บทที่ 16 หลิ่วหม้านหยุนควรแสดงท่าทางได้แล้ว   1/    
已经是第一章了
บทที่ 16 หลิ่วหม้านหยุนควรแสดงท่าทางได้แล้ว
บทที่ 16 หลิ่วหม้านหยุนควรแสดงท่าทางได้แล้ว “ข้ารู้แล้วน่า ไม่ต้องให้เจ้ามาเตือนหรอก?” เฉินซื่อทำท่ารู้“เป็นยังไง ข้าบอกแล้วว่าจะได้เป็นยาย เจ้ายังไม่เชื่ออีก!ข้าก็เชื่อว่าอาการป่วยของลูกชายเราจะดีขึ้นเอง” “ที่จริง…”เฉินซื่อพูดค้างไว้อย่างนั้น “มีอะไรเจ้าก็พูดมาสิ อย่าพูดแค่ครึ่งเดียวให้ค้างคาใจ” โล่เหวินเฟิงทำท่ารำคาญ “เออ…ตอนข้าเข้าไป เห็นเลือดเปื้อนนั้น ข้ายังเห็น…เห็นน้ำออกมาจากห้องน้ำมากมาย พูดได้ว่า ห้องนั้นเหมือนเป็นแม่น้ำได้” เฉินซ่อก็สงสัย โล่เหวินเฟิงที่เคยมีประสบการณ์ก็รู้ทันที ตอนเขายังหนุ่มก็เคยผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้ว “อาจจะเพราะหนุ่มสาวอยากทำอะไรลองอะไรใหม่ๆ ตอนพวกเรายังหนุ่มสาวก็เคยทำเช่นนี้มาแล้วนี่” ใช้โอกาสที่ไม่มีคน โล่เหวินเฟิงเข้าไปพูดใกล้ๆหูนาง เฉินซื่ออายจนอยากหลบออกไป นางทุบอกโล่เหวินเฟิงไปสองสามที“เดี๋ยวเถอะ!โล่เหวินเฟิง!เจ้าก็จะได้เป็นตาคนแล้ว!ยังจะเป็นคนเช่นนี้อีก!ดูแล้วต่อไปลูกชายเราหมิงถางคงจะเหมือนเจ้า ยังดีที่กงยี่ไม่ใช่ลูกของเจ้า ไม่เหมือนเจ้า...” “คำนี้พวกเราก็พูดกันเองขำๆ เจ้าอย่าพูดดังไปเดี๋ยวจะอันตรายได้” โล่เหวินเฟิงปิดปากนางเอาไว้ ตั้งแต่โล่เหวินเฟิงเห็นโล่กงยี่เป็นครั้งแรก ก็โดนสร้อยหยกดำบนคอเขาดึงดูด เขารู้ว่าคนผู้นี้ต้องไม่ธรรมดา แต่ว่าตอนนั้น โล่เหวินเฟิงก็เอาเขากลับตระกูลโล่ ตั้งชื่อว่ากงยี่ “พอแล้วๆ ข้ารู้แล้วน่าๆ ต่อไปจะไม่พูดแล้ว” เฉินซื่อก็รู้สึกเป็นห่วงกงยี่ขึ้นมา“เจ้าก็รู้ ข้าก็กังวลร่างกายของกงยี่ เขาเป็นเช่นนี้ แม้จะยังหนุ่ม แต่ร่างกายต้องมาเจ็บป่วย” “ช่างเถอะ คนหนุ่มสาวก็เป็นเช่นนี้”โล่เหวินเฟิงมองเฉินซื่ออย่างนั้น เฉินซื่อรีบจัดการพับผ้า แต่ใบหน้ากลับแดงขึ้นมาถึงหูเลย ครั้งนี้กลายเป็นโล่เหวินเฟิงคิดว่า คืนนี้เขาคงเหนื่อยแน่ พอกินข้าวเสร็จ หลิ่วหม้านหยุนก็เห็นพ่อตาเปลี่ยนไม้เท้าใหม่ “ท่านพ่อ อันนี้คืออันที่ท่านทำใหม่หรือเจ้าคะ สวยจังเลยเจ้าค่ะ” หลิ่วหม้านหยุนรู้สึกว่าไม้เท้านี้สวยมาก ไม้เท้ายังมีลายเสื้ออีก ดูแล้วก็คลายมีอำนาจเสืออยู่ “สวยจะทำอะไรได้ ถ้าข้าไม่ใช้ไม้เท้านี้ก็คงจะดีกว่านี้” คำๆนี้ โล่เหวินเฟิงหลุดปากพูดออกมา เพราะยังไง เขาใช้ไม้เท้ามานาน หลายปีก็ชินไปแล้ว หลิ่วหม้านหยุนเห็นสายตาเศร้าสร้อยของโล่เหวินเฟิง เขาคงจะหวังว่าตัวเองจะไม่ต้องจับไม้เท้านนี้อีก นางสัญญากับโล่กงยี่ไว้ ให้โล่กงยี่เชื่อในความสามารถการแพทย์ของนาง ตอนนี้ถึงเวลาที่หลิ่วหม้านหยุนควรจะแสดงความสามารถของตัวเองแล้ว “ท่านพ่อ ให้ข้าดูขาท่านหน่อยได้หรือไม่?” หลิ่วหม้านหยุนพูดขึ้น สะใภ้เป็นห่วงพ่อสามีก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่พอนางพูดว่าขอดูขาพ่อสามี ก็อาจจะแปลกๆหน่อย…… ช่างเถอะ โล่เหวินเฟิงคิดว่าหลิ่วหม้านหยุนเป็นลูกสาวแท้ๆตัวเอง ก็ไม่ต้องสนเรื่องชายหญิงแล้ว“ดูก็ดูเถอะ” เฉินซื่อกับโล่กงยี่ก็เดินเข้าไป เฉินซื่อก็กำลังคิดอยากให้สะใภ้ดูอาการให้เขาด้วย เมื่อวานผู้คนต่างพูดว่าตระกูลโล่ได้ลูกสะใภ้ที่เก่งวิชาแพทย์? หลิ่วหม้านหยุน เจ้าสามารถรักษาอาการของพ่อเลี้ยงข้าได้จริงเหรอ? ถ้ารักษาได้ ข้านับถือเจ้าเลย! ตั้งแต่นี้ไปข้าก็จะเชื่อเจ้าทุกคำพูด! โล่กงยี่คิดตัดสินใจในใจ หลิ่วหม้านหยุนจับกระดูกก่อนและถามไปว่า“ท่านพ่อ ตอนนั้นขาท่านบาดเจ็บได้อย่างไรเจ้าคะ?” “เออ…น่าจะเมื่อสิบปีก่อน…” โล่เหวินเฟิงยังไม่ได้พูดเฉินซื่อก็พูดตัดหน้าไปเสียก่อน เฉินซื่อก็กลัวว่าโล่เหวินเฟิงจะพูดออกไปและพูดต่อว่า“ก็ตอนนั้นขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนหน้าผา ไม่ทันระวังก็เลยตกลงมาน่ะ” พูดจบ เฉินซื่อกับโล่เหวินเฟิงมองตากัน พวกเขาจะให้กงยี่และหม้านหยุนรู้เรื่องจริงของตอนนั้นเด็ดขาด “อืม ตอนนั้นขาที่หักก็หายดีแล้ว……”หลิ่วหม้านหยุนพูดสรุป โล่เหวินเฟิงรู้สึกว่าสะใภ้พูดคำๆนี้ก็เก่งมากแล้ว และเขาก็พยักหน้าตาม“ใช่ ตอนนั้นข้าไปหาหมอที่หมู่บ้านอื่น หมอบอกว่าขาข้าหักก็รักษาให้ข้าไปแล้ว แต่ขาก็ไม่มีทางกลับมาดีได้…ต่อไปต้องใช้ไม้เท้าในการเดิน…” “ก็ต้องโทษหมอตอนนั้นที่รักษาแผลให้ไม่ดี ตอนนี้ขาเส้นประสาทขาก็เลยปิดไป เลือดก็ไหลเวียนไม่เป็นปกติ ก็เลยยากที่จะรักษา…” หลิ่วหม้านหยุนพูดสบายๆไม่กี่คำ กทำเอาทุกคนต่างตกใจ! “สะใภ้…เจ้า…เจ้า…เจ้าพูดอะไรกัน?แม่ฟังไม่ผิดใช่หรือไม่…รักษาไม่ยากใช่หรือไม่…” เฉินซื่อตื่นตนกจนพูดติดอ่าง โล่ยี่เหลียนพูดในแง่ดีว่า“ท่านแม่ ท่านตกใจอะไรกัน!พี่สะใภ้พูดว่ารักษายาก…เช่นนั้นก็แสดงว่ารักษาได้น่ะสิ…” “พี่สะใภ้ หมิงถางเชื่อว่าท่านจะต้องรักษาขาของท่านพ่อได้แน่นอน!” ขนาดหมิงถางก็ยังไม่รู้เลยว่าทำไมถึงเชื่อหลิ่วหม้านหยุนนัก อั้ยหย่า! หลิ่วหม้านหยุนจะทำได้จริงเหรอ? โล่กงยี่ก็พูดต่อว่า“หม้านหยุน เจ้ามีวิธีดีๆอะไรก็ช่วยรักษาพ่อข้าหน่อย!” โล่กงยี่รู้ว่าตอนนั้นถ้าไม่ได้โล่เหวินเฟิงเก็บขึ้นมาจากหน้าผา ตัวเองคงโดนหมาป่าคาบไปกินตั้งนานแล้ว แต่ว่า โล่เหวินเฟิงกลับต้องตกลงไปหน้าผาเพราะช่วยตัวเอง คำพูดนี้ที่จริงโล่กงยี่ก็ยังไม่รู้ จนกระทั่งตอนจำความได้มีทหารลับคนหนึ่งที่ชื่อเฉียนหลงมาช่วยตัวเอง บอกตำแหน่งที่แท้จริงของตัวเอง เขาก็ได้รู้เรื่องทุกอย่างทันที ดังนั้น บุญคุณของโล่เหวินเฟิงเขาจะไม่ลืมแน่นอน แต่ใจของโล่กงยี่ก็รู้สึกผิดมาก เขาจะต้องรักษาขาของโล่เหวินเฟิงให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด “ให้เวลาข้าสามวัน เวลาสามวัน ข้ทำให้ท่านพ่อสามารถกลับมาเดินได้อีกตามปกติ!พวกเจ้าเชื่อข้าเถอะ!” หลิ่วหม้านหยุนพูดสาบาน นางเป็นหมอแผนโบราณของโลกก่อน ผู้ป่วยแผลแค่นี้ สำหรับนางก็เป็นแค่เรื่องง่ายดายธรรมดา ขอแค่ใช้เข็มและยาให้พอดีก็พอ เทียบกับประสบการณ์ของหลิ่วหม้านหยุนแล้ว เรื่องนี้ดูไม่เสี่ยงอันตรายเลย! “ท่านแม่ ในบ้านมีลู่จ่าวจิงไหมเจ้าคะ?” หลิ่วหม้านหยุนรีบถาม “มีๆ เด็กคนนี้นี่ เจ้าลืมไปแล้วเหรอว่าบ้านเราทำอาชีพอะไร!” พูดแล้ว เฉินซื่อก็ยิ้มอย่างภูมิใจ ในหมู่บ้านนี้บ้านที่มีสมุนไพรและขายเยอะสุดก็คือตระกูลโล่ ตระกูลโล่เป็นศูนย์รวมของยาสมุนไพร และส่งต่อไปให้ราชวัง เป็นเช่นนี้มาตลอดไม่มีผิดพลาด พูดแล้วตระกูลโล่ในหมู่บ้านหลิงเย่าเป็นยาที่ส่งไปในราชวงศ์ต้าแล่มากที่สุดและเป็นคู่ค้ากับราชวงศ์ต้าแล่มาตลอด ส่วนยาทั้งหลายเป็นหลักส่วนน้อยในการพัฒนาหมู่บ้านเท่านั้น ตระกูลโล่ทำการค้าหลักกับราชวงศ์ต้าแล่มานาน
已经是最新一章了
加载中