ตอนที่ 223 เสียใจในภายหลังก็ไม่ทันแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 223 เสียใจในภายหลังก็ไม่ทันแล้ว
ตอนที่ 223 เสียใจในภายหลังก็ไม่ทันแล้ว ดอกป๊อปปี้ ดอกป๊อปปี้เต็มลานกว้าง ในเวลาการคืนดูสวยงามสง่ามาก ครั้นในระหว่างดอกไม้นั้นที่ซุ้มไม้ มีผู้ชายสองคนนั่งตรงข้ามกันอยู่ คนหนึ่งดื่มชาอย่างสบายอารมณ์ อีกคนหนึ่งก็นั่งดูข้างหนาของเขา ห่างไกลมาก ปุริมเห็นไม่ชัด แต่ว่า เหมือนกับว่าเล่นหมากรุกอยู่ ข้างๆของทั้งสองคนไม่มีคนติดตามสักคน แค่มีคนสองคนที่อยู่ด้านนอกเจ็ดแปดก้าว มองดูเขาและเพ็ญนีติ์อย่างเงียบๆ กลับไม่มีใครรายงานปัญหา แต่ทว่า พวกเขาไม่ได้ห้ามตัวเองกับเพ็ญนีติ์ที่เข้าใกล้ นี่ก็หมายความว่ากรณ์กับณภัทรเดาก่อนแล้วว่าพวกเขาต้องมา “พี่ณภัทร พี่กรณ์ สบายอารมณ์กันจังเลย” เขายิ้ม ถึงแม้ว่าจะอยู่ในการควบคุมของทั้งสอง กลับไม่ร้อนใจไม่ลุกลี้ลุกลน เขามีความสามารถของเขาเอง เหล่านั้นเป็นสาเหตุทำให้เขาสบายๆที่จะเผชิญหน้ากับกรณ์และณภัทร “เจียง” หัวของณภัทรไม่เงยขึ้นมามองหมากรุกบนโต๊ะ เขากำลังนำ “จุน” หมากรุกรอบนี้ เขาตั้งใจไว้ว่าต้องชนะ “ฮ่าๆ คุณก็อยากจะทำแบบนี้ให้ฉันตายหรอ คุณฝันไปเถอะ” สองคนเล่นหมากรุก พูดก็ภาษาจีน กลับไม่แยแสที่ปุริมมาเลยสักนิด เพ็ญนีติ์อยู่ข้างๆปุริมอย่างเงียบๆเธอแค่ดูแต่ไม่พูด เมื่อตะกี้ที่ณภัทรกับกรณ์ทำให้เธอลำบากใจมาแล้ว ทำร้ายให้เธออยู่กับปุริม ตอนนี้คิดแล้วก็อารมณ์เสีย คนพวกนี้ผิวเผินมีวิธีเดิมๆ ความจริงแล้วได้ทำก็ใช้อีกวิธีหนึ่ง ความยากลำบาก เธอเคยชินแล้ว ปุริมกลับไม่อารมณ์เสีย เขาหมุนตัวมา “เพ็ญนีติ์ รอฉันตรงนี้” “ได้” ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่ว่าตอนนี้ เธอก็ได้แต่เลือกที่จะเชื่อเขา ปุริมพยักหน้า พุ่งเข้าไปหาความหนักแน่นของเธอ คล้ายกับจะบอกเธอว่าไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัวเลยจริงๆ เธอมองเขาอย่างไม่ส่งเสียง ใบหน้าไม่มีอารมณ์ใดๆ ตอนนี้ ขอเพียงแต่สี่คนสามารถพานภนต์ออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย อย่างอื่น เธอก็ไม่ขออีกแล้ว ปุริมเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เขายืนอยู่ที่ซุ้มไม้ ณภัทรกับกรณ์ ยังเล่นหมากรุกอยู่ ถึงแม้ว่าเงาของเขาจหายไปที่โต๊ะนานแล้ว แต่ว่า ทั้งสองคนก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้น เหมือนกับเขาไม่มีตัวตน กระดานหมากรุกบนโต๊ะหมากรุกสีแดงของณภัทร กำลังกินหมากรุกของกรณ์ แต่กรณ์ก็ป้องกันไม่ให้โดนกินไปทีละขั้น จัดการกำลังคน ก็เหมือนกับสงครามจริงๆ เพียงแต่ว่า เป็นสงครามดับยาม้าเท่านั้น มุมปากของปุริมก็น่ากลัวขึ้นมา ทันใดนั้นก็วางมือลง ตีบนโต๊ะหินอย่างหนัก “เพิ่ง” หมากรุกบนกระดานหมุน นานมากถึงจะหยุด กรณ์และณภัทรที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะหินสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมา ทำให้รู้ว่านี่เป็นที่ของพวกเขา แต่ว่าปุริมกลับมีความกล้ามาต่อต้านกับพวกเขาอย่างนี้ เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรอ แต่ว่าพลังที่เปล่งออกมาจากตัวของปุริม ก็ทำให้พวกเขาดูถูกไม่ได้เหมือนกัน หรือว่าปุริมจะมีอะไรที่พวกเขาไม่รู้เชียวหรอ “คุณเป็นใครกันแน่” ปุริมยิ้มอย่างชื่นมืน “ฮ่าๆ พี่ณภัทร ยังจำได้ไหมว่าเมื่อวานคืนฉันพูดอะไรกับคุณ ฉันคิดว่า ถ้าไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น ภายในสิบวันฉันสามารถช่วยคุณทำได้” สีหน้าของณภัทรเปลี่ยนไป “คุณจะทำได้จริงหรอ” นั่นคือจรวดที่ทันสมัยที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ตอนเมื่อวานคืนเขาพูดถึง ปุริมก็ไม่ได้ตอบแบบตรงๆ เขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้แล้วนะ กลับไม่อยากให้ปุริมตอนนี้ก็ทำได้ นี่ทำให้เขาอดที่จะคาดคะเนภูมิหลังของผู้ชายคนนี้ไม่ได้ ตกอยู่ในสภาพที่ปราศจากอาวุธแบบนี้ยังสบายๆที่จะเผชิญหน้า และยังกล้าที่จะมีความท้าทายกับเขาและกรณ์ ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ส่งสายตาให้กรณ์อย่าโกรธ ทำการใหญ่สามารถยืดหยุ่นได้ ถ้าหากปุริมน้ำเอาจรวดที่ทันสมัยที่สุดในโลกมาได้ เมื่อตะกี้นี้ที่เขาตบโต๊ะ เขาก็ยอมแล้ว ฝ่ามือหนึ่งแลกมากับของที่เขาอยากได้ นี่คือคุ้มค่ามาก “ใช่แล้ว” “ฮ่าๆ” กรณ์หัวเราะขึ้นมา สายตาของณภัทรเมื่อกี้นี้ทันจริง มิเช่นนั้นเขาก็ให้คนมาจัดการแล้ว ดูเหมือนว่าปุริมจะมีความสามารถนะ มิเช่นนั้น ณภัทรก็คงไม่ดูเคารพต่อเขา “ได้อ่ะได้ แต่ว่า คุณต้องทิ้งอะไรไว้เป็นหลักค้ำประกัน ฉันถึงจะปล่อยคุณไป” สายตาของกรณ์มองผ่านไปที่เพ็ญนีติ์อย่างไม่ปิดบัง สายตานั้นทำให้ปุริมสะเทือน มองด้วยสายตาเย็นชากลับไป “ยกเว้นเธอ ใครก็ได้” “แต่ฉันแค่ต้องการเธอ สิบวัน” “ถ้าอย่างนั้นนภนต์ล่ะ” ปุริมถามด้วยเสียงต่ำ หรือว่าพวกเขารู้แล้วว่าเพ็ญนีติ์เกลี้ยกล่อมนภนต์ได้แล้วเชียวหรอ “ก็ไปกับคุณเองเลย แต่ว่าสามปีนั้นจำนวนที่ต้องขายออกไปก็ขาดไปไม่ได้ ฉันว่าเพ็ญนีติ์คงจะเกลี้ยกล่อมเขาแล้วมั้ง มิเช่นนั้น คุณคงไม่พาเธอมาเร็วขนาดนี้” ณภัทรพูดปัญหาเหล่านั้นไป กลับเดาได้แม่นมาก ไม่ผิดเลยสักนิด ปุริมแค่รู้สึกว่าณภัทรเดินมาสายนี้ได้ ก็ทำให้เขานับถือ ถ้าหากจากพ่อค้า สันนิษฐานว่าเป็นธุรกิจที่น่าแปลกใจเช่นกัน น่าเสียดาย แต่ละคนก็มีชีวิตของตัวเอง แต่ละคนก็มีความมาดปรารถนาของตัวเอง เขาอายุน้อยๆก็ชอบทำอะไรสายนี้ ใครก็เปลี่ยนไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นเพ็ญนีติ์ก็ต้องไป” ปุริมไม่เปลี่ยนความคิดแรก ใบหน้าได้เขียนความยืนหยัดเอาไว้ ไม่ว่าในมือเขาจะมีอาวุธหรือเปล่า เขาจะให้เพ็ญนีติ์อยู่ที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด เมื่อตะกี้นี้พูดถึงจรวด แค่อยากจะให้ตัวเองไปเร็วกว่านี้ กลับไม่อยากให้กรณ์ทำอย่างนี้กับเขา “เฮอๆ เฮอๆๆ” เสียวหัวเราะอย่างเย็นชาไปรอบๆ กรณ์หันมาอยากช้าๆ “คุณปุริมกลัวว่าคนของฉันจะถูกเนื้อต้องตัวเพ็ญนีติ์หรอ “จะไม่ใช่เชียวหรอ ฉันไม่เชื่อว่าคนของคุณจะเชื่อฟังขนาดนั้น” มุมปากยิ้ม น้ำเสียงที่ล้อเล่นของปุริมทำให้บรรยากาศคลายลงจากความตึงเครียดหน่อย คนที่ฉลาดนั้นจะกลายเป็นบุคคลยอดเยี่ยม ในมือของทุกคนในตอนนี้อย่าพูดถึงอาวุธ ก็แม้แต่ของมีคมก็ไม่มี แต่ถ้าณภัทรกับกรณ์โบกมือ ก็ทำให้พวกเขาตายได้ในพริบตา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพูดมาโดยตลอดว่าเอาอาวุธ และขายของของพวกเขาได้มาเป็นตัวล่อ เกรงว่า พวกเขาก็ไม่ทนกับการกระทำของเขาตั้งนานแล้ว “ไม่อย่างแน่นอน เพราะว่าพวกเขาเป็นคนของฉัน ฉันพูดอะไรก็คืออะไร คุณวางใจเถอะ ขอเพียงแต่คุณรับปากทิ้งเพ็ญนีติ์ไว้ที่นี่ รอของถึงแล้ว ฉันจะนำหล่อนส่งให้ข้างหน้าตัวคุณด้วยตัวของฉันเอง อย่างไร “กรณ์พูดออกมาแล้ว เขาอยากให้นภนต์ขายชีวิตให้พวกเขา เขาก็อยากได้อาวุธ คนก็เป็นแบบนี้ ยิ่งมียิ่งอยากมี ตอบสนองความต้องการไม่ได้สักที ในใจของเพ็ญนีติ์รู้สึกถึงปากคอ พวกผู้ชายพูดทุกคำ เธอฟังได้ชัดเจน เธอรู้ว่าตอนนี้ปุริมกำลังปกป้องเธออยู่ แต่เธอก็รู้ว่าในมือของพวกเขาไม่มีอะไรจะเป็นเบี้ยต่อรอง ต่อต้านนภทรกับกรณ์ได้ ไม่มีเลยสักนิด แค่หวังว่าตัวเองไม่ต้องอยู่ที่นี่ เห็นแววตาของกรณ์ก็ทำให้เธอคิดถึงแก้วไวน์นั้น เธอก็กลัวผู้ชายคนนั้นขึ้นมาอย่างฉับพลัน แล้วอีกอย่าง เธอก็กังวลว่าปุริมจะหาของที่ณภัทรกับกรณ์อยากได้มาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้น เธอสุดท้ายก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้แล้วหรอ ทำไมถึงเป็นเธอล่ะ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่จริงๆ เธอจะไปกับนภนต์ด้วยกัน เป็นเพราะปุริมก่อเรื่องเลยคนเดียว พูดแต่ว่าอะไรก็ทำได้ นั่นมันก็ โยงมาที่เธอแล้ว เธอรู้การเตรียมการของปุริมซะที่ไหน ถ้าหากไม่ทำแบบนี้ เกรงว่า พวกเขาไม่มีชีวิตรอดตั้งนานแล้ว คนที่ไม่มีประโยชน์ให้กับพวกเขาที่นี่ ก็เป็นแค่อาหารขยะ นี่คือเพ็ญนีติ์ รู้เหตุผลมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าตอนนี้ เธอคาดไม่ถึงจริงๆว่าความป่าของณภัทรและกรณ์จะแรงแค่ไหน พวกเขาฆ่าคนได้ในพริบตา ดังนั้น อยู่ที่แบบนี้ต้องใช้ปัญญา เพราะว่า พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่อ่อนแอ ในตัวของพวกเขาอะไรก็ไม่มี “ถ้าฉันไม่เห็นด้วยล่ะ” “เฮอๆฮ่าๆ” กรณ์หัวเราะขึ้นมา เสียงนั้นมันแสบหู ทำให้เพ็ญนีติ์อดไม่ได้ที่จะใจเปลี่ยว แต่เห็นมือของอูข่านขยับไปมา ทันใดนั้น ในชั่วพริบตาก็นำปืนมาจ่อที่หน้าผากของปุริม ปากกระบอกปืน เม็ดดำๆนั้นคล้ายกับว่าจะบินออกมาได้ทุกเวลา “เฮอๆ ฮ่าๆ ง่ายมาก ถ้าหากคุณไม่ตกลง ฉันก็นำของที่นี่ส่งให้พวกคุณคนละเม็ด ก็ปลูกที่สมอง หลังจากนั้นไม่นานก็จะเป็นปุ๋ยของดอกไม้นี้ ฉันก็ชอบดอกไม้นี้บานอย่างสวยงาม ปุริม ที่จริงแล้วแบบนี้ก็ดี ฉันก็สบายมาก กรณ์ มือถือปืนจ่อมา “ฉันนับหนึ่งสองสาม ถ้าหากไม่รับปากฉัน ถ้าอย่างนั้น กระสุนเม็ดแรกก็ให้คุณละกัน จากนั้นก็คนข้างหลังคุณเพ็ญนีติ์ จากนั้นก็นภนต์ หลังจากนั้นก็สองคนนั้น เสียงของกรณ์ไม่สูงไม่ต่ำ แต่ทว่าหลายปีที่เขาต่อสู้มาทำให้คนรู้สึกถึงพลังอำนาจ เพ็ญนีติ์รู้ว่าคำพูดของเขาไม่หลอกแน่ ปืนของเขายิงกดยิงได้ตลอด ขอเพียงแต่เธออยู่ที่นี่ต่อ ถ้าอย่างนั้น คนอื่นอีกสี่คนก็ไปได้แล้ว ให้เธอ มาสนองนภนต์ ปุริม พี่จู๋ตและฉารา นับชื่อของสี่คนอย่างเงียบๆ ในสมองก็มีใบหน้าของพวกเขาขึ้นมา เธอรู้สึกว่า เธออยู่ที่ก็คุ้มค่าแล้ว เพราะว่า คนพวกนี้ไม่ทำตามไพ่ที่อยู่ในมือเลยสักนิด พวกเขาต้องการคือมากกว่าคนปกติ มีส่วนหนึ่งก็อยากได้อีกส่วนหนึ่ง ตอนนี่ นภนต์ได้รับปากพวกเขาแล้ว พวกขายังจะอยากได้อาวุธของปุริมอีก แต่เธอ ก็คือคนที่อยู่เป็นตัวประกัน ถ้าหากสินค้าของปุริมไม่มา ถ้าอย่างนั้น จากนี้เธอก็ไม่มีทางที่จะไปจากที่นี่ ในขณะนั้น ความคิดของเธอมากมาย อะไรที่เป็นไปได้ก็คิดไปหมด เธออยากจะถามปุริมจังเลยว่าของที่ณภัทรอยากได้นั้นจะหามาได้หรือเปล่า แต่ทว่าในตอนนี้จะมีโอกาสถามซะที่ไหนกันล่ะ ถามแล้ว ก็คือมองออกหมดแล้ว ก็แสดงว่าปุริมอาจจะไม่มีของพวกนั้น ถ้าอย่างนั้นกรณ์กับณภัทรไม่เห็นปุริมอยู่ในสายตาแล้ว ยากมากเลย ยากมาก ถ้ารู้ก่อนว่าจะมีเหตุแบบนี้ เธอก็ถามปุริมก่อนที่จะมาที่นี่แล้ว แต่ตอนนี้ เสียใจภายหลังก็ไม่ทันแล้ว
已经是最新一章了
加载中