ตอนที่ 9 รถไฟฟ้ากับพระอาทิตย์ตก

ตอนที่ 9 รถไฟฟ้ากับพระอาทิตย์ตก “ฉันไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อก่อนพวกนายเล่นดนตรีที่นี่ ไม่ใช่เล่นพวกเพลงเฮฟวีเมทัลหรอกหรอ?” กชวรรณถาม “อ่า เฮฟวีเมทัลมันเชยไปแล้ว เมื่อวานพวกเราแค่เกิดมีอารมณ์จะเล่นเลยเล่นขึ้นมา แค่อยากให้เหงื่อออกเท่านั้น จริงแล้วกลุ่มพวกเราไม่ได้ชอบเฮฟวีเมทัลหรอก แล้วคุณก็ดูพวกพี่ชายพวกนี้ คงไม่ใช่พวกบ้าเพลงเฮฟวีเมทัลหรอก ถูกไหม?” ตะวันพูดยิ้มๆ “จริงๆแล้วฉันไม่ค่อยเข้าใจพวกเฮฟวีเมทัลเท่าไหร่หรอก” “ไม่เป็นไรหรอก ผมบอกไปแล้วไง แค่คุณร้องเพลงได้ก็พอ รออีกเดี๋ยวพวกพี่ๆมาถึง แล้วเราค่อยเริ่มซ้อมกัน ผมเชื่อว่าคุณต้องทำให้คณะของพวกเรามีอะไรใหม่ๆอย่างแน่นอน บรรยากาศการซ้อมอะไรแบบนั้น เพราะตอนนี้คณะของพวกเราก็ยังลุ่มๆดอนๆกันอยู่ อยากได้อะไรใหม่ๆบ้าง” “แล้วฉันต้องร้องเพลงอะไรล่ะ?” “คุณชอบเพลงอะไร ที่ผมพูดคือคุณสามารถเลือกประเภทเพลงได้ตามใจเลย แค่เป็นเพลงที่จำเนื้อร้องและทำนองได้ก็โอเคแล้ว” คนอื่นๆในคณะได้มาถึงแล้ว หนึ่งในนั้นมีณภัทรอยู่ด้วย จริงๆเมื่อก่อนเขาเป็นสมาชิกของคณะนี้ แต่ว่าตอนนี้ต้องรับผิดชอบเรื่องเช่าห้องกับห้องดนตรี ก็เลยถอนตัวออกมา ให้คิมเป็นคนตีกลองแทน มือกีตาร์คือบอย ส่วนมือเบสคือ เสือ เพราะท่าทางของเขาช่างดูเหมือนเสือ หลังจากที่ตะวันแนะนำทุกคนไปแล้ว พวกเขาและกชวรรณก็ได้ขึ้นไปยังห้องซ้อมชั้นสอง “โอเค คุณไปนั่งตรงตำแหน่งไมโครโฟน แล้วก็ร้องเพลงที่คุณชอบให้พวกเราฟัง ร้องตั้งแต่ต้นจนจบ” กชวรรณเดินไปนั่งตรงตำแหน่งนักร้องนำ มองหน้าทุกคน จากนั้นจึงเริ่มร้องเพลง เพลงที่เธอร้องคือเพลง “Winter is coming” เป็นเพลงที่เธอค่อนข้างชอบ พอเธอเริ่มร้องเพลง พวกพี่ชายก็ตั้งใจฟังกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตะวัน เขามองกชวรรณไม่วางตา เหมือนกำลังมองดาราที่กำลังร้องเพลงอยู่ แล้วตัวเองเป็นแฟนคลับของดาราคนนั้น เมื่อร้องเพลงจบ กชวรรณก็มองพวกเขา แต่ว่าไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรแล้ว ไม่เหมือนตอนแรกที่เธอกังวลมาก “เพราะมาก” ตะวันพูดขึ้นมาคนแรก จากนั้นพวกพี่ชายต่างก็ปรบมือให้เธ “มา พวกเรามาปรับจูนก่อน จากนั้นก็ให้ฝึกทำนองกับกชวรรณ เพลงนี้พวกเราเคยฝึกมาแล้ว ทุกคนต่างก็คุ้นเคยดี” ตะวันพูด ดังนั้น เมื่อพวกเขาปรับจูนเสร็จ ก็เริ่มการซ้อมอย่างเป็นทางการ ตอนที่เพิ่งเริ่มนั้น พวกเขาเล่นจังหวะเร็วไป ทำให้เธอร้องช้ากว่าจังหวะ พอเธอเริ่มร้องเร็ว พวกเขาก็เล่นตามไม่ทัน แต่พอซ้อมกันไปห้าครั้ง พวกเขาก็หาจังหวะที่ลงตัวกันแล้ว จากนั้นก็สามารถเล่นกันไปได้จนจบเพลง ในตอนซ้อมนั้น สำหรับคนทั้งคณะแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจ ในใจของกชวรรณก็มีความสุข เพราะเธอได้สัมผัสถึงความสุขที่เธอไม่เคยมี เสียงเพลงและการร้องเพลงทำให้เธอมีความสุข “รู้สึกยังไงบ้าง?” ตะวันถามเธอด้วยรอยยิ้ม “อืม ดีมาก” กชวรรณพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม เธอรู้สึกดีมากจริงๆ แล้วก็รู้สึกว่าพวกพี่ชายนั้นดีเหมือนกัน “งั้นพวกเรามาซ้อมกันอีกรอบ ครั้งนี้ต้องดีกว่าเดิม” “ได้เลย!” กชวรรณพยักหน้า เพราะเธอมีความสุขกับการซ้อมมาก ให้ทำอีกครั้ง เธอก็ยินดี “one，two，three เริ่ม” สิ้นเสียงของตะวัน ทุกคนต่างก็เริ่มจังหวะ เพลง “Winter is coming” ฉบับร็อคเล็กๆก็ได้เริ่มขึ้นการซ้อมครั้งนี้ ทำให้พวกเขายิ่งพอใจกับมัน เพราะทำผลงานออกมาได้ดีมาก “กชวรรณ เธอร้องได้ดีมากจริงๆ” คิม มือกลองชมเธอ จริงแล้วเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ แต่เขาคิดว่าหัวหน้าคณะอย่างตะวัน จะต้องรู้สึกดีกับกชวรรณเหมือนกัน เขาเลยไม่อยากจะคิดอะไรเกินเลย “ขอบใจนะ จริงๆแล้วถ้าฉันสามารถร้องเพลงที่พวกคุณแต่งได้ก็จะดีมาก ถ้าได้ซ้อมแบบนั้น คงจะทำให้พวกคุณสนุกมากขึ้นนะ” กชวรรณพูดด้วยรอยยิ้ม “อ่า ก็จริงนะ งั้นตั้งแต่วันนี้ คุณก็เริ่มหัดร้องเพลงของพวกเราแล้วกัน” ตะวันพูด จริงๆเขาเขียนเพลงมาประมาณร้อยเพลงแล้ว แต่เพลงที่เคยเอามาซ้อมนั้นมีแค่ยี่สิบเพลงเท่านั้น เพราะคณะของเขาเพิ่งก่อตั้งมายังไม่ถึงครึ่งปีเลย สมาชิกต่างก็มาจากคณะอื่น เพราะบางคณะของพวกเขาได้แยกทางกันไปแล้ว หรือบางคนก็รู้สึกว่าตัวเองไม่รู้จะอยู่ในคณะนั้นไปเพื่ออะไร เลยถอนตัวออกมา “โอเคค่ะ ว่าแต่ คณะของพวกคุณชื่อว่าอะไรคะ?” กชวรรณถาม “จิตวิญญาณคือชื่อของคณะเรา” ตะวันบอก “ผมหวังว่าคุณจะมาร่วมกับคณะเรานะ ไม่รู้ว่าคุณจะเต็มใจไหม?” “ฉัน…..เข้าร่วมได้หรอคะ? ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ” “ได้สิ ตอนนี้พวกเราอยากจะเล่นเพลงที่แปลกใหม่ แล้วคณะขับร้องที่มีผู้หญิงเป็นนักร้องนำ ฟังแล้วดูดีไม่เบาเลยนะ” “ทุกคนคิดว่ายังไงบ้าง” ตะวันพูด “ผมก็คิดแบบเดียวกัน เราจะไม่พูดถึงเรื่องหน้าตาของคุณ แต่แค่เสียงของคุณก็ทำให้คนหลงใหลได้แล้ว เสียงของคุณถ้าไปขึ้นเวทีประกวด การจะได้ที่สิบอันดับแรกก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย” “ทำไมถึงเป็นสิบอันดับแรกล่ะ?” บอยถาม “เพราะห้าอันดับแรกต้องใช้ตัวเข้าแลกไง แต่ผมเชื่อว่ากชวรรณไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น” ตะวันเพียงแค่หัวเราะ แต่ไม่ได้พูดอะไร กชวรรณในตอนนั้น เธอก็ไม่รู้จะพูดอะไร เธอไม่รู้ว่าการเอาตัวเข้าแลกนั้นหมายความว่าอะไร เธออยากจะถามว่าการเอาตัวเข้าแลกนั้นคืออะไร คือการเอาเงินให้กรรมการหรือเปล่า แต่ว่าเธอไม่อยากให้พวกเขาคิดว่าเธอเป็นคนที่ไม่รู้อะไร เลยไม่ได้ถามออกไป พอเธอเห็นเวลาบนมือถือ ก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะว่าตัวเองอยู่ที่นี่มาประมาณสี่ชั่วโมงแล้ว การซ้อมนี่เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ “ยังไงดี คุณอยากเข้าร่วมกับพวกเราไหม?” ตะวันถามเธออีกครั้ง “เรื่องนี้ฉันยังให้คำตอบพวกคุณไม่ได้ ขอเวลาคิดสักสองสามวันได้ไหม?” “ได้ คุณกลับไปคิดดูก่อนแล้วกัน” ตะวันพูด “โอเค วันนี้ซ้อมกันเท่านี้เถอะ ทุกคนอย่าลืมว่าวันนี้ต้องไปถึง club star ให้ตรงเวลานะ อย่าให้สายนะเข้าใจใช่ไหม?” นี่เป็นคำสั่งอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าเป็นคณะ การมีระเบียบวินัยนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ตะวันคิดว่าการที่เป็นหัวหน้าคณะ ต้องทำให้ทุกคนเคารพในกฏ รอจนคนอื่นในคณะไปหมดแล้ว แต่กชวรรณยังคงอยู่ที่ห้องซ้อม แล้วพูดกับตะวันว่า “วันนี้พวกนายไปร้องเพลงที่ผับหรอ?” “ใช่แล้ว ถ้าคุณมีเวลา ก็ไปดูการแสดงของพวกเราแล้วก็จิบเบียร์สักแก้วสองแก้ว” ตะวันพูด “ได้สิ กี่โมงล่ะ แล้ว club star มันอยู่ที่ไหน” กชวรรณรับถาม เธอยังไร้เดียงสาอยู่มาก ตอนนี้เธอคิดไปว่าการที่ได้ไปร้องเพลงในผับอาจจะเป็นช่องทางในการเป็นดาราก็ได้ เป็นจุดเริ่มต้น เพราะว่ามีนักร้องหลายคนที่เริ่มมาจากการร้องเพลงในผับแล้วถึงค่อยๆมีชื่อเสียงขึ้นมา “วันนี้ทุ่มนึง คุณไปรอผมอยู่ที่ล่างตึก ผมจะมารับคุณไป” เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว กชวรรณกำลังรออยู่ใต้ตึก เธอสวมกระโปรง สามารถมองเห็นขาที่ยาวของเธอ ทำให้ผู้คนที่มองเธออดไม่ได้ที่จะมองขาสวยๆของเธอ รวมถึงสายตาขี้อิจฉาของพวกสาวๆด้วย จู่ๆก็มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาจอดอยู่ข้างๆกชวรรณ คือตะวันนั่นเอง เขาพูดกับเธอด้วยรอยยิ้ม “ขึ้นรถเถอะ พวกเราจะไปกันแล้ว” กชวรรณลังเลอยู่พักหนึ่ง ถึงขึ้นไปนั่งตรงเบาะหลัง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ แน่นอนว่าไม่นับรวมพ่อของเธอนะ “จับแน่นๆนะครับ เพราะว่าถ้าเร่งความเร็ว อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้” ตะวันบอก “เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?” “อืม เรียบร้อยแล้ว” กชวรรณพยักหน้า ตะวันนำรถไปเติมน้ำมันและเติมลมเรียบร้อย เพราะว่ารถของเขานั้น จริงๆถ้าพูดถึงเรื่องความเร็วมันขับได้เร็วสุดแค่ห้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้น ที่เขาพูดไปว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรืออะไร เขาแกล้งให้คนตกใจเล่นเฉยๆ นักร้องนำของคณะนี้ ขับมอเตอร์ไซค์ ยื่นหน้าต้อนรับพระอาทิตย์ที่ตกดิน ด้านหลังมีสาวงามที่ทำให้เขาใจเต้น นักร้องนำในอนาคตอันใกล้ของคณะนี้ กำลังมุ่งหน้าไปยังผับนั่นเอง ระหว่างทาง ลมเย็นๆที่ปะทะหน้า ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุข โดยเฉพาะตะวัน เพราะว่าเขารู้สึกชอบกชวรรณแล้ว เขาอยากที่จะขี่มอเตอร์ไซค์แล้วให้ผู้หญิงที่เขาชอบซ้อนมาโดยลอด เริ่มมาจากความคิดของเขาและการร้องเพลงก็คือความคิดของเขาเช่นกัน