ตอนที่9 เกิดใหม่มาช่วยแม่(6)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่9 เกิดใหม่มาช่วยแม่(6)
ตอนที่9 เกิดใหม่มาช่วยแม่(6) เพียงแค่คิดถึงทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกนี้หลิวหุ้ยก็รับรู้ได้ว่า เฉินเสว่เม่ยนั้นคิดว่ารู้สึกชื่นมื่นอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ เมื่อคืนวานตอนที่ไร้คน นางถึงขั้นพูดแผนการทั้งหมดเบาๆข้างโลงศพออกมาหนึ่งรอบว่า นางได้หาคนงานไปล่วงเกินเย่หลิงหลง และยังจะทำให้ทุกคนมาเห็นฉากนั้น ทำให้เป็นหญิงต่ำทรามชื่อเสียงฉาวโฉ่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนอกตัญญู ดังนั้น ตอนที่นางกำลังคุกเข่า พูดถึงเย่หลิงหลงรอบแล้วรอบเล่า ทำให้หลิวหุ้ยตายอย่างสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม ไหนเลยจะเคยคิดว่า เด็กผู้หญิงต่ำทรามอย่างเย่หลิงหลงคนนี้จะไม่มีแผนอะไรจริงๆ นางกะเทาะยาแกล้งตายออกได้ง่ายมากจริงๆ สายตาของนางกำลังมองเย่หลิงหลงเอาหลิ่วหุ้ยออกมาจากโลงคิดว่าถ้าหากนางฟื้นขึ้นมาจริงๆหล่ะ...เฉินเสว่เม่ยหายใจเข้าลึกๆ ,ไม่ ,นางจะไม่ทำให้หลิ่วหุ้ยฟื้นขึ้นมาได้อย่างเด็ดขาด เฉินเสว่เม่ยจึงถือโอกาสกระซิบข้างหูเย่ผิงโหวว่า“ใต้เท้าโหวเจ้าคะ ทำไมท่านถึงให้เสี่ยวหลงมาก่อความวุ่ยวายได้ เรื่องนี้จะต้องแพร่ออกไป ทำให้ทุกคนพูดกันว่าบ้านโหวของพวกเราไม่เข้มงวดนะเจ้าคะ” ถังฮั่นพลิกเปลือกตา มุมปากโค้งขึ้นเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มออกมา จิตใจโล่งสบายและกำลังมองดูฉากนี้อย่างภาคภูมิใจมาก เย่ผิงโหรวผลักกลุ่มคนให้เปิดออก แล้วเดินไป เย่หลิงหลงมองสีหน้าที่ซีดเผือดนั้นของแม่ น้ำตาก็ไหลลงมาไม่ยอมหยุด นางเอาแม่ไปวางไว้บนพื้นอย่างระมัดระวัง ริมฝีปากสั่นเทา แล้วพูดเสียงที่ร่ำไห้ด้วยความเศร้าสลดอยู่ในลำคอออกมาว่า “แม่” แขกที่อยู่รอบๆเศร้าใจที่ได้ยินเสียงนั้นจึงหันหน้าอย่างพร้อมเพรียงกันเพราะทนดูไม่ได้ เย่ผิงโหวเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดนั้นของหลิ่วหุ้ย เบ้าตาก็อดที่จะแดงไม่ได้ ถอนหายใจแล้วพูดว่า “”เสี่ยวหลง เจ้าก็เห็นแล้ว เลิกก่อกวนได้แล้ว รีบให้แม่เจ้า... พูดยังไม่ทันจบ ก็เห็นเย่หลิงหลงคลำขึ้นๆลงๆหาบางสิ่งที่อยู่ในร่างของหลิ่วหุ้ยไม่หยุด หลังหู ลำคอ รักแร้ ผ้าห่อศพล้วนยุ่งเหยิงไปหมด เฉินเสว่เม่ยพูดขึ้นมาว่า “เสี่ยวหลง เรารู้ว่าเจ้าเจ็บปวดเสียใจ แต่ใครๆก็ไม่อยากเห็นฉากนี้หรอกนะ เจ้าก็อย่าก่อกวนเลย ให้ฮูหยินจากไปอย่างสงบเถอะ” เย่หลิงหลงกวาดตาไปเบาๆ ในตาสงบเงียบที่เต็มไปด้วยหมอกควันก่อนที่จะเกิดพายุและฟ้าฝนที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ดวงตาที่น่าหวาดผวานั้นทำให้เฉินเสว่เม่ยตกใจจนลืมไปแล้วว่าจะพูดอะไร แค่มองปาดเดียว กลับเหมือนกับว่าความลับทั้งหมดที่อยู่ภายในใจได้ล้วนถูกนางมองเห็นจนทะลุปรุโปร่งแล้ว เย่หลิงหลงถอนสายตากลับไป ใช้นิ้วชี้ลงไปบนจุดป่ายฮุ่ยของหลิ่วซื่อ แล้วกดลึกๆ ร่างกายของลิ่วซื่อแข็งทื่อ ไม่มีชีพจร ดูอย่างไรก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว แต่เมื่อถูกเย่หลิงหลงกดลงไปเช่นนี้ นิ้วมือก็กระตุกขึ้นมาเบาๆอย่างคาดไม่ถึง การเคลื่อนไหวที่ขยับเพียงนิดเดียว แม้แต่คนอื่นยังมองไม่เห็นนอกจากเย่หลิงหลง และในเวลาเดียวกันนั้น เย่หลิงซิงก็พาหมอเดินเข้ามา “ได้ยินว่ามีคนสงสัยในจรรยาบรรณการรักษาของหมองั้นรึ?” หมอแก่ๆที่มีเคราสีขาวคำนับและกล่าวกับทุกคนว่า “ข้าวินิจฉัยโรคมานับสิบปี ถึงแม้ว่าจะไม่ถึงขั้นทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้เท่าปรมาจารย์หรอก แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายผิดศีลธรรมอย่างแน่นอน ที่กล่าวหาว่าข้ารับสินบนก็ไม่มีมูล” เย่ผิงโหวหน้าดำ ชายตามองเย่หลิงหลง แล้วรีบพูดกับหมอเคราขาวว่า “ลูกสาวข้าไม่ประสา เรื่องฮูหยิน เป็นเพราะข้าสอนลูกไม่ดี ท่านหมอโปรดให้อภัยด้วย” “ใต้เท้าโหว ไปรักษากับท่านหมอมาหลายปี สิ่งนี้ก็คือวิชาที่วิชาที่ถ่ายทอดมาจากอาจารย์ปู่ โรคหัวใจของฮูหยินได้รับการวินิจฉัยโดยหมอเอง ลมหายใจขาดดิ้น ก็เป็นไปได้ที่จะสิ้นชีวิตอย่างแน่นอน” หมอเคราขาวพูดด้วยสีหน้ายิ่งยโสว่า “สงสัยว่าวิชาแพทย์ของข้ามีช่องโหว่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของแพทย์ก็คือจรรยาบรรณ พูดว่าหมอถูกคนซื้อตัวไป วินิจฉัยผิดพลาดและยังวางแผนมุ่งร้ายทำให้ฮูหยินเสียชีวิต จะเลิกพูดคำพูดที่วิจารณ์คนอื่นเช่นนี้ได้อย่างไร?” “ถ้าหากวันนี้ไม่พูดบางอย่างออกมา คนอื่นจะมองหมออย่างไร? แล้วจะมีใครกล้ามารักษากับหมออีกไหม? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮูหยินผู้สูงศักดิ์แถมยังได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นฮูหยินระดับชั้นที่ห้า คุณหนูเย่ไม่เพียงแต่จะทำลายชื่อเสียงข้า ยังจะเล่นงานหมอให้ถึงตาย”
已经是最新一章了
加载中