ตอนที่ 164 ความสามารถของเธอ

ตอนที่ 164 ความสามารถของเธอ "ตอนนี้ ฉันพอจะสามารถแย่งงานคุณไปได้หรือยังคะ?" น้ำเสียงของจิดาภาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง ภารดีแทบไม่มีแรงตอบกลับเธอไป ในหัวสมองโล่งไปหมด ถ้าเธอรู้เร็วกว่านี้ว่าจิดาภากับจิรภาสจะสนิทกันถึงเพียงนี้ เธอจะโง่ไปทำอะไรคนของเธอแบบนี้ได้อย่างไรกัน! แต่ทำไมเธอถึงรู้จักกับจิรภาสกัน? แม้กระทั่งสามารถโทรเรียกผู้ช่วยของจิรภาสมาได้เพียงแค่โทรไปหาแบบนี้ ไม่สิ เป็นจิรภาสที่เสนอตัวว่าจะมาเองด้วยต่างหาก แต่กลับถูกจิดาภาปฏิเสธไว้เสียก่อน ผู้รับผิดชอบทางแบรนด์ต้นสังกัดก็กำลังอยู่ในภาวะพิจารณา ทางที่ดีพวกเขาควรจะต้องเปลี่ยนตัวภารดี ถึงจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ รอจนตฤณมา พวกเขาจะต้องให้ความร่วมมือกับทางเค.เอฟ ในระยะเวลาที่ตฤณเดินทางมานั้น ภารดีและผู้จัดการส่วนตัวของเธอนั้นแทบไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ภารดีอยากจะหาโอกาสออกไปจากที่นี่ แต่สถานการณ์ราวกับจะไม่สามารถให้เธอได้หลบหนีออกไปได้เลย อีกทั้งถึงแม้ตอนนี้เธอจะโทรไปขอความช่วยเหลือจากญาณินี หากขัดขวางอำนาจของทางเค.เอฟแล้วนั้น ญาณินีก็คงจะเลือกที่จะปล่อยเธอทิ้งเอาไว้อยู่ดี ภารดีจึงทำได้เพียงทรุดตัวลงแล้วกระซิบขอร้องจิดาภา "ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นศิลปินในสังกัดโอเลเหมือนกัน อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตเลยนะมันจะดูไม่ดี จะขายหน้ากันเสียเปล่าๆ เธอปล่อยฉันไปสักครั้งนะ..." "ไม่มีทาง" จิดาภาตอบกลับไปอย่างเย็นชาเพียงสามคำเท่านั้น "ตั้งแต่ที่คุณเข้าวงการมา ก็คงจะหันกลับไปไม่ได้แล้ว ถ้าคุณจะผิด คุณก็ผิดตรงที่คุณไม่ได้เห็นผู้ช่วยเป็นคนคนหนึ่งเหมือนกับเรา ให้เขามาคุกเข่าลงตรงหน้าคุณแบบนี้ คุณรับได้ใช่ไหมคะ?" "ในเมื่อรับได้ ก็ต้องได้ชดใช้ให้เหมาะสมกับราคาแบบนั้น แบบนี้ถึงจะยุติธรรมอย่างไรล่ะคะ!" จิดาภาไม่สามารถที่จะถอยหลังได้แล้ว เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังสั่งให้ภารดีทำเช่นนี้ทั้งหมดคือญาณินี! ภารดีกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเธอสั่นเทา...เวลานี้ เธอเพิ่งจะรับรู้ได้ถึงความแตกต่างของเธอและจิดาภา "รอผู้ช่วยของคุณจิรภาสมาก่อน จะจัดการอย่างไร...." ภารดีก้มหน้า ไม่ได้รอฟังคำตอบของจิดาภา กลับได้ยินเสียงกระซิบกระซาบคนจากผู้คนที่อยู่รอบๆ "เมื่อปีก่อนมีข่าวออกมาว่าศิลปินคนหนึ่งของเค.เอฟ.กลั่นแกล้งทีมงาน ต่อมาเขาก็ทนอยู่ต่อไปไม่ได้ กลับบ้านเกิดตัวเองไปเสียแล้ว" "ฉันรู้สึกว่า อาณาจักรวงการบันเทิงที่มีระดับสูงอย่างเค.เอฟแบบนั้น ใครหาเรื่องก็เท่ากับต้องเจอจุดจบด้วยกันทั้งนั้น" ภารดีหลับตาลงอย่างเจ็บปวด ส่วนผู้จัดการส่วนตัวของเธอนั้นก็ตกใจเสียจนเหงื่อออกเต็มหน้าไปหมดแล้วเช่นกัน ไม่นาน ตฤณก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆจิดาภา เขาเห็นหน้าพี่นัฎ แล้วจึงเอ่ยถามขึ้นทันที "ใครทำ?" ได้ยินเสียงที่ดูโมโหมากของเขา ภารดีและผู้จัดการของเธอถึงกับขาอ่อน คุกเข่าลงบนพื้นในทันที "ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษค่ะ ขอโทษ!" แม้ว่าจะไม่ต้องฟังรายละเอียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็รู้แล้วว่าพวกเขาทรมานพี่นัฎอย่างย่ำแย่แค่ไหน ทำให้เธอได้รับความทุกข์แบบนี้ จิดาภาก็คงจะไม่โทรไปถึงที่ออฟฟิศคุณจิรภาสหรอก "เธอคือคู่หมั้นของผม พวกคุณกล้าทำกับเธอแบบนี้อย่างนั้นหรือ?" คู่หมั้น? ผู้ช่วยของจิดาภาเป็นคู่หมั้นของตฤณอย่างนั้นหรือ! ข่าวที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ทำให้ทุกคนต่างพากันตกตะลึง และนี่ก็สามารถจะอธิบายได้แล้วว่าทำไมจิดาภาถึงรู้จักกับจิรภาส นี่เป็นเรื่องที่จิดาภาคุยกันกับจิรภาสไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เธอยังต้องคิดบัญชีกับญาณินีอีก ยังไม่อยากให้เธอรู้ความจริงเร็ว แล้วหาทางรับมือได้ แต่เธอก็อยากจะเรียกความยุติธรรมกลับคืนมาให้พี่นัฎ ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีที่เร็วที่สุด "จิดาภา ฉันขอโทษ ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด ฉันไม่ควรทำแบบนี้ คุณตีฉันเลย...ตบฉันอีกสิ! จะทำให้ฉันอับอายอย่างไรก็ได้ ขอเพียงแค่คุณช่วยฉัน ฉันขอร้อง!" ตฤณที่ยืนอยู่ตรงนี้ ซึ่งก็เท่ากับว่าจิรภาสก็ยืนอยู่ตรงนี้ด้วยเช่นกัน! ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา ก็เท่ากับไม่สามารถหลุดพ้นจากเค.เอฟไปได้อยู่แล้ว และยิ่งไปกว่านั้นจิรภาสได้พูดไว้ในปลายสายเมื่อครู่แล้ว ว่าไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม จะต้องช่วยจิดาภาจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วภารดีจะกล้าเคลื่อนไหวต่อไปได้อย่างไร ผู้รับผิดชอบทางแบรนด์ต้นสังกัดจึงประกาศแจ้งออกมาอย่างเป็นทางการ ว่าจะเปลี่ยนตัวภารดี! ข่าวที่กลายเป็นกระแสดังนี้ ไม่ถึงเพียงสิบนาที ทางออฟฟิศของโอเลก็ได้รับสายจากการโทรมายกเลิกสัญญากับภารดีและผู้จัดการของเธออย่างนับไม่ถ้วน ขัดใจกับคนของเค.เอฟแบบนี้ ใครจะกล้าจ้างงานเธอกัน? เธอกลั่นแกล้งผู้ช่วยของศิลปินในสังกัดเดียวกันต่อหน้าผู้คน อย่างไร้คุณธรรมเช่นนี้ก็สมควรแล้ว! เค.เอฟไม่เคยแทรกแซงเข้าไปยุ่งเรื่องภายในของบริษัทอื่นๆอยู่แล้ว ครั้งนี้ภารดีไปหาเรื่องกับคนที่ไม่ควรหาเรื่อง จึงโดนแบบนี้ หลังจากที่จิดาภาช่วยพี่นัฎแล้วนั้น จึงรีบนั่งรถไปยังสถานที่ถ่ายทำรายการสัมภาษณ์ของจรินทร์ในทันที หากตามเวลาที่วางไว้แล้ว ระยะทางในตอนนี้กับเวลาที่จะถ่ายทอดสดมีเพียงแค่ห้านาทีเท่านั้น! แต่เธอจะปล่อยให้หลุดมือไปไม่ได้ เธอต้องการให้ญาณินีรู้ว่าทำอะไรกับคนของเธอ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร! พี่นัฎกังวลเป็นอย่างมาก "จะทันไหม?" เธอรู้สึกผิดโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงแผลบนใบหน้าของตัวเองเลย "พี่มันโง่ พี่มันไม่ดีเอง!" "พูดเหลวไหลอะไรกัน ถ้าหากวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับพี่ ฉันจะใช้ชีวิตอย่างสงบได้ไหม? พี่เป็นครอบครัวของฉัน เป็นคนที่ฉันให้ความสำคัญที่สุด....และมันก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไปด้วย" พี่นัฎรู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาคลออยู่ที่ขอบตา อีกทางด้านหนึ่ง ภพธรได้เตรียมโทรศัพท์มือถือไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว "จิดาภา โอเคแล้ว" จิดาภาพยักหน้ารับ จัดแจงเสื้อผ้าและทรงผมของเธอเล็กน้อย แน่นอนว่าพวกเธอไม่อยากจะพลาดโอกาสในการถ่ายทอดสดรายการนี้ เธอยังมีคำพูดอีกมากมาย ที่อยากจะให้ญาณินีได้ฟัง ตฤณพาพี่นัฎลงจากรถแล้วพาไปซื้อยาลดอาการบวมที่โรงพยาบาล แล้วให้ภพธรขับรถ เพื่อรีบไปยังสถานที่ถ่ายทำ “วันนี้ขอบคุณคุณมากนะคะ...”พี่นัฎไม่รู้ว่าจะหาคำพูดใดเพื่อมาขอบคุณเขา ในหัวของเธอนั้นยังคงมีคำพูดที่เกี่ยวกับคู่หมั้นของเขาวนเวียนอยู่เช่นนั้น เธออายุมากกว่าตฤณสี่ปี รูปร่างและลักษณะท่าทางก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก จะเป็น.... “ฉันรู้ว่าคุณพูดแบบนั้นออกไปก็เพื่อจะช่วยฉัน ถ้าหากว่าแฟนของคุณต้องการให้คุณอธิบายล่ะก็ ให้ฉันไปพบเธอก็ได้นะ” “ผมไม่มีแฟนครับ ไม่มีใครต้องการให้คุณอธิบายอะไรทั้งนั้น” ตฤณขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเอายาวางไว้ให้ในมือของเธอ พี่นัฎตอบรับออกไปอย่างเรียบๆ ไม่มีแฟน แต่ก็คงไม่ได้จะชอบพอเธอหรอก เธอถอนหายใจออกมา ในใจภาวนาให้น้องชายและจิดาภาผ่านทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น! ……. หลังจากที่ญาณินีได้รับโทรศัพท์แล้วนั้น ก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก “คิดไม่ถึงเลย ว่าจิดาภาจะมีความสามารถถึงขนาดนี้!” แววตาของญาณินีนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่แฝงไปด้วยความรู้สึกอิจฉาริษยา สามารถทำให้จริภาสออกหน้าแทนจิดาภาได้! คมสรที่อยู่ข้างๆมองเวลา “แต่เธอไปช่วยพี่นัฎกู้หน้าไว้แบบนั้น ตอนนี้ก็คงจะไปถ่ายรายการสัมภาษณ์จรินทร์ไม่ทันแล้ว ก็เป็นไปตามเป้าหมายคุณแล้วนี่ครับ!” “ถึงแม้ว่าผมเองก็คิดไม่ถึงว่าพี่นัฎจะเป็นคู่หมั้นของตฤณผู้ช่วยของคุณจิรภาสเช่นกัน” “แต่...ดูไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ ถ้าหากตฤณเป็นคู่หมั้นของเธอจริงๆ แล้วทำไมเธอถึงยังเป็นแค่ผู้อยู่เบื้องหลังแบบนี้กัน?” “แต่ถ้าหากเธอไม่ใช่ แล้วตฤณกับคุณจิรภาสจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องมาช่วยออกหน้าแทนจิดาภา!” คมสรส่ายหน้า ทั้งสองความคิดนี้ดูไม่ค่อยจะถูกต้องเท่าไหร่นัก “ผมจะตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่เค.เอฟทำอะไรค่อนข้างจะละเอียดรอบคอบ ไม่รู้ว่าจะสืบหาได้มากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ทางภารดีเองก็ค่อนข้างจะลำบาก เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เธอคงจะไม่พักไม่ได้แล้วล่ะครับ บริษัทหมดไปตั้งเท่าไหร่เพื่อฝึกฝนเธอให้เป็นศิลปินระดับนานาชาติ แล้วความพยายามทั้งหมดก็หายไปแทบไม่เหลือเลย” ญาณินียืดตัวขึ้น ครุ่นคิดการปรับเปลี่ยนต่อไปในอนาคต “เรื่องของภารดีเอาไว้ว่ากันอีกที ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือถ้าเค.เอฟต้องการตัวคนคืนกลับไป เราจะทำอย่างไรดี?” น้องชายของพี่นัฎยังอยู่ในกำมือของเธอ!