ตอนที่ 176 แตกหัก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 176 แตกหัก
ตอนที่ 176 แตกหัก ในใจของจิรภาสนั้นกลับวนเวียนอยู่แต่กับปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น จิดาภากังวลสถานการณ์ในอนาคตของภพธร ส่วนเขากลับกังวลในตำแหน่งผู้จัดการของเธอที่ยังว่างอยู่เสียมากกว่า เนื่องจากภพธรไม่ฟังเธอ จึงทำให้ญาณินีต้องเปลี่ยนตัวเขา เช่นนั้นแล้วคนที่ถูกเปลี่ยนมาแทน จะต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับญาณินีมากที่สุด กลายเป็นระเบิดที่เธอสามารถจะนำมาวางไว้ข้างกายจิดาภาเช่นนี้ได้ คนๆนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับเธอได้อย่างนั้นหรือ? ......... หลังจากภพธรกลับมาแล้ว เขาก็กลับไปยังโอเลเลยทันที แต่หลังจากตั้งแต่ที่เขาเดินเข้าประตูบริษัทไปนั้น พนักงานที่เห็นเขาทุกคนต่างก็พากันชี้มาที่เขา และยังวิพากษ์วิจารณ์ลับหลังเขากันไม่หยุด เนื่องจากได้รับคำสั่งจากจิรภาส ข้อมูลเสียงที่ถูกบันทึกไว้ยังคงอยู่ในรายการค้นหายอดนิยม เมื่อภพธรเดินเข้าไปยังออฟฟิศของญาณินีแล้วนั้น ก็พบกับญาณินีที่กำลังโมโหอย่างเดือนดาล “คุณดูสิ่งที่คุณทำสิ!” “ผลที่ตามมาเช่นนี้ไม่ใช่ผมเป็นคนทำคนเดียวนี่ครับ” เขายอมรับว่าที่เขาบันทึกเสียงไว้นั้นไม่ถูกต้อง แต่หากเทียบกับสิ่งที่พวกเขาทำนั้น ประเด็นของเขานั้นนับว่าคืออะไรกัน? ภพธรขี้เกียจที่จะคุยกับญาณินีแล้ว “ผมไม่ได้เป็นผู้จัดการของจิดาภาแล้ว คุณอยากจะจัดงานอะไรให้ ก็แล้วแต่พวกคุณแล้วกัน” “คุณ! ได้ ฉันต้องการให้คุณไปอธิบายกับนักข่าว! มิเช่นนั้น ฉันจะทำให้คุณรู้ว่าการหักหลังฉันจะมีสภาพเป็นแบบไหน!” อยู่ต่อหน้าเขา ญาณินีแสดงธาตุแท้ของเธอออกมา “ถ้าหากคุณไม่อธิบาย ก็ไม่เป็นไร ช่วงนี้พวกนักข่าวก็กำลังนึกถึงเรื่องเมื่อก่อนอยู่ด้วย อย่างเช่น เรื่องที่คุณกับวรมนเคยคบกัน แล้วยังมีเรื่องที่เธอเคยถูกรับเลี้ยงดูด้วย....” ภพธรไม่นึกเลยว่าเธอจะร้ายกาจมากถึงเพียงนี้ แม้กระทั่งคนที่ตายไปแล้วเธอก็ยังไม่ยอมปล่อยไปเลย เขายืนอยู่ที่เดิม มองญาณินีอยู่นาน แววตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “....ได้ ผมรับปากคุณว่าจะลบล้างทุกอย่างให้ แต่คุณจำไว้นะว่านี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะยอมให้แบบนี้” .......... หลังจากที่ภพธรกลับไปแล้วนั้น งานของจิดาภาได้รับผลกระทบไปบ้างไม่มากก็น้อย พี่นัฎพยายามที่จะไปจัดการเจรจาเรื่องการนัดเชิญและนักออกแบบ แต่นิสัยของเธอนั้นค่อนข้างใจร้อน จึงไม่สามารถจะสงบนิ่งและดูเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างภพธร อีกทั้งที่แม้แต่อ่านสัญญาเหล่านั้นเป็นภาษาอังกฤษก็ยังทำให้เธอปวดหัวได้แล้ว จิดาภาเดินไปรินกาแฟให้พี่นัฎ “ฉันเองดีกว่าค่ะ...” เธอมองลายเซ็นในหนังสือสัญญาแล้วพูดกับพี่นัฎ “ฉบับนี้จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ ฉบับต่อไป....” ตลอดทั้งคืนที่เธอกับพี่นัฎอ่านสัญญาเหล่านั้น จิรภาสที่อยากจะช่วยเธอ แต่กลับถูกจิดาภาปฏิเสธ “เรื่องของที่เค.เอฟ ก็ทำให้คุณวุ่นวายมากพอแล้ว ฉันไม่อยากทำให้คุณต้องเหนื่อยหนักกว่าเดิมนะคะ” จิรภาสจึงทำได้เพียงวางมือลงให้จิดาภาเป็นคนตอบรับคำเชิญในอีเมล์เหล่านั้นด้วยตัวเธอเอง แต่เขาก็ยังคงนั่งอยู่ข้างๆเป็นเพื่อนพวกเธอเช่นนั้น บางครั้งที่เขาแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมาบ้าง แต่ในใจของเขานั้นไม่ค่อยจะสงบสักเท่าไหร่นัก จะต้องรีบแก้ปัญหาจัดการเรื่องตำแหน่งที่ยังขาดอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการของจิดาภาให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากที่งานแสดงโชว์ในครั้งนี้เผยแพร่ออกไปนั้น จิดาภาได้รับคำเชิญให้ไปร่วมงานแสดงโชว์อีกงานในสัปดาห์หน้า ดังนั้นเธอจึงยังต้องอยู่ที่นี่ต่อ แต่ระยะเวลายิ่งนานขึ้น เธอก็ยิ่งรู้สึกกังวลกับเรื่องของโอเล “คุณจิรภาสคะ ฉันอยากจะกลับไปสักรอบนึงก่อนนะคะ” จิดาภาจับมือจิรภาสไว้ เธออยากได้รับการสนับสนุนจากเขา ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อภพธร แต่ก็เพื่อตัวเธอเองด้วย จิรภาสเองก็มีความคิดนี้อยู่พอดีเช่นกัน หากไม่ให้จิดาภาได้กลับไปเห็นด้วยตาของตัวเองนั้น เธอก็คงจะวางใจเรื่องของภพธรไม่ได้ เขาพยักหน้ารับ แล้วรีบให้ตฤณไปจัดการเรื่องทันที เวลานี้เอง ผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ที่ญาณินีจัดมาให้นั้นโทรศัพท์เข้ามา พี่นัฎไม่ค่อยอยากจะที่จะรับสายสักเท่าไหร่ ทั้งยังกดเปิดลำโพงอีกด้วย ใครจะรู้กันว่าพอกดรับสายแล้วจะมีเสียงที่ฟังดูเดือดดาลดังขึ้นมาทันที "คุณเป็นผู้ช่วยได้อย่างไรกัน? จิดาภาเป็นเพียงแค่ศิลปินที่เคยโด่งดัง นึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่พักที่โรงแรมทางบริษัทจัดให้แบบนี้ คุณคิดจะทำอะไร? ให้เธอกลับมาที่โรงแรมเดี๋ยวนี้!" ดูแล้ว อีกฝ่ายคงจะไปหาที่โรงแรมแต่กลับไม่เจอพวกเขา สมกับที่เป็นคนของญาณินีเสียจริงๆ ดูแล้วคงจะทำอะไรสะเพร่าพอสมควร จิดาภาส่งสายตาให้กับพี่นัฎ แล้วหยิบโทรศัพท์มา กรอกเสียงอันแสนเย็นชาและน่ากลัวไปยังปลายสาย "ฉันไม่ต้องการผู้จัดการส่วนตัวอย่างคุณ คุณถูกไล่ออกแล้วค่ะ" "คุณเป็นใคร? มีสิทธิอะไรกัน?" "ฉันจิดาภา" เมื่อตอบกลับไปเช่นนี้ ปลายสายจึงอ่อนลง "ขอโทษนะคะ คุณจิดาภา ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นคนรับสาย ฉันไม่ได้มีความหมายอื่นเลย ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงคุณหรอกหรือคะ?" "ถึงอย่างไรกฎหมายต่างบ้านต่างเมืองก็ไม่เหมือนกับกฎหมายบ้านเรา หากเกิดอะไรขึ้นกับคุณ คุณญาณินีก็คงจะไม่สามารถมอบหมายงานให้กับฉันได้อีก!" จิดาภาหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เธอยังไม่เคยรู้เลยว่าญาณินีจะเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้! "ถ้าอย่างนั้นคุณส่งที่อยู่มาให้ฉันก็ได้ เดี๋ยวฉันไปรับพวกคุณ" "ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันไม่ต้องการผู้จัดการส่วนตัวอย่างคุณ คุณกลับไปบอกกับคุณญาณินีเถอะค่ะ ฉันไม่ถูกชะตากับคุณ" เมื่อพูดจบ จิดาภาก็กดวางสายไปทันที ไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น หลังจากนั้นจิรภาสจึงลุกขึ้น แล้วเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง "ตั้งแต่ตอนนี้ไป คุณต้องคอยระวังทุกคนที่อยู่รอบๆตัวคุณ ผมจะจ้างการ์ดให้มาคอยปกป้องคุ้มกันคุณเอาไว้" หลังจากเสร็จสิ้นงานในวันนี้แล้ว จิดาภาจึงไปที่สนามบินพร้อมๆกันกับพวกเขา หลังจากนั้นเธอก็ได้รู้เรื่องที่ทุกคนปิดบังเธอไว้มาตลอด "พวกคุณ...ทำไมไม่มีใครบอกฉัน?" จิดาภารู้สึกโกรธอย่างเลี่ยงไม่ได้ "ไม่อยากให้คุณต้องไม่มีสมาธิน่ะครับ" จิรภาสดึงเธอเข้ามาหา จิดาภาไม่สามารถโต้แย้งคำพูดของเขาได้เลย จึงพิงไปที่ไหล่ของเขาราวกับเป็นนกตัวน้อยๆ "คุณจิรภาส..." เป็นเพราะการปกป้องเธอด้วยความทุ่มเทสุดตัวของเขาที่ทำให้เธอได้มีโอกาสขึ้นไปอยู่บนเวทีแสดงโชว์ที่ปารีสแห่งนี้ หลังจากนั้นประมาณสิบกว่าชั่วโมง จิดาภาและพี่นัฏก็กลับถึงประเทศโดยสวัสดิภาพ และก็ได้ทราบถึงแผนการต่อไปของโอเลอีกด้วยเช่นกัน..... ญาณินีจะผลักความรับผิดชอบทุกอย่างให้กับภพธร แต่เธอคงไม่คิดว่า จิดาภาจะกลับมาแล้ว หากเมื่อภพธรยอมรับว่าเสียงที่บันทึกนั้นเป็นเขาที่เป็นคนปลอมแปลงขึ้นมา ข่าวลือของจิดาภากับนายแบบคนนั้นก็ลบล้างออกไม่ได้แล้ว และยังจะเปิดเผยข่าวออกไปอีกด้วยว่า จิดาภาเป็นศิลปินหญิงที่มีชีวิตส่วนตัวที่สับสนวุ่นวายยิ่งนัก รอจนถึงตอนนั้น ก็คงจะไม่ทันเสียแล้ว จิดาภาไม่กลัวที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับโอเล และเธอเองก็ไม่ได้คำนึงถึงหน้าตาในสังคมของญาณินีอีกด้วยเช่นกัน แต่เพียงคนเดียวที่เธอจะต้องไตร่ตรองเสียก่อนนั่นก็คือภพธร เธอไม่อยากให้สุดท้ายแล้วภพธรจะต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์อึดอัดใจเช่นนั้น "พี่ว่าญาณินีคงไม่ร้ายกาจขนาดนั้นหรอกมั้ง เพราะถึงอย่างไรเธอกับภพธรก็เป็นเพื่อนกันมานาน อีกอย่างภพธรเองก็อยู่ในวงการนี้มานาน เขาคงจะมีวิธีรับมือของเขานั่นแหล่ะ" พี่นัฎปลอบใจจิดาภา "ถ้าหากเธอออกหน้ารับแทนเขา แล้วเป็นตัวเธอเองที่ต้องเจ็บเองเธอจะทำอย่างไร?" นี่เป็นสิ่งที่พี่นัฎรู้สึกกังวลที่สุด "พี่วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่ได้จะไปหาคุณญาณินีที่โอเลหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันอยากจะไปหาคุณภพธร" "จะไปหาที่ไหน? มือถือเขาก็ปิดแล้ว อพาร์ทเม้นท์เขาก็คืนไปแล้ว จะไปตัวเขาเจอได้อย่างไร" พี่นัฎเบะปากรู้สึกปวดหัวเหลือเกิน "มีอยู่ที่นึง เขาจะต้องไปที่นั่นแน่ๆ" ........ ญาณินีที่เมื่อได้รู้ข่าวว่าจิดาภาจะยังคงอยู่ทำงานต่อที่ปารีสอีกหนึ่งสัปดาห์ จึงยิ้มออกมาด้วยความพอใจ "ไปเตรียมตัวกันเดี๋ยวนี้ เราจะมีจัดงานแถลงข่าวกัน" เธอจะต้องรีบดำเนินการก่อนที่จิดาภาจะกลับมา เพื่อลบล้างทุกสิ่ง ให้ภพธรเป็นคนพูดออกมาเองว่าเสียงบันทึกนั้นเป็นคำสั่งของจิดาภา ที่ตั้งใจจะใส่ความเธอและโอเล ถ้าเช่นนั้นชีวิตส่วนตัวที่ดูสับสนวุ่นวายของจิดาภา ข่าวลือที่ว่ามีความพัวพันกับผู้ชายคนอื่นก็คงจะไม่มีทางลบล้างออกได้เช่นกัน หลังจากที่ภพธรได้รับการแจ้งแล้วนั้น ในใจของเขาราวกับแบกก้อนหินก้อนใหญ่ไว้อยู่ เขาทนเห็นญาณินีดูถูกเหยียดหยาม วรมนที่ตายไปแล้วต่อหน้าต่อตาแบบนี้ไม่ได้ นั่นคือคนรักเพียงคนเดียวในชีวิตของเขา แต่ในขณะเดียวกันเขาเองก็ไม่อยากเห็นความมีเกียรติของจิดาภาที่พยายามได้มันมาด้วยความยากลำบากหายไปเพียงชั่วข้ามคืนเช่นกัน “วรมน ผมควรจะทำอย่างไรดี?” เขายืนอยู่หน้าหลุมศพ มองใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดอกไม้บนป้ายนั่น แล้วน้ำตาค่อยๆเอ่อล้นออกมาจากขอบตาทำให้ภาพตรงหน้าไม่ชัดเจน
已经是最新一章了
加载中