ตอนที่ 175 เธอไม่มีสิทธิแตะต้องเขา
1/
ตอนที่ 175 เธอไม่มีสิทธิแตะต้องเขา
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 175 เธอไม่มีสิทธิแตะต้องเขา
ตอนที่ 175 เธอไม่มีสิทธิแตะต้องเขา ทั้งสองได้รับความรู้สึกอันแสนอบอุ่นนี้ โอบกอดอีกฝ่ายไว้ เข้าใกล้ มีกันและกันอยู่แบบนี้..... จิดาภากอดผู้ชายคนนี้ไว้ภายใต้แสงไฟสลัวๆ ทุกวินาทีที่สบตาเขา ช่างยากเหลือเกินที่จะไม่ทำให้เธอต้องตกหลุมรักเขา ผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ! ความอ่อนโยนอบอุ่นภายในห้อง ทั้งสองต่างก็ได้รับความสุขอย่างถึงที่สุด จิรภาสแทบจะไม่อยากปล่อยเธอแม้สักช่วงเวลาเดียว แต่จิดาภายังคงมีงานต่ออีกสองสามวัน เขาคงไม่สามารถให้เธอต้องเหนื่อยเสียจนลงจากเตียงไม่ไหวแบบนั้นได้ พวกเขาอยู่บนเตียงกันอย่างเงียบๆ คลุมด้วยผ้าห่ม โอบกอดกันและกันไว้ จิดาภาได้กลิ่นอันแสนคุ้นเคยบางๆจากร่างกายของเขา แล้วจูบลงที่ใบหน้าด้านข้างของเขา "เหนื่อยไหม?" จิดาภาเม้มปากแล้วยิ้มอย่างอายๆ "ไม่ค่ะ ฉันยัง....." รอยยิ้มที่ยวนยั่วปรากฏออกมา และมือของเธอที่เริ่มไต่ขึ้นไปบนไหล่ของเขาอีกครั้งหนึ่ง จิรภาสยกริมฝีปากขึ้น "ผู้ชายจะว่าไม่ไหวก็คงไม่ได้ แต่ผมอยากจะเก็บแรงเอาไว้ต่อไปในอนาคต แล้วค่อยๆต้องการ......." ความงดงามของผู้หญิงคนนี้ คุ้มค่ากับหัวใจของเขาไปตลอดชีวิต จิดาภาประทับจูบลงไปบนริมฝีปากของเขาอีกครั้ง "ฉันฟังคุณอยู่แล้วค่ะ" การเคารพซึ่งกันและกันเป็นสาเหตุสำคัญของความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ตอนที่รักกันก็จะใช้ความรักทั้งหมดที่มี ตอนที่จะปกป้องกัน ก็ต้องให้ความเคารพกับอีกฝ่ายหนึ่งด้วย "จริงๆแล้ววันนี้ผมอยู่ทางด้านล่างเวที รู้สึกกังวลแทนคุณมาก ยังดีที่ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น" จิรภาสยอมรับออกมากับเธอ ประธานบริษัทเค.เอฟอย่างเขา มีงานแบบไหนที่จะไม่เคยเจอบ้าง แต่เมื่อถูกลากไปเกี่ยวกับจิดาภาแล้ว ถึงแม้เขาสามารถเผชิญหน้ากับมันได้อย่างสงบนิ่ง แต่ในใจกลับเป็นกังวลแทนเธอ นั่นเป็นเพราะเขาไม่อยากเห็นจิดาภาได้รับความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย "พี่นัฏมาหาฉันที่หลังเวที แล้วบอกเรื่องนี้กับฉันแล้วค่ะ ฉันจึงให้พี่นัฎไปช่วยจัดการกับชุดที่เขาจะใส่ ใส่ริบบิ้นและเข็มหมุด เขาเองก็รู้สึกว่าชุดที่ใส่ไม่ปกติเท่าไหร่นัก แต่ก็เปลี่ยนไม่ทันแล้ว เขาจึงต้องคอยระวังการเคลื่อนไหวของตัวเอง จึงไม่ได้มายุ่งวุ่นวายอะไรกันฉันค่ะ" จิรภาสได้ยินดังนั้นแล้ว ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย มิน่าล่ะเขารู้สึกว่านายแบบคนนั้นเดินแบบได้ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก "ฉันจะยอมให้คนอื่นมาทำร้ายฉันง่ายๆแบบนั้นได้อย่างไรกันคะ?" จิรภาสลูบผมยาวๆของเธอ "ไม่รู้จะทำอย่างไรกับคุณดีจริงๆ" จิดาภาไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยสักครั้ง เพียงแต่นอกจากเรื่องที่เดินแบบเมื่อครู่แล้วนั้น ก็ยังมี...... "แต่ทางญาณินีมีการเคลื่อนไหวใหม่อีกแล้วนะครับ โอเลประกาศคำสั่งออกมา ว่าจะถอดภพธรออกจากตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัว" "ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะคะ?" เมื่อได้ยินดังนั้นจิดาภาจึงรู้สึกสงสัย "แต่ตอนที่กลับมาเมื่อครู่นี้ คุณภพธรไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้เลย" "เขาเป็นคนที่เต็มที่กับงาน คงจะไม่อยากให้ส่งผลกระทบต่อคุณ" จู่ๆจิดาภาก็รู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่นัก ถึงแม้ว่าภพธรจะเป็นคนที่ญาณินีจัดมาให้เธอนั้น แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้เธอไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไรในตัวของภพธรแล้ว อีกทั้งเมื่อมีภพธรมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอคอยช่วยเหลือเธอ ทำให้เธอกับพี่นัฎรู้สึกวางใจได้มากขึ้น และเมื่อตอนนี้เป็นเช่นนี้แล้ว จิดาภาไม่มีทางยอมแน่นอน "คุณจิรภาสคะ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน แต่ตอนนี้เขาเองก็เป็นเพื่อนของฉันด้วย คุณญาณินีคิดที่จะดึงตัวเขาไปจากฉัน ฉันยังสามารถรับได้ แต่ฉันไม่อยากเห็นคุณภพธรได้รับการทำร้ายใดๆจากโอเลเพียงเพราะเรื่องของฉัน" "จากนิสัยของคุณญาณินี เธอคงไม่ปล่อยเขาไปแน่" จริงๆแล้วในใจของพวกเขารู้ดีว่าที่โอเลออกคำสั่งเป็นทางการไปแล้วนั้น นั่นก็หมายความว่าเรื่องนี้ไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้แล้ว ภพธรได้ถูกกำหนดไม่ให้เขาได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของอีกต่อไปแล้ว จุดนี้ ภพธรเองก็เข้าใจอย่างชัดเจนเช่นกัน รู้จักญาณินีมานานขนาดนี้ มองเห็นโอเลกลายมาเป็นเช่นนี้กับตาตัวเอง เขาเองก็รู้สึกด้านชาไปเสียแล้ว หลังจากกลับเข้าห้องพักที่โรงแรม เขาจึงจัดแจงแยกประเภทงานช่วงหลังๆของจิดาภาให้เรียบร้อย แล้วยังบอกเรื่องที่จะต้องระวังในสัญญาให้กับพี่นัฎด้วย รวมถึงแหล่งสนับสนุนใดบ้างที่จิดาภาเธอควรจะได้รับ กล่าวได้ว่า เขาเองก็ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว "พอแล้ว คุณไม่ต้องพูดแล้วล่ะ ฉันไม่อยากฟัง!" พี่นัฎไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่ในใจเธอรู้สึกเสียใจ "ไม่ต้องไปไม่ได้หรือคะ?" เธอมองภพธร แล้วเบะปาก "ฉันยอมรับ ว่าเมื่อก่อนฉันเคยสงสัยคุณ คิดว่าคุณจะต้องไม่ใช่จิดาภาด้วยความจริงใจแน่ๆ แต่ผ่านเรื่องราวกันมาขนาดนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าจิดาภาจำเป็นต้องจะต้องมีผู้จัดการส่วนตัวอย่างคุณอยู่ด้วย!" พูดไปได้เพียงแค่ครึ่งเดียว ดวงตาของพี่นัฎมีประกายน้ำตาคลออยู่ "แล้วอีกอย่าง...พวกเราเห็นคุณเป็นเพื่อน ไม่อยากให้คุณต้องไป" มือที่กำลังเก็บเอกสารอยู่ของภพธรชะงัก สายตาหลุบต่ำเลง "ได้ยินคุณพูดแบบนี้แล้ว นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาผมไม่ได้สูญเปล่า ผมไม่เหมือนคุณ ผมเป็นพนักงานของโอเล จำเป็นต้องยอมรับการจัดการของบริษัท" ภพธรเองก็รู้สึกจำใจ เขาคิดว่าหลังจากกลับประเทศไปแล้วชีวิตของเขาคงจะห่างไกลจากคนพวกปากหวานก้นเปรี้ยวเช่นนี้แล้ว ไม่นึกเลยว่าคนที่นี่จะเปลี่ยนไปกันหมดเช่นนี้ เขาอุตส่าห์ลืมเรื่องการเสียชีวิตของวรมนได้แล้ว ตัดสินใจที่จะมาดูแลทุ่มเทให้กับจิดาภา แต่ไม่สามารถจะทำเช่นนั้นได้อีกต่อไปแล้ว “คุณบอกเรื่องนี้กับจิดาภาแล้วหรือยัง?” “ยังเลยครับ รอผู้จัดการคนใหม่ติดต่อมาหาพวกคุณ เธอก็คงจะรู้ได้เอง ผมไม่ค่อยชอบสถานการณ์ที่จะต้องจากลากันสักเท่าไหร่” ภพธรแสร้งทำเป็นยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเป็นทุกข์ “เอาล่ะ สิ่งที่ควรพูดผมก็พูดไปหมดแล้ว ผมจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คงต้องกลับไปแล้วล่ะ” เมื่อพี่นัฎเห็นว่าภพธรยังคงยืนกรานว่าจะไม่ล่ำลาจิดาภานั้น และเธอเองก็รั้งเขาไว้ไม่ได้ด้วยเช่นกัน เธอจึงรีบกดโทรออกหาจิดาภาทันที “คุณภพธรไปแล้วนะ เห็นว่าตอนนี้ผู้จัดการคนใหม่กำลังเดินทางมา ทำอย่างไรดี คุณญาณินีไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ!” แน่นอนว่า เป็นถึงประธานบริษัทโอเล ญาณินีคงไม่ปล่อยภพธรไปอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเธอกล้าลงมือทำอะไรเขาล่ะก็ จิดาภาเองก็จะไม่ยอมปล่อยเธอไปเช่นกัน จิดาภาวางสายด้วยท่าทางที่รู้สึกโดดเดี่ยว เธอไม่ได้ติดต่อกลับไปหาภพธร แต่กลับส่งข้อความไปหาเขาแทน “ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้กับทุกๆเรื่องราว ขอบคุณนะคะที่คุณคอยช่วยเหลือฉัน กลับไปแล้วดูแลตัวเองดีๆนะคะ ถ้าหากคุณญาณินีทำอะไรกับคุณโดยไม่เกรงใจกันล่ะก็ ฉันจะเอาคืนเธอเป็นอีกร้อยเท่า” “สำหรับฉันแล้ว คุณเป็นเหมือนกับพี่นัฎ ที่เป็นทั้งเพื่อน และเป็นครอบครัวของฉัน” ตอนที่ภพธรอ่านข้อความนั้นแล้วรอยยิ้มแห่งความซาบซึ้งใจจึงปรากฏออกมา เขามองคนไม่ผิดจริงๆ จิดาภาเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีมากคนหนึ่ง ทางข้างหน้าของเธอจะไม่หยุดลงเพียงเพราะการขัดขวางของโอเลอย่างแน่นอน ภพธรสวมใส่เสื้อคลุมสีเทาเดินขึ้นไปบนเครื่องบิน เขาจะรอดูวันที่จิดาภากลายเป็นศิลปินระดับนานาชาติ! หลังจากที่จิดาภาส่งข้อความนั้นแล้ว เธอก็ข่มตาให้หลับได้อย่างยากลำบาก จึงลุกขึ้นแล้วเดินออกมารินกาแฟที่ห้องรับแขก มองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเหม่อลอย อยู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นด้านหลังของเธอ “ตื่นแล้วหรือครับ?” เขายื่นมือมากอดเธอไว้ แล้วนั่งลงบนโซฟาด้วยกันกับเธอ จิดาภาเอนหลังพิง แล้วเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “คุณจิรภาสคะ ฉันรู้มาว่าหลังจากที่คุณภพธรไปแล้ว มีคำพูดมากมายที่อยากจะรั้งเขาไว้ แต่ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ควรจะทำแบบนั้น เขากับคุณญาณินีเป็นเพื่อนมาหลายปี ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขาต้องมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน เขาควรจะได้เป็นผู้อำนวยการศิลปินของโอเลไปแล้ว คงไม่ต้องมาเร่ร่อนเพียงลำพังเช่นนี้” จิรภาสกอดเธอไว้ แล้วเอ่ยพูดกับเธอ “จิตใจของคนต่างห่างที่ทำให้พวกเขาต้องแยกออกจากกันไปแบบนี้ ไม่เกี่ยวกับคุณเลย” เป็นญาณินีที่เป็นฝ่ายลงมือก่อน ภพธรเองเพียงแค่ทำในสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นทางเลือกที่ถูกต้องเพียงเท่านั้น “แต่ฉันไม่สบายใจเลยค่ะ” เธอหันหน้ากลับมาพิงอยู่ที่อกของเขา “ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะถูกญาณินีกดขี่ข่มเหงหรอกนะครับ เรื่องทุกอย่างจะต้องแก้ไขได้” หน้าอกของเขาเป็นที่พักพิงที่อบอุ่นที่สุดของจิดาภา ไม่ว่าจะอย่างไร เขาจะปลอบใจเธออยู่เสมอ --โปรดติดตามตอนต่อไป 16/12/2019--
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 175 เธอไม่มีสิทธิแตะต้องเขา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A