ตอนที่ 8 โรงหนัง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 8 โรงหนัง
ตอนที่ 8 โรงหนัง กชวรรรมมองหน้าณภัทร รู้สึกว่าเขาดูไม่น่าพูดเล่น แถมในตอนนั้น ตะวันที่นั่งอยู่ตรงกลางนั้น ก็มองมาที่เธอเหมือนกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยการรอคอย “คุณจะรับคำเชิญของพวกเราไหมครับ?” ณภัทรพูดอีกรอบ “……..” กชวรรณได้แต่มองหน้าเขา ยังไม่ได้พูดอะไรออกไปในทันที เพราะเธอคิดว่าคนเหล่านี้กระตือรือร้นเกินไป รู้จักกันยังไม่ทันไร ก็มาเชิญตัวเธอให้ไปร่วมซ้อมกับพวกเขาแล้ว แล้วทั้งหมดก็เป็นผู้ชายด้วย พอคิดถึงตรงนี้ คนพวกนี้คงไม่ได้คิดอะไรเกินเลยใช่ไหม ไม่รอให้เธอพูด ณภัทรก็พูดออกมาว่า “ผมรู้ว่าคุณกังวลอะไรอยู่ คุณกลัวว่าพวกเราจะแกล้งคุณใช่ไหม? โดยเฉพาะพวกเราที่เป็นผู้ชายล้วน แล้วเธอก็เป็นผู้หญิง แล้วเธอก็ดันสวยมาก” “ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันแค่คิดว่าแบบนี้ไม่ค่อยดี เพราะฉันก็เพิ่งมาที่นี่แค่สองวัน” กชวรรณพูด “สาวน้อย ก่อนอื่นเธอต้องรู้ไว้ว่า เธอมาที่นี่ ไม่ใช่ที่อื่น ผู้คนที่นี่ ทุกคนจิตใจดี คนที่นี่เป็นคนจริงใจ ดังนั้นพวกเขาไม่ได้ซับซ้อนอะไรเหมือนที่เธอคิดหรอก เขาแค่ชอบคบกับคนที่จริงใจ ถ้าคุณคิดว่าตัวเองไม่จริงใจพอ งั้นก็คิดเสียว่าผมไม่เคยพูดแล้วกัน” พูดจบ ณภัทรก็ยืนขึ้น “ฉัน……” กชวรรณพูดแล้วหยุด ณภัทรยกไหล่ขึ้น แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร พวกเราเข้าใจ ยังไงก็ยังมีเวลา ถ้าคุณตัดสินใจได้แล้ว ค่อยมาหาพวกเราแล้วกัน พวกเรายินดีต้อนรับคุณเสมอ” พูดจบ เขาก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม แล้วพูดคุยกับเพื่อนๆโต๊ะนั้นต่อ ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มระเบิดเสียงหัวเราะ ดูมีความสุขกันมาก เหมือนเด็กที่ไม่ต้องคิดอะไร เหมือนพวกเขาไม่ต้องกังวลอะไรกับชีวิต ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้จะมีข้าวกินไหม หลังจากพวกเขากินข้าวเสร็จ ทุกคนต่างก็ลุกขึ้น แล้วเดินไปยังทางออก แถมตอนที่กำลังออกจากร้าน ไม่มีใครสักคนที่จะหันกลับมามองกชวรรณ ทำให้กชวรรณที่มองพวกเขาอยู่ตลอดรู้สึกแปลกใจมาก ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นแบบนั้น พอกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ กชวรรณก็กลับไปยังห้องของตัวเอง นั่งอยู่สักพัก ก็ออกไปเดินในเมืองดาว ระหว่างทาง เธอเห็นศิลปินอยู่มากมาย บางคนก็หัวล้าน บางคนก็ผมยาว แต่งตัวแปลกๆ แต่ว่าแววตาของพวกเขาดูเป็นคนดี ไม่มีใครดูโมโหหรือโกรธเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะบรรยากาศของที่นี่ คนที่นี่ให้ความรู้สึกสงบและใจเย็น โดยเฉพาะเวลาอยู่บนถนน กชวรรณออกมาข้างนอก ก็เริ่มดูแผนที่ เธออยากไปที่โรงหนังที่รับนักแสดงประกอบ เพราะเธอมาที่นี่เพื่อเป็นดารา แล้วการที่จะเป็นดาราโดยที่ไม่มีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ต้องไต่เต้าด้วยตัวเองแล้วนั้น ลองมาเป็นนักแสดงประกอบก่อน บางทีถึงตอนนั้นอาจจะมีผู้กำกับบางคนมาเห็นแวว ว่าตัวเองสามารถเป็นนางเอกได้ เพราะโอกาสแบบนี้มันก็มีอยู่ เช่นนักแสดงบางคนเริ่มต้นมาแบบนี้เหมือนกัน ครั้งนี้ เพื่อเป็นการประหยัด ไม่ใช้เงินเปลือง กชวรรณเลยเลือกที่จะนั่งรถเมล์ เปลี่ยนรถสามรอบ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณสองชั่วโมง เธอจึงมาถึงโรงหนัง แต่ว่าพอมาถึงที่โรงหนัง ก็พบว่ามันปิดอยู่ วันนี้เป็นวันเสาร์ เธอเพิ่งรู้ว่าขจริงๆแล้วโรงหนังนั้นปิดวันเสาร์ ยืนอยู่หน้าตึกที่ใหญ่แบบนี้ กชวรรณรู้สึกว่าความฝันนั้นยิ่งใหญ่ มีคนมานอนอยู่ที่นี่มากมาย บางคนดูสดใส บางคนดูเหน็ดเหนื่อย พวกเขาต่างก็รอคอยเวลา การรอคอยบางทีอาจจะไม่สมหวัง บางทีโอกาสอาจจะมาไม่ถึง แล้วรอคอยไปแบบนี้ รอจนหมดวัยหนุ่มสาว จนกระทั่งถึงวันที่ตัวเองแก่แล้ว ก็ยังอยู่ที่นี่เพื่อรอ…… จริงๆแล้ววันนี้ที่เธอมาเห็นถือว่าเป็นครั้งที่มีคนน้อยที่สุด มีคนหลายคนที่มานั่งกินข้าวกล่องอยู่หน้าโรงหนัง เพราะพวกเขาบางคนก็ได้รับข่าวคนที่อยากเป็นนักแสดงประกอบ สำหรับกลุ่มคนที่มาถ่ายหนัง พวกเขาไม่ได้แบ่งเป็นอาทิตย์ๆ แต่สำหรับคนที่มาลงชื่อนั้น ต้องแบ่งเป็นเสาร์อาทิตย์ กชวรรณมองโรงหนังแห่งนี้ มองดูตรงลานหน้าทางเข้า มีหลายคนมาหยุดอยู่ตรงนี้ มีบางคนมาเยี่ยมชมเฉยๆ หรือบางคนก็แค่ผ่านมา แต่ที่เยอะที่สุดก็คงจะเป็นคนที่มาเป็นนักแสดงประกอบ พวกเขาดูธรรมดามาก หน้าตาก็ดูธรรมดา มีบางคนที่ดูเด็กกว่าเธอ แต่ดูเหมือนจะไม่มีผู้หญิงเลย หรือบางทีเธออาจจะไม่ควรมาเป็นนักแสดงประกอบที่นี่? แต่ว่า ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ มันยังจะมีทางอื่นอีกหรอ? กชวรรณเริ่มลังเลอีกครั้ง แต่ว่าเธอยังคงยิ้มออกมาได้ คิดว่าเธอนั้นคิดมากเกินไป เพราะในนั้นก็คงมีคนที่อายุประมาณเดียวกับเธออยู่ เพียงแต่วันนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่เท่านั้น ในตอนนั้น มีรถบรรทุกคันใหญ่สองคันขับมาจอดที่หน้าโรงหนัง มีผู้ชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ ในมือถือไมโครโฟนอยู่ แล้วพูดว่า “นักแสดงประกอบทุกคน คือคนที่ได้รับการแบ่งบทแล้ว ให้รีบมาขึ้นรถภายในห้านาที ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องไป” พูดจบ ผู้ชายคนนั้นก็เอาไมโครโฟนลง มองพวกนักแสดงประกอบนั้น มองดูพวกเขาขึ้นไปบนรถบรรทุกทีละคน ราวกับว่าบนรถนั้นมีทองอยู่ กชวรรณมองพวกเขาแต่ละคน ในนั่นมีคนที่อายุประมาณคุณป้าอยู่หลายคน พวกเขาต่างก็ขึ้นรถไปเหมือนกัน พวกเขาดูผอมแต่แข็งแรง หน้าดูคล้ำๆ ดูไม่ค่อยสวย พอพวกเขาทั้งหมดขึ้นไปบนรถ รถก็ออกตัวทันที แต่ว่ามองดูจากสีหน้าของพวกเขาล้วนแล้วแต่มีความสุข หรือว่าพวกเขามีประสบการณ์ที่ดีจากการเป็นนักแสดงประกอบกันนะ? ตอนแรกกชวรรณก็ไม่เข้าใจ แต่ว่าไม่นาน เธอถึงได้เข้าใจ สำหรับคนที่เป็นนักแสดงประกอบมานาน พวกเขาไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะได้เป็นนักแสดงตัวจริงหรือไม่ก็ตาม แต่แค่เป็นนักแสดงที่แสดงได้ถึงบทบาท พวกเขาก็มีความสุขแล้ว พอหนังเข้าโรง ตอนที่ดูหนัง พวกเขาอาจจะพูดกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวว่า “ดูนี่สิ ฉันเป็นทหารคนหนึ่งที่อยู่ตรงนี้ แล้วก็ถูกฆ่าตาย” ตอนที่พูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าคงมีความสุข เหมือนกับว่าตัวเองได้เป็นนักแสดงคนสำคัญ พอพูดจบพวกเขาก็จะไม่ลืมพูดเสริมว่า “ถึงแม้ว่าจะตายแบบนี้ แต่ว่ามันก็ดีนะ เพราะว่าได้เงินมาตั้งสองพันห้าร้อยบาท” กชวรรณมองรถสองคันที่บรรทุกคนจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังกลับ เดินไปยังป้ายรถเมล์ เพราะว่าวันนี้เธอไม่สามารถมาสมัครเป็นนักแสดงประกอบได้แล้ว ทำได้แค่รอให้ถึงวันจันทร์เท่านั้น เมื่อกลับมาถึงปากทางเข้าของเมืองดาว เธอก็เดินเข้าไปข้างใน เดินได้เพียงแค่ครึ่งทาง ก็เห็นว่ามีผู้ชายเดินมาจากด้านหน้า รีบเดินมาอยู่ตรงหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วคุกเข่าลง พูดอย่างเจ็บปวดว่า “คุณไม่ไปจากผมได้ไหม ผมขอร้อง?” “ลุกขึ้นเถอะ ถ้านายยังเรียกตัวเองว่าเป็นศิลปินล่ะก็ ก็รีบลุกขึ้นมา หรือจะให้ฉันเปลี่ยนความคิดที่มีต่อการเป็นศิลปินของนาย” ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างเย็นชา “ผมไม่ลุก นอกจากว่าคุณจะให้อภัยผมก่อน ถ้าคุณไม่ยกโทษให้ผม ผมจะไม่ลุกขึ้นอีกเลย” ฝ่ายชายพูด เขาดูเหมือนเป็นศิลปินคนหนึ่ง มัดผมที่ยาวเอาไว้ “ความรักของพวกเรามันจบลงแล้ว จบไปตั้งแต่เมื่อวานที่พิพิธภัณฑ์แล้ว ตอนนี้ฉันแค่กลับมาเก็บของของฉันเท่านั้น แล้วก็เอาบทกวีที่ให้คุณเมื่อวานกลับไป เพราะฉะนั้น นายไม่ต้องทำแบบนี้ ลุกขึ้นเถอะ” ฝ่ายชายยังคงคุกเข่าอยู่แบบนั้น แต่ไม่ได้พูดอะไรอีกแล้ว ฝ่ายหญิงยื่นมือไปดึงมือฝ่ายชายออก แล้วเดินจากไป ฝ่ายชายยังไม่ลุกขึ้น แต่ว่าไม่ได้หันกลับไปมองฝ่ายหญิงแล้ว จากนั้นไม่นาน เขาก็ร้องไห้ออกมา แล้วยืนขึ้นเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว กชวรรณที่เดินผ่านมา เห็นว่าเขายังหัวเราะออกมา แต่เพียงไปนานเขากลับก้มหน้าไม่พูดอะไร ไม่มีแม้แต่เสียงหัวเราะ ทำให้กชวรรณที่มองดูชายหนุ่มคนนี้อยู่นั้น รู้สึกว่าที่นี่คงไม่ได้มีแต่ศิลปินที่แปลกๆอย่างเดียว ขนาดเรื่องรักๆของที่นี่ยังแปลกได้ขนาดนี้ ตอนที่เธอเดินผ่านห้องดนตรี ก็คิดว่าควรเข้าไปสักหน่อย เธอก็ไม่รู้เหตุผลที่จะเข้าไปหรอก รู้เพียงแค่ถ้าตอนนี้กลับห้องล่ะก็ ยังไงก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี เลยเดินเข้าไปข้างในแทน พอเข้ามาแล้ว ก็เห็นว่าครั้งนี้เป็นตะวันที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ เขายังคงสวมเสื้อยืดที่มีลาย แต่ครั้งนี้กลับเป็นลายครอบครัวพ่อ แม่ ลูก แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็นคนที่ถือกีต้าร์เมื่อวานด้วย “คุณมาแล้ว คุณตอบรับคำเชิญร่วมซ้อมกับพวกเราแล้วหรอ?” ตะวันพูดกับเธอพร้อมรอยยิ้ม “จริงๆแล้วฉันไม่เคยเข้าร่วมคณะขับร้อง ดังนั้น ฉันก็เลยไม่รู้ว่าความสามารถจะดีพอทำได้ตามที่พวกคุณต้องการหรือเปล่า แล้วฉันก็ร้องเป็นแต่เพลงป๊อป เพลงที่พวกนายฟังเพลงร็อค ฉันร้องไม่เป็นหรอก” กชวรรณพูด “จริงๆแล้วมันไม่เป็นไรหรอก แค่คุณร้องเพลงเป็นก็พอแล้ว เพลงอะไรก็ไม่สำคัญ” ตะวันยังคงพูดกับเธอพร้อมรอยยิ้ม
已经是最新一章了
加载中