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 2 ความฝันตอนมหาลัย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A