ตอนที่ 178 เปิดเผยความจริง

ตอนที่ 178 เปิดเผยความจริง บรรดานักข่าวดูแล้ว ที่ภายในโอเลวุ่นวายเช่นในวันนี้ ได้กำหนดเอาไว้แล้ว ที่แม้แต่ผู้จัดการส่วนตัวของเธอยังหักหลังเธอเข้าเสียแล้ว “ภพธร ถึงตาคุณแล้ว” ญาณินีเอ่ยเตือนคนที่อยู่ข้างๆด้วยน้ำเสียงเบาๆ ทั้งยังส่งสายตาขู่บังคับไปยังเขา ภพธรมองไปยังเบื้องหน้าแล้วเงยหน้าขึ้น “ทุกท่านครับ...วันนี้ที่ผมมานั่งอยู่ตรงนี้ ก็เพื่อที่จะมาชี้แจงทุกอย่าง แต่ก่อนหน้าที่ผมจะได้พูดนั้น ผมอยากจะพูดถึงเรื่องอื่นก่อน” “ผมทำอาชีพนี้มาสิบกว่าปี เคยเป็นผู้ช่วย เคยแบกอุปกรณ์เครื่องมือ เคยแสดงเป็นนักแสดงพื้นหลัง หรือแม้กระทั่งผมเองก็ยังจำไม่ได้เสียด้วยซ้ำว่าผมดูแลศิลปินมามากเท่าไหร่แล้ว...” “ผมอยู่ในวงการนี้มา เคยเห็นคนที่ต่างฝ่ายต่างพยายามหลอกลวงกัน บางคนที่ดูเปล่งปลั่งสวยงาม กลับมีพฤติกรรมชั่วช้าราวกับปีศาจ!” “ความจริง? อะไรคือความจริงกัน! ตอนที่พวกคุณยกกล้องขึ้นมาถ่ายผม ที่ผมพูดนั้นมันจะเป็นความจริงหรือครับ?” ทันใดนั้นเองอารมณ์ของภพธรก็ดูจะมีความฮึกเหิมขึ้นมา ก่อนที่ญาณินีจะทันได้ดึงเขาไว้ เขาก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมาเสียก่อน “ผมยังจำศิลปินหญิงคนที่ผมเคยดูแลเธอคนก่อนหน้านี้ได้ วรมน! ชื่อนี้ พวกคุณคงรู้สึกว่าเธอได้กลายเป็นคนแปลกหน้าไปเสียแล้วใช่ไหมครับ?” นักข่าวต่างก็หันมามองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่เข้าใจว่าทำไมภพธรถึงพูดถึงเธอขึ้นมา ญาณินีกำหมัดแน่น เธอพบว่าตอนนี้เรื่องราวกำลังไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามเสียแล้ว! “วันนั้นที่เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ พวกเราทะเลาะกันครับ เธอสูญเสียการควบคุมอารมณ์ตัวเองไป และหลังจากที่กินยาไปแล้วนั้น จึงขับรถไปชนกับฟุตบาทข้างทาง....” “ตอนนั้น โอเลก็ออกมาจัดงานแถลงเช่นนี้ ออกมาชี้แจ้งเรื่องราวความจริงทั้งหมด!” “ผมเชื่อ ผมเชื่อจริงๆครับ! เป็นเพราะผู้จัดการของโอเลสองคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทของผม ส่วนประธานของโอเลนั้นก็....” “พอแล้ว! ภพธร อย่าก่อเรื่องวุ่นวาย” ญาณินีดึงเขาไว้ ส่งสัญญาณให้กับคมสรให้ควบคุมสถานการณ์ไว้ แต่ภพธรกลับผลักเธอออก แล้วหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูดอีก ด้วยเสียงที่ดังขึ้น “การตายของวรมน เป็นฝีมือของทั้งสามคนนี้ครับ! พวกเขาทำเพื่อที่จะได้ควบคุมเส้นทางในวงการนี้ของศิลปิน เปิดเผยเรื่องความรักของเธอ บังคับขู่เข็ญเธอครั้งแล้วครั้งเล่า!” “ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นเพราะพวกคุณ วรมนก็ไม่ต้องมาตายแบบนี้!” นักข่าวพากันตกตะลึง ไม่นึกเลยว่าจู่ๆภพธรจะเปิดโปงความหลับเมื่อหลายปีก่อนเช่นนี้ สีหน้าของญาณินีนั้นดูไม่ดีเป็นอย่างมาก เธอดึงภพธร หลังจากนั้นก็ให้คนมาพาตัวเขาลงไป เขาอยากจะเอาคืนเธอกลับแบบนี้นี่เอง “ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ด้านมืดของคุณจะไม่เป็นผลอีกต่อไปแล้ว” “คุณอิจฉาวรมน คุณอยากจะควบคุมเธอ ดังนั้นคุณจึงทำให้เธอต้องตาย ตอนนี้ก็กลับมาเป็นตาของจิดาภาแล้ว!” “เรื่องการตายของวรมนผ่านมาหลายปีแล้ว หลักฐานก็ถูกพวกคุณทำลายไปหมดแล้ว แต่กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับจิดาภาในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องจริงขนาดนั้นแล้ว เสียงบันทึกนั้นผมเป็นคนอัดบันทึกไว้กับมือเองล่ะครับ!” “ผมยังมีต้นฉบับ....” คมสรพาการ์ดขึ้นมาบนเวที แล้วลากตัวของภพธรลงไป ถึงแม้ว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ แต่เรื่องวุ่นวายเมื่อครู่ก็ทำให้ดูไม่ดีเสียเหลือเกิน ญาณินีสงบนิ่งไป อยากจะกอบกู้เหตุการณ์เมื่อครู่นี้กลับคืน ในขณะที่บรรดานักข่าวกำลังอยากจะรู้เรื่องราวถึงสถานการณ์อยู่นั้น ร่างของใครคนหนึ่งที่ไม่ควรจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่ก็เดินเข้ามา! เรือนร่างสูงบางที่เป็นที่น่าจดจำของทุกคน เธอควรจะอยู่ที่ปารีสไม่ใช่หรือ.... “จิดาภา!” “เธอไม่ได้ไปร่วมงานที่ปารีสหรอกหรือ?” “คิดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะมาปรากฏตัวในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ ตอนนี้เวทีของโอเลช่างดูมีสีสันเหลือเกิน!” ทุกคนล้วนแต่กำลังรอให้จิดาภาเอ่ยอะไรออกมา เลนส์กล้องต่างก็พากันจับภาพไปที่เธอ การปรากฏตัวของเธอในตอนนี้จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหรือไม่กัน! ทั้งๆที่เธอเป็นศิลปินหญิงที่นอบน้อมที่สุดในวงการบันเทิงนี้ แต่กลับมักจะถูกดึงเข้าไปในวังวนเหล่านั้นด้วยเสมอ ไม่รู้ว่าครั้งนี้เธอจะสามารถเป็นอิสระเหมือนครั้งก่อนๆได้หรือเปล่า! ญาณินีกำไมโครโฟนในมือแน่น ดึงคมสรไว้ เธอจะต้องควบคุมสถานการณ์ในวันนี้ให้ได้! ส่วนการ์ดของโอเลก็พากันมุ่งตรงไปยังทิศทางที่จิดาภายืนอยู่ เพียงแต่ ด้านหลังของจิดาภานั้นมีการ์ดที่ยืนอยู่ด้วยประมาณหกคน ทั้งยังเป็นบอร์ดี้การ์ดต่างชาติที่ดูมีระดับสูงเสียด้วย! เช่นนี้แล้ว การเคลื่อนไหวของทางโอเลทางนี้นั้นดูจะอ่อนแอไปมาก พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่หลีกทางให้จิดาภาเดินผ่านขึ้นเวทีไปต่อหน้าต่อตาเช่นนั้น ตอนนี้นับจากที่จิดาภาเซ็นสัญญากับทางโอเลนั้นผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเอง จากที่พวกเธอยกแก้วแชมเปญเพื่อฉลองมิตรภาพความเป็นเพื่อนของพวกเธอกลับกลายมาเป็นศัตรูกันไปเสียแล้ว! “คุณ..ควรจะอยู่ที่ปารีสไม่ใช่หรือ?” “ฉันกลัวว่าถ้าฉันกลับมาในตอนนั้น ทุกอย่างอาจจะสายเกินไปแล้วน่ะสิคะ” จิดาภาค่อยๆถอดแว่นตาดำลง แล้วมองญาณินีด้วยสายตาที่เย็นชา จิดาภาก้าวไปข้างหน้า สายตาปรากฏให้เห็นถึงความเย่อหยิ่งเย็นชา “คุณไม่ควรทำแบบนี้” ในใจของญาณินีเติมไปด้วยความเกลียดชังที่ไม่สามารถจะบรรยายออกมาได้ ทำไม! ทำไมจิดาภามักจะปรากฏตัวออกมาในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้เสมอ! ทั้งหมดที่เธอตั้งใจทำมาตลอดนี้จะต้องมาพังทลายลงที่นี่อย่างนั้นหรือ? ไม่ เธอยังมีโอกาส เพียงแค่จิดาภาเปิดปากพูดออกมา เธอในฐานะประธานบริษัทโอเลก็สามารถที่จะปฏิเสธทุกอย่างได้ ให้พวกสื่อนักข่าวได้รู้เห็นกันว่าจิดาภาเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบต่องานอย่างไร ทิ้งงานที่ปารีสแล้วกลับมาทำให้เธอต้องอับอายเช่นนี้ เพียงแค่...ดูเหมือนจะเหนือความคาดหมายของญาณินีไปเสียแล้ว จิดาภากลับไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอกลับมอบโอกาสนี้ส่งต่อให้ภพธร “ต่อสิคะ บอกให้ทุกคนได้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรกันแน่?” ภพธรมองจิดาภาอย่างไม่อยากเชื่อ เพื่อผู้ช่วยของเธอ เธอกล้าฉีกหน้าภารดีโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น ส่วนตอนนี้เธอยังข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมา เพียงเพราะช่วยกู้หน้าให้เขา เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ในใจเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความศรัทธา เขาจะต้องเอาเรื่องนี้เปิดเผยให้คนทั้งโลกได้รู้! ภพธรสงบนิ่งลง แล้วยื่นโทรศัพท์มือถือออกมาต่อหน้าสื่อ พร้อมกดเปิดลำโพง เนื้อหาที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงบันทึกระหว่างการสนทนาของพวกเขา “ผมขอรับประกันด้วยเกียรติและชื่อเสียงของผม ว่าเสียงที่บันทึกในระหว่างการสนทนานี้เป็นเรื่องจริงแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมจะดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยใช้วิธีตามกฎหมาย” “ส่วนประธานบริษัทอย่างคุณญาณินี เคยมีแลกเปลี่ยนเงื่อนไขในการรับประทานอาหาร เพื่อที่จะให้คุณจิดาภาอาศัยข่าวลืออื้อฉาวนั้นเพิ่มความนิยมของตัวเองจริงๆครับ แต่เมื่อคุณจิดาภาปฏิเสธ จึงทำให้เกิดข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับการไปหาเรื่องคุณรเมศเช่นนั้นครับ....” “และต่อมา เธอก็พยายามที่จะควบคุมคุณจิดาภาให้ได้ จึงทำการแบนเธอ เอาแหล่งสนับสนุนต่างๆของคุณจิดาภาไปมอบให้กับศิลปินคนอื่นๆในบริษัท แม้ว่าคุณจิดาภาจะได้รับความเฉิดฉายในโฆษณาของทางWMเช่นนั้น เธอก็ไม่ยอมที่จะรามือ” “แม้กระทั่งเพื่อที่จะไม่ให้คุณจิดาภาได้เข้าร่วมสัมภาษณ์ในรายการของคุณจรินทร์ เธอก็ลักพาตัวน้องชายของผู้ช่วยคุณจิดาภาไป เพื่อเป็นการขู่บังคับคุณจิดาภา...” “เท่านี้ยังไม่พอนะครับ เมื่อสองสามวันก่อนที่งานเดินแบบที่ปารีสก็เช่นกัน เธอได้ใช้เงินซื้อตัวนายแบบและปาปารัซซี่ เพื่อที่จะใส่ร้ายป้ายสีให้กับศิลปินที่เธอเป็นคนเซ็นสัญญาเองด้วย!” “หลังจากคุณจิดาภาเซ็นสัญญากับทางโอเลนั้น ผมในฐานะที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ สามารถพิสูจน์ได้ว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นความจริงทั้งหมด ทุกอย่างมาจากเงื้อมมือของคุณญาณินีคนนี้ครับ!” คำพูดของภพธรนั้นดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถง บรรดานักข่าวต่างก็พากันตกตะลึงกันถ้วนหน้า เรื่องนี้ไม่เป็นเพียงแค่การต่อสู้กันภายในโอเลง่ายๆเช่นนั้นแล้ว การกระทำทั้งหมดของจิดาภาทำให้ผู้คนรู้สึกเดือดดาลกันเป็นอย่างมาก..... ไหล่ของญาณินียังคงสั่นเทาอย่างต่อเนื่อง เธอไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะกลายมาเป็นเช่นนี้ เธอกำไมโครโฟนในมือไว้ ไม่มีคำพูดแก้ตัวใดๆหลุดออกมา เนื่องจากสิ่งที่ภพธรพูดออกมานั้นคือเรื่องจริงทั้งหมด เพียงแค่นักข่าวพากันไปปะติดปะต่อข่าวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ก็จะพบหลักฐานได้อีกมากมาย --โปรดติดตามตอนต่อไป 18/12/2019--