บทที่5 เวลามงคลมาถึง ไม่สามารถถ่วงเวลาได้   1/    
已经是第一章了
บทที่5 เวลามงคลมาถึง ไม่สามารถถ่วงเวลาได้
บทที่5 เวลามงคลมาถึง ไม่สามารถถ่วงเวลาได้ “สะใภ้ใหญ่นั้น...พวกเรารีบจัดกลองให้หยุนเอ๋อร์.....” สะใภ้สองที่ทำท่าที่เป็นผู้ใหญ่ออกหน้า ทำเป็นสนิทสนมมาจับมือหลี่ซื่อ แล้วยังมาโอบเอวของหลิ่วหม้านหยุนอีก กล้ามางานแต่งที่ไม่ใช่ลูกสาวตัวเองเฉลิมฉลอง แล้วก็ยังเป็นลูกสาวของคนอื่น ทำให้ดีใจกว่าคนอื่นขนาดนั้นกัน หลี่ซื่อสีหน้าเย็นชาสะบัดซ่างกวนซื่อที่มาจับข้อมือตัวเองอย่างแน่น ซ่างกวนซื่อทำเป็นหน้านิ่งเหมือนก้น แต่ปากไม่รู้ว่ากำลังพึมพำอะไร บ้านสะใภ้สามหลินซื่อก็ยังรับไม่ได้ไม่อยากมองที่ซ่างกวนซื่อทำ เพียงแค่พูดว่า “ให้สะใภ้ใหญ่เป็นคนแต่งตัวให้หยุนเอ๋อร์เถอะ เจ้ากับข้าเป็นเพียงคนนอก” “น้องสะใภ้สามเจ้าพูดผิดแล้ว นั่นหยุนเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าเป็นลูกเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของเราหรือ เป็นหลานที่ดี น้องสะใภ้สาม เจ้าช่างไม่ใส่ใจ แต่ว่าข้าใส่ใจ” ที่พูดก็เพื่อว่าซ่างกวนซื่อจะได้โอกาสใช้มือเข้าไปที่ตัวหลิ่วหม้านหยุนอีก หลิ่วหม้านหยุนแสร้งทำเป็นหลบมือสกปรกของสะใภ้สอง นายไม่เพียงแค่ขยะแขยงมือเท่านั้น แต่รู้สึกเหมือนว่าทั้งร่างของสะใภ้สองนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นดินและเชื้อโรคอย่างไงอย่างงั้น เร็วมากที่ฟ้าจะเข้าสู่กลางคืน ตระกูลหลิ่วทั่วจวนเต็มไปด้วยการจุดตะเกียงไฟ สว่างไสวไปทั่ว หลิ่วหม้ายหยุนได้ยืมกระจกสีบอรน์ลวดลายสวยมากจากห้องสะใภ้สาม หลี่ซื่อหยิบผมขึ้นมาหวีทำผมให้กับลูกสาวตัวเอง “หวีครั้งที่หนึ่งให้ชีวิตราบลื่นโดยตลอด หวีครั้งที่สองให้อายุยืนยาว หวีครั้งที่สามให้ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง....” หลีซื่อขับร้องเพลงดอกพลับจนคนข้างนอกฟังเพราะจับใจ หลิ่วหม้านหยุนกลั้นไม่ไหวน้ำตาไหลออกมา “ ท่านแม่ ข้าไม่อยากแต่ง....” “หยุนเอ๋อร์ เพราะว่าแม่ปกป้องเจ้าไม่ได้....แม่หวังว่าเจ้าหลังจากนี้ไปเจ้าจะได้ใช้ชีวิตที่ดี...แต่ว่าตอนนี้...” คิดถึงคนตระกูลโล่ที่ป่วยอยู่อย่างนั้นที่จะอยู่ได้อีกไม่นาน หลีซื่อก็กอดลูกสาวตัวเองแน่นว่าชีวิตช่างน่าลำบากนัก ได้ฟังความที่ญาติสนิทในบ้านตระกูลโล่ ว่าโล่กงยี่คงอยู่ไม่พ้นคืนนี้ ตามจริงแล้วต้องเดือนหน้าวันที่ สิบหก ถึงจะเป็นกำหนดแต่งาน แต่วันนี้ต้องการจะจัดก่อน.... หมู่บ้านหลิงเย่ามีคนเป็นขบวนมาเคาะประตูจากด้านนอกเบียดกันเข้ามาในจวนตระกูลหลิ่ว เวลามงคลมาถึงแล้ว จะมัวชักช้าไม่ได้ หลิ่วหม้านหยุนแต่งสีแดงเต็ม ที่คุมศีรษะเป็นรูปลายปักนกกระเรียน นั่งเกี้ยวแปดชั้นข้ามสะพานเข้าจวน เข้าจวนเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นลานบ้านกว้างประตูสูงใหญ่ เต็มไปด้วยห้องหับ เป็นบ้านที่มีความร่ำรวยในหมู่บ้านหลิงเย่าไม่มีใครเทียบ แม้ว่าจะมีผ้าคลุมศีรษะ แต่หลิ่วหม้านหยุนรู้สึกได้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าที่มีคนพยุงอยู่เป็นชายหนุ่ม เห็นเข้าอ้ำๆ อึ้งๆ อ่อนแอถึงขั้นอีกนิดก็ต้องหาไก่ตัวผู้มาไหว้ฟ้าดิน “แคกๆ ๆ ๆ แคก ๆ ๆ ๆ” เสียงไออย่างหนังมาจากปากของโล่กงยี่ที่คายออกมา ทำให้หลิ่วหม้านหยุนกลัวจนต้องเปิดผ้าออกอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากชายคนนั้นแดง ดวงตาทั้งสองรอบไปด้วยขอบตาอีกชั้นที่เหมือนสีดำคล้ำของคนป่วย น่าเสียดายที่ที่กระดูกของเขาทำให้นิ้วยาวได้รูปกับร่างกาย น่าเสียดายจริง ๆ เขาเป็นคนที่ใกล้ตาย แต่นิ้วมือที่ยาวสวยงามแบบนั้นจะมีประโยชน์อะไร โล่กงยี่ถึงแม้ว่าจะเป็นคนป่วย แต่ก็ยากที่จะมีคู่แข่งขึ้นมาเทียบได้ ด้วยรัศมีที่แสดงออกมาว่าอยู่ในตระกูลมั่งคั่ง ตลอดชีวิตไม่มีใครกล้าที่จะดูแคลน ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะเขาป่วย หลิ่นหม้านหยุนคนคิดว่าเขาอาจจะเป็นองค์ชายของตระกูลโล่พลัดเข้ามาในหมู่บ้านหลิงเย่า “เลือด....เลือด....” คนที่ป่วยอยู่นั้น แต่ทว่ามือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยพละกำลังที่จับขาของหลิ่วหม้านหยุนไว้แน่น ทำให้หลิ่วหมานหยุนตกใจจนขยับไม่ได้ “หยุนเอ๋อร์ ตกใจอะไรกัน รีบเอาหมั่นโถที่มีให้สามีเจ้ากินคำสองคำก็ดีขึ้นแล้ว” ป้าสนิทในบ้านลากหลิ่วหม้านหยุนขึ้นมา หลิ่วหม้านหยุนทักษะยังคมคาย เดินไปที่โล่ยี่กง แล้วหยิบบางสิ่งออกมา นั้นก็คือหมั่นโถเลือดกลิ่นคาวคลุ้งที่เต็มไปด้วยเลือดป้อนให้เขากิน เปิดฟันของเขาออก โล่ยี่กงกินได้ช้ามาก ๆ รอจนเขากินเสร็จ หลิ่วหม้านหยุนไม่กล้าเข้าไปดูกระโถนเลือดของโล่ยี่กง ในโถนั้นเต็มไปด้วยสีแดง ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางที่จะนิ่งๆ ได้ ฉันไม่รู้ มุมปากโล่ยี่กงโค้งขึ้นมาได้องศา การแสดงอารมณ์บางๆ โดยทั่วไปที่อยู่ใต้แสงเทียน แสดงออกได้ไม่เต็มที่แบบนั้น หลิ่วหม้านหยุนก็ไม่ได้เห็นอะไร หลิ่วหม้านหยุนกลัวจะตาย ไหนเลยจะกล้าคิดมาก แม่สามีที่เห็นหลิ่วหม้านหยุนสะใภ้ที่เพิ่งจะแต่งเข้ามาไม่รู้ว่าจะต้องดูแลปรนนิบัติกงยี่ยังไง คิดแต่เพียงว่าอยากจะให้มีภรรยามาคอยดูแลกงยี่ โรคปอดที่ป่วยอยู่อาจดีขึ้นได้สักวัน เฉินซื่อรู้สึกดีกับหลิ่วหม้านหยุนไม่น้อยเลยทีเดียว “เข้า....ห้อง....เข้า.....ห้อง.....” เสียงของโล่กงยี่ตะกุกตะกักพูดออกมา อ่อนแรกมาก เหมือนยุงที่บิน แต่วว่าทุกคนที่อยู่ในนั้นก็ได้ยินที่เขาพูด คนที่ช่วยพยุงพูดต่อหน้ากับท่านโล่นายหญิงโล่ ตะโกนออกมา “โล่กงพูดว่าเข้าห้อง รีบไปส่งตัวเข้าห้องกันเถอะ!” “จริงด้วย สะใภ้ใหม่เข้าบ้านตระกูลโล่ต้องเพิ่มเด็กผู้ชายอ้วนๆมาหนึ่งคน อย่างนั้นถึงจะดี” แขกทั้งลานก็ส่งเสียงอย่างคึกคะนอง ดูจากสภาพโย่กงยี่ที่ป่วยจนเหมือนคนที่จะตาย ตอนนี้ได้กินหมั่นโถเลือดเข้าไปก็ฟื้นฟูร่างกายที่อ่อนแอให้ดีขึ้นมาได้หน่อย หม้านหยุนมีความรู้สึกสงสัย โล่กงยี่เขาเป็นแมวเก้าชีวิตหรือเปล่า แต่ทว่า แต่ว่าเลือดที่ทะลักออกกับหมั่นโถเลือดนั้นคงไม่ใช่ของปลอมหรอก ในใจนางยังคงมีเสียงแบบนี้เกิดขึ้น ส่งตัวเข้าหอ หลิ่วหม้านหยุนระวังตัวอย่างมากไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้ กึ่งนั่งกึ่งนอนที่ป่วยอย่างโล่กงยี่ค่อยๆ เผยอเปลือกตาขึ้นมาดูเบาๆ แอบมองหลิ่วหม้านหยุนที่มีริมฝีปากแดงสวย เย้ายวนอย่างที่สุด ! โล่กงยี่ยังคงต้องกินหมี่นโถเลือดนั่น มือทั้งสองข้างสั่นไปที่หลิ่วหม้านหยุน มองไปมองมา“เลือด....เลือด....เลือด...” หลิ่วหม้านหยุนรู้ว่าเขาต้องการอะไร ไปหยิบหมั่นโถเลือดที่วางอยู่บนโต๊ะ กลั่นที่จะไม่ให้ท้องอาเจียนออกมาอย่างที่สุด แล้วส่งให้โล่กงยี่ที่ปาก โล่กงยี่มุกมากโค้งขึ้นไม่รู้สึกถึงความชั่วร้ายของผู้หญิงคนนี้ เลยเปิดปากออก ทำเป็นอ่อนแอไม่มีแรงให้นางเดินมาป้อน เมื่อนางลึกขึ้น หลิ่วหม้านหยุนถูกโล่กงยี่เยียบถูกที่ปลายกระโปรง คว้าร่างนางเอาไว้ ทำให้ร่างของนางโน้มไปข้างหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ นี่เป็นสิ่งดี หลิ่วหม้านหยุนทับอยู่บนร่างของเขา ริมฝีปากของนางประกบเข้ากันพอดีกับริมฝีปากของเขา อุบัติเหตุไม่ได้ตั้งทำให้ได้สัมผัสจูบที่ดี! ขยะแขยงมากเลย....นั่นมันคือหมั่นโถเลือด... หลิ่วหม้านหยุนรีบกระเถิบออกรู้สึกผิดนิดนึง แต่ว่านางไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่อยากจะออกห่างจากโล่กงยี่ ขยับห่างไม่ได้ไม่เป็นไร แต่พอขยับ โล่กงยี่ก็รัดร่างของนางไว้ไม่ให้ขยับ เขยื่อน โล่กงดูเหมือนว่าจะหลับสนิทเรียกอย่างไรก็ไม่ตื่น “นิ ! เจ้ารีบตื่นซิ....เจ้า.....” ไม่ว่าหลิ่วหม้านหยุนจะพลักอย่างไร ก็ไม่มีทางที่จะผลักสามีร่างใหญ่ออกไปได้ ก็เป็นอย่างนี้ ไปตลอดทั้งคืน วันนั้นท้องฟ้าสว่างเล็กน้อย เฉินซื่อลุกมาล้างมือเห็นสะใภ้ใหม่เข้ามาในห้องครัวทำน้ำขิง แม่ของกงยี่กลั่นความสุขไม่ไหว เอามือไปลูบใบหน้ารูปไข่ของหลิ่วหม้านหยุน “หยุนเอ๋อร์ เมื่อคืนนี้กงยี่รังแกเจ้าหรือเปล่า” “กระตุก...” หลิ่วหม้านหยุนแสดงอาการตกใจชัดเจน แสดงออกแบบนี้ ยิ่งทำให้เฉินซื่อเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ดูทีแล้วลูกชายของเขากงยี่ก็ไม่ได้อ่อนแออะไรขนาดนั้น ดูแล้วยังมีแรงไว้รับช่วงส่งต่อครอบครัว “ท่านแม่ ไม่ใช่....” หลิ่วหม้านหยุนคิดอย่างจะแก้ต่าง ว่าร่างของตัวเองนั้นปวดเมื่อยไปทั้งตัวเพราะว่าโดนโล่กงยี่ทับอยู่ทั้งคืน จริงๆ แล้วไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างนั้น คิดไปคิดมา คล้ายกับว่ามีเรื่องที่ไม่ควรอยู่..... อาจเป็นเพราะว่าช่วยกลางดึก ตอนที่หลิ่วหม้านหยุนตื่นขึ้นมานั้นก็เพราะโล่ยี่กงทำให้ตื่น ดังนั้นเรื่องแบบนี้ยิ่งพูดยิ่งยุ ไม่พูดจะดีกว่า
已经是最新一章了
加载中