ตอนที่ 172 ความงามของเธอ

ตอนที่ 172 ความงามของเธอ "เดี๋ยวผมไปสืบถึงสถานการณ์ภายในประเทศดูก่อนนะ" ภพธรพูดจบแล้วจึงรีบกลับไปโทรศัพท์ที่ห้องของเขาทันที เขารู้ดีกว่าใคร ว่าตอนนี้ญาณินีกำลังกลัวว่าจิดาภาจะโด่งดังขึ้นกว่าเดิม เธอต้องการเป็นคนที่ควบคุมจิดาภาได้ โดยไม่อาศัยความสามารถที่แท้จริง ใช้เพียงวิธีแทงข้างหลังเช่นนี้ คนแบบนี้ ไม่คู่ควรกับการเป็นประธานบริษัทโอเลเอาเสียเลย เธอไม่ใช่เพื่อนที่เขาเคยรู้จักเมื่อสิบปีก่อนอีกต่อไปแล้ว จิดาภาเชื่อว่าภพธรจะจัดการเรื่องนี้ได้ แต่เธอเองก็รู้ดีว่า ในโลกใบนี้นอกจากจิรภาสแล้ว เธอไม่สามารถที่จะปักใจเชื่อใครได้อีกเป็นคนที่สองแล้ว พี่นัฎเองก็รู้สึกกังวลอยู่บ้าง "ญาณินีอาจจะกำลังสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเค.เอฟ ไม่เพียงแค่เพราะเรื่องการหมั้นกันของพี่กับคุณตฤณ เธอคงกำลังสงสัย จึงต้องการหาหลักฐานมายืนยัน" จิดาภาขมวดคิ้ว "อาจจะเป็นไปได้ค่ะ แต่ทำไมเธอไม่ได้นึกถึงเรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับคุณจิรภาสเลยล่ะคะ" "เธอแน่ใจอย่างนั้นหรือ?" "เธอแอบชอบคุณจิรภาสมาตลอด แต่คุณจิรภาสไม่ได้สนใจเธอเลย คนที่เย่อหยิ่งอย่างเธอ เป็นไปได้อย่างไรคะที่จะดึงความสัมพันธ์ของคุณจิรภาสและนักแสดงตัวเล็กๆอย่างฉันมาเชื่อมโยงต่อกันได้" เธอคงมองว่า จิดาภาไม่คู่ควรกับเขา แต่จะคู่ควรหรือไม่คู่ควรนั้น ไม่ใช่เธอที่จะเป็นคนตัดสินใจ! ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง จิดาภาไม่ได้รู้สึกเกลียดญาณินี แต่กลับรู้สึกเห็นใจเธอมากกว่า นั่นเป็นเพราะเธอไม่ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ และคิดว่าคนอื่นก็จะต้องไม่ได้ด้วยเช่นกัน จิตใจที่อิจฉาริษยาเช่นนี้จะทำร้ายตัวเธอเองเข้าสักวัน และแม้แต่โอเล ก็จะพังลงด้วยเช่นกัน พี่นัฎกลับห้องไปด้วยอาการที่ครุ่นคิด คิดไปคิดมาแล้ว รู้สึกว่าการแสดงของเธอกับตฤณอาจจะยังไม่สมจริงพอ จึงทำให้ญาณินีรู้สึกสงสัยแบบนี้ เธอจะเป็นภาระของจิดาภาไม่ได้ เธอจะต้องช่วยจิดาภา! ดังนั้นพี่นัฎจึงรวบรวมความกล้าส่งข้อความฉบับหนึ่งไปหาตฤณ "ฉันรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเราสามารถทำให้เหมือนจริงขึ้นมาอีกได้ กุญแจบ้านของฉันคุณก็มีแล้ว ช่วงสองสามวันนี้ คุณไปพักที่นั่นสักคืน ให้คนอื่นคิดว่าเราอยู่ด้วยกันแล้ว" เมื่อเห็นคำว่า อยู่ด้วยกัน เช่นนี้ พี่นัฎรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที ตฤณที่กำลังทำโอทีอยู่นั้น เห็นข้อความนี้แล้ว ใจเต้นแรง "คุณจริงจัง?" "......ถ้าคุณไม่ยอมก็ช่างมันเถอะ" ตฤณขมวดคิ้ว แล้วตอบกลับไปอย่างจริงจัง "ช่วงนี้ท่านประธานมีงานเลี้ยงกลางคืนและต้องเข้าร่วมประชุมค่อนข้างบ่อย ผมจะหาโอกาสปลีกตัวไปค่อนข้างยาก อีกอย่างบ้านคุณก็อยู่ไกลจากบริษัทด้วย" พี่นัฎอ่านข้อความที่ตอบกลับมากของเขาแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดต่ออีก ดูแล้ว เธอจะต้องพิจารณาปัญหาทางด้านอีคิวของตฤณเสียหน่อยแล้ว ภายในห้อง จิดาภากำลังมองวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามอยู่ ดวงตาสะท้อนให้เห็นแสงสว่างของดวงดาวบนท้องฟ้า สุดท้ายแล้วญาณินีจะจัดการกับเธออย่างไรกัน? แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ เธอจะเอาคืนพวกเขาเป็นเท่าตัว แต่ถ้าหาก ญาณินีต้องการให้เธอตายล่ะ? ........ จิดาภามาตามคำเชิญของเจนนิเฟอร์ มาดูสถานที่เวทีT ก่อนเวลา ระหว่างทาง ภพธรได้บอกเรื่องที่เขาไปสืบมาให้จิดาภาฟัง "มีนักข่าวสองคนที่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการให้มาทำข่าว ซึ่งคงไม่มายุ่งกับพวกเราอยู่แล้ว ส่วนอีกสองสามคน ผมหาข้อมูลของพวกเขาไม่ได้เลย" "ส่วนข่าวที่คุณเจนนิเฟอร์เชิญให้คุณขึ้นเวทีครั้งนี้ ได้ถูกเผยแพร่ไปในประเทศเรียบร้อยแล้ว พวกทางคุณญาณินีน่าจะมีอะไรเคลื่อนไหวในเร็วๆนี้แหล่ะครับ" พี่นัฎรู้สึกโมโห "คุณญาณินีจะเล่นงานข้างหลังเราอีกแล้วอย่างนั้นหรือ!" จิดาภากำลังคิดแผนการของเธออยู่เงียบๆ ใครจะเป็นคนจัดการกับเธอนั้นไม่สำคัญ สำคัญที่ว่า เธออาจจะต้องเผชิญกับอันตรายที่แฝงอยู่เพียงลำพัง ไม่ได้มีการจัดการที่รอบคอบใดๆ เพียงแต่จะต้องระมัดระวังให้มากเท่านั้น ตอนที่รถของจิดาภามาจอดตรงประตูหน้าทางเข้างานนั้น มีนักข่าวต่างประเทศสองสามคนต้องการที่จะสัมภาษณ์เธอ และเธอตอบรับไปด้วยความยินดี การแสดงออกต่อหน้าเลนส์กล้องด้วยความใจกว้าง อีกทั้งยังใช้ภาษาฝรั่งเศสในการตอบคำถาม ทำให้ได้รับการยกย่องจากสื่อต่างประเทศเป็นอย่างมาก พี่นัฎยืนถือกระเป๋าให้จิดาภาอยู่ข้างๆอย่างมีความสุข ในใจคิด ต่อให้ญาณินีเก่งกว่านี้แล้วอย่างไรกัน! ไม่ช้าหรือเร็วจิดาภาก็จะต้องกลายเป็นศิลปินดังระดับนานาชาติ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอยู่แล้ว ญาณินีขัดขวางจิดาภาไม่ได้หรอก จิดาภาแสดงออกว่าตัวเองรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับคำเชิญจากเจนนิเฟอร์ และเรื่องที่ได้เดินแบบบนเวทีT เพราะถึงอย่างไรญาณินีก็รู้เรื่องนี้แล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเช่นกัน หลังจากนั้นเธอจึงเดินเข้าไปในห้องแต่งหน้าด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม แต่กลับไม่อยากจะเจอกับนายแบบคนนั้นเอาเสียเลย “ผมรอคุณอยู่....” เมื่อเขาเห็นจิดาภาแล้วนั้น แววตาก็เป็นประกายเดินเข้ามาต้อนรับเธอ ถึงแม้ว่าที่นี่จะทักทายกันโดยการกอด แต่เมื่อเธอเห็นเขากางแขนออกนั้น จิดาภาจึงเลือกที่จะถอยหลังเพื่อหลีกเลี่ยงเขาทันที “คุณคนสวย อย่าทำแบบนี้สิ ผมชื่อเจอร์รี่ ผมอยากรู้จักคุณจริงๆนะ ไม่ทราบว่าคุณมีแฟนแล้วหรือยัง?” จิดาภาจึงหมุนตัวเดินกลับออกไปทันที แล้วบอกให้ภพธรติดต่อกับช่างแต่งหน้า และผู้ออกแบบ เธอไม่สามารถจะอยู่กันตามลำพังกับผู้ชายคนนั้นได้จริงๆ ภพธรจึงรีบเข้าไปด้านในแล้วไล่ให้นายแบบคนนั้นออกไป “คนๆนี้ถึงจะดูรู้สึกดีกับคุณ แต่การแสดงออกนั้นชัดเจนเกินไป ผมรู้สึกว่าหน้าจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง เดี๋ยวผมจะไปสืบข้อมูลของเขาว่าช่วงนี้เขามีไปพบใครมาบ้างหรือเปล่า” เรื่องเป็นเช่นนี้ ไม่มีทางที่จะไม่มีการติดต่อกับญาณินี “การเคลื่อนไหวของเธอนั้นเร็วเสียจริงๆ...” สามารถทราบข่าวทางนี้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทั้งยังสามารถจัดวางทุกอย่างได้รวดเร็วอีกด้วยเช่นกัน ดูแล้วพวกเขาคงจะเตรียมตัวไว้ตั้งแต่แรกแล้ว รอให้จิดาภาเดินตกลงไปในหลุมกับดักที่ขุดเอาไว้ ในเวลานี้ภายในประเทศ คมสรที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวกว่าญาณินีนั้น กังวลว่าจิดาภาจะสังเกตเห็น เพื่อหลีกเลี่ยงระยะเวลาอันยาวนานซึ่งจะทำให้เกิดอุปสรรคที่มากขึ้นนั้น เขาไม่ได้รายงานญาณินีก่อน แต่กลับติดต่อกับสื่อแห่งหนึ่ง เอารูปถ่ายในมือที่เขามีอยู่เผยแพร่ออกไป ชื่อของโพสต์นั้นเป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก “โฉมหน้าที่แท้จริงศิลปินสาวคุณธรรมสูง ข้ามน้ำข้ามทะเลพัวพันนายแบบชาย” แม้กระทั่งเนื้อหานั้นมีระบุชัดเจนว่าจิดาภามีคนรักอยู่ตั้งนานแล้ว แต่ปิดบังแฟนคลับและสาธารณชนมาโดยตลอด โดยหวังจะใช้ประโยชน์จากสถานะความโสดของตัวเองกอบโกยเงินทอง แต่ชีวิตส่วนตัวของเธอนั้นอยู่ในช่วงสับสน พอได้พบกับชายหนุ่มหล่อๆก็จะทนไม่ได้ ครั้งนี้ไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ ก็อาศัยความสัมพันธ์นี้กับนายแบบหนุ่มเพื่อขึ้นบนเวทีนานาชาตินี้ เรื่องของจิดาภาถูกขุดขึ้นมาเป็นประเด็นอีกแล้ว? ชาวเน็ตก็พากันเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้ง นี่เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมในวงการบันเทิงนี้ หากเป็นข่าวลือของศิลปินชาย วิธีการมองของแฟนคลับและผู้คนทั่วไปก็จะดูง่ายกว่านี้ แต่ถ้าเป็นข่าวรักสามเศร้าของศิลปินหญิงหรือการแอบคบกันนั้น ก็จะถูกเพ่งเล็งในทันที แม้ลมจะพัดผ่านไปแล้ว ก็จะสามารถถูกขุดเรื่องราวขึ้นมาให้โจมตีกันได้อยู่ดี นี่แหล่ะมนุษย์ เมื่อคมสรลงมือ ไม่นานก็จับจุดอ่อนของอีกฝั่งได้ เป็นไปตามที่ต้องการ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เขายังคงยืนอยู่ในวงการนี้ได้ด้วยสองขาที่มั่นคงเช่นนี้ หลังจากที่ญาณินีเห็นข่าวจากการเคลื่อนไหวของเขาแล้วนั้น เธอจึงเดินถือโทรศัพท์มือถือพุ่งตรงเข้าไปยังออฟฟิศของคมสร แล้วเอ่ยถามเขาไปตรงๆ “ใครให้คุณส่งข่าวไปทั้งๆที่ยังไม่ได้รับการอนุญาตจากฉันกัน!” คมสรครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วจึงเอ่ยตอบกลับไป “พวกเรามีหลักฐานที่เพียงพอแล้ว แน่นอนว่าต้องลงมือให้เร็วที่สุดสิครับ” “จิดาภาเป็นคนฉลาด เราไม่สามารถรอให้เธอจับตัวคนที่เราส่งไปได้ก่อน หลังจากใช้มาตรการแล้วถึงจะลงมือตอนนั้นมันก็สายไปแล้ว แม้แต่ภารดีเธอยังกล้าตบตีเธอมาแล้ว แล้วยังมีอะไรอีกกันที่เธอจะไม่กล้าทำ!” ญาณินีไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอต้องยอมรับว่าที่คมสรพูดนั้นก็สมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน แต่เธอไม่ชอบการกระทำที่เย่อหยิ่งทำอะไรเองแบบนี้ “ตอนนี้จิดาภาอยู่ต่างประเทศ ขอเพียงแค่บริษัทไม่ออกหน้ามาลบล้างความผิดนี้ให้เธอ รอจนเธอกลับมาตอนนั้น ก็กลายเป็นขี้ปากของชาวเน็ตและพวกแฟนคลับแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี” แววตาของญาณินีนั้นต่างออกไป “กลัวว่ามันจะไม่ง่ายแบบนี้น่ะสิ ตอนนั้นข่าวลืออื้อฉาวเรื่องที่เธอไปนอนกับผู้ชาย เธอก็ยังข้ามผ่านมาได้” --โปรดติดตามตอนต่อไป 14/12/2019--