ตอนที่7 เกิดใหม่มาช่วยแม่(4)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่7 เกิดใหม่มาช่วยแม่(4)
ตอนที่7 เกิดใหม่มาช่วยแม่(4) พ่อ เย่หลิงหลงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วอธิบายว่า “แม่ของข้ายังไม่ตาย แต่ถูกวินิจฉัยโรคผิด ถ้าเปิดโลงศพตอนนี้ก็ยังสามารถช่วยนางได้ ชักช้าก็อาจจะไม่ทันกาลนะเจ้าคะ” “พูดจาเหลวไหล” เย่ผิงโหวไม่ได้ฟังที่เย่หลิงหลงอธิบายเลย เขาตรวจดูลมหายใจด้วยตัวเองอย่างแน่วแน่ ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่? เมื่อมองเห็นคนรอบข้างทำสีหน้าเหมือนกำลังดูละครฉากหนึ่ง เย่ผิงโหวจึงทำสีหน้าไม่ปีติยินดีจึงสั่งทหารที่อยู่ข้างๆว่า “เอาตัวคุณหนูกลับไป อย่าให้มาทำเรื่องขายขี้หน้าที่นี่อีก” ฝีมือของทหารที่ติดตามเย่ผิงโหวประจักษ์ชัดเจนว่าแข็งแกร่งกว่าข้ารับใช้มากนัก เย่หลิงหลงหลบหลีกอย่างกระเซอะกระเซิง เกลียดตัวเองที่ตอนนี้ไม่มีกำลังอยู่ภายใน แม้กระทั่งฝาโลงศพก็ไม่มีปัญญาเปิด ปิ่นปักผมได้หล่นขณะต่อสู้กัน ทำให้ผมที่ยาวร่วงพรูลงราวกับน้ำตกทันที แสงแดดอุ่นๆสาดส่องลงมา ภาพของคนที่เล็กผอมบาง ได้สะท้อนเข้าไปในดวงตาของชายที่สวมเสื้อสีดำกับหน้ากากมาแต่ไกลๆ เฉินเส่วยเหม่ยลากเย่หลิงซิงวิ่งออกมาจากข้างโลงศพ สังเกตเห็นสายตาของเย่ผิงโหว ก็ดึงมุมปากแสดงความรู้สึกเสียใจออกมา ชุดไว้อาลัยของพวกนางสองแม่ลูกล้วนผ่านการตัดเย็บแก้ไขมาแล้ว สีขาวบริสุทธิ์ไม่มีจุดด่างพร้อยแสดงให้เห็นร่างกายที่อ้วนท้วนสมบูรณ์นั้นอย่างคร่าวๆ เบ้าตาแดง สีหน้าที่แสดงความรู้สึกเสียใจ ช่างน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง “แม่ ข้ารู้ว่าท่านพี่ไม่ได้ตั้งใจตบข้า นางก็แค่เสียใจเรื่องที่ฮูหยินตายไปเท่านั้นเอง” เย่หลิงซิงปิดหน้าพูดด้วยความรู้สึกผิดท่ามกลางฝูงชน ทันใดนั้นทุกคนก็มองไปบนใบหน้าของนาง ชี้ให้เห็นรอยนิ้วนั้นอย่างชัดเจน ทว่าไม่รอให้ทุกคนเห็นอกเห็นใจ ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นมา "ปั๊ก" เย่หลิงหลงถูกทหารทั้งสี่นายกดลงไปบนพื้น ด้วยใจที่อยากรีบช่วยแม่ของเธอ จึงดิ้นรนไม่หยุด “ปล่อยข้านะ แม่ข้ายังไม่ตายจริงๆ เฉินเสว่เม่ยอยากได้ตำแหน่งฮูหยิน จึงสร้างเรื่องโกหกว่าแม่ข้าตาย ตอนนี้นางยังมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่รีบเปิดโลง ก็จะต้องตายทั้งเป็นไปจริงๆนะ” ครืน... คำพูดของเย่หลิงหลงราวกับเสียงฟ้าร้องที่สั่นสะเทือนขวัญ และระเบิดดังขึ้นอยู่ภายในหัวใจของทุกคน แล้วทุกคนก็ฮือฮามองเฉินเสว่เม่ยและเย่ผิงโหวรวมทั้งโลงศพที่อยู่ด้านหลังโต๊ะบูชานั้นด้วยสายตาที่ประหลาดใจและฉงนสงสัย "ข้าไม่ได้ทำ หลงเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบขี้หน้าข้า แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตคน เจ้าจะมาใส่ร้ายข้าเช่นนี้ได้เยี่ยงไร?" เฉินเสว่เม่ยทำท่าทางน้อยอกน้อยใจ แต่ในใจกลับเผยความหวาดหวั่นอกสั่นขวัญแขวนออกมา จึงมองไปยังเย่ผิงโหวโดยอัตโนมัติ เย่ผิงโหวคำนับทุกคนแล้วพูดว่า “ข้าต้องขอโทษทุกท่านด้วย ลูกสาวข้าได้รับความกระทบกระเทือนทางอารมณ์จนผิดปกติทางจิต ทำให้ทุกท่านตกใจ โปรดกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด” “ข้าไม่ได้ผิดปกติทางจิต” เย่หลิงหลงกระวนกระวายจนเหงื่อท่วมตัว แล้วสายตาเหม่อลอยขึ้นมา ถ้าหากนางมีชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่ไม่มีปัญญาช่วยแม่ออกมาได้ เช่นนั้นก็ได้ประจักษ์ชัดเจนแล้วว่าประวัติศาสตร์ในชาติที่แล้วก็จะไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลังใช่หรือไม่? ถ้าโคจรกลับไปเป็นดังในชาติที่แล้วอีกครั้ง เช่นนั้นความหมายของการเกิดใหม่ของนางอยู่ที่ไหนกัน? นางมาเพื่อชดใช้ความผิดนะ ไม่ใช่มาเห็นญาติสนิทมิตรสหายใช้รูปแบบที่โหดร้ายที่สุดจากนางไปอีกครั้ง... ขณะที่เย่หลิงหลงตกอยู่ในสภาพที่หมดหวัง ตอนที่แขกที่อยู่รอบๆกึ่งเชื่อกึ่งสงสัยพร้อมจะไปที่หน้าลานบ้าน พร้อมกันนั้นก็มีน้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นมา “ถ้าคุณหนูเย่คิดว่าหลิ่วฮูหยินยังไม่ตาย เช่นนั้นทำไมไม่ลองเปิดโลงศพดูสักหน่อยล่ะ? ถ้าเกิด คุณหนูเย่พูดความจริง หลิ่วฮูหยินจะได้ไม่ตายจริงๆ แต่เพราะไม่เชื่อก็คงจะขาดอากาศหายใจตายอยู่ในโลงศพและไม่ได้รับความเป็นธรรมใช่หรือไม่?” เสียงที่คุ้นเคยสั่งให้ความคิดในจิตใต้สำนึกของเย่หลิงหลงหายไปแล้ว... ปุยขาวของเมล็ดหลิวที่เปราะบาง ถูกลมพัดหล่นเต็มลานบ้าน เคยพบไม่กี่ครั้ง ภาพปุยสีขาวที่พัดปลิวแฉลบลงบนผิวน้ำ เสื้อคลุมยาวสีดำยืนขึ้นอย่างฉับไว แม้แต่หน้ากากสีเงินที่มีแสงเย็นที่สวมอยู่ด้านซ้ายของใบหน้า แต่นั่นก็เป็นดวงตาที่คุ้นเคย และยังทำให้หัวใจของเย่หลิงหลงล่องลอย ถังฮั่น ถังหวยจิ่ง อ๋องหลิงแห่งแคว้นต้าเหลียง คนแรกเป็นชายที่เก็บกระดูกศพและช่วยชีวิตนางออกมาจากคุกใต้ดิน
已经是最新一章了
加载中