บทที่4 เด็กเมื่อวานซืนที่สมควรตาย   1/    
已经是第一章了
บทที่4 เด็กเมื่อวานซืนที่สมควรตาย
บทที่4 เด็กเมื่อวานซืนที่สมควรตาย แต่ว่าครั้งนี้ ความตายของหยุนเอ๋อร์ ก็ทำให้หลิ่วเป่ยเทียนไม่หยุดที่จะคิดกลับไปกลับมา การตัดสินใจครั้งนี้ของท่านพ่อท่านแม่ดูจะมากเกินไป พวกเขาทำอะไรผิดแล้วงั้นหรือ! สุดท้ายแล้วหยุนเอ๋อร์กับหรูเยียนก็เหมือนกัน ก็เป็นหลานสาวแท้ ๆ ในตระกูลไม่ใช่หรือ ในใจหลี่ซื่อเหมือนมีเข็มมาทิ่มตำเป็นพัลวัน มองไปดูแขกทั่วทุกคนที่อยู่ตรงนี้ด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ นางคิดอยากจะเข้าไปเพื่อหยุดยั้ง แต่ว่าหลิ่วหม้านหยุนนั้นแย่งไปก่อนแล้ว มองไปที่น้องชายหลิงฮ่าวอย่างอ่อนโยน แล้วหลิ่วหม้านหยุนก็เหล่ไปมองดูดด้วยสายตาแข็ง “ท่านย่า เมื่อสักครู่นี้ท่านพูดว่า เงินหนึ่งร้อยยี่สิบสองนั้นจะเอาไว้ให้พวกน้องชายแต่สะใภ้อย่างนั้น น้องชายข้าหลิ่งฮ่าวบ้านของข้าก็มีส่วนด้วยใช่หรือไม่” หลิ่วหม้ายหยุนพูดต่อ “บ้านของข้า” เน้นเสียงดังที่สองคำนี้ อย่างเห็นได้ชัด นางไม่คิดจะนับญาติจากท่านปู่ท่านย่าและคนบ้านรองว่าเป็นคนตระกูลเดียวกันตั้งนานแล้ว เพราะว่าถ้าหากเป็นคนตระกูลเดียวกัน ทำไมถึงให้หลิ่วหม้านหยุนต้องมารับการเฉลิมฉลองนี้กัน “แน่นอน” นายท่านหลิ่วเคาะไม้สูบหญ้าแห้งอยู่ที่มุม ส่งเสียงขึ้นมา“ดี ท่านปู่ท่านย่าเป็นหลัก เห็นได้ชัดว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง นางลุกขึ้นยืน พยายามเข้าไปยืนให้ห่างจากท่านย่าไม่มาก พูดเสียงดัง “ นี่เป็นเงินที่ตระกูลโล่มอบให้ข้าในการเฉลิมฉลองด้วยชีวิต หรือว่าท่านอยากจะให้มันกลับด้านเป็นไม่ประสบความสำเร็จหรืออย่างไรที่หยุนเอ๋อร์พูดแบบนี้ พูดตรงๆ ก็คือเลือดเนื้อของนางและสามี หลี่ซื่อสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเจ้ามันเด็กเมื่อวานซืนที่ควรตาย! ซ่างกวนซื่อกับหรูเยียนสองแม่ลูกใกล้จะโมโหระเบิดแล้ว เห็นทีความหมายของท่านแม่ คงต้องมีคลาดเคลื่อนกันแล้ว.. จริงด้วย เงินก้อนนี้เป็นเงินที่ตระกูลโล่ให้หลิ่วหม้านหยุนในการเฉลิมฉลองแลกมา ด้วยเหตุผลนี้ก็ต้องมีส่วนที่เป็นของน้องชายหม้านหยุนหลิงฮ่าวส่วนหนึ่ง อย่างน้องลุงสามป้าสะใภ้สามก็คิดแบบนี้ เป็นพ่อสามีแม่สามียังคงไม่แยแส ยังคงพยายามที่จะหุบเงินหนึ่งร้อยยี่สิบสองชั่งทั้งหมดให้กับคนบ้านรอง “หรือว่าพ่อสามีแม่สามีอยากจะให้หม้านหยุนตายอีกรอบหรือ” หลีซื่อกอดลูกสาวตัวเองไว้แน่น พูดเสียงราบเรียบ กดเสียงต่ำถึงที่สุด ประโยคนี้พูดแล้วสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ซ่างกวนซื่อไม่คิดไม่ฝันว่าหลีซื่อที่เรียบๆ นิ่ง ๆ จะกล้ามีปากเสียงกับพ่อแม่สามีขนาดนี้ ! แม้แต่นายท่านหลิ่วที่นอนอยู่บนแพรสาบเล็ก ๆ ยังคาดไม่ถึงว่าลูกสะใภ้ที่แสนนุ่มนวลอ่อนโยนจะกล้าพูดเช่นนี้ มันทำให้สะเทือนไปหมดจริงๆ หลิ่วเป่ยเทียนรู้ว่าลูกสาวตัวเองตายไปแล้วหนหนึ่ง ช่างเป็นความทุกข์ทรมาน เขาเป็นพ่อแท้ๆ ถ้าจะพูดว่าใจไม่เจ็บปวดอย่างนั้นคงโกหก เขาก็เป็นคนเหมือนกัน เป็นพ่อที่มีเลือดมีเนื้อมีความรู้สึก.... “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าเป่นเทียนขอร้องท่าน ได้โปรดฟังหยุนเอ๋อร์ด้วยเถอะ...” เสียงดับกุ๊ก หลิ่วเป่ยเทียนคุกเข่าต่อหน้าพ่อแม่ทั้งสอง หลีซื่อก็คุกเข่าด้วยเช่นกัน สายตาส่งถึงความตั้งใจไม่ลดละ อย่างมากนางก็จะต่อสู้กับคนบ้านรอง! หลิ่วหลิงฮ่าวร้องไห้ฮือ ฮือ น้ำตาไหลอย่างบ้าคลั่ง “ข้าอาฮ่าวไม่ต้องการภรรยา ข้าอาฮ่าวไม่ต้องการภรรยา ข้าอาฮ่าไม่ต้องการให้พี่สาวไปเฉลิมฉลอง....ฮื่อฮื่อ... ข้าอาฮ่าวไม่ต้องการ...” “หลานคนเล็กเจ้าพูดจาอะไรอย่างนั้นกัน” นายท่านหลิ่วส่งประการตาวิ๊บวั๊บอย่างจับใจ ไปอุ้มหลิ่วหลิงฮ่าว ที่สุดแล้วก็คือหลานของนายท่านหลิ่ว เป็นคนสืบเชื้อสายครอบครัว ยังไงนางก็ให้ความสนใจ เกี่ยวกับสะใภ้ใหญ่อย่างหลี่ซื่อ นายท่านหลิ่วหมดความอดทน “สะใภ้ใหญ่ เป็นเจ้าที่สอนให้หลิงฮ่าวพูดแบบนี้ใช่ไหม ข้าจะคอยดูว่าอีกหน่อยจะจัดการเจ้าอย่างไร....” “ท่านแม่ เหตุผลแบบนี้แม้กระทั่งหลิงฮ่าวยังรู้ ทำไมท่านถึงยังไม่รู้.....” หลีซือแม้ว่าจะพูดจาด้วยคำนุ่มนวลแต่ละคำที่พูดออกไปนั้นทิ่มแทงนายท่านหลิ่วอย่างเลือดเย็น บาดลึกไปที่นายท่านแก่ “เรื่องนี้ข้าพูดว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้...ฮ่าวเอ๋อร์ยังเล็กนัก...เงินก้อนนี้เก็บไว้ที่ข้าตรงนี้” นายท่านหลิ่งพูดอะไรก็ไม่ได้ ป้าสะใภ้สองรีบแทรกขึ้นมา “จริงด้วยจริงด้วย เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ผมยังยาวไม่เท่าไหร่เลย เก็บไว้ที่ท่านย่าตรงนี้ ไม่ได้หายไปไหนสะหน่อย” รอถึงวันที่หลิงฮ่าวน้อยได้ไปแต่งภรรยาในปีที่เป็นหนุ่มแน่น ถึงตอนนั้น ให้หลิ่วหม้ายหยุนแต่งงานออกไปกับตระกูลโล่ ในที่สุดก็ได้เป็นคนของกงยี่ตระกูลโล่สองคนได้อยู่คู่กัน ซ่างกวนซื่อพูดทำทีเล่นทีกับนายท่านแก่ ให้เก็บเงินก้อนนี้ไว้ แล้วก็ควบคุมความสุขของหลิ่วหม้านหยุนทั้งชีวิต เหมือนยิ่งปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ให้เป็นเช่นความฝันที่งดงามของซ่างกวนซื่อ เสียงของนายท่านหลิ่วดังกังวาน “ พอแล้วพอแล้ว แบ่งกันคนละครึ่งก็คนละครึ่ง ก็เป็นส่วนที่อาฮ่าวควรได้...” นายท่านหลิ่วมองไปไกลแสนไกล เพื่อว่าจะมีสักวันหนึ่ง ที่หลิ่วหม้านหยุนแต่ออกไป พูดได้ไม่ชัดว่าโล่กงยี่อาจหายดีขึ้นมา ยากที่จะไม่บรรเทาครอบครัวทางแม่ ยังมีอีก นิสัยของหลิ่วหม้านหยุนเด็กคนนี้แข็งกร้าว ถ้าหากว่าตายไปอีกครั้งหนึ่ง จะพูดได้ว่าตระกูลหลิ่วถังแตกก็เป็นได้แล้ว นายท่านหลิ่วไม่อยากจะคิดว่าให้วันนั้นมันมาถึง คำที่นายท่านหลิ่วพูดออกมาแล้ว ข้าที่เป็นภรรยาก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว นางพยายามที่จะหยิบของออกจากผ้าเช็ดหน้าออกมา นั่นคือเงินหนึ่งร้อยยี่สิบสองชั่ง นับออกมาแต่ละส่วนๆ นับได้หกสิบสองชั่ง แล้วเอาไปยัดไว้ที่มือหลิ่วเป่ยเทียน เป็ดที่กำลังจะเข้าปากบินหลุดไป คนของบ้านรองก็ร้องไห้อย่างไม่มีน้ำตา ซ่างกวนซื่อโมโหจนแทบทนไม่ไหวที่จะพาลูกเข้าไปปิดประตู ในใจเต็มไปด้วยความเจ็บแค้นอย่างมาก หลิ่วเป่ยเทียนนำเงินมาให้หลีซื่อ หลีซื่อร้องไห้คร่ำครวญจนน้ำตาตกลงไปในกองเงินเหล่านั้น นี่เป็นสิ่งที่ลูกสาวต้องเอาชีวิตเข้าแลก นายท่านหลิ่วคิ้วขมวดจนชนกันมองอย่างโกรธไปที่หลิ่วหม้านหยุน “เมื่อกี้นี้เจ้าพูดว่าได้กินตังกุยไปใช่ไหม เกรงว่าร่างกายคงกลับมาแข็งแรงครบถ้วนแล้ว รีบไปเอายาที่ตกไว้เก็บเข้ามา เห็นว่าอีกไม่นานฟ้าก็เปลี่ยนสีแล้ว!” ข้างนอกจะเปลี่ยนไม่เปลี่ยน หลิ่วหม้ายหยุนไม่รู้ หลิ่วหม้านหยุนเพียงรู้ว่าตัวเองอาละวาทขนาดนี้ ตระกูลหลิ่วในวันนี้ก็เปลี่ยนไปมากโข หลี่ซื่อพาหลิ่วหม้านหยุนออกมา “หยุนเอ๋อร์ ร่างกายดีขึ้นบ้างแล้วหรือยัง หรือว่าจะกลับไปพักที่ห้องดี เรื่องนั้นแม่ช่วยเจ้าทำเสร็จแล้ว” “อย่า ให้ป้าสะใภ้สองเห็น เดี๋ยวเราเรื่องเจ้าไปฟ้องท่านย่า แม่ก็จะลำบากอีก” หลิ่วหม้ายหยุนลูบหลี่ซื่ออย่างนุ่มนวล “อีกอย่าง ข้านอนมาตั้งนาน ควรออกมายืดเส้นยืดสายบ้างแล้ว” “หยุนเอ๋อร์ โทษแม่ที่ไม่ดีกับเจ้า หลังจากนี้ไป แม่จะไม่ให้เจ้าโดนพวกเขารังแกอีก!” หลีซื่อน้ำตาไหลอีกแล้ว เห็นลูกสาวต้องมาทำเพื่อหลิงฮ่าว หลังจากนี้ถ้าต้องพูดเรื่องเงินหกสิบสองชั่งเรื่องสะใภ้ ต่อหน้าท่านย่าที่ใจดำอย่างนั้นก็คงจะมีแรงแก่งแย่งอยู่ นางก็จะยิ่งเจ็บใจจนทนไม่ได้ ทันใดนั้น เพื่อนบ้านสี่คนก็หอบตระกร้ากับข้าววิ่งเข้ามาในจวนตระกูลหลิ่ว ตะโกนหาหลี่ซื่อ “ สะใภ้ใหญ่หลิ่ว เมื่อกี้ข้าไปตลาดเห็นคนตระกูลโล่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ลักษณะดูรีบร้อน เกรงว่าที่บ้านตระกูลโล่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง“ คนที่มาบอกข่าวนี้เป็นคนหญิงอายุราว ๆ สามสิบปี ตั้งแต่นางโตพอที่จะแต่งตัวให้ตัวเองได้ พอรู้ความก็เห็นนางเป็นผู้หญิงที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง นางเป็นป้าของโล่กงยี่ “คนในบ้านว่า กงยี่คงจะไม่ไหวแล้ว พี่ชายให้ข้ามาเรียกหม้านหยุนให้ไปแต่งงานวันนี้” “อะไรนะ” นายท่านหลิ่วตกใจสุดขีด เหมือนกับว่าคนที่จะตายนั้นไม่ใช่โล่กงยี่แต่เหมือนว่าจะเป็นหลานสาวของตัวเอง เรื่องร้ายแรงแบบนี้ไม่ว่ายังไงต้องไม่ตกไปถึงหลิ่วหม้านหยุน “ หลิ่วหม้านหยุนของตระกูลเรายังไงก็ต้องเป็นสะใภ้ที่กตัญญูต่อพ่อแม่สามี ถึงแม้ว่ากงยี่จะรีบให้หม้านหยุนไปตอนนี้ นั่นปะไร....สะใภ้ใหญ่...สะใภ้รอง...สะใภ้สาม....รีบ.....รีบแต่ตัวให้หม้านหยุนเร็วเข้า!” ฟังเสียงท่านย่า ท่าทางของตระกูลหลิ่ว คงต้องจับหลิ่วหม้านหยุนมากดไว้ จะเป็นการดีที่สุดที่จะให้แต่งไปตอนนี้
已经是最新一章了
加载中