บทที่9 อ่อย
บทที่9 อ่อย
“ปวีณ” นิลยาพุ่งเข้ามาหา กอดปวีณไว้ หน้าใบเล็กๆของเธอแดงไปหมด มือน้อยของเธอลูบไล้ไปทั่วตัวเขา
ปวีณห้ามนิลยาไว้ ยังไม่ทันตั้งตัว ก็เห็นปากเธอบิดเบี้ยว ก้มหน้า ว่าก็อ้วกใส่ตัวเขา
พออ้วกเสร็จ นิลยางอแงใหญ่เลย ทำหน้าตาน่าสงสารหน้าจ้องมองเขา “ทรมาน”
ปวีณอุ้มเธอเข้าไปวางบนเตียง “ ฉันจะไปหาหมอให้” ยังไม่ทันได้หันหลัง ทั้งตัวก็ถูกเธอดึงกระชากลงมาบนเตียง
ปวีณพูดอย่างเสียงเบา “เธอปล่อย”
“ไม่” นิลยาตะโกนอย่างอึดอัดใจ “ ใครบอกให้นายรังแกฉันตลอดล่ะ”
แขนยาวของปวีณแค่หยิบทิชชูมา แล้วเช็ดคราบสกปรกออกจากตัวนิลยา “ ต่อไปไม่รังแกเธอแล้ว ดีมั้ย?”
“อืม” นิลยาออกเสียงตบ แต่ไม่รู้ว่าฟังเข้าไปและเข้าใจมากแค่ไหน
ตัวสั้นเล็กของเธอได้บีบตัวเข้าไปในอ้อมกอดปวีณ ปวีณโทรติดต่อหมอ ให้เขารีบแก้เมาให้เธอด่วน เมาเยอะไม่เยอะ พรุ่งก็คงจะต้องปวดหัวแน่นอน
เขาเพิ่งโทรคุย ประตูห้องถูกเคราะดังขึ้นอีกแล้ว
มาอีก? สีหน้าปวีณเลือดเย็นขึ้นทันที
“อย่าส่งเสียงดัง!” นิลยาปิดหูไว้อย่าง ทรมาน
“ ไม่เป็นไร อีกแป๊บก็โอเคแล้ว” ปวีณจับหัวเธอวางดีๆแล้วไปเปิดประตู
พอประตูเปิดเท่านั้นแหละ ก็ได้มีมีดแทงเข้าตัวเขา
“เจ้าหน้าที่่ตำรวจ เจ้าหน้าที่่ควบคุม!” เจ้าหน้าที่่ตำรวจยืนถือปืนชี้ปวีณ
“เกิดอะไรขึ้น?” ปวีณยืนไว้ไม่ได้ขยับ ถามอย่างเย็นชา ในคำพูดที่ปกติของเขาเต็มไปด้วยความโกรธมาก
เจ้าหน้าที่่ตำรวจคนนำเมื่อได้ยินเสียงก็อึ้งเลย มองเข้าไปด้วยตาโตๆ จริงด้วย นี่ปวีณที่เพิ่งเจอกันไม่นานไม่ใช่หรอ?
ทำไมเหมือนทำการตอกบัตร เจอกันตลอด?
“ฮ่าๆ” เจ้าหน้าที่่ตำรวจคนนำหัวเราะออกมา มือขวาวางไว้ข้างหลังพยายามส่งสัญญาณให้กับเจ้าหน้าที่่คนอื่นๆให้วางอาวุธในมือลง
เดินก้าวหน้าขึ้นไป แล้วพูดอย่างไม่จริงว่า “คุณปวีณ ผมคิดว่านี่ต้องมีอะไรที่เข้าใจผิดกันแน่นอน”
หลังจากนั้นมองไปที่ข้างหลังปวีณ ทำเอาเจ้าหน้าที่่งงเลย ใบหน้าที่คุ้นนี้......แฟนตัวน้อยของปวีณ!
“ขอโทษครับ คุณปวีณ ที่ทำให้เสียเวลา” หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่่ก็ได้เดินถอยหลังไป แถมยังปิดประตูให้ด้วย
ผ่านไปสิบกว่านาที พนิตก็ได้พาคนรีบเข้ามา
“คุณชาย จะทำแบบนี้จริงหรอครับ?”
“ในเมื่อทำแล้ว ก็ต้องให้คำอธิบายกันฉัน!” มุมปากของปวีณได้ยิ้ม ทำให้บรรยากาศข้างๆลดลงมาหลายองศา
ทั้งหมดนี้ตระกูลบ้านคานเขตเป็นคนทำเอง
พนิตขนลุกขึ้นมาทั้งที่ไม่จำเป็น แล้วเสนอข้อคิดเห็นตัวเองออกมาอย่างเสียงเบาๆ: “ผมคิดว่าตระกูลคานเขตก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นมั้ง! ทำแบบนี้ไม่มีผลดีอะไรกับเขาเลย”
ยิ่งพูดเสียงเบา ยิ่งรู้สึกแปลกๆ
พนิตได้ยักคิ้วขึ้นมา แล้วพูด ตระกูลบ้านคานเขตใจกล้าอะไรขนาดนั้น ถึงกับวางแผนให้ปวีณเจ้าโรงพัก เคลียดมากจริงๆ ไม่มีแนวโน้มอะไรเลย!
ในตาปวีณก็มีการคิดไตร่ตรองเลื่อนผ่าน แต่เพียงสักครู่ก็ได้สติกลับคืนมา: “ทำตามที่ฉันบอก”
“ครับ” พนิตใส่หัวอย่างเคารพ แล้วก็กังวลแทนตระกูลบ้านคานเขตสักหนึ่งวิ
นิลยานอนอยู่บนเตียงไม่ตื่นเลย หมอได้ตรวจเช็คแล้ว แน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ให้ยาแก้เมาไว้แล้วจากไป
โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
นิ้วมือของปวีณจับหน้านิลยาไว้ จากเดิมหน้าที่โกรธมากตอนนี้กลายเป็นนอนหลับสนิทเลย ทำให้รู้สึกว่าดูเรียบร้อยขึ้นไม่น้อย
“เหม็น!”
ไม่รู้ว่านิลยาหลับแล้ว หรือว่ากึ่งหลับกึ่งตื่น ในปากพูดอยู่คำหนึ่งตลอด
ปวีณรู้สึกได้ขึ้นมาว่า เมื่อกี้เห็นเธออ้วกแล้วคราบยังไม่ได้ทำความสะอาด เลอะโดนเสื้อนิดหน่อย
เขาหัวเราะเบาๆขึ้นมา ผู้หญิงนี่ยุ่งยากสักจริง
ห้องนั่งเล่นข้างล่างตึก ทิฐิพลกำลังส่งผู้แขกที่มากลับไป จรัสทิพย์ไม่เข้าใจ “พ่อ พ่อทำอะไร?”
พูดกันแล้วว่าจะหมั้นกัน แล้วแยกย้ายกันกลางงาน แล้วเธอที่จะเป็นเจ้าสาว จะให้เอาหน้าไปไว้ไหน