ตอนที่6 เกิดใหม่มาช่วยแม่(3)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่6 เกิดใหม่มาช่วยแม่(3)
ตอนที่6 เกิดใหม่มาช่วยแม่(3) คุณหนูรองช่างกตัญญูและเพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมจริงๆ" ติ่งหย่วนโหวฮูหยินได้ยินคำพูดของเฉินเสว่เม่ยดังมาแต่ไกล จึงอดไม่ได้ที่จะทวนซ้ำหนึ่งรอบ สาวใช้ที่อยู่ด้านหลังถอนหายใจแล้วพูดว่า “สามชั่วยาม ก็ถือว่านายท่านทนไม่ไหวแล้วถ้าบ่าวจำไม่ผิด คุณหนูรองอายุสิบสองปีแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ?” คนสกุลเฉินถือโอกาสมารวมตัวกันแล้วพูดสอดปากสอดคำว่า “ใช่ อายุสิบสองปี ก็ถึงวัยที่ต้องแต่งงานได้แล้ว ถุย ตั้งแต่ข้ามาก็ไม่เห็นแม่หนูรองเคยขึ้นมาเลย จะว่าไป แม่หนูใหญ่ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนแล้ว จะครึ่งค่อนวันแล้ว ยังไม่เห็นแม้แต่เงา” ล้วนคนที่อยู่รอบๆขมวดคิ้วเล็กน้อย มีที่ไหนแม่ตายก็ไม่โผล่หน้ามา? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความหมายของคำพูดของเฉินเส่วยเหม่ยนั้นคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเพราะนางใส่ชุดไว้อาลัยไม่เหมาะสมใช่หรือไม่? การสวมชุดคลุมไว้ทุกข์ยังคงเป็นของบุตรธิดา มีอย่างที่ไหนเป็นเพราะว่าชุดไม่เหมาะสมก็เลยไม่ใส่และไม่มางานศพเลยงั้นรึ? ยิ่งเอามาเปรียบเทียบว่ายังดีที่มีเย่หลิงซิงอยู่ตรงนี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นว่าเย่หลิงหลงไม่มีจิตสำนึกและไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่ใช่อกตัญญู แต่บาปหนักเลยล่ะ เย่หลิงซิงกลับลุกขึ้นมาแล้วพูดว่า "ท่านพี่คงจะเจ็บปวดเสียใจมากเกินไปน่ะเจ้าคะ จึงได้อารมณ์ไม่ค่อยดี ข้าจะลองไปดูสักหน่อย" ทุกคนส่ายศีรษะอย่างพร้อมเพรียงกัน ในเวลานี้ประจวบเหมาะกับที่เย่หลิงหลงแต่งตัวไม่เรียบร้อยพอดี นางวิ่งหอบฮั่กๆมาแล้วพูดว่า "เปิดออก เปิดออกให้หมด" เปลือกตาของเย่หลิงซิงก็กระตุกขึ้น ยานั้นเป็นยาที่นางให้หวางมามา ทำไมถึงหมดฤทธิ์แร็วขนาดนี้? เฉินเสว่เม่ยก็มองไปทางหวางมามา นี่หรือที่บอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว? หวางมามาสะดุ้งตกใจ แสดงสีหน้าว่าไม่อยากจะเชื่อ เป็นไปไม่ได้ถึงแม้ว่ายาจะหมดฤทธิ์แล้ว คนงานก็สามารถกดนางไว้ได้อย่าบอกนะว่า นางยังจัดการคนที่เฝ้ายามอยู่ในลานบ้าน ทำไมถึงหนีออกมาได้? เย่หลิงหลงก็เคยประสบกับแผนร้ายนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง จึงรู้วิธีการของหวางมามาเป็นอย่างดี จะหลงกลอีกได้อย่างไร? นางเคยเรียนวิชาการต่อสู้กับแม่ทัพหลิ่วเป็นเวลานานมาก และยังเคยอยู่ในกองทัพสองปี นำทัพทำสงคราม และมีชัยกลับมา แม้ว่าร่างกายจะหดตัวลงมาแล้ว กำลังแรงกายก็ไม่ได้ดีเหมือนในชาติก่อน แต่ข้ารับใช้ในบ้านยังคงไม่ใช่คู่ปรับของนาง ไม่ต้องพูดถึงเลยว่า เย่หลิงหลงแอบหนีออกมาจากสถานที่ที่มีกำลังพลมากมายและปีนกำแพงมาจากลานบ้านหลังอื่นได้อย่างไร "หลงเอ๋อร์ ทำไมเจ้าถึงได้มีท่าทีเช่นนี้ มานี่เร็ว..." ปฏิกิริยาตอบสนองของเฉินเสว่เม่ยเร็วมาก คิดจะโน้มนำความคิดของผู้คนก่อนที่เย่หลิงหลงจะเอ่ยปากออกมา ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะเอ่ยปากก็ถูกเย่หลิงหลงผลักออกไปแล้ว “ไสหัวไป” เย่หลิงหลงดันฝูงชนออกไป มองดูโลงศพที่เหมือนกับโลงศพอยู่ในความทรงจำโลงนั้น ดวงตาก็แวววาวขึ้น ขอแค่ยังมีความหวังอยู่เพียงเล็กน้อย นางก็ไม่ยอมแพ้ แม้ว่าจะเป็นเพียงความฝัน แต่ก็ต้องช่วยแม่ออกมาให้ได้ "เปิดโลง แม่ข้ายังไม่ตาย รีบช่วยข้าเปิดฝาโลงเร็วเข้า" เย่หลิงหลงใช้กำลังเปิดฝาโลง แต่มันหนักเกินไป ผลักอยู่นานก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย รอบๆตัวก็มีเสียงฮือฮาขึ้น เฉินเสว่เม่ยตกใจ หรือว่าเย่หลิงหลงจะรู้ว่าพวกนางทำเรื่องอะไร? ไม่ เป็นไปไม่ได้ เฉินเสว่เม่ยบังคับตัวเองให้สงบลง แล้วพูดกับเหล่าข้ารับใช้ว่า “คุณหนูคงจะเสียใจมากจนเสียสติไปแล้ว ยังไม่รีบลากลงไปอีก อย่าให้ฮูหยินจากไปอย่างไม่สงบนะ” นางอดทนมานานหลายปีขนาดนี้ ไม่ง่ายเลยที่จะเอาหลิ่วซื่อเข้าไปไว้ในโลงศพ ฝังนางให้ตายทั้งเป็นจะสามารถระบายความเกลียดชังของนางได้ ตำแหน่งฮูหยินของเย่ผิงโหวก็จะต้องตกอยู่ในมือของนาง ไม่ว่าอย่างไรก็มิอาจให้เปิดโลงศพอย่างเด็ดขาด เย่หลิงซิงก็มีปฏิกิริยากลับมา แล้วเดินมาปลอบใจเย่หลิงหลงอยู่ข้างๆว่า "ท่านพี่ ข้ารู้ว่าท่านเสียใจมาก แต่ฮูหยินก็ตายไปแล้ว ท่านเป็นเช่นนี้ มีแต่จะทำให้นางเสียใจอยู่บนสวรรค์..." เย่หลิงซิงยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเย่หลิงหลงตบไปที่หน้าหนึ่งฉาด เพี้ยะ! เสียงดังกังวานเป็นอย่างมาก ทุกคนล้วนไม่มีปฏิกิริยาใดๆและกำลังมองดูอย่างตกตะลึง “มือถือสากปากถือศีลอยู่ให้มันน้อยๆหน่อย ไสหัวไปซะ!” เย่หลิงหลงผลักเย่หลิงซิงอย่างแรงหนึ่งครั้ง พอคิดถึงเรื่องราวก่อนตาย ก็อยากจะลงโทษเย่หลิงซิงด้วยการฆ่าหั่นศพจนใจจะขาด แต่ทว่าตอนนี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมาแก้แค้น นางเห็นข้ารับใช้ที่อยู่ข้างๆ แล้วตวาดว่า “พวกเจ้าหูหนวกรึ? ข้าบอกให้เปิดโลง โอ้เอ้เสียเวลา พวกเจ้าจะต้องถูกฝังพร้อมกัน” เจ้าจะมาก่อกวนอะไร เย่ผิงโหวแสดงสีหน้าที่โมโหขึ้นมา ตามมาด้วยชายชุดดำที่สวมหน้ากากสีเงินที่อยู่ข้างหลัง
已经是最新一章了
加载中