ตอนที่ 211 รู้สึกผ่อนคลายดีขึ้นมาก
1/
ตอนที่ 211 รู้สึกผ่อนคลายดีขึ้นมาก
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 211 รู้สึกผ่อนคลายดีขึ้นมาก
ตอนที่ 211 รู้สึกผ่อนคลายดีขึ้นมาก “ขึ้นรถก่อน หาโอกาสเหมาะๆแล้วผมค่อยมาคิดบัญชีกับคุณ” ปุริมเหมือนจะไม่อยากให้คนอื่นนอกจากจู๋ตได้ยิน ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาแบบนี้ “ปุริม คุณลงรถก่อน” จู๋ตยังไม่เปิดปากพูด เพ็ญนีติ์ก็พูดขึ้นมา เธอมองไปที่แผ่นหลังของปุริมก็รู้สึกโกรธมาก และรู้สึกว่าตัวเองเริ่มไม่มีแรง ยิ่งนั่งอยู่เบาะหลังสุดยิ่งทำให้พอผ่านไปสักพักแรงก็อ่อนลง ยิ่งมีประสบการณ์มากขึ้นเท่าไหร่ จิตใจคุณก็จะยิ่งเย็นและสงบลงเร็วขึ้นเท่านั้น หึหึ ทั้งหมดนี้ต้องยกเครดิตให้กับปุริม เพราะเขาทำให้เธอโตขึ้น “เพ็ญนีติ์ แล้วฉันล่ะ” ฉารามองเพ็ญนีติ์อย่างไม่ไว้ใจ “ฉันขอให้เขาไปกับเราด้วยได้ไหม” เพ็ญนีติ์เหลือบไปมองจู๋ตที่อยู่นอกรถ นึกถึงฉากที่จู๋ตจูบฉารา จู๋ตมักจะตอบรับฉาราเสมอ ดังนั้นเธอจึงถามเสียงเข้มว่า “ฉารา คุณต้องดูแลเขาเอง หลังจากนั้น ก่อนที่จะไม่เจอนภนต์ ฉันไม่อยากได้ยินคุณพูดว่าต้องกลับไปอีก และอีกอย่าง....”น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้น แล้วหันไปมองจู๋ตอีกครั้ง “อีกอย่าง...ฉันไม่สนว่าคุณจะมีความสัมพันธ์อะไรกับจู๋ต แต่ฉันไม่อยากเจอคุณอีก” “เอาล่ะ พอเถอะ” ฉาราเช็ดน้ำตาแล้วเปลี่ยนเป็นหัวเราะ มือข้างหนึ่งก็ยื่นไปนอกรถ “จู๋ต ขึ้นมาเถอะ เพ็ญนีติ์อนุญาตฉันแล้ว” “ผมขับรถเอง” ในที่สุดปุริมก็หันหน้ามา ดวงตาสีดำคู่หนึ่งปรากฏชัดเจนในตอนรุ่งอรุณนี้ เขาจับตามองไปยังเพ็ญนีติ์ “คุณไม่อยากให้ผมตามพวกคุณจริงๆเหรอ” “ใช่” เอ่ยแค่คำเดียว เธอก็หันหน้าไปทางอื่น จู๋ตทำได้แค่ฟังเธอบอก เธอรู้ว่านี่คือคำสั่งของนภนต์ “ผมไปทำอะไรให้เธอ คุณถึงได้เกลียดผมขนาดนี้ อีกอย่างทำไมไม่บอกลากันสักคำ” “หึหึ เป็นคุณเองไม่ใช่เหรอที่ให้ฉันไป ตอนที่มีข่าวลือก็ไล่ฉันไป นี่ยังไม่เรียกว่าเป็นการบอกลาอีกเหรอ ปุริม คุณอย่าเรื่องเยอะนักเลย ฉันกับคุณเราจบกันไปนานแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงต่ำและชัดเจน การได้อยู่และเห็นทุกอย่างมานาน ตอนนี้รูปร่างหน้าตาของเขาก็ไม่สามารถทำให้เธอใจสั่นได้อีกแล้ว ปุริมมองเห็นสายตาที่เมินเฉยออกมาจากแววตาของเธอ และยังตั้งใจที่จะหมางเมินอีก นานเข้าสายตาของเขาก็จ้องมองไปที่จู๋ตอีกครั้ง เขารู้ว่าเวลานี้เขาไม่สามารถฝืนอะไรได้อีก มือก็หยิบบุหรี่ออกจากกระเป๋าเสื้อ ทันใดนั้นเขาก็เปิดประตูรถแล้วลงจากรถไป อย่างแรกหยิบไฟแช็คจุดบุหรี่ด้วยท่าทางสง่า สูบบุหรี่เข้าไป อีกมือหนึ่งก็ไปวางบนไหล่ของจู๋ตที่อยู่ข้างหน้าเขา “น้องชาย เรามาคุยกันหน่อยสิ” มือของเขาบีบอย่างแรง จู๋ตก็ไม่ได้หลบหนีอะไร อยากจะปฏิเสธแต่เห็นปุริมกระซิบกับจู๋ต เหมือนกับพูดอะไรสักอย่าง เพ็ญนีติ์ไม่ได้ยิน อยากจะเรียกจู๋ตให้ห่างออกไป แต่จู๋ตกลับไปพูดกับผู้หญิงสองคนที่อยู่ในรถว่า “ขอไปเคลียร์ก่อนนะ เดี๋ยวอีกสักพักจะกลับมา” ตอนนี้เพ็ญนีติ์กับฉาราต่างก็ไม่มีใครส่งเสียงออกมา ผู้ชายสองคนหลังจากที่เดินไปหลังต้นไม้ หลังจากนั้นก็หยุดยืนคุยกัน เพ็ญนีติ์หันกลับมา แต่ใครจะรู้ว่าพวกเขาสองคนอยากจะเคลียร์กันจริงไหม ถ้าเคลียร์กันจริงๆ เธอหวังให้เป็นแบบนี้ต่อไปก็ดูไม่ดีจริงๆแหละ แต่ในเวลาอันสั้นผู้ชายสองคนนั้นก็กลับมา จู๋ตขึ้นไปนั่งข้างฉาราอีกครั้ง และปุริมก็ไปอยู่ที่นั่งคนขับอีกครั้ง ในใจของเพ็ญนีติ์ก็ชัดเจนแล้วว่าการกระทำของจู๋ตยืนยันได้ว่าเขายอมรับที่มีปุริมอยู่ ถ้าไม่มีจู๋ต ยังไงเธอก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้อยู่ดี เธอจะยังพูดอะไรได้อีก ใครจะรู้ว่าจู๋ตจะมีจุดอ่อนอะไรให้ปุริมถูกจับได้ เธอไม่ได้ถามอะไรอีก เธอเอนตัวพิงเบาะรถแล้วหลับตา หลังจากนั้นก็พูดว่า “ออกรถเถอะ” รถขับเข้ามาในป่าอีกครั้ง หน้าต่างรถที่กำลังเปิดอยู่ ลมพัดผ่านเข้ามา ทำให้ผมของเธอยุ่งเหยิงไปหมด และได้ตกอยู่ในสายตาผู้ชายที่นั่งข้างหน้าเธอ เขามองดูเธอจากกระจกมองหลังโดยไม่เคยหยุดมองเลย เพียงแค่เธอ อะไรก็ไม่รับรู้อีกแล้ว เพียงแค่หลับตานอนแต่ยังไงก็นอนไม่หลับ เพียงแค่ฟังเสียงลมก็รู้สึกถึงลมหายใจของป่านี้ ถ้าหากว่าที่นี่ไม่มีการฆ่าที่เหี้ยมโหดเช่นนี้ บางทีทุกอย่างอาจจะสวยงามก็ได้ เพ็ญนีติ์ไม่ถามอะไร เพียงแค่จู๋ตอยู่เธอก็รู้สึกว่าเขาจะพาเธอไปหานภนต์ได้แน่นอน นึกถึงความฉลาดหลักแหลมของเขาเมื่อก่อนในป่าแห่งนี้เขาได้เก็บและซ่อนมันไว้ บางทีอาจจะหายไปนานแล้ว นึกถึงตอนนั้นเธอก็แปลกใจขึ้นมา นั่งตัวตรงมาตลอด ฉาราที่นั่งตรงกลางได้หลับลงไปแล้ว เสียงที่อยู่ข้างหูคือสิ่งที่ทำให้เบิกบานใจเล็กๆ และยังมีเสียงลมหายใจเบาๆ เพ็ญนีติ์มองข้ามฉาราไปมองจู๋ตที่อยู่อีกด้านหนึ่ง เขาหลับตานิ่งเหมือนว่าหลับสนิท แต่ว่าเพ็ญนีติ์รู้ว่าเขาไม่ได้หลับ “พี่จู๋ต นั่นมันอาวุธอะไร เอามาให้ฉันดูหน่อยได้ไหม” เธอไม่รู้ว่าเธอจะใช้ของสิ่งนั้นได้อย่างถูกต้องหรือไม่ แต่เธอคิดว่าของที่อยู่บนตัวเยอะขนาดนั้นอย่างน้อยก็ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยขึ้นเยอะ “ไม่ได้” เสียงผู้ชายตอบกลับมา และไม่ต้องการจะหยิบออกมาให้เธอดู “อ้อ” เธอตอบรับ มันคงไม่ดีถ้าจะมาทะเลาะกันเอง แต่ยังเหล่ตามองอยู่ สถานที่แบบนี้เวลาแบบนี้สภาพจิตใจของทุกคนล้วนเครียด หรือจริงๆแล้วก็คือกลัวนั่นเอง รถยังเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ปุริมเพียงแค่หันหน้าไปมองเพ็ญนีติ์ด้วยสายตาผิดหวัง แต่กลับไม่พูดอะไรออกมา ขับมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมง จู๋ตจู่ๆก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงมองไปด้านนอกรถ หลังจากนั้นพูดเสียงนิ่งๆว่า “นี่คุณจะพาพวกเราไปไหน มาผิดทางแล้ว ต้องไปทางใต้ ทางใต้น่ะคุณไปถูกไหม” “ถูกแล้ว ไปทางตะวันตกก่อน ไปที่ที่หนึ่งก่อนแล้วค่อยวนรถกลับมา ฉันคิดว่าพวกผู้หญิงจะต้องเห็นด้วยแน่นอน” พูดอยู่ ปุริมก็ผิวปากอย่างอารมณ์ดี ทำนองฟังดูไพเราะ แต่เสียงกับในที่ป่าใหญ่แห่งนี้กลับไม่เหมาะเอาเสียเลย ภูเขานี้ควรจะเป็นเพลงพื้นเมืองสิถึงจะถูก เพ็ญนีติ์เงียบ เธอไม่อยากจะสนใจเขาแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าจู๋ตคอยประนีประนอม เธอจะไม่ประนีประนอมแน่นอน แต่เห็นจู๋ตหน้าเสียไปแล้ว รถยังคงขับไปทางทิศตะวันตก ค่อยๆขับไปเรื่อยๆ เพ็ญนีติ์ได้ยินเสียงน้ำ มองไปนอกหน้าต่างรถอย่างประหลาดใจ “หยุดรถเร็ว” “ไม่ต้องรีบ เรายังต้องอยู่บนรถอีกนาน หนทางยังอีกยาวไกล” ตั้งแต่แรก เขารู้อยู่แล้ว นึกขึ้นได้ถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดไปว่าเขาตั้งใจจะเปลี่ยนไปอีกทางหนึ่ง แล้วก็เขาเคยพูดว่าพวกผู้หญิงจะต้องเห็นด้วยแน่นอน เดิมทีเขารู้นานแล้วว่าที่นี่มีแหล่งน้ำ ความประหลาดใจที่เกิดขึ้นก็หายไปอีกครั้ง เกลียดเขามาก เกลียดเขามากจริงๆ ในที่สุดรถก็หยุดสักที ฉาราที่กำลังโห่ร้องก็ลงรถไป แล้วตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจว่า “จู๋ต ฉันต้องไปล้างหน้า ฉันรับสภาพไม่ไหวแล้ว ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีบ่อน้ำพุแบบนี้ มันใหญ่มาก....” เสียงน้ำได้ถูกเสียงของฉาราแทรกเข้าไป ทำให้เพ็ญนีติ์ไม่มีความรู้สึกว่าดึงดูดพอ ร่างกายของเธอจริงๆแล้วดูไม่ได้เหมือนกัน แค่คิดอยากจะล้างกลิ่นเหม็นสาบผู้ชายคนนั้นที่มาติดอยู่บนตัวเองออกเร็วๆ ไม่งั้นเธอคงจะขยะแขยงจนทนไม่ไหว ตอนที่กำลังคิดอยู่นั้น ประตูที่อยู่ข้างเธอถูกเปิดออก เสียงที่เรียบนิ่งของปุริมดังขึ้นมา “เพ็ญนีติ์ คุณรอให้ผมอุ้มคุณลงจากรถใช่ไหม” “ไม่ต้อง” เธอทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ความคิดบ้าๆในตอนรุ่งสางนี้ เธออยากจะล้างมันออกด้วยจริงๆ เธอจึงขยับตัวลงจากรถไปหลังจากที่ฉาราและจู๋ตเพิ่งลงจากรถไป ตอนที่ขาลงโดนพื้นก็เซเล็กน้อยจนทำให้เธอเกือบจะล้มลงไป โชคดีที่จับประตูไว้ได้ทัน ทำให้ทรงตัวยืนอยู่ได้ “เพ็ญนีติ์ คุณมาเร็วๆ น้ำเย็นมาก สบายมากๆเลย” ฉาราตะโกนบอกเธอ เสียงน้ำไหล มันดึงดูดจนทำให้เธอรีบไปแหล่งน้ำที่อยู่ท่ามกลางภูเขา จู๋ตเดินไปทางด้านหลังของฉารา เขาที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ ก็ยังใส่ใจกับสิ่งรอบตัวเธอ คอยคุ้มกันเธอเสมอ ดวงตาคู่นั้นทำให้เพ็ญนีติ์นึกถึงสายตาของนักล่า มีเขาอยู่เธอก็ไม่กลัวอะไรแล้ว “ไปล้างตัวเถอะ ไม่ต้องกลัว” ตอนที่เห็นเธอเป็นแบบนี้ จู๋ตก็พูดพร้อมกับสูบบุหรี่เข้าไป “อืม” เธอตอบรับ ไม่รู้ว่าทำไมพอผ่านสถานการณ์แบบนี้ไป เธอยิ่งมั่นใจในตัวจู๋ตมากขึ้น บ่อน้ำพุเล็กนั่นไม่สามารถลงไปแช่ได้ แต่ทำได้แค่เอาน้ำมาล้างตัว สถานที่แบบนี้ดูน่าสบายสุดๆ ควักน้ำมาล้างไม่หยุด เมื่อวานตอนเย็นปุริมมาเจอได้ทันเวลา ดังนั้นบนตัวเธอก็ไม่มีรอยอะไรแล้ว เพียงแค่ยังรู้สึกสกปรก ล้างยังไงก็รู้สึกว่ายังไม่สะอาดอยู่ดี ฉาราล้างเสร็จก็เดินออกไป แต่ตัวเธอเองกลับยังล้างไม่หยุด “พอแล้ว คุณจะล้างอีกนานแค่ไหน” คนที่พูดคือปุริมไม่ใช่จู๋ต น้ำเสียงของเขาดูหมดความอดทน “สกปรก” เอ่ยมาคำเดียว ไม่รู้ว่าพูดถึงผู้ชายคนนั้นที่แตะต้องเธอหรือพูดถึงเขา ปุริมที่แตะต้องเธอ “อะไรที่อยู่ในใจ ถ้าใจเธอสะอาด อย่างอื่นก็สะอาด” คำพูดของเขาทำให้เพ็ญนีติ์ฉุกคิด แม้ว่าจะสวมเสื้อผ้าเสร็จ เดินออกมาจากบ่อน้ำพุแล้ว สิ่งที่เขาพูดก็ถูก เพียงแค่ใจเราสะอาดก็พอแล้ว เดินไปยังต้นไม้ใกล้ๆกับเธอล้างตัวอยู่นั้น พื้นหญ้าด้านหน้า ปุริมก็ลงไปนั่ง แสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านกิ่งไม้ลงมายังบนตัวเขา เงาของเขาช่างเหมือนรูปปั้นยังไงยังงั้น ทำให้เธอมีแววตาเป็นประกายขึ้นมา ในมือของเขากำลังถือมีดสั้นอยู่ ตัดกิ่งไม้ที่อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว ตัดอย่างว่องไว กิ่งเล็กๆก็ร่วงลงมาหน้าเขา มีดนั้นคมมาก เขาหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาแล้วโยนมันไปยังต้นไม้ที่อยู่ตรงข้ามกับเขา เขาตัดมาเยอะมาก ได้ยินเสียงของเธอ เขาไม่ได้หันหน้ามามองแต่กลับพูดว่า “กิ่งไม้พวกนี้ผมให้คุณ ผมก็จะไปล้างหน้าล้างตัวเหมือนกัน” พูดเสร็จเขาก็หันหลังกลับมาแล้วเดินผ่านเธอไป ตอนที่เขาเดินผ่านเธอไป เธอพบว่าตัวของเขาก็ไม่มีกลิ่นน้ำหอมแล้ว มีเพียงแค่กลิ่นตัวของเขาเท่านั้น คนเรามันสามารถแปรเปลี่ยนกันได้ แต่เขากลับเปลี่ยนตัวเองก็เพื่อเธอเหรอ กิ่งไม้ที่วางอยู่บนพื้นตรงหน้าเธอ คิดแล้วเธอก็หยิบกิ่งไม้สักสองสามกิ่งขึ้นมาอย่างระวัง หลังจากนั้นเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อไป ของชิ้นเล็กแบบนี้เอาไว้ป้องกันตัวได้ดีจริงๆ เธอไม่สามารถใช้มันฆ่าคนให้เหมือนมีดจริงอย่างจู๋ตได้ แต่สามารถเอาไว้ป้องกันตัวได้ ตอนที่ขึ้นรถ หัวพิงเบาะ ก็รู้สึกสบายขึ้นมาก คงจะสะอาดแล้วจริงๆ ใจของเธอก็รู้สึกผ่อนคลายดีขึ้นมาก “จู๋ต ตอนนี้เราไกลจากเขามากไหม” “ใกล้แล้ว อีกสองวัน” สองวันนี่ถือว่าใกล้แล้วเหรอ เธอต้องการที่จะรีบเจอนภนต์จริงๆ อัพเดทครั้งหน้า วันที่17 ธ.ค. 2019 จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 211 รู้สึกผ่อนคลายดีขึ้นมาก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A