ตอนที่ 180 ชีวิตคนเราไม่สามารถควบคุมได้
1/
ตอนที่ 180 ชีวิตคนเราไม่สามารถควบคุมได้
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 180 ชีวิตคนเราไม่สามารถควบคุมได้
ตอนที่ 180 ชีวิตคนเราไม่สามารถควบคุมได้ “งานทางด้านการกำกับและการเขียนบทเขามีพรสวรรค์มาก ผมเชื่อว่าเขาจะมีชื่อเสียงทางด้านภาพยนตร์นี้อย่างแน่นอน!” “ส่วนบริษัทของคุณ คงจะยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ” นี่คือทางเดินต่อไปหลังจากนี้ของภพธร จิดาภาไม่ต้องเป็นห่วงเขาแล้ว “คนนั้น...คงไม่ใช่ผู้กำกับชวินทร์หรอกนะ!” มีนักข่าวที่กำลังมองดูเบื้องหลังของผู้ชายวัยกลางคนคนนั้น แล้วตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ “พระเจ้า นึกไม่ถึงเลยว่าหากคุณภพธรไม่ได้เป็นผู้จัดการส่วนตัวแล้ว เขาจะได้เข้าไปในวงการผู้กำกับได้เลยแบบนี้!” “โอเลโยนเขาออกไปแบบนี้ กลับโยนไปถูกจุดเสียด้วย คุณญาณินียังคิดว่าหลังจากที่เขาออกไปจากโอเลแล้ว จะเจอทางตันไม่มีที่ไปเสียด้วยซ้ำ....ผลปรากฏว่า เขาดันมีผู้กำกับชวินทร์เป็นอาจารย์เสียอีกนี่ จากนี้ไปอาชีพเขาคงจะต้องเจอกับความรุ่งโรจน์อย่างแน่นอน....” “การเปลี่ยนแปลงแบบนี้เร็วเกินไปแล้ว ตามไม่ทันเลย” “ทางเดินต่อไปของจิดาภาจะต้องดีกว่าโอเลอย่างแน่นอน!” ........ ออฟฟิศประธานบริษัทเค.เอฟ จิรภาสติดตามดูข่าวอยู่บนหน้าเว็บไซต์ ดูอารมณ์ที่นิ่งๆของจิดาภาแล้ว.....ห้ามไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มเอ็นดูเช่นนั้นปรากฏออกมา บรรดาแฟนคลับของจิดาภาก็พากันโพสต์อยู่บนหน้าเว็บกันอย่างต่อเนื่อง ตะโกนออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่าให้โอเลปล่อยจิดาภาไป หวังว่าจิดาภาจะรีบหาบ้านหลังใหม่ได้เร็วๆ และอยู่ให้ห่างจากบริษัทขยะๆแบบโอเลนี้ แต่...จิดาภาไม่คิดเช่นนี้ ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะร่วมมือกับโอเลต่อไป นั่นเป็นเพราะทุกๆการเคลื่อนไหวของโอเลกับญาณินีนั้นกำลังถูกสื่อและโลกภายนอกจับตามอง ไม่มีโอกาสที่จะมากำจัดขอบเขตของเธอได้อยู่แล้ว จิรภาสเองก็เข้าใจความหมายนี้ อีกทั้งถึงแม้ตอนนี้จิดาภาจะยังไม่ออกจากโอเล ก็ไม่ได้หมายความว่าทางเดินต่อไปของเธอจะไม่ได้มีความคิดใดๆเลยเช่น แม้แต่นักข่าวเองก็ยังมองออก ว่าต่อไปจิดาภาจะต้องหาบริษัทที่ดีกว่าโอเลได้อย่างแน่นอน ส่วนเขา ก็มีการวางแผนไว้อยู่ก่อนแล้วเช่นกัน จิรภาสเองก็รู้สึกดีใจแทนภพธรเช่นกัน เข้าไปอยู่ในวงการผู้กำกับเช่นนั้นบางทีอาจจะเหมาะกับเขาเสียด้วยซ้ำ การเริ่มต้นใหม่...ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้กำกับภพธรคนนี้ก็ได้ ยังมีอีกเรื่องนั่นก็คือ ตอนนี้หน้าที่ช่วยจัดการกับเอกสารการรับงานของจิดาภานั้นตกอยู่ในมือของเขาแล้ว จิดาภากลัวเขาจะลำบาก แต่ถ้าเขาเหนื่อยกว่านี้ เขาก็มีความสุขที่ได้ทำ ห้องโถงของโอเลวุ่นวายยิ่งนัก คมสรที่อยู่ทางด้านล่างเวทีจ้องมองภพธรและจิดาภาอยู่ตลอดเวลา มองดูพวกเขาเดินออกไปท่ามกลางการติดตามของนักข่าวและบอร์ดี้การ์ด แววตาฉายแววความเกลียดชัง....พวกเขาเหยียบญาณินีเสียจนจมเลย ก้าวนี้ ทำให้ญาณินีตกลงไปในเหวลึกเข้าเสียแล้ว แต่ประตูของโอเลนั้น จะเดินไปได้ง่ายเพียงนั้นเลยหรือ? ญาณินีไม่สามารถที่จะรับมือกับเกมนี้ได้เพียงลำพัง เขาต่างหากที่เป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวที่สุดในโอเล เดินออกมาจากประตูโอเลแล้ว ภพธรรู้สึกโล่งใจมากอย่างบอกไม่ถูก “จิดาภา ผมได้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณในช่วงเวลานี้ ผมมีความสุขมากจริงๆ ถึงแม้ว่าต่อไปผมจะไม่ได้อยู่ช่วยเหลือคุณต่อ ผมก็จะคอยสนับสนุนคุณอยู่ห่างๆไปตลอดเลยนะ” ภพธรยื่นมือออกมา ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จิดาภายิ้มตอบ แล้วยื่นมือออกมาจับมือเขา น้ำเสียงที่ดูเรียบๆแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น “คุณเป็นผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอกันมาเลยค่ะ ถ้าหากไม่เป็นเพราะคุณญาณินีบีบเราแบบนั้นล่ะก็ ฉันคงไม่ยอมปล่อยให้คุณไปเด็ดขาด” คำพูดของจิดาภาสะกิดหัวใจของเขา เขาปล่อยมือ แล้วเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “ผมเองก็คิดว่าจะสามารถเดินไปกับคุณได้จนคุณได้เป็นศิลปินระดับนานาชาติ...แต่คนที่อยากจะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณ คงไม่ได้มีเพียงผมแค่คนเดียว คนที่อยู่ที่บ้านคุณ คงจะรอต่อไปไหวแล้วล่ะครับ” “เขา...” รอยยิ้มของจิดาภาช่างอ่อนโยนเหลือเกิน “ถ้าหากมีเรื่องอะไร ติดต่อผมได้ตลอดเลยนะ ผมเองก็จะคอยติดตามคุณต่อไปด้วยเช่นกัน” ภพธรขึ้นรถแล้วเอ่ยบอกกับเธอ “ได้ค่ะ ผู้กำกับภพธร” จิดาภาคุ้นเคยกับสถานการณ์แห่งการจากลาเช่นนี้เสียแล้ว ในตอนนี้ เธอจะส่งมอบคำอวยพรทั้งหมดที่มีส่งผ่านสายตาให้กับอีกฝ่าย “วันนี้ คุณไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าจะออกจากโอเล คุณญาณินีจะต้องกลับมาหาคุณอีกแน่ แต่....คุณระวังคมสรไว้ด้วยนะ เมื่อเทียบกับคุณญาณินี และจงกลแล้ว คนนี้น่ากลัวกว่ามาก” จิดาภาพยักหน้ารับ เธอไม่ได้ถือดีขนาดญาณินี ที่ทุกคนจะสามารถมาเป็นศัตรูได้เช่นนั้น เธอจะคอยสังเกตเหตุการณ์เหล่านี้ให้ดี อีกทั้งด้านหลังเธอ ยังมีจิรภาสที่คอยปกป้องเธอไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตามเช่นนั้น “รีบไปเถอะค่ะ มีโอกาสไว้พบกันนะคะ” ภพธรโบกมือให้กับจิดาภาและพี่นัฎพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วจึงปิดประตูรถลง จริงๆแล้วภพธรคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกมาจากโอเลเพราะเรื่องเหล่านี้ เขาก็คงจะไม่สามารถอยู่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภาได้ไปตลอด เนื่องจากว่ามีอีกหนึ่งคนที่อยากจะเดินไปถึงตำแหน่งตรงนั้นด้วยกันกับเธอยิ่งกว่าเขาเสียอีก จิดาภาเองก็มีค่าพอที่จะให้เขาได้ออกโรงมารับหน้าแทนเช่นกัน “พวกเราเองก็ควรจะไปได้แล้วล่ะ ใกล้เวลาไฟลต์บินแล้วด้วย” เสียงของพี่นัฎดังเตือนเธอขึ้น ที่ปารีสยังมีงานรอพวกเธออยู่ ไม่สามารถดึงเวลาไปแบบนี้ อีกทั้งร่างกายของจิดาภาจะรับไม่ไหวเอา “ฉันอยากจะกลับไปหาเขาก่อนนะคะ” พี่นัฎเข้าใจความหมายของจิดาภา “ได้สิ ขึ้นรถ เดี๋ยวพี่ขับเร็วหน่อยแล้วกัน” จิดาภายิ้มแล้วพยักหน้ารับ เธอคิดถึงเขา ถึงแม้จะอยู่ด้วยกันได้แค่ช่วงเวลาไม่นาน เธอก็ยังอยากจะเจอเขา ตลอดทาง สถานีวิทยุกำลังรายงานข่าวของที่ห้องโถงของโอเลในวันนี้ ครั้งนี้ญาณินีคงจะไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากแล้ว คำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ก็มากพอที่จะทำให้เธอแทบหายใจไม่ออกแล้ว “วันนี้เป็นวันที่สบายใจจริงๆเลย! ญาณินีที่ทำเรื่องเลวๆไว้มากแบบนั้น สุดท้ายก็ต้องมาได้รับรู้ถึงความลำบากแล้วสินะ” จิดาภามองวิวข้างทางที่อยู่ด้านนอกหน้าต่าง นึกถึงท่าทางของญาณินีเมื่อครู่ สีหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้มที่เหยียดหยามขึ้น คนอย่างญาณินีที่ไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้เลย เธอคิดว่าเธอจะควบคุมชีวิตของทุกคนได้ “คุณญาณินีเธอไปไหนแล้วล่ะคะ?” “ฮ่าๆ พูดถึงแล้วพี่ก็ยิ่งมีความสุขกว่าเดิมเสียอีก หลังจากที่พวกเราออกมาแล้ว พวกนักข่าวก็พากันดักตัวเธอไว้น่ะสิ คนเยอะเบียดกันไปเบียดกันมาแบบนั้น ไม่รู้ว่าเธอโดนนักข่าวคนไหนชนเข้า โดนกระแทกเข้าที่ศีรษะ เห็นว่าถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลแล้วล่ะ” “พี่ยังโมโหอยู่ไหมคะ?” จิดาภาที่อยู่ๆก็เอ่ยถามคำถามนี้ขึ้น พี่นัฎเองก็นิ่งอึ้งไปสักพัก แล้วจึงมีปฏิกิริยาตอบกลับมา จิดาภากำลังให้เธอได้ระบายอารมณ์ออกมา เพราะตอนนั้นที่ภารดีให้เธอคุกเข่าลงแบบนั้น.... “พี่ไม่ได้โมโหตั้งนานแล้วล่ะ พวกเขาไม่มีค่าพอให้พี่ไปเสียเวลาด้วยแบบนั้นหรอก!” จิดาภาที่ได้ยินพี่นัฏกล่าวดังนั้น จึงตอบรับกลับไป นิสัยของพี่นัฎเป็นเช่นนี้ เพียงแค่เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้จะผ่านไปได้ จิดาภาก็รู้สึกวางใจแล้ว และในช่วงเวลานี้ ระหว่างการอัดรายการของสถานีวิทยุก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนดังแทรกขึ้นมา “พิธีกร คุณช่วยติดต่อจิดาภาหน่อยได้ไหมคะ ฉันมีเรื่องด่วนต้องการพบเธอ! ด่วนมากค่ะ!” พิธีกรคิดว่าเธอเป็นแฟนคลับของจิดาภา เพื่อไอดอลของตัวองจึงพูดแบบนั้นขึ้น ดังนั้นจึงตอบกลับไปอย่างอ่อนโยน “ขอโทษนะคะ รายการของเราเชิญคุณจิดาภามาไม่ได้หรอกค่ะ” “แต่....ฉันรีบจริงๆนะคะ เธอเคยรับปากไว้ ...ว่าเธอจะยอมพบฉัน!” ทางด้านพิธีกรเองก็คิดว่าแฟนคลับคนนี้กำลังหาเรื่องอยู่ จึงวางสายไปเลยทันที หลังจากนั้นจึงเปิดเพลงคั่นรายการ แล้วจึงอัดรายการต่อไป ถึงแม้จิดาภาจะได้ยินแล้วนั้น แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แฟนคลับบางคนก็ชื่นชอบเธอจริงๆ แต่บางที....เธอก็ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเท็จจริงแค่ไหน และก็คงจะไม่สามารถดูแลความรู้สึกของแฟนคลับทุกคนได้เช่นกัน เมื่อขับรถมาถึงด้านล่างตึกของเค.เอฟแล้วนั้น พี่นัฎจึงไอขึ้นมาเล็กน้อย “พี่คงไม่ต้องลงไปหรอกมั้ง” จิดาภาหัวเราะ “กลัวว่าเจอคุณตฤณแล้วพี่จะเขินใช่ไหมคะ?” “....ไม่ใช่สักหน่อย!” พี่นัฎหน้าแดงเล็กน้อย “แต่ครั้งที่แล้วตอนที่พวกเราจะไปต่างประเทศกัน เขาไปเอาพาสปอร์ตมาให้พี่เองเชียวนะ พี่ยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลยรึเปล่า?” จิดาภาทิ้งท้ายไว้เช่นนี้ แล้วเดินเข้าไปในลิฟต์ พี่นัฎส่งเสียงเรียก แล้วรีบเดินตามจิดาภาไป เมื่อเห็นพวกเธอเดินออกมาจากลิฟต์ ตฤณรู้สึกตกใจเล็กน้อย “คุณจิดาภา คุณยังไม่ได้ไปสนามบินอีกหรือครับ?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 180 ชีวิตคนเราไม่สามารถควบคุมได้
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A