ตอนที่ 4 ตัดสินใจ
1/
ตอนที่ 4 ตัดสินใจ
The star เธอคือดวงดาวที่ลับฟ้า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 4 ตัดสินใจ
ตอนที่ 4 ตัดสินใจ มองดูร่างไร้วิญญาณของจตุภูมิ กชวรรณได้แต่ยืนเหม่ออยู่ตรงนั้น น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด แต่ว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับความเศร้าอะไรหรอก ในตอนนั้นเธอรู้สึกผิดและกลัวมากกว่า เพราะเธอไม่คิดว่าจตุภูมิจะทำแบบนั้น เขาบ้ารักเธอมากขนาดนั้น แต่เธอกลับไม่รู้สึกอะไรเลย เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้เข้ามหาลัย เธอเคยได้ยินอยู่บ่อยๆว่ามีนักเรียนหลายคน ที่เลือกจบชีวิตตัวเองเพราะความรัก เธอตอนนั้นก็ไม่เข้าใจหรอก แต่ว่าตอนนี้ นับได้ว่าเธอเข้าใจมันแล้ว ว่าในมหาลัยีคนเลือกที่จะจบชีวิตเพราะความรักจริงๆ เธอยืนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน รู้ว่าอาจารย์เดินเข้ามา ได้ยินชื่อของเธอ เธอจึงรีบเช็ดน้ำตาออก แล้วกลับไปซ้อมต่อ แต่ว่าตอนนั้นเธอไม่สามารถตั้งใจซ้อมได้อีกแล้ว เธออยู่กับความรู้สึกแบบนี้มาเป็นอาทิตย์ เธอถึงจะจัดการกลับมันได้ จากนั้นเธอก็สาบานกับตัวเองเงียบว่า จากนี้ถ้ามีผู้ชายคนไหนมาสารภาพรักหรือเขียนจดหมายหา เธอก็จะไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว เพราะเธอคิดว่าเป็นเพราะเธอตอบรับ ยอมคุยโทรศัพท์กับจตุภูมิตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่บ้าขนาดนี้ แล้วก็ผลกระทบจากการที่จตุภูมิกระโดดตึกนั้น เหมือนจะทำให้ผู้ชายหลายๆคน คิดว่ากชวรรณนั้นเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ ไม่อย่างนั้นจตุภูมิก็คงไม่กระโดดตึกหรอก แล้วก็เป็นเพราะเรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้น เลยไม่มีใครมาจีบกชวรรณอีกแล้ว เธอไม่ได้รับโทรศัพท์จากคนแปลกหน้าหรือจดหมายอีกต่อไป จากนั้นไม่นาน ก็มาถึงวันที่จบการศึกษา มีหลายครั้งที่เราลืมไปว่าเวลาเป็นสิ่งที่เมื่อรู้ตัวอีกทีก็พบว่าเวลานั้นผ่านไปแล้ว ในวันจบการศึกษา หลังจากที่กชวรรณได้ยินเรื่องดีๆ เธอยินอยู่หน้ากระจกมองดูตัวเอง เวลาผ่านไปสักพัก เธอถึงยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “กชวรรณ เส้นทางความฝันของเธอมันเริ่มต้นขึ้นแล้วนะ เธอเตรียมพร้อมหรือยัง? เธอพร้อมที่จะออกไปต้อนรับโลกใบใหม่หรือยัง?” พอพูดจบ เธอก็หัวเราะอีกถึงจะเลิกมองกระจกได้ แล้วออกจากหอไป ไปร่วมงานกินเลี้ยงจบการศึกษา ในงานเลี้ยงจบการศึกษา พวกเพื่อนๆต่างก็พูดถึงสิ่งที่อยากทำในอนาคตของตัวเอง มีไม่น้อยที่บอกว่าเมื่อออกไปทำงานแล้ว จะต้องตั้งใจเพื่อเป็นใหญ่เป็นโต แล้วก็มีบางคนที่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่ใหญ่มากมายอะไรนัก แค่อยากหางานทำให้ได้ แล้วใช้ชีวิตอย่างสงบๆไป แต่งงานมีลูก แล้วก็ใช้ชีวิตไปจนแก่ พอถึงตากชวรรณ เธอก็ได้ยืนขึ้น ทุกคนต่างจับจ้องมาที่เธอ เพราะคนที่นี่ต่างก็คิดว่าเธอไม่เหมือนหญิงสาวคนอื่น ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าเธอมีความฝันแบบไหน “ฉันคิดว่าบางทีถ้าฉันพูดความฝันออกไป ก็อาจจะมีคนหัวเราะได้ เพราะคิดว่าไม่มีทางเป็นจริงได้ แต่ว่าฉันก็อยากจะพูด เพราะมันเป็นความฝันของฉันจริงๆ แล้วฉันก็เชื่อว่า ในอนาคต ฉันจะต้องทำความฝันให้เป็นจริงได้อย่างแน่นอน ความฝันของฉันก็คือการได้เป็นดารา” พอเธอพูดจบก็ยิ้มถึงค่อยนั่งลงไป ทุกคนต่างก็เงียบไปห้านาที ถึงมีคนแรกที่ปรบมือทำลายความเงียบขึ้นมา จากนั้นคนอื่นก็ปรบมือไปตามๆกัน หลังจากเสียงปรบมือจบลง หัวหน้าห้องก็พูดขึ้นมาว่า “กชวรรณ ฉันคิดว่าความฝันของเธอจะต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน เพราะเธอเป็นคนที่มีความพยายาม แล้วที่สำคัญก็คือเธอมีออร่าของการเป็นดาราอยู่นะ พูดจริงๆ เธอสวยกว่าดาราหลายคนเสียอีก เพราะงั้น ฉันว่าเธอจะต้องประสบความสำเร็จได้แน่” กชวรรณได้แต่ยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก หลังจากงานเลี้ยงจบลง ต่างคนต่างก็เดินไปทำตามความฝันของตัวเอง บ้างก็กลับบ้าน บ้างก็หางานทำ แต่สำหรับกชวรรณ เธอกลับมุ่งหน้าไปยังสถานีรถ เตรียมตัวกลับบ้าน เธอคิดถึงครอบครัวจะแย่แล้ว สำหรับความฝันในการเป็นดารา เธอยังไม่อยากบอกครอบครัว เพราะเธอคิดว่าครอบครัวของเธอจะต้องไม่เห็นด้วยกับเส้นทางนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นเลยปิดไปก่อนดีกว่า หลังจากกลับถึงบ้าน เธอก็รีบบอกเรื่องเรียนจบกับครอบครัวก่อนอย่างแรก ทุกคนต่างดีใจอย่างมาก เพราะลูกสาวของเธอกำลังจะเริ่มใช้ชีวิของตัวเองแล้ว “พี่ ดีจังเลยอะ ไม่ต้องทรมานกับการเรียนอีกต่อไปแล้ว” ชโนดม น้องชายของเธอพูด เขาเพิ่งจะเรียนม.ห้าเท่านั้น ยังเหลือเวลาอีกสองปีกว่าจะถึงวัยมหาลัย “อีกเดี๋ยวนายก็ทำได้ เหลืออีกแค่สองปี นายก็จะได้เข้ามหาลัยแล้วพอเขามหาลัยนายก็จะรู้สึกว่าอะไรๆก็สบายขึ้น” กชวรรณพูดด้วยรอยยิ้ม “แล้วลูกมีแผนจะทำอะไรบ้างหล่ะ?” แม่เธอถาม เธออยากให้ลูกของเธอหางานทำที่นี่ เพราะจะได้เจอกันง่ายๆ หัวอกคนเป็นพ่อแม่ก็อากให้ลูกตัวเองอยู่ใกล้ๆทั้งนั้น “หนูขอเวลาอีกสักพักก่อนค่ะ เพราะตอนนี้เพิ่งเรียนจบ อยากจะให้เวลาตัวเองพักผ่อนสักหน่อย” กชวรรณพูด “พี่ พี่สวยขนาดนี้ ผมว่าพี่ไม้องทำงานแล้วแหละ หาแฟนรวยๆแต่งงานสักคนก็สามารถมีความสุขบนกองเงินกองทองได้แล้ว” น้องชายพูดขึ้นมาอีกครั้ง “นายว่าพี่สาวของนายเป็นคนแบบนั้นหรอ? ฉันเป็นคนที่มีทุกอย่างแล้วนะ แล้วครอบครัวเราก็ไม่ได้ขัดสนอะไรด้วย ถูกไหม? ” “ถูกต้อง เป็นคนก็ควรจะมีเป้าหมายของตัวเอง ลูกพ่อ ไม่ว่าลูกจะอยากทำอะไร ทั้งพ่อทั้งแม่และน้องชายของลูกพร้อมที่จะสนับสนุนลูกอยู่เสมอ” พ่อเป็นคนพูดขึ้นมา เพราะเขารักและห่วงลูกสาวคนนี้มาก ดังนั้น ไม่ว่ากชวรรณอยากจะทำอะไร เขาก็จะสนับสนุน ประมาณสองอาทิตย์ กชวรรณก็ตัดสินใจบอกกับครอบครัวว่าอยากจะไปกรุงเทพ เธอพูดว่า “พ่อคะ แม่คะ หนูอยู่บ้านเฉยๆมาสองอาทิตย์แล้ว ตอนนี้ได้เวลาออกไปหางานทำแล้ว” “งั้นลูกอยากจะหางานแบบไหนหล่ะ?” พ่อเธอถาม “หนูยังไม่ได้คิดค่ะ แต่ว่าหนูอยากลองออกไปข้างนอก ถ้าหางานอะไรได้ก็จะทำค่ะ เพราะตอนนี้หนูก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร” กชวรรณบอก เธอคิดว่าความฝันการเป็นดารายังไม่บอกครอบครัวตอนนี้ดีกว่า เพราะไม่ใช่ว่าเธอจะประสบความสำเร็จได้ในเร็ววัน ถ้าหากว่าเวลาผ่านไปหลายปีแต่เธอยังไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ พวกเขาก็อาจจะเป็นห่วงมากก็ได้ “ออกไปลองดูก็ดี งั้นลูกอยากไปอยู่ที่ไหนหล่ะ?” พ่อเธอถาม “หนูอยากไปกรุงเทพค่ะ เพราะหนูก็ยังไม่เคยไปที่นั่นเลย” “กรุงเทพ?” แม่เธอตกใจตาโต เพราะเธอไม่คิดว่าลูกเธอจะจากเธอไปไกล เธออยากให้ลูกอยู่ที่นี่มากกว่า “ใช่ค่ะ กรุงเทพ แม่คะ แม่ก็คงไม่อยากให้หนูอยู่ที่เดิมไปตลอดใช่ไหม ถ้าเป็นแบบนั้น เป้าหมายของหนู ชีวิตต่อไปของหนูและอื่นๆอีกมากมาย โลกของหนูก็จะแคบลง อาจารย์บอกกับพวกเราว่า เป็นคนต้องวางเป้าหมายที่ไกลหน่อย ออกไปมองโลก อย่ายึดติดกับสถานที่เดิมๆ เพราะงั้น หนูเลยตัดสินใจออกไปดู หาประสบการณ์ชีวิตให้ตัวเอง ” “ความคิดของลูกดีมากนะ แต่ว่าลูกเป็นผู้หญิง ไปอยู่ข้างนอกตัวคนเดียว พวกเราไม่ค่อยสบายใจ”พ่อเธอกล่าว จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้เห็นด้วยที่ลูกสาวของเขาจะไปอยู่ที่ไกลสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าที่นั่นจะเจริญ แต่เมืองยิ่งเจริญ ก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้น แล้วลูกของเขาก็ช่างไร้เดียงสา พวกเขาไม่วางใจเลย “พ่อคะแม่คะ วางใจเถอะค่ะ หนูรู้ว่าพ่อแม่กังวลอะไร หนูรู้ว่าพ่อแม่หวังดีกับหนู แต่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงจริงๆนะคะ เพราะว่าครั้งนี้หนูมีเพื่อนไปด้วย เธอจะไปรอหนูอยู่ที่นั่น หนูจะไปเจอเธอครึ่งทาง แล้วค่อยไปกรุงเทพด้วยกัน” “ลูกรัก ลูกบอกว่าลูกเป็นคนที่ติดบ้าน แล้วทำไมไปซะไกลเลยหล่ะ? ลูกบอกว่าออกไปมองโลกข้างนอกก็ไม่จำเป็นต้องไปไกลขนาดนั้นหนิ ถ้าลูกบอกว่าไปที่นู่นเพื่อไปเที่ยว แม่จะไม่ค้าน แต่ว่าถ้าลูกบอกว่าจะไปหางานทำที่นั่น แม่ไม่เห็นด้วยนะ” แม่เธอพูด “แม่ แม่ฟังหนูก่อน หนูสัญญา ถ้าหนูอยู่ที่นั่นแล้วทำงานอย่างไม่มีความสุข หนูจะรีบกลับมาทันที โอเคไหมคะ?” แม่เธอไม่ยอมพูดอะไรอีก เธอรู้ว่าลูกของเธอได้ตัดสินใจแล้ว เธอไม่สามารถไปเปลี่ยนใจอะไรได้ นี่คือลูกสาวของเธอ เธอเข้าใจดีที่สุด ถ้าลองได้ตัดสินใจอะไรแล้ว ก็ไม่มีใครเปลี่ยนใจลูกของเธอได้ “แม่ ยิ้มหน่อยสิคะ หนูไม่อยากเห็นแม่เป็นแบบนี้ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ หนูก็ไปได้อย่างไม่สบายใจ ถ้าหนูไม่มีความสุขหนูก็ไม่อยากหางานทำแล้ว คงได้หิวข้าวายแน่ๆ แม่คงไม่อยากให้หนูหิวตายใช่ไหม?” แม่เธอฝืนยิ้มออกมา แล้วพูดว่า “ว่าแล้ว แม่ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ลูกนี่ช่างดื้อเหมือนพ่อจริงๆ” “แม่ นี่ไม่เรียกว่าดื้อนะ นี่เรียกว่ามีความคิด เพราะมีแต่คนที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองเท่านั้นที่ไม่สามารถพูดความคิดของตัวเองได้” สุดท้าย พ่อกับแม่ของเธอก็ต้องยอมรับความคิดของลูกสาวคนนี้ ให้เธอไปที่กรุงเทพ แต่ก็ได้บอกเอาไว้ว่า ถ้าหากหางานทำไม่ได้หรือทำงานแล้วไม่มีความสุข จะต้องรีบกลับมาบ้าน เพราะคนข้างนอกม่มีทงจะดีกับเธอได้เหมือนครอบครัวหรอก “อือ พ่อแม่ หนูรู้แล้ว หนูสัญญา ถ้าหนูรู้สึกว่ามันไม่ดี หนูจะกลับบ้านทันที” กชวรรณบอก แต่ในตอนนั้นเธอกลับมีอีกความคิดหนึ่งขึ้นมาว่า ถ้าเป็นดาราไม่ได้ ยังไงก็ไม่กลับมาแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 4 ตัดสินใจ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A