ตอนที่ 6 เมืองดาว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 6 เมืองดาว
ตอนที่ 6 เมืองดาว เมื่อมองเห็นว่าฐิติวุฒิได้เดินหายไปแล้ว แต่กชวรรณยังคงยืนอยู่รงนั้น เพราะอยู่ๆเธอก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี ตอนก่อนมาที่นี่ เธอไม่ได้คิดถึงปัญหาที่อยู่ที่กินเอาไว้เลยว่าควรจะทำยังไง เธอรู้แค่ว่า พอมาถึงที่นี่ก็คงจะไปหาพวกเอเจนซี่นักแสดงเลย เพราะเธอคิดว่าถ้าใช้หน้าตาของตัวเอง แล้วไปลงชื่อกับพวกเอเจนซี่นักแสดงแล้วล่ะก็ เมื่อถึงเวลาก็คงมีผู้กำกับมาตามหา หรือไม่ก็ไปร้องเพลงตามผับแล้วมีแมวมองมาเห็น หรือไม่ก็ไปเข้าร่วมรายการประกวดต่างๆ เพราะว่าที่เมืองนี้มีคือโอกาส เธอคิดว่าตัวเองจะต้องทำได้ แล้วก็ไม่ต้องใช้เวลานานด้วย พอรถแท็กซี่มาจอดตรงหน้าเธอ คนขับรถก็ชะโงกหน้าออกมาถามว่า “คุณครับ จะไปไหม?” กชวรรณพยักหน้าแล้วจึงขึ้นรถไป บอกกับคนขับว่า “ไปเมืองดาวค่ะ” “เมืองดาว อยู่ไกลจากที่นี่อยู่นะ” คนขับรถพูด “ฉันรู้ค่ะ” เธอตอบจริงแล้วเธอก็ไม่รู้หรอกว่าเมืองดาวนั้นอยู่ที่ไหน เธอรู้แค่ว่าที่ไหนที่ค่าโรงแรมถูกก็แค่นั้น แล้วพวกนี้เธอก็รู้มาจากนิตยสารทั้งนั้น แล้วที่เธอจะไปลงที่นั่นก็เพราะคิดว่าที่นั่นคงมีศิลปินอยู่ไม่น้อย ในนั้นมีนักเต้นที่มีชื่อเสียงอยู่ พวกเขาก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่นานเหมือนกัน เธอคิดว่าได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีศิลปินเยอะๆ ได้รับบรรยากาศแบบนั้น รอวันที่ได้เป็นดารา ก็จะได้เป็นดาราที่เต็มไปด้วยความสามารถด้านศิลปะ ไม่ได้เป็นแค่ดาราห่วยๆ ถ้าเป็นดาราเธอก็ไม่อยากจะเป็นดาราแบบนั้น ที่แค่เห็นก็รู้ว่าอยู่ได้ด้วยการประโคมสิ่งของต่างๆ “คุณผู้หญิง คุณมากรุงเทพเป็นครั้งแรกหรอ มาหางานทำใช่ไหม? ผมเห็นว่าคุณยังอายุน้อย น่าจะเพิ่งเรียนจบใช่ไหม?” คนขับรถพูด พร้อมมองมาที่กชวรรณผ่านกระจกมองหลัง “ไม่ใช่ค่ะ ฉันเคยมาที่นี่แล้ว ฉันไม่ได้เพิ่งเรียนจบ ฉันมาหาเพื่อนที่นี่ค่ะ” เธอบอก เธอไม่บอกความจริงแก่คนคนนี้หรอก สำหรับคนที่เจอกันครั้งแรก เธอจะต้องรักษาความเชื่อนี้ไว้คือเธอต้องระวัง หลังจากรถขับวนไปมา ประมาณสี่สิบนาทีเธอก็มาถึงที่เมืองดาว ตอนที่คนขับบอกว่าค่ารถหนึ่งร้อยบาทนั้น กชวรรณก็อึ้งไป เธอก็ไม่ได้พูดอะไร แค่ยื่นเงินให้แล้วลงรถมาเท่านั้น คนขับรถพูดว่า “ขอบคุณครับ” จากนั้นก็ขับรถออกไป พอหลังจากได้เป็นดาราแล้วนั้น กชวรรณถึงเพิ่งมารู้ว่า ในตอนนั้นเธอถูกคนขับรถหลอกเข้าสะแล้ว เขาขับรถวนออกนอกเส้นทาง เพราะเขาต้องดูออกแน่ว่าเธอมาที่เมืองนี้เป็นครั้งแรก ถึงแม้เธอจะบอกว่าไม่ได้มาเป้นครั้งแรก แต่ใบหน้าเดียงสาของเธอกลับบอกหมดทุกอย่าง คนขับรถแท็กซี่คงดูคนมาเยอะแล้ว ด้านหน้าของเธอมีป้ายเขียนอยู่ว่า เมืองดาว และป้ายบอกให้เดินตรงไป ต้องบอกว่าหมู่บ้านศิลปินต้องเดินเข้าไปอีกถึงจะถึง กชวรรณถือสัมภาระของเธอเดินเข้าไปข้างใน หลังจากเดินมาได้สิบนาทีถึงจะถึงเมืองดาว จากนั้นก็เห็นตึกอยู่หลายตึก ทั้งหมดล้วนเป็นตึกที่สูงไม่เกินห้าชั้น สำหรับเมืองนี้ก็ถือว่าเป็นตึกที่เห็นได้ทั่วไป เพราะที่นี่มีตึกสูงเต็มไปหมด แล้วตึกเตี้ยๆพวกนี้ ดูเหมือนพวกมันจะมีประวัติมายาวนายอยู่ นอกจากจะให้ความรู้สึกเก่าแล้ว ยังมีบรรยากาศของศิลปินอีกด้วย เพราะบนกำแพงถูกพ่นสเปรย์ไว้เต็มไปหมด พวกนี้ดูสวยงามดี มีแค่เมืองดาวเท่านั้นแหละที่จะมีผลงานอะไรแบบนี้ได้ หนึ่งในรูปตรงนั้นเป็นรูปหญิงสาวกำลังเต้นระบำอยู่ เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้า ท่วงท่างดงาม ดึงดูดสายตาคนได้เป็นอย่างดี จู่ๆก็มีคนสองคนปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง พวกเขาจับมือกันอยู่ ทั้งสองคนโกนผมครึ่งหัว กำลังประจัญหน้ากันอยู่ ดูแล้วพวกเขาน่าจะอายุประมาณยี่สิบปี เดินไปพูดไป แต่ว่าพูดเรื่องอะไรกันเธอเองก็ไม่ได้ยิน แต่แค่มองดูจากทรงผมของพวกเขาแล้ว ทำให้เธอรู้สึกว่าที่นี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ พอเธอเห็นชายหนุ่มกำลังกอดกีต้าร์อยู่นั้น เธอก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยศิลปิน น่าเสียดายที่เธอไม่ใช่ศิลปิน แค่มาที่นี่เพื่อเช่าห้องเท่านั้น แต่ว่าพอเธอมาคิดดีๆอีกที เธอก็อาจจะนับได้ว่าเป็นศิลปินคนหนึ่งนะ เพราะตัวเองก็ร้องได้เต้นได้ บางทีอาจจะได้เข้าไปเป็นนักร้องของคณะขับร้องก็ได้ จากนั้นจะไปเป็นดาราก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร พอเธอเห็นว่าบนกำแพงมีประกาศเช่าห้องอยู่ ก็บันทึกเบอร์นั้นไว้ทันที จากนั้นก็โทรไป พออีกฝ่ายรับสายแต่กลับไม่มีเสียงพูดกลับมา กชวรรณเลยพูดว่า “สวัสดีค่ะ ฉันเห็นประกาศเลยโทรมาค่ะ อยากสอบถามว่าคุณมีห้องปล่อยเช่าอยู่ที่เมืองดาวใช่ไหมคะ?” “ใช่ มีอยู่ห้องหนึ่ง คุณอยากเช่าหรอ?” อีกฝ่ายถาม เป็นเสียงของผู้ชาย ฟังดูทุ้มน่าจะเป็นเสียงของคนที่อายุประมาณยี่สิบกว่าปี “อือ ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณสะดวก…..” “สะดวก ตอนนี้ผมอยู่ที่เมืองดาว คุณอยู่ที่ไหน ถ้าคุณสะดวก ก็มาได้ ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องดนตรี” อีกฝ่ายพูด “ห้องดนตรีอยู่ที่ไหนหรอคะ” กชวรรณถาม เธอมาที่นี่เป็นครั้งแรก ถึงได้รู้ว่าที่เมืองดาวนั้นมีทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ศิลปิน ยังมีร้านที่พวกเขาเปิด ขายรูปภาพ ขายเครื่องดนตรีอะไรแบบนั้น “คุณมาที่เมืองดาวครั้งแรกหรอ? งั้นผมขอเป็นตัวแทนเมืองดาวต้อนรับคุณนะ คุณทำเกี่ยวกับศิลปะหรอ?” อีกฝ่ายถามผ่านทางโทรศัพท์ “ขอบคุณค่ะ ฉันไม่ใช่คนทำเกี่ยวกับศิลปะ” กชวรรณพูด เธอคิดว่าการเต้นไม่ได้เป็นศิลปะ เลยพูดแบบนั้นออกไป เพราะเธอกลัวว่าถ้าเดี๋ยวต้องไปเจอชายคนนี้ แล้วเขาถามว่าเธอทำเกี่ยวกับศิลปะอะไร ถ้าเธอตอบว่าเต้นล่ะก็ จะต้องถูกหัวเราะเยาะเป็นแน่ “ตอนนี้เธอคงเดินเข้ามาจากทางเข้าไม่เกินห้าสิบเมตร จากนั้นก็เห็นประกาศของผม งั้นคุณก็เดินตรงมาเรื่อยๆ ประมาณอีกสองร้อยเมตรไปทางขวา จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณห้าร้อยเมตร ก็จะเห็นห้องดนตรีอยู่ด้านหน้าคุณ” “โอเค ขอบคุณค่ะ” เธอพูดแล้วเคลื่อนตัวออกไป “ไม่ต้องเกรงใจ คุณมาก่อนแล้วค่อยพูดกัน” พูดจบอีกฝ่ายก็วางสาย ตอนที่เธอกำลังคุยโทรศัพท์กับเขาอยู่นั้น ในห้องดนตรีก็มีเสียงเพลงดังอยู่ตลอด เมื่อกชวรรณได้ยินก็รู้สึกว่าคุ้นๆ เพราะเมื่อก่อนตอนที่เธอซ้อมเต้นนั้น ก็มักจะได้ยินเสียงเพลงแบบนั้นอยู่บ่อยๆ ถ้าเทียบกับห้องซ้อมเต้นที่อยู่ชั้นหนึ่ง ก็มักจะมีคณะขับร้องมาซ้อมอยู่บ่อยๆ แล้วตอนที่พวกเธอนักเต้นสาวเริ่มเปิดเพลงแล้วนั้น คณะขับร้องก็จะหยุดร้องทันที กชวรรณเดินไปตามทางที่ชายหนุ่มคนนั้นบอก ในที่สุดก็ได้มาถึงประตูของห้องดนตรีแล้ว จากนั้นก็ได้ยินเสียงขับร้อง บรรยากาศข้างในดูครึกครื้น เธอยืนมองอยู่ตรงทางเข้าสักพัก ถึงจะเดินเข้าไปข้างใน เห็นว่ามีพนักงานหนุ่มกำลังอ่านหนังสืออยู่ที่เคาน์เตอร์ แน่นอนว่าเป็นเรื่อง “The Catcher in the Rye” เธออยากอ่านหนังสือเล่มนี้มาตลอด แต่ไม่เคยอ่านจบเลย “สวัสดีค่ะ” เธอพูดกับผู้ชายที่หนวดเคราเฟิ้ม “สวัสดีครับ” ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา มองเธอแล้วพูดว่า “คุณคือคนที่เมื่อกี้โทรหาผมใช่ไหมครับ?” “อืม” กชวรรณพยักหน้า พร้อมด้วยรอยยิ้มอันน่าชวนมอง ดึงดูดชายหนุ่มคนนี้ได้อยู่หมัด เขาได้แต่มองเธอแล้วไม่พูดอะไร กชวรรณเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี เลยพูดก่อนว่า “ขอถามหน่อยค่ะว่าคุณมีห้องปล่อยเช่าที่นี่ใช่ไหม?” “คุณรู้ไหมว่าคุณน่าหลงใหลมาก?” ชายคนนั้นพูด “คะ?” กชวรรณหน้าแดง ถึงตอนนี้ชายคนนั้นก็หัวเราะออกมา แต่ว่าเสียงหัวเราะนั้นน่าฟังมากเลยทีเดียว เขายิ้มแล้วพูดว่า “อย่าใส่ใจเลย ผมเป็นคนชอบล้อเล่น แต่ว่าคุณมีเสน่ห์จริงๆนะครับ หวังว่าคุณจะไม่คิดว่าผมเป็นคนไม่ดี เพราะผมเป็นคนที่คิดอย่างไรก็พูดแบบนั้น คุณอย่าไปใส่ใจเลย” “ไม่เป็นไรค่ะ” กชวรรณพูด “ผมชื่อณภัทร ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขาพูดพร้อมยื่นมือออกมา กชวรรณเห็นอย่างนั้นก็ยื่นมือออกมาจับกับอีกฝ่าย แล้วบอกชื่อของเธอไป เพราะเมื่อก่อนเธอเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเมืองดาวอยู่เรื่องหนึ่งว่าคนที่นี่นั้นเป็นคนเปิดเผยและพูดตรง ดังนั้นเธอเลยไม่ได้ปิดกั้นอะไรอีกฝ่ายมากนัก “คุณมาที่นี่ครั้งแรกหรอครับ?” “อืม” “คุณอยากมาทำงานที่นี่ หรือว่าอะไรครับ?” “ฉันมาทำงานที่นี่ แต่ว่าก่อนที่จะหางานต้องหาที่อยู่ก่อน” “อืม ถ้าเป็นที่อยู่ ที่นี่ก็เหมาะที่สุด แต่ว่าคุณยังโชคดีนะ เพราะที่นี่ไม่ค่อยได้มีห้องว่างหรอก ทุกคนที่มาที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินหรือไม่ก็ตาม หลังจากที่พวกเขามาอยู่ที่นี่ ก็ไม่อยากย้ายออก ดังนั้น คุณมาที่นี่ ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี” พอพูดจบ เขาก็หันไปมองห้องซ้อมชั้นสอง จากนั้นก็พูดกับเธอว่า “คุณรอก่อนนะครับ ผมเรียกคนหนึ่งลงมา จากนั้นจะพาคุณไปดูห้อง” พูดจบณภัทรก็เดินไปยังบันไดที่อยู่ด้านหลังขึ้นไปยังชั้นสอง เสียงในห้องซ้อมหยุดทันที จากนั้นเขาก็ลงมาก่อน ตามด้วยผู้ชายอีกคนที่ลงตามหลังมา เขาไว้หนวดดูเท่ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้านบนของเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เหงื่อไหลออกมาตั้งแต่บนหน้าผาก “ไปกันเถอะ พวกเราต้องไปดูห้อง” พูดจบ ณภัทรก็หันกลับไปพูดกับชายอีกคน “น้องชาย ขอโทษด้วย รอผมสิบนาที หลังจาดสิบนาทีผมจะกลับมาให้พวกนายซ้อมต่อ”
已经是最新一章了
加载中