ตอนที่3 รับผิดชอบอย่างสาสม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่3 รับผิดชอบอย่างสาสม
ตอนที่3 รับผิดชอบอย่างสาสม “เฮ้ยเฉิน.....นี่...... แก.....นี่แกดูผู้หญิงเหรอเนี่ย”โม่ซีเซินตกตะลึงไปหมด เย่หยู่เฉินมองโม่ซีเซินมายืนอยู่ข้างๆตัวเอง ยื่นขาออกแล้วถีบโม่ซีเซินออกไป ปกติเขาไม่ชอบให้คนอื่นใกล้เขา เพราะเขาโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง “เฮ้ย นี่ทำอะไรของแกเนี่ย”โม่ซีเซินเบะปากแบบงงๆ “แกมีธุระอะไร”เย่หยู่เฉินพูดด้วยเสียงนิ่งๆ โม่ซีเซินนวดขาตัวเองตัวเบา จากนั้นก็มองไปที่เย่หยู่เฉิน “แกยังไม่บอกเลย ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” “ไม่เกี่ยวอะไรกับแก” “แกเป็นเพื่อนฉัน ฉันจะเป็นห่วงเพื่อนหน่อยคงไม่เป็นอะไรมั้ง”โม่ซีเซินเหมือนจะถามให้ได้ความให้ได้เลย “ไม่มีอะไรก็ออกไป”เย่หยู่เฉินวางกระดาษในมือ แล้วเริ่มดูเอกสาร “โฮะๆๆ นี่เฉิน ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะมีรสนิยมแบบนี้ ควายแก่กินหญ้าอ่อน” โม่ซีเซินนึกถึงรูปภาพหญิงสาวที่เห็นเมื่อสักครู่ ก็อดไม่ได้ที่จะล้อเขา “แกคิดว่าฉันเหมือนแกเหรอ” เย่หยู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง โม่ซีเซินได้ยินคำนี้แล้วก็เงียบแล้วมือจับจมูกตัวเองเบาๆ “นี่แกไม่รู้เรื่องเลยนะ เป็นผู้ชายน่ะ ถ้าไม่มีผู้หญิงแล้วจะเรียกว่าผู้ชายได้ยังไง” โม่ซีเซินพูดอย่างจริงจัง “หึ ท้องฟ้าจะใหญ่แค่ไหนก็ไม่ ก็ใหญ่ไม่เท่าความเจ้าชู้ของแก”เย่หยู่เฉินพูดกลับอย่างไม่เกรงใจ โม่ซีเซินได้ยินดังนั้น ยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “นี่ยังเล่นกันดีๆได้มั้ยเนี่ย” “ไปหาเล่นกับผู้หญิงของแกไป”เย่หยู่เฉินพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “แต่ฉันอยากเล่นกับแก” โม่ซีเซินยิ้มหวาน “ไม่ว่าง”เย่หยู่เฉินปฏิเสธอย่างไม่ใยดี โม่ซีเซินมองเย่หยู่เฉิน แล้วเบะปากเบาๆ “ไม่มีอะไรก็ไปได้แล้ว”เย่หยู่เฉินพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา โม่ซีเซินเบะปากอีกครั้ง นี่เขาอุตส่าห์เป็นห่วงมาถึงที่นี่ แต่กลับถูกไล่แบบไม่ใยดี “ช่างมันเถอะ ที่ฉันมามีเรื่องจะคุย” โม่ซีเซินได้ยินดังนั้นก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที ใบหน้าสนุกสนานเมื่อสักครู่ก็หายไป แล้ววางปากกาในมือลง เงยหน้าขึ้นแล้วถามโม่ซีเซินด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “มีเรื่องอะไร” “คนที่ลอบทำร้ายแกเมื่อคืนเป็นไร ตรวจสอบออกมาหรือยัง”โม่ซีเซินถามด้วยเสียงที่เคร่งขรึม “หึ ก็แค่แก๊งเฮยยิงที่มีความมั่นใจเกินไปก็เท่านั้น” เย่หยู่เฉินอธิบายอย่างนิ่งๆด้วยสายตาที่โกรธแค้น ถึงแม้ว่าเขายังใส่หน้ากากอยู่ แต่นัยย์ตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ทำให้คนมองแล้วเป็นต้องกลัวจนตัวสั่น “พวกมันงั้นหรือ จู่ๆพวกมันจะมาทำร้ายแกได้ยังไง ฉันว่าพวกมันคงเบื่อโลกนี้แล้วมั้ง” โม่ซีเซินพูดด้วยความโมโห ระหว่างคิ้วเขาขมวดจนเสมือนเปลวไฟ ดุจสัตว์ร้ายที่น่ากลัว ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้ “พวกมันอยากได้สินค้าล็อตนั้น แต่ก็ต้องดูว่าพวกมันจะมีปัญญาหรือเปล่า” สายตาเย่หยู่เฉินเต็มไปด้วยควาเยือกเย็น “ครั้งนี้คิดว่าจะทำอย่างไงต่อดี” โม่ซีเซินถาม “กล้ามาหาเรื่องฉัน ก็ต้องรับผิดชอบอย่างสาสม” น้ำเสียงเย่หยู่เฉินดูเลือดเย็น และภายใต้หน้ากากนั้นยิ่งสื่อความรู้สึกที่โหดร้าย “วางใจเถอะ ฉันส่งคนไปจัดการเอง”โม่ซีเซินพูด แค่พวกนี้เนี่ยเขาไม่ต้องลงมือเองหรอก เย่หยู่เฉินผงกหัวรับคำ แล้วก้มหน้าทำงานต่อ “แกกลับไปได้ละ”เย่อยู่เฉินพูดขึ้นอีกครั้ง โม่ซีเซินเห็นเย่หยู่เฉินเป็นแบบนี้แล้ว คิดในใจว่านี่ฉันมาเป็นเพื่อนกับคนประเทศนี้ได้ยังไงเนี่ย “ใช้ฉันเสร็จแล้วก็จะถีบออกเลยเหรอ”โม่ซีเซินพูดด้วยความไม่พอใจนัก “นี่แกมาหาฉันเองนะ”เย่หยู่เฉินพูด “ฉัน......” โม่ซีเซินพูดอะไรไม่ออก “กลับดีๆ ไม่ส่งนะ” เย่หยู่เฉินพูด “หึ กลับก็กลับ” พูดจบก็หันหลังเดินออกไป แต่เพิ่งจะเดินไปไม่กี่ก้าว ก็หยุดลงแล้วหันหลังมาคุยเรื่องเดิมอีกรอบ “เฉิน สาวน้อยที่แกดูเมื่อกี้น่ะ ใครวะ” โม่ซีเซินถามด้วยความสงสัย จริงๆเขาอยากพูดคำว่าหญิงสาวคนนั้น แต่เห็นว่าเธอยังเด็กเลยใช้คำว่าสาวน้อย “แกว่างมากใช่มั้ย ฉันจำได้ว่าอันเต๋อลู่ไปแอฟริกาสามเดือนแล้ว ควรจะมีคน......” “เออ ฉันยังมีธุระ ไปก่อนนะ” โม่ซีเซินรีบตัดคำพูดของเย่หยู่เฉินแล้วรีบชิ่งออกไปอย่างเร็วเลย เขาจะลืมได้ยังไง เพราะอันเต๋อลู่พูดผิดแค่คำเดียว ก็ถูกเย่หยู่เฉินส่งตัวไปที่แอฟริกาเลย สถานที่โหดร้ายขนาดนั้น จะไปเหมาะกับเขาได้ยังไงกัน เย่หยู่เฉินมองตามหลังโม่ซีเซิน ส่ายหัวเบาๆแล้วก้มหน้าทำงานต่อ โม่ซีเซินวิ่งออกมาเห็นเย่อีถือของอะไรบางอย่างเดินเข้ามา รีบคว้าเย่อีมาข้างแล้ว จ้องมองตาเขา “คุณชายโม่ คุณจ้องผมแบบนี้ ผมจะคิดว่าคุณชอบผมนะเนี่ย” เย่อีพูดด้วยใบหน้าใสซื่อ “ไอ้บ้า”โม่ซีเซินดันเย่อีออก เย่อีมองหน้าเขา แล้วอดขำไม่ได้ “เย่อี ฉันค้นพบอะไรบางอย่าง” โม่ซีเซินมือกอดอก มือขวาลูบไปมาที่คาง “มีไรอะไรหรือครับ” เย่อีถาม “เมื่อกี้ฉันเห็น เฉินดูรูปผู้หญิงคนหนึ่งแล้วก็ยิ้มด้วย แต่อายุเนี่ยดูเด็กไปหน่อย” โม่ซีเซินพูดด้วยความสงสัย “คุณชายโม่ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของนาย ผมยุ่งไม่ได้หรอก” เย่อีพูด โม่ซีเซินได้ยินดังนั้นก็ตบหัวเย่อีเบาๆ “นี่แกบ้าไปแล้วเหรอ นายแกกินเจมา26ปีแล้ว ควรเปลี่ยนรสชาติบ้างได้แล้ว” สีหน้าเย่อีดูเหมือนไม่ค่อยพอใจ เขาไม่ชอบให้ใครมาตบหัวเขา “คุณชายโม่ ผมว่าคุณไม่มีอะไรทำ มาฝึกกับผมหน่อยมั้ย” เย่อีเปิดปากชักชวน โม่ซีเซินได้ยินแล้วรีบถอยหลังไปไม่กี่ก้าว “ไม่”โม่ซีเซินรีบส่ายหัว เขาแข่งกับเย่อีทีไร ไม่เคยชนะเลย โดนล้มราบคาบทุกครั้ง ถึงแม้ว่าเย่อีจะเป็นลูกน้องของเย่หยู่เฉิน แต่พวกเขาก็เป็นเหมือนพี่น้องแท้ๆ ปกติก็มักปรึกษาหารือกับพวกโม่ซีเซินเหมือนกัน “กริ๊ง”โทรศัพของเย่อีดังขึ้น “ไม่ดีแล้ว” สีหน้าเย่อีเปลี่ยนไป “ครับ นาย” เย่อีพูดด้วยเสียงนอบน้อม “แกนี่ตายไปแล้วเหรอ”เย่หยู่เฉินพูดเสียงดัง “เปล่าครับนาย คุณชายโม่รั้งผมไว้ครับ” เย่อีพูดความจริง โม่ซีเซินที่ยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าเริ่มเปลี่ยน “เย่อี แกบอกคุณชายโม่นะว่าพรุ่งนี้ให้ไปเปลี่ยนตัวกับอันเต๋อลู่” เย่หยู่เฉินพูดจบก็วางสายไป เย่อีวางสายลง มองโม่ซีเซินแบบยิ้มๆหุบๆ โม่ซีเซินมองเย่อี รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างชักไม่ดีแล้ว น้ำเสียงเย่อีดูสมน้ำหน้าเขา แล้วพูดว่า “คุณชายโม่ นายบอกว่า พรุ่งนี้ให้ไปเปลี่ยนตัวกับอันเต๋อลู่” โม่ซีเซินได้ยินแบบนี้แล้ว เหมือนทุกอย่างมืดมิดไปหมด “ฉันไม่ไป”โมซีเซินตะโกนลั่น พูดแล้วก็อยากไปหาเย่หยู่เฉินอีก “ถ้าคุณอยากไปอยู่สักปีนึง ก็เข้าไปคุยกับนายผม คุณก็รู้ว่านายไม่ชอบให้ใครมาทำเสียเวลางาน แต่คุณกลับมาลากผมไว้แบบนี้อีก” เย่อียิ้มพูด
已经是最新一章了
加载中