ตอนที่ 173 ให้เธอหายไป

ตอนที่ 173 ให้เธอหายไป “ครั้งนี้ไม่ง่ายแบบนั้นหรอกครับ” คมสรวางแผนทุกอย่างไว้เป็นอย่างดีแล้ว เขาจะไม่ให้จิดาภามีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากอีกเลย อีกทั้งครั้งนี้ก็ไม่มีใครหน้าไหนช่วยเธอได้ทั้งนั้น เป็นไปตามที่คมสรคาดการณ์ไว้ เมื่อโพสต์นั้นปรากฏออกไป ผู้คนมากมายก็พากันโจมตีจิดาภา “รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ ดูเป็นผู้หญิงคุณธรรมสูงส่ง แต่ข้างในนั้นไม่คิดเลยว่าจะหลงระเริงได้ถึงเพียงนี้” “ได้ยินมาว่าตอนที่เธอไปถ่ายโฆษณาที่ต่างจังหวัด ก็ไม่เคยพักที่โรงแรมที่บริษัทจัดให้เลย ดูแล้ว คงจะนัดพบใครไว้บ่อยๆสินะ” “เมื่อก่อนเธอเคยบอกไว้ว่าไม่มีแฟนนี่? หรือเป็นการหลอกลวงแฟนคลับกัน!” “นายแบบต่างประเทศหล่อขนาดนั้นเลยหรือ? ฉันว่าไม่เท่ากับหนุ่มลึกลับคนนั้นหรอก สายตาเธอมีปัญหาไปแล้ว!” โพสต์นี้จากการที่ดูจากอัตราการกดอ่านและจำนวนการดูผ่านๆแล้วนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูเป็นเรื่องสนุกปากกันไปแล้ว ดูๆแล้วนั้นเขาจะพนันได้ถูกทาง ร่วมมือกับคมสรครั้งนี้ สามารถทำให้บริษัทของพวกเขาโด่งดังขึ้นมาได้ แต่เมื่อสื่อต่างๆต้องการจะสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของโอเลนั้น เพื่อถามถึงเรื่องราวความเป็นจริง กลับถูกคมสรขวางไว้เสียอย่างนั้น ทั้งยังประกาศออกมายังภายในบริษัท ว่าการสัมภาษณ์ที่เกี่ยวกับจิดาภาทั้งหมด ใครก็ห้ามเปิดเผยออกมาแม้แต่คำเดียว มิเช่นนั้นจะถูกไล่ออกทันที ทางฝ่ายโอเลเองก็ไม่อธิบายหรือชี้แจงใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ดูเหมือนจะปล่อยให้ทุกอย่างให้เป็นไปเช่นนั้น เมื่อนึกไปถึงท่าทางในการให้สัมภาษณ์ของจรินทร์เมื่อสองสามวันก่อน ยากที่จะไม่ทำให้คนอื่นต้องคิดว่าจริงๆ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างโอเลกับจิดาภานั้นเป็นอย่างไรกันแน่! และก็มีสื่อที่ติดต่อไปยังภพธรด้วยเช่นกัน แต่ภพธรที่กำลังช่วยจิดาภาจัดการเรื่องงานทางนี้อยู่นั้น ไม่สามารถปลีกตัวไปได้ จึงให้พี่นัฎไปดูสถานการณ์ให้ก่อน หลังจากที่นัฎทราบเรื่องแล้วนั้น เธอจึงรีบซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อจะบินกลับไปคิดบัญชีกับญาณินี “อย่าเพิ่งบอกจิดาภานะ ไม่อยากให้ต้องกระทบกับการแสดงในโชว์สุดท้ายของเธอ” “เรื่องนี้จะต้องเป็นการวางแผนร่วมกันของญาณินีกับคมสรแน่ๆ ทำเกินไปแล้ว....” ภพธรเองก็หาที่เงียบๆแล้วกดโทรออกหาญาณินีทันที “นี่เป็นหลักฐานที่พวกคุณเตรียมไว้เพื่อใส่ร้ายจิดาภาอย่างนั้นหรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเล่นอะไรเป็นเด็กแบบนี้” ญาณินีไม่ใช่คนที่เขารู้จักในตอนนั้นอีกต่อไปแล้ว “ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน ความประพฤติของจิดาภาไม่เหมาะสม โทษฉันไม่ได้นะ ฉันก็ต้องเตือนคุณไว้หน่อยแล้วกัน ตอนนี้ออกห่างจากจิดาภาซะ ฉันจะยังให้โอกาสคุณ อย่ารอจนเส้นทางในวงการนี้ของเธอถึงจุดจบ พอถึงตอนนั้นผู้จัดการอย่างคุณก็จะมาเสียใจทีหลังนะ!” “ผมไม่เสียใจหรอกครับ” ภพธรรู้ดี ว่าเขาจะไม่ทิ้งสถานะผู้จัดการส่วนตัวนี้เป็นอันขาด และในตอนที่ญาณินีค่อยๆบีบให้แน่นขึ้นนั้น เขาจึงรู้สึกได้ว่า การตายของวรมนนั้นไม่น่าจะใช่อุบัติเหตุ “ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นคุณก็รอดูแล้วกัน ฉันจะทำให้ชื่อของจิดาภาหายไปจากวงการนี้เอง!” “แค่ไม่ทำตามคำสั่งของคุณ คุณก็ทำเรื่องเลวร้ายได้ขนาดนี้ ผมว่ามีคนอย่างคุณเป็นประธานบริษัท โอเลคงอยู่ต่ออีกได้ไม่นานแล้วล่ะ” ภพธรสูดหายใจเข้า แล้วเอ่ยถาม “เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ผมขอถามคุณเป็นครั้งสุดท้าย การตายของวรมน คุณเกี่ยวข้องด้วยใช่ไหม!” เมื่อได้ยินชื่อนี้ราวกับถูกดึงลงไปในความทรงจำ ญาณินีอึ้งไปพักหนึ่ง “การตายของเธอเป็นอุบัติเหตุ! จิดาภาไม่เหมือนเธอ จิดาภาทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับสิ่งนั้น!” ภพธรได้ยินเสียงตัดสายจากทางฝั่งนั้น แววตาของเขาเริ่มสลดลง ญาณินีก็ไม่ได้หาเหตุผลอะไรมาหักล้างการตายของวรมน..... เขาจึงเอาเสียงที่บันทึกนี้ส่งให้กับจิรภาส ในเวลาเช่นนี้ มีเพียงจิรภาสเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถจะจัดการกำจัดสภาพการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ของจิดาภาได้ ส่วนจิรภาสนั้นตอบกลับเขามาเพียงประโยคเดียว "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ปกป้องจิดาภาให้ดี" เมื่อได้ฟังเสียงบันทึกนี้แล้ว จึงให้ตฤณตัดเอาแค่เฉพาะตอนที่เกี่ยวกับวรมน หลังจากนั้นจึงให้เขาส่งคลิปนั้นลงบนอินเตอร์เน็ต อีกทั้งให้อยู่บนรายการค้นหายอดนิยมค้างไว้เป็นเวลาหนึ่งเดือน! ในเมื่อพวกเขารังแกจิดาภาโดยไม่มีผู้อยู่เบื้องหลังแบบนี้ เขาก็จะทำให้ทุกคนได้เห็นว่า จิดาภาไม่ใช่คนที่พวกเขาจะมาใส่ร้ายป้ายสีได้แบบนี้! คมสรที่เพิ่งจะลงข้อมูลไปนั้นราวกับถูกคลิปเสียงนี้ฆ่าไปในวินาทีเดียว นี่สิถึงจะเป็นเรื่องจริง! ประธานบริษัทโอเลต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง ทำกับศิลปินอย่างร้ายกาจเช่นนี้ ทำให้ชื่อเสียงของศิลปินแปดเปื้อนได้เองแบบนี้ เก่งเสียจริงๆ! ญาณินีถูกบีบบังคับอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอต้องเผชิญกับบรรดานักข่าวที่ห้อมล้อมเธอไว้ ทำได้แค่เพียงปิดประตูอยู่ด้านในไปแบบนั้น ในที่สุดเธอก็รับรู้ว่าเธอไม่สามารถเอาเรื่องของภพธรกับจิดาภามารวมกันได้อีกต่อไปแล้ว! เธอจะต้องกำจัดคนที่อยู่รอบๆข้างจิดาภาให้หมด "เรียกตัวภพธรให้กลับมาจากปารีสเดี๋ยวนี้ แล้วส่งผู้จัดการคนใหม่ไปให้จิดาภา!" ในเมื่อเธอไม่สามารถควบคุมจิดาภาได้ ก็ต้องทำลายเสียให้หมด! แต่ญาณินีไม่อาจจะรู้ได้เลยว่า ที่สถานการณ์พลิกกลับมาได้รวดเร็วเช่นนี้นั้น ไม่ใช่เพียงแค่ความดีความชอบของผู้จัดการส่วนตัวอย่างภพธรเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีจิรภาสผู้อยู่เบื้องหลังจิดาภาด้วยเช่นกัน บริษัทเค.เอฟเป็นทางเดินในอนาคตของจิดาภา อีกทั้งจะไม่มีทางสั่นคลอนด้วยเช่นกัน ........ งานแสดง ณ กรุงปารีส จิดาภาที่สองวันนี้ยุ่งกับเรื่องการเดินแบบ ซึ่งมีโอกาสได้รู้จักผู้คนจำนวนไม่น้อยในวงการแฟชั่นระดับนานาชาติ แทบจะไม่มีเวลาได้ดูโทรศัพท์มือถือเลย จึงไม่ได้สังเกตเห็นการโต้แย้งกันของสื่อภายในประเทศ เธอใช้เวลาพักไปกับการวีดิโอคอลกับจิรภาส แต่สามีที่รักของเธอนั้นไม่อยากให้เธอต้องเบนความสนใจกับเรื่องพวกนี้ จึงไม่ได้พูดถึงเลยแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากที่โอเลตกอยู่สถานการณ์ทุกข์ยากลำบากเช่นนี้ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่พวกเขาทำตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ก่อนจะแสดงโชว์นั้น จิดาภารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอจับกระโปรงของตัวเองไว้ แล้วปลอบใจตัวเอง ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ใช่นางแบบมืออาชีพ หากเกิดอะไรขึ้นบนเวทีล่ะก็....ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ ทั้งหมดเธอจะต้องพึ่งพาตัวเองเพียงเท่านั้น! "อย่ากังวลไปเลย วันนี้เธอสวยที่สุดในบรรดานางแบบทั้งหมดเลยนะ" พี่นัฎช่วยเธอจัดแจงเสื้อผ้าไปด้วยและให้กำลังใจเธอไปด้วย จิดาภานั่งอยู่ในห้องแต่งหน้า สูดหายใจเข้าลึกๆ "ฉันรู้สึกเหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าเลนส์กล้องเป็นครั้งแรก แปลกจัง.." นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เธอจะได้พิสูจน์ตัวเอง! หากเดินแบบในงานแสดงโชว์นี้เสร็จสิ้นลง เธอจะเป็นที่ยอมรับของทุกคน เธอจะได้เป็นศิลปินเอเชียหญิงคนแรกที่ได้เดินแบบในการแสดงชุดสุดท้ายของงานแฟชั่นในครั้งนี้ ความเฉิดฉายรุ่งโรจน์เช่นนี้ เธอจะต้องพยายามทำให้ได้ "สู้ๆนะ พวกเราจะรอดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธออยู่ทางด้านล่างเวที" พี่นัฎส่งยิ้มอย่างลึกลับให้กับเธอ จิดาภาจับมือพี่นัฎ เมื่อได้ยินผู้ช่วยผู้กำกับทางนั้นตะโกนให้เตรียมตัวแล้วนั้นจึงเอ่ยบอกกับพี่นัฎ "พี่ออกไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเจอกัน" พี่นัฎพยักหน้ารับแล้วเดินออกไป ไม่ได้บอกกับจิดาภา ว่าตอนนี้ทางด้านล่างเวทีคนที่รอดูเธออยู่นั้นไม่ได้มีเพียงแค่เธอกับภพธรเพียงเท่านั้น ยังมีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อภรรยาของเขาอีกครั้ง เวลานี้เองภพธรก็ได้รับจดหมายแจ้งจากทางบริษัทโอเล แจ้งว่าเขาไม่ใช่ผู้จัดการของจิดาภาอีกต่อไปแล้ว พี่นัฎที่ออกจากทางด้านหลังเวที เห็นภพธรที่ยืนเหม่อลอยอยู่ทางหน้าประตูนั้น จึงเอ่ยเรียกเขา "งานจะเริ่มแล้วนะ ไม่เข้าไปด้านในหรือคะ?" ภพธรจึงเรียกสติกลับมา มองพี่นัฎอย่างลังเล แล้วก็กลืนคำพูดเหล่านั้นลงไปในที่สุด ตอนนี้คงไม่มีเรื่องอะไรสำคัญไปกว่างานแสดงโชว์ในตอนนี้แล้ว แต่ไม่ไกลจากพวกเขานั้น นักข่าวต่างประเทศสองคนกำลังขยับกล้องกันอยู่ "ข่าวคุณแม่นอยู่ใช่ไหม? เจอร์รี่จะลงมือบนเวทีผลักศิลปินเอเชียหญิงคนนั้นล้มบนเวทีจริงๆใช่ไหม?" ศิลปินเอเชียหญิง? ในงานนี้ เกรงว่าจะมีเพียงแค่คนเดียวคือจิดาภา!