ตอนที่ 165 การเปิดตัวที่ไม่ธรรมดา

ตอนที่ 165 การเปิดตัวที่ไม่ธรรมดา นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ญาณินีรู้สึกปวดหัวเป็นที่สุด เธอไม่อยากจะฉีกหน้าเค.เอฟ แล้วก็ไม่อยากปล่อยจิดาภาไปง่ายๆด้วยเช่นกัน “ไม่ต้องยอมรับว่าคนอยู่กับเราก็พอ ความสามารถของพวกเราโอเลถึงแม้จะเทียบกับเค.เอฟไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามเป็นบริษัทที่อยู่ในวงการนี้เหมือนกัน เรื่องยิ่งวุ่นวาย ก็ส่งผลไม่ดีกับทางนั้นด้วยเหมือนกัน” “ฉันไม่เชื่อว่าเค.เอฟจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับโอเลเพียงแค่เพราะคู่หมั้นของผู้ช่วยเขาแบบนี้” “ผมกลับรู้สึกว่าจิดาภาเป็นสิ่งกีดขวางที่ใหญ่ที่สุดของพวกเรา” คมสรเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยออกมา ถ้าหากไม่เป็นเพราะตอนนั้นเพื่อจะจัดการกับจงกลและคมสร ญาณินีก็คงจะไม่รั้นแต่จะเซ็นสัญญากับจิดาภา และก็คงจะไม่ให้ภพธรกลับมาด้วยเช่นกัน สุดท้ายแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นก็มาจากพวกเขาทั้งนั้น แต่ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว จะมาเสียใจภายหลังก็คงไม่มีประโยชน์เสียแล้ว “โชคดี ที่จิดาภาไปอัดรายการสัมภาษณ์นั้นไม่ทัน ถือว่าพวกเรายังพอได้รับชัยชนะในครั้งนี้” แต่เมื่อเพิ่งจะพูดออกไปเช่นนั้น เลขาของญาณินีก็วิ่งเข้ามาเสียก่อน “คุณญาณินีคะ รายการสัมภาษณ์ของคุณจรินทร์กำลังถ่ายทอดสดอยู่ค่ะ แขกรับเชิญยังคงเป็นคุณจิดาภาเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่ะ!” “อะไรนะ!” แต่เวลานี้เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไปปรากฏตัวอยู่ที่สถานีนั้นแบบนี้! คมสรรีบกดเปิดดูทีวี เมื่อเห็นว่ารายการนั้นกำลังถ่ายทอดสดอยู่จริงๆ พิธีกร จรินทร์สวมใส่ชุดเดรสสีม่วงอ่อน นั่งส่งยิ้มอยู่บนโซฟา “สวัสดียามค่ำคืนนะคะท่านผู้ชมทุกท่าน” “วันนี้ แขกรับเชิญพิเศษของรายการเราจะมีเซอร์ไพรส์มามอบให้กับทุกคนนะคะ เรามาต่อสายถึงเธอกันดีกว่าค่ะ มาดูกันนะคะว่าเธอคือใคร?” หลังจากที่จรินทร์กดที่ปุ่มวืดีโอคอลแล้วนั้น บนหน้าจอก็ปรากฏใบหน้าของจิดาภาขึ้นมา เธอถอดเสื้อคลุมเมื่อครู่ออกไปแล้ว สวมใส่ชุดเดรสสีดำชุดนั้น แล้วเอ่ยทักทายจรินทร์ด้วยความดีใจ “สวัสดีท่านผู้ชมและแฟนๆรายการสัมภาษณ์ของคุณจรินทร์ทุกท่านนะคะ ฉันจิดาภาค่ะ” “คุณจิดาภาคะ คุณสามารถบอกฉันได้ไหมคะว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?” และในขณะนั้นเองที่รถของเธอจอดอยู่ตรงหน้าประตูของสถานีพอดี ใบหน้าของจิดาภานั้นไม่ได้ปรากฏอาการลุกลี้ลุกลนเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่เธอมาสาย แต่เธอกลับพูดออกไปด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ฉันอยู่ที่ลานเล็กๆของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งค่ะ” จรินทร์ยิ้มแล้วเอ่ยถาม “รายการของเราเป็นรายการถ่ายทอดสด ดังนั้นแขกรับเชิญพิเศษที่มาจะต้องมาสัมภาษณ์พูดคุยกันที่สถานี ทำไมคุณถึงเลือกวิธีนี้ในการปรากฏตัวออกมาต่อหน้าผู้คนเช่นนี้ล่ะคะ?” จิดาภาดูมีท่าทีลึกลับ แต่พูดออกมาต่อหน้าจอนั้นด้วยความจริงใจ "จริงๆแล้ววันนี้ไม่เพียงเป็นครั้งแรกที่ฉันได้มาร่วมรายการสัมภาษณ์ครั้งนี้กับคุณจรินทร์เท่านั้นนะคะ เป็นอีกวันหนึ่งที่ฉันได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเมืองหินด้วยเช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนั้นมีความหมายกับฉันมาก ดังนั้นในวันนี้ฉันจึงเตรียมวารสารภาพที่มีลายเซ็นฉัน เพื่อที่จะมอบให้กับบรรดาแฟนคลับที่ชื่นชอบฉัน จากนั้นจะขอเชิญพวกเขาเข้าร่วมรายการด้วยกันกับฉันด้วยค่ะ" จรินทร์และเหล่าบรรดาผู้ชมที่อยู่ในสตูดิโอนั้นต่างก็พากันรู้สึกว่าความคิดนี้เป็นการสร้างความสนิทสนมได้อย่างดีมาก ทั้งอากาศด้านนอกนั้นอุณหภูมิไม่สูง จิดาภาสวมใส่เสื้อผ้าก็ไม่ได้หลายชั้นมาก แต่เธอกลับมาส่งมอบความสุขเหล่านี้ให้กับแฟนคลับด้วยตัวของเธอเอง.... "คุณจิดาภาคะ คุณได้ยินเสียงเหล่านี้จากผู้ชมที่อยู่ทางนี้ไหมคะ?" จรินทร์ตะโกน หนึ่ง สอง สาม ผู้ชมทั้งหมดก็ต่างพากันตะโกนขึ้นมา "จิดาภา พวกเราสนับสนุนคุณ!" จิดาภาก้มตัวลงเป็นการขอบคุณด้วยความนอบน้อม "ถ้าอย่างนั้นเราไปหาแฟนคลับของฉันกันดีกว่านะคะ!" คลิปวืดีโอยังคงฉายอยู่ จิดาภาพบกับคนที่เดินผ่านไปแถวนั้นสามคน และพอดีที่พวกเขาล้วนเป็นแฟนภาพยนตร์เธอด้วยกันทั้งสิ้น หลังจากถ่ายรูปกับจิดาภาด้วยความตื่นเต้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงเดินเข้าไปยังด้านในสตูดิโอด้วยกัน ทุกอย่างล้วนดำเนินและถ่ายทำไปตามสถานการณ์จริง จิดาภาไม่ได้ทำให้การอัดรายการนั้นล่าช้าไปเลยแม้แต่น้อย แต่การปรากฏตัวที่ทำให้คนดูได้ใกล้ชิดและแปลกใหม่เช่นนี้ ทำให้เธอได้รับการยอมรับจากผู้ชมได้อย่างเป็นเอกฉันท์ นอกจอนั้น ญาณินีจ้องมองเธอด้วยความเกลียดชัง แล้วตะโกนออกมา "หาวิธีเปลี่ยนรายการนี้ให้ฉันเดี๋ยวนี้!" "คุณญาณินี เรื่องนี้เกรงว่า....สถานีของคุณจรินทร์มีเส้นสาย รายการของเธอนั้นเป็นรายการที่ผู้คนให้ความนิยมกันมาก แล้วอีกอย่างตอนนี้เป็นการบันทึกการถ่ายทอดสด ซึ่งไม่มีการประชาสัมพันธ์" คมสรดูอยู่ด้วยใบหน้านิ่งสงบ เขาประเมินความสามารถของจิดาภาต่ำเกินไปจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ ทักษะการแสดงเธอยอดเยี่ยมมาก! และเมื่อตอนที่จิดาภาปรากฏตัวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นนั้น ความจริงใจและความตรงไปตรงมาของเธอนั้นยิ่งทำให้ผู้ชมชื่นชอบเธอมากขึ้นไปเสียอีก นี่เป็นแบบอย่างที่ดีของศิลปินดังที่ศิลปินคนอื่นๆควรจะเรียนรู้เอาไว้ ถึงแม้ว่าบัตรคำถามนั้นจะถูกเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่ในการถามคำถามของจรินทร์ในรายการนั้น อาจจะเอ่ยถามถึงคำถามที่วิ่งขึ้นมาในระหว่างการถ่ายทำก็ได้ นั่นเป็นสิ่งที่จิดาภาต้องเตรียมตัวรับมือเอาไว้ "ขอเสียงปรบมือต้อนรับคุณจิดาภาของพวกเราอีกครั้งค่ะ" จิดาภายังคงท่าทางอันแสนอ่อนโยนและสงบนิ่งของเธอไว้ หลังจากเอ่ยทักทายเสร็จแล้วนั้น ก็เข้าสู่ช่วงของการพูดความจริง "พวกเราเห็นความพยายามและความทุ่มเทของคุณจิดาภา หลังจากเซ็นสัญญากับโอเลแล้ว คุณจิดาภาก็ได้รับงานBrand ambassador โฆษณาของบริษัทWM เพราะฉะนั้นเรามาเริ่มคำถามแรกกันเลยดีกว่านะคะ...." เมื่อจรินทร์เอ่ยถึงโฆษณาของWM ผู้ชมในสตูดิโอต่างก็พากันตะโกนถึงชายลึกลับผู้นั้นขึ้นมา จิดาภายิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อย จรินทร์โบกมือ "คำถามนี้เอาไว้เป็นคำถามสุดท้ายสิคะ พวกคุณใจร้อนกันเลยจริงๆ ที่ฉันจะถามนั่นก็คือ ตอนนั้นที่ต้องเปลี่ยนตัวคุณรเมศสาเหตุจริงๆคืออะไรคะ?" สมคำร่ำลือจริงๆ ตรงประเด็นเสียเหลือเกิน! "ต้องตอบอย่างละเอียดเลยนะคะ!" คำถามนี้สำหรับจิดาภานั้นนับว่าไม่ได้มีประเด็นอะไร เธอไม่กลัวที่จะผิดใจกับพวกเขาอยู่แล้ว "เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้คุณรเมศมีเชิญฉันไปรับประทานอาหารด้วย แต่ฉันไม่ได้ไปค่ะ เขาก็เลยอยากจะสั่งสอนฉันล่ะมั้งคะ" ประโยคนี้ของเธอเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง มีเสียงเอฟเฟคประกอบดังขึ้น จรินทร์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา "ฉันเป็นพิธีกรรายการมานานขนาดนี้ คุณเป็นศิลปินคนแรกที่มีความกล้าหาญที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลยนะคะ!" “ฉันเพียงแค่พูดความจริงค่ะ เรื่องนี้คนที่อยู่ในตอนถ่ายทำที่กองถ่ายทุกคนต่างก็รับรู้ด้วยกันทั้งนั้น” จรินทร์ขมวดคิ้ว และเปิดบัตรคำถามไปสองแผ่น “ฉันคิดว่าด้วยนิสัยที่เป็นคนตรงไปตรงมาของคุณจิดาภา สองคำถามนั้นคงจะดูเด็กเกินไปสำหรับคุณ ฉันจึงจะไม่ถามคำถามสองข้อนั้น ต่อไปจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับนายจ้างของคุณ บริษัทโอเลค่ะ” “ได้ข่าวมาว่าสองสามวันมานี้งานโฆษณา ถ่ายภาพยนตร์ของคุณถูกแบ่งไปให้กับศิลปินท่านอื่นในสังกัดไปแล้ว ฉันอยากจะขอถามถึงสาเหตุของเรื่องนี้ค่ะ เป็นเพราะระหว่างคุณกับทางโอเลเกิดความขัดแย้งกันหรือเปล่า หรือว่ามีแผนอื่นๆในอนาคตแล้วคะ?” เมื่อกล่าวถึงโอเลแล้ว โอกาสที่เธอรอคอยไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เธอยังต้องการให้ญาณินีไม่มีเส้นทางที่จะเดินต่อไปได้อีกด้วยต่างหาก เธอต้องการให้เธอยินยอมที่จะส่งตัวน้องชายของพี่นัฎกลับคืนมา! ภพธรที่ยืนอยู่ด้านล่างเวที ยืนปาดเหงื่อแทนจิดาภา เนื่องจากเป็นรายการถ่ายทอดสด หากพูดผิดก็จะไม่สามารถเรียกกลับคืนคำพูดเหล่านั้นกลับมาได้ หากจับจุดไม่ได้ อาจจะเป็นการยั่วโมโหญาณินี ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะตรงกันข้ามก็ได้ ใบหน้าของจิดาภาปรากฏรอยยิ้มที่มีความหมายบางอย่าง การแสดงออกของเธอนั้นดูแตกต่างไปจากเมื่อสักครู่ “จริงๆแล้วนี่เป็นผลที่เกิดขึ้นจากการแบ่งงานที่แตกต่างกันภายในบริษัทของพวกเราเองค่ะ โอเลเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของฉัน สำคัญกับชีวิตและงานของฉันมาก คุณญาณินีเธอก็ใส่ใจและเป็นห่วงฉันดีค่ะ หรือบางทีจะเป็นห่วงผู้ช่วยของฉันไปด้วยเช่นกัน” “ผู้ช่วยของฉัน พี่นัฎ เธอมีน้องชายอยู่คนหนึ่ง เขาอยากจะเข้าวงการนี้ และพอหลังจากที่คุณญาณินีทราบเรื่องแล้ว เธอก็ได้พาเด็กคนนั้นไปที่บ้านของเธอ และยังให้ผู้จัดการของบริษัทอย่างคุณคมสรดูแลเขาอีกด้วยนะคะ”