ตอนที่ 7 คำเชิญของคณะขับร้อง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 7 คำเชิญของคณะขับร้อง
ตอนที่ 7 คำเชิญของคณะขับร้อง “ตรงหน้าสองร้อยเมตรคือห้องที่ผมบอกคุณ อยู่ชั้นสามของตึกนั้น สภาพแวดล้อมก็ดี คุณเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวอยู่ที่นี่ก็สะดวกดี” ณภัทรพูด พอกชวรรณได้เห็นห้องพักแล้วนั้น ก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา เพราะว่าห้องนี้กว้างไม่ถึงยี่สิบตารางเมตร แถมยังมืดทึบมองไม่ค่อยเห็นแสง บนกำแพงยังมีร่องรอยเละเทะ มีหลายรูปที่วาดทับกันไปมา “คิดว่ายังไงบ้าง” ณภัทรถามเธอ “ก็พอได้” เธอตอบ “พอได้ก็โอเค จริงๆแล้วสำหรับห้องแบบนี้ ถือว่าเป็นห้องที่ดีแล้ว คุณแค่ทำความสะอาดมันหน่อยก็โอเคแล้ว อ่า ใช่ ที่นี่ไม่มีผ้าห่มให้นะ แต่ว่ามีฟูก ผ้าปูหรืออะไรต่างๆ คุณไปซื้อเอง เดินตรงไปจากตรงนี้ห้าร้อยเมตรจะมีร้านขายอยู่ มีขายทุกอย่างเลย” “ขอบคุณค่ะ” “ถ้าคุณไม่มีปัญหาอะไร งั้นผมให้คุณเช่าที่นี่ พันห้าร้อยบาทต่อเดือน นี่เป็นราคาสำหรับคนกันเองแล้ว เพราะผมจะให้ราคาดีๆกับผู้เช่าผู้หญิง พวกเขามักจะไม่ทำห้องสกปรก” “ฉันต้องจ่ายคุณตอนนี้เลยไหมคะ?” กชวรรณถาม จริงๆตอนนี้เธอรู้สึกไม่ชอบเอามากๆ คิดว่าอนาคตต้องไม่ง่ายแน่ เพราะแค่บรรยากาศของที่นี่ ก็ไม่เหมือนที่เธอคิดไว้เลย “อืม จ่ายตอนนี้ หลังจากจ่าย คุณก็สามารถอยู่ที่นี่ได้เลย สามารถเริ่มต้นชีวิตบทใหม่ได้เลย” กชวรรณหยิบเงินออกจากกระเป๋าเธอแล้วยื่นให้เขา เขาจึงเอากุญแจมาให้เธอแล้วบอกว่า “วางใจเถอะ กุญแจของที่นี่มีแค่ผมเท่านั้นที่มี แล้วถ้าผมปล่อยเช่าห้องไปแล้ว ผมจะไม่มาที่นี่อีก เพราะฉะนั้น คุณไม่ต้องกังวลพวกของมีค่าหรอก” “แบบนี้ก็เรียบร้อยแล้วหรอคะ? ไม่ต้องเซ็นสัญญาหรืออะไรหรอ?” กชวรรณสงสัย “ไม่ต้องครับ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปะ พวกเราที่เมืองดาวไม่มีใครทำอะไรแบบนี้ คุณไม่ต้องกังวลว่าผมจะไล่คุณไป คุณจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ แค่จ่ายค่าห้องให้ตรงเวลาเท่านั้น” “โอเค ผมต้องกลับไปแล้ว ถ้าคุณมีอะไรไม่เข้าใจ ที่ผมพูดหมายถึง ถ้าคุณอยากได้ความช่วยเหลืออะไร ก็มาที่ห้องดนตรีหาผมได้ ตอนกลางวันผมจะอยู่ที่นั่นตลอด” พูดจบ เขาก็เดินออกไป กชวรรณมองดูห้องสี่เหลี่ยมตรงหน้า จากนั้นก็นั่งลงบนที่นั่งที่อยู่ด้านหน้า เธอคิดว่าที่นี่ไม่น่าให้คนอยู่ แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพื่อความฝัน เธอสามารถอยู่ที่นี่ได้ เพราะว่าที่เมืองนี้ มันเป็นเรื่องยากที่จะหาห้องเช่าถูกๆได้ อย่าว่าแต่ที่นี่ที่สามารถพบเจอพวกศิลปะ หรือศิลปิน เพราะงั้นที่นี่ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ไม่เลว หลังจากเหม่ออยู่สักพัก กชวรรณก็ได้โทรศัพท์หาที่บ้าน คนที่รับสายคือแม่ของเธอ พอเธอรับสายก็รีบพูดว่า “ฮัลโหล ลูกหรอ?” “แม่ หนูเอง หนูถึงกรุงเทพแล้ว เมื่อกี้เพิ่งเจอห้องเช่ากับเพื่อน ที่บรรยากาศโอเคเลย แม่บอกพ่อด้วยนะ เขาจะได้ไม่เป็นห่วง หนูจะใช้ชีวิตอย่างดี” “อืม แม่รู้แล้ว แล้วลูกกินข้าวหรือยัง? หิวไหม ถ้าหิวก็ออกไปหาอะไรกินนะ ไปกินกับเพื่อน รู้ไหม?” “อืม รู้แล้วค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ หนูขอจัดของก่อน” พูดจบเธอก็วางสาย จากนั้นก็เดินไปยังห้องน้ำที่แคบแสนแคบ ยังไม่ทันเดินถึงประตู ก็ได้กลิ่นแปลกๆออกมาแล้ว ทำให้เธอไม่แม้แต่จะอยากเปิดประตู เมื่อเธอเปิดออก ก็เห็นว่าข้างในมีแต่ของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง ทำให้เธออยากจะอาเจียน เธอคิดอยากจะไปจากที่นี่ แต่พอมาคิดดีๆ ถ้าเจอปัญหาเพียงแค่นี้ก็คิดจะถอยแล้ว งั้นความฝันของเธอจะเป็นจริงได้ยังไงล่ะ ดังนั้นเธอเลยปิดจมูกตัวเอง แล้วจัดการทำความสะอาดเอาของสกปรกพวกนั้นไปทิ้ง เมื่อทำเสร็จเธอก็เริ่มลงมือทำความสะอาดห้อง เมื่อทำความสะอาดเสร็จเธอก็เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรอีก แล้วนั่งลงบนเตียงที่ยังไม่มีผ้าปู มองดูห้องอันมืดทึบแห่งนี้ ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอถึงได้ลุกขึ้นมา แล้วออกไปที่ร้านขายของ เธอซื้อถังน้ำ ไม้แขวนเสื้อ แล้วก็ผ้าปูและอย่างอื่น แต่เมื่อเธอซื้อของทั้งหมดเสร็จ ถึงพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะยกของทั้งหมดนี้กลับไปคนเดียวได้ ในตอนนั้นเอง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งมาอยู่ด้านหลังของเธอ สะกิดที่ไหล่ของเธอแล้วพูดว่า “ให้ผมช่วยไหมครับ?” กชวรรณหันไปมองชายหนุ่มคนนั้น เขาคือคนที่ไม่ใส่เสื้อผ้าที่อยู่ที่ห้องดนตรีคนนั้นนั่นเอง ตอนนี้เข้าใส่เสื้อยืดสีขาว บนเสื้อมีลายผู้ชายถือกีต้าร์ มีคำเขียนว่า “GUNGEISDEAD” “คุณจำผมไม่ได้แล้วหรอ? พวกเราเพิ่งเจอกันที่ห้องดนตรีไง คนที่ให้คุณเช่าห้องเป็นพี่ชายของพวกเรา” หนุ่มคนนี้พูด “คุณอย่ามองผมแบบนี้ ผมไม่ใช่คนไม่ดี ผมชื่อตะวัน” “สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ” เธอพูดกลับ แล้วเอาสิ่งของส่วนหนึ่งให้เขาถือ จากนั้นก็เดินกลับไปยังห้องพักพร้อมกับเขา “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่หรอครับ?” ตะวันถาม “อืม ฉันมาที่นี่ครั้งแรก” กชวรรณตอบ “คุณมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่นี่หรอ ดูๆแล้วคุณไม่เหมือนศิลปินเลย เหมือนดารามากกว่า ดาราหนัง” “อ่า ขอบคุณค่ะ เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณชื่ออะไรนะคะ?” “ตะวัน อธิบายได้ว่าเป็นคนที่นิสัยดี สดใส นี่เป็นชื่อของผม” “นี่เป็นชื่อของคุณจริงๆหรอ?” “นี่เป็นชื่อที่ผมตั้งขึ้นเอง เพราะผมอยากเป็นคนดี เมื่อก่อนผมชื่อว่าปัญจ แต่ตอนนี้ผมคนนั้นได้ตายไปแล้ว ตอนนี้ชื่อนี่คือชื่อของผมจริงๆ เป็นผมที่มีชีวิตอยู่” “ทำไมถึงบอกว่าตัวเองในอดีตนั้นตายไปแล้ว?” “เรื่องนี้ ถ้าจะให้เล่าก็คงยาวเหมือนหนัง ถ้าต่อไปมีโอกาส ผมจะเล่าให้คุณฟัง” ตะวันพูดยิ้มๆ เขามีใบหน้าที่น่ารัก สะอาดสะอ้าน ถ้าไม่ไว้หนวดสองเส้นล่ะก็ ดูเหมือนพวกคุณชายไก่อ่อนเลยทีเดียว “โอเค ถึงแล้ว” ตะวันพูดพลางเดินขึ้นบันไดไป พอถึงที่ชั้นสาม ก็ยืนรออยู่ตรงหน้าประตู “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?” กชวรรณถามตะวันเมื่อเธอมาถึงหน้าประตู “เพราะผมเป็นพี่น้องกับเจ้าของห้อง จริงๆแล้วตึกนี้เป็นของพี่ณภัทร และผมกับคณะขับร้องต่างก็อยู่ที่นี่กัน ดังนั้นที่นี่มีห้องไหนว่าง พวกเราก็รู้หมด” “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” กชวรรณพูด แล้วใช้กุญแจเปิดประตูเข้าไป มองดูตะวันช่วยเอาของวางไว้บนเตียง แล้วเธอก็พูดกับตะวันว่า “โอเค ได้แล้ว ขอบคุณนายมากที่มาช่วย ต่อไปเป็นหน้าที่ฉันเองแล้ว นายไปทำอะไรของนายต่อเถอะ” “ผมไม่มีอะไรทำ คุณมีอะไรให้ผมช่วยอีกไหม?” ตะวันพูดอย่างยิ้มๆ “ไม่มีแล้ว” “คุณยังไม่บอกผมเลย ว่าคุณมาที่นี่ทำอะไร?” “ฉันมาแบบไร้จุดหมาย” กชวรรณนึกคำนี้ได้เลยพูดออกไป “ผมฟังเสียงของคุณแล้ว คุณร้องเพลงได้ใช่ไหม? ที่ผมหมายถึงก็คือ คุณคือนักเรียนที่อยู่วงดนตรีของโรงเรียนใช่ไหม?” “ไม่ใช่ค่ะ” “งั้นคุณร้องเพลงเป็นไหม?” “เป็นค่ะ” “ร้องไห้ผมฟังสักสองท่อนได้ไหม?” “ร้องไห้คุณฟังที่นี่หรอ?” “ใช่สิครับ มันก็ไม่ได้อะไรนะครับ เพราะตอนนี้พวกเราก็รู้จักกันแล้ว ถือว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว คนที่มาที่เมืองดาวเป็นคนดีทุกคน ไม่มีใครทำร้ายจิตใจกันหรอก ถ้าคุณไม่สะดวกใจ งั้นผมลองร้องไห้คุณฟังก่อน” พูดจบเขาก็เริ่มร้องเพลง ทำให้กชวรรณที่ได้ฟังนั้นหน้าแดงเหมือนตัวเองเป็นคนร้องเสียเอง “โอเค ผมร้องจบแล้ว ถึงตาคุณบ้าง เมื่อคุณร้องจบ ผมจะไป ไม่มารบกวนคุณอีก โอเคไหม?” ตะวันบอกด้วยรอยยิ้ม เขาร้องเพลงได้เพราะมาก แต่ทำนองแบบนี้ เธอเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน แล้วก็คนที่เจอกันครั้งแรกแล้วขอให้ร้องเพลงให้ฟัง เธอก็เพิ่งเคยเจอครั้งแรกเหมือนกัน กชวรรณมองตะวัน จากนั้นก็หลับตาลง แล้วร้องเพลงออกมา เธอร้องเพลงที่เธอชอบออกมา เมื่อได้ยินเสียงใสๆของเธอร้องจบ ตะวันก็ปรบมือให้ทันที จากนั้นก็หัวเราะแล้วเดินออกไป คืนวันนั้น กชวรรณนอนอยู่บนเตียง ใจยังไม่ค่อยสงบสักเท่าไหร่ เธอรู้สึกว่าตัวเองห่างไกลจากความฝันในการเป็นดาราออกไปเรื่อยๆ ระหว่างที่คิดแบบนั้น เธอก็ผล็อยหลับไป พอตื่นขึ้นมาในวันที่สอง เธอเกือบจะทำให้หัวใจวายตาย เพราะเธอเห็นหนูตัวหนึ่งมาอยู่ข้างเตียงเธอ รอจนเธอกระโดดลงจากเตียงแล้วตะโกน เจ้าหนูถึงได้ลงไป แล้วหายไปต่อหน้าเธอ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ก็ทำให้เธออยู่บนเตียงนานถึงจะยอมลงมา แล้วรีบไปล้างหน้า ลงไปกินข้าวเช้า จากนั้นเมื่อเธอนั่งลงในร้านอาหาร เธอถึงมองเห็นว่าสองคนที่เธอเจอเมื่อวานกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันอยู่ ณภัทรกับตะวัน และก็ยังมีอีกสามคน เป็นผู้ชายทั้งหมด ณภัทรมองเห็นเธอแล้ว ก็เลยเดินมาหา แล้วนั่งลงตรงข้ามเธอ แล้วพูดว่า “อรุณสวัสดิ์ ก๋วยเตี๋ยวที่นี่อร่อยนะ” “อืม ฉันมากินครั้งแรก” กชวรรณพูด เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมานั่งตรงนี้ “คือแบบนี้ นักร้องนำของคณะเรา ตะวันหน่ะ คุณก็รู้จักแล้ว เขาบอกว่า คุณร้องเพลงเพราะมาก เพราะงั้นเลยให้ผมเป็นตัวแทนมาเชิญคุณไปร่วมซ้อมกับคณะของเรา คุณแค่รับผิดชอบการร้องเพลงก็พอแล้ว”
已经是最新一章了
加载中