ตอนที่ 5 กรุงเทพ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 5 กรุงเทพ
ตอนที่ 5 กรุงเทพ ตอนเที่ยง กชวรรณนั่งอยู่ชนรถของพ่อ บนรถนั่งมากันสามคน เพราะว่าน้องชายของเธอนั้นอยู่โรงเรียนประจำ เลยไม่ได้กลับมา มัวแต่เรียนกวดวิชา เพื่อสอบเข้ามหาลัย “ลูกรัก จำไว้นะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็รีบโทรกลับมาบ้านเลย รู้ใช่ไหม” แม่เธอเตือน “ค่าแม่ แม่พูดกับหนูมาหลายรอบแล้ว หนูรู้แล้วค่ะ ถ้าหนูไม่มีความสุขหรือมีเรื่องน่าอะไร หนูจะโทรกลับบ้านค่ะ” กชวรรณพูดยิ้มๆ แล้วจับมือของแม่ไว้แน่น เพราะเธอเริ่มรู้สึกไม่อยากจากบ้านไปแล้ว แถมนี่ยังเป็นการจากบ้านไปไกลครั้งแรกด้วย “จำไว้นะ ถ้าไม่มีเงิน ก็โทรมาหาพ่อหรือแม่ พ่อแม่จะรีบส่งเงินไปให้ แล้วก็โลกภายนอกมีคนอยู่ทุกประเภท อย่าไปเชื่อคนอื่นง่ายๆ จะทำอะไรหรือคุยกับใครต้องเผื่อใจเอาไว้” “อือ หนูรู้แล้วค่ะ หนูไม่ใช่เด็กๆแล้ว หนูระวังตัวได้” หลังจากมาถึงสถานีขนส่ง พวกเขาก็รออยู่ที่สถานีก่อน แล้วค่อยขึ้นรถกลับ กชวรรณสวมกอดพ่อกับแม่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “โอเค พ่อแม่ หนูขึ้นรถก่อนนะ รถกำลังจะออกแล้ว พ่อแม่กลับไปได้แล้ว ไม่ต้องห่วง ถ้าหนูถึงแล้วจะโทรบอกนะ” พูดจบ เธอก็หันหลังเดินไปยังที่ตรวจตั๋ว พ่อแม่ของเธอได้แต่มองอยู่ข้างหลัง รอจนมองไม่เห็นลูกสาวของพวกเขาแล้ว คนเป็นแม่ถึงเริ่มร้องไห้ออกมา เพราะเธอไม่เคยคิดว่าลูกสาวจะไปไกลขนาดนี้ เป็นน้ำตาที่เต็มไปด้วยความรักของแม่ หลังจากที่กชวรรณขึ้นมาบนรถ แล้วนั่งเรียบร้อย ก็ทนไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาเหมือนกัน เพราะเธอก็ไม่ได้อยากจากครอบครัวมา นอกจากนี้ เธอยังรู้สึกว่าตัวเองได้หลอกครอบครัว ดังนั้นเธอจึงรู้สึกเศร้ามาก รถไฟเริ่มออกเดินทางไปกรุงเทพ กชวรรณได้แต่มองวิวข้างนอกหน้าต่าง เธอใส่หูฟังและเริ่มเดินทางไปกับเสียงเพลง ปล่อยให้เวลาได้ผ่านไป ให้เสียงเพลงเป็นสิ่งยืนยันในความรู้สึก ตอนที่ใกล้ถึงกรุงเทพแล้วนั้น เธอก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เพราะนี่เป็นที่ที่เธอรอคอยมาตลอด เป็นที่ที่ความฝันของเธอรออยู่ระหว่างทาง มีผู้คนขึ้นลงมากมายไปหมด แม้จะเปลี่ยนหน้าตาผู้โดยสารไปขนาดไหน กชวรรณก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แถมในตอนนั้นเธอก็ไม่มีความรู้สึกว่าอยากจะโทรหาที่บ้าน เธอเอาแต่จินนาการว่าชีวิตที่กรุงเทพของเธอจะเป็นยังไง เมื่อเธอไปถึงที่นั่น จะทำอะไรดี จะต้องไปที่ไหนที่จะไล่ตามความฝันได้ ในขณะที่เธอคิดไปคิดมาจนจะหลับนั้น พ่อแม่เธอก็โทรมาถามว่าถึงไหนแล้ว “แม่ หนูก็ไม่รู้ว่าถึงไหนแล้ว เพราะหนูมองเห็นข้างนอกไม่ชัด ว่าน่าจะใกล้ถึงแล้วค่ะ เมื่อกี้หนูได้ยินประกาศ ว่าเหลืออีกประมาณสี่ชั่วโมงก็จะถึงกรุงเทพแล้ว” “สี่ชั่วโมง ทำไมนานขนาดนั้น แล้วลูกกินอะไรหรือยัง หิวไหม?” แม่เธอถาม “กินแล้วค่ะ หนูเอาของกินมาตั้งเยอะ แม่ไมต้องเป็นห่วง หนูเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กๆ หนูไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวหรอก” “อย่าลืมว่าถึงแล้ว ต้องโทรบอกพวกเรานะ แล้วก็ เพื่อนของลูกขึ้นรถมาหรือยัง?” “อือ ขึ้นมาแล้วค่ะ นั่งอยู่ตรงข้ามหนู” กชวรรณโกหก ที่เธอโกหกครอบครัวในทีแรกว่าจะมีเพื่อนไปด้วย ก็เพราะไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง ว่าเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียว “งั้นก็ดีแล้ว ถ้าพวกหนูถึงแล้วต้องดูแลกันดีๆนะ ลูกมีเพื่อนอยู่ด้วย แม่ก็เบาใจมากแล้ว อย่าลืมนะว่ามีอะไรให้โทรหาที่บ้าน รู้แล้วใช่ไหม?” ”รู้แล้วค่ะแม่ แม่บ่นมากจัง แต่หนูก็ชอบนะ” พอคุยโทรศัพท์เสร็จ กชวรรณก็มองออกไปนอกหน้าต่าง รู้สึกสบายใจ เธอคิดว่าน่าจะใกล้ถึงกรุงเทพแล้ว เร็วมาก สามารถไปเริ่มต้นชีวิตบทใหม่ได้แล้ว พอคิดถึงจุดนี้ เธอก็ตื่นเต้นมาก คิดว่าอนาคตจะต้องเต็มไปด้วยสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้น ในตอนนั้น ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอกลับมาจากห้องน้ำแล้ว เขาขึ้นมาจากสถานีที่แล้ว ขึ้นมาถึงก็มาวางกระเป๋าไว้ตรงที่นั่ง แล้วพูดกับกชวรรณว่า “คุณครับ ช่วยดูกระเป๋าให้ผมหน่อย ขอบคุณครับ ผมไปเข้าห้องน้ำก่อน ขอบคุณมากๆเลยครับ” มองดูแล้วก็เป็นผู้ชายที่อายุไม่น่าจะต่างจากเธอสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นนักศึกษา หรืออาจจะเพิ่งเรียนจบเหมือนเธอ แล้วไปตามหาความฝันที่กรุงเทพ “สวัสดี ผมชื่อฐิติวุฒิ เรียกผมว่าวุฒิก็ได้ เพื่อนๆเรียกผมแบบนี้” ผู้ชายคนนั้นพูดกับกชวรรณ แต่ว่าไม่ได้ยื่นมือออกมา เพราะว่าเขาเพิ่งกลับมาจากห้องน้ำ ยังมีน้ำเกาะอยู่ที่มือ “สวัสดีค่ะ” กชวรรณเอ่ยปากพูด แต่ว่าเธอไม่ได้บอกชื่อของตัวเองให้อีกฝ่ายรู้ เพราะเธอคิดว่าเธอมาเจอคนแปลกหน้าในที่ที่ไม่คุ้นเคย ไม่ควรที่จะบอกชื่อตัวเองออกไป เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนดีหรือเปล่า “คุณจะลงที่ไหนครับ คงไม่ได้ไปกรุงเทพใช่ไหม?” วุฒิถาม “อือ” กชวรรณเพียงแต่พยักหน้าเบาๆ แล้วถามว่า “นายก็ไปกรุงเทพเหมือนกันหรอ?” “ใช่แล้ว ดูแล้วพวกเราไปทางเดียวกันนะ คุณมาคนเดียวหรอ?” “อือ” “ผมก็มาคนเดียวเหมือนกัน” เขาพูด วุฒิมองกชวรรณอยู่นานจนถามขึ้นมาว่า “คุณเป็นผู้หญิงขึ้นมากรุงเทพคนเดียว ใจกล้ามากเลยครับ เพราะว่าผู้หญิงสมัยนี้ ไม่ค่อยมีใครกล้าออกมาคนเดียวสักเท่าไหร่” “ฉันว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะ น่าจะมีผู้หญิงอีกหลายคนที่เหมือนฉันนะคะ แค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง” กชวรรณพูด คิดว่าผู้หญิงที่เหมือนกับเธอน่าจะมีอยู่มาก เพราะตอนนี้การคมนาคมก็ได้พัฒนาไปมากแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งอยากจะไปที่อื่นก็แค่ซื้อตั๋วรถก็ได้แล้ว มันน่าจะไม่เกี่ยวกับความกล้าหรืออะไรหรอกนะ “ที่ผมหมายความคือไม่ใช่ว่าคุณสามารถนั่งรถไปไหนคนเดียวได้ แต่ความหมายของผมก็คือ คุณไปที่นั่นแล้วเริ่มใช้ชีวิต ชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน” “อ๋อ” “ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณก็คงเพิ่งเรียนจบ แล้วกำลังไปหางานทำที่กรุงเทพเหมือนกันใช่ไหม?” “คุณนี่สุดยอดเลย ฉันเพิ่งเรียนจบจริงๆ” วุฒิหัวเราะ แล้วพูดต่อว่า “ผมคิดว่ามาคนเดียว คงได้เปิดหูเปิดตาเยอะหน่อย ได้ไปในที่ที่ไม่เคยไป ได้เริ่มชีวิตใหม่ แบบนั้นผมถึงได้รู้สึกถึงความเป็นหนุ่มสาว หาคุณค่าให้ตัวเอง ไม่ต้องรอจนแก่แล้วค่อยมาเสียใจภายหลัง ” สำหรับการพูดของวุฒินั้น กชวรรณเห็นด้วยอย่างยิ่ง ดังนั้นเธอก็เลยไม่ระแวดระวังเขาเท่าไหร่ เลยบอกชื่อตัวเองออกไปแถมยังแลกเบอร์กันไว้ด้วย “พอไปถึงกรุงเทพแล้วมีแพลนยังไงบ้างหรอ? ที่ผมพูดคือ คุณมีลู่ทางหางานหรือยัง? หรือว่าจะไปหางานเอง พอได้งานแล้วค่อยไปที่นั่น” วุฒิถาม “ยังไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย ฉันไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น แค่คิดว่าไปให้ถึงก่อนแล้วค่อยว่ากัน เดินไปเรื่อยๆ เพราะถ้าคุณวางแผนมาดีแล้ว แบบนั้นมันก็ไม่สนุกนะสิ” “ก็ถูกนะ ผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณ แต่เป็นเพราะผมไม่กล้าขนาดนั้น ดังนั้น ผมคิดว่าถ้าผมไม่มีทางไปที่แน่นอน ผมคงหลงทางได้ง่ายแน่ๆ แล้วก่อนผมจะเริ่มเดินทาง ผมมีเป้าหมายที่แน่ชัดอยู่แล้ว ผมอยากมาเป็นเชฟที่นี่ และแน่นอนว่าต้องไปเป็นลูกมือเขาก่อน” พวกเขาทั้งสองพูดคุยกันเยอะมาก การคุยกันแบบนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างก็ประทับใจกันอย่างมาก กชวรรณไม่ได้คิดเลยว่าวุฒินั้นจะเป็นลูกคนรวย เขาเพียงแต่ไม่อยากใช้ชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อแบบนั้น เลยออกจากบ้านมาสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยสองมือของตัวเอง พิสูจน์ว่าตัวเองถึงไม่ต้องพึ่งครอบครัวก็มีชีวิตที่ดีได้ และการเป็นพ่อครัวก็เป็นอาชีพที่เขาชอบมากที่สุด เพราะเขารับรู้รสชาติได้ดีตั้งแต่ยังเด็ก รอจนรถไฟเข้าจอดที่สถานีปลายทาง วุฒิก็รีบลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น มองออกไปยังนอกหน้าต่าง ถึงเบนสายตากลับมามองที่กชวรรณ แล้วพูดกับเธอว่า “ไปกันเถอะ พวกเราลงรถไปด้วยกัน โลกใบใหม่รอต้อนรับเราอยู่นะ ผมตื่นเต้นจะตายแล้ว” กชวรรณได้แต่ขำ แต่ไม่ได้พูดอะไร มองเห็นป้ายทางออก เธอก็เดินไปทางนั้นกับเขา เพื่อออกไปข้างนอก พอออกมาตรงชานชาลา พวกเขาสองคนยืนอยู่กันตรงริมทาง มองไปยังสถานีรถที่กว้างใหญ่แห่งนี้ นี่คือสถานีกรุงเทพ ตอนนี้ พวกเขาได้มาถึงสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ณ ที่แห่งนี้กำลังจะเปิดชีวิตใหม่ให้กับพวกเขาทั้งคู่ คนหนึ่งอยากเป็นพ่อครัว อีกคนหนึ่งอยากเป็นดารา และตอนนี้พวกเขาต่างก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ใจก็คือ พวกเขาล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ และครอบครองความคิดที่จะไม่กลับบ้านเอาไว้ “คุณรู้สึกถึงมันหรือยัง? อากาศของที่นี่มันไม่เหมือนกับที่อื่น นี่มันคือเมืองที่เป็นสากลเต็มไปด้วยความเจริญ” วุฒิพูดด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มแห่งความสุข เพราะว่าได้มายังที่แห่งนี้เลยตื่นเต้นและมีความสุขมาก “อือ ฉันรู้สึกได้” บนใบหน้าของกชวรรณก็เปี่ยมไปด้วยความสุขเช่นกัน และเธอยังพูดต่อว่า “กรุงเทพ ฉันพร้อมแล้ว รู้ใช่ไหม ฉันมาแล้วนะ” “ผมก็มาแล้วนะ กรุงเทพ ผมเอาความฝันของผมมาด้วย นายต้อนรับผมไหมหล่ะ?” ฐิติวุฒิตะโกนออกมาดังๆ ทำให้กชวรรณที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เอาล่ะ พวกเรามาแยกกันตรงนี้เถอะ ถ้าว่างก็โทรมาได้ บ้ายบาย” พูดจบฐิติวุฒิก็หันหน้าเดินออกไป
已经是最新一章了
加载中