ตอนที่ 225 อย่างเงียบๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 225 อย่างเงียบๆ
ตอนที่ 225 อย่างเงียบๆ “วางใจเถอะ สิบวันนี้ฉันจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวเธอเลยสักนิด กรณ์ก็หมือนกัน เธอต้องอยู่ที่ห้องนี้อย่างเชื่อฟัง รอฉันได้ของมาแล้ว ฉันจะปล่อยเธอทันที” ยิ้มอย่างเย็นชา มองข้างหลังของผู้หญิงที่ข้างหน้าของตน มีความรู้สึกคุ้นๆ ทำให้ณภัทรส่ายหัวเบาๆ เธอกลับเหมือนบ้าง “คุณมา ก็คือบอกพวกนี้กับฉันหรอ” ความเชื่อใจ ไม่ใช่แค่อาศัยคำพูดเท่านั้น เธอไม่เชื่อใจเขา ตอนนี้ไม่เชื่อใจเลยสักนิด ถ้าหากแค่มาบอกเธอเรื่องพวกนี้ ถ้าอย่างนั้น เธอต้องเชิญให้เขาออกไป ห้องของเธอไม่ต้องรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ นอกจากเธอและพวกนภนต์ เธอ ใครก็ไม่อยากเจอ “ไม่ใช่ ฉันจะมาบอกเธอว่า เธอตอนนี้ควรจะนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เช้าพวกเขาถึงจะออกเดินทาง” “ขอบคุณ” คำพูดของเธอเบา กลับไม่รสชาติถึงกรขอบคุณเลยสักนิด ของที่ณภัทรอยากได้ เธอไม่แน่ใจจริงๆเลยว่าปุริมจะได้มา หลังจากสิบวัน สุดท้ายเธอจะเป็นอย่างไรกันแน่ เธอนึกภาพไม่ออก แต่เธอ กลับไม่มีโอกาสเจอพวกเขาแล้ว “นอนเถอะ เชื่อฟัง มิฉะนั้น” น้ำเสียงของณภัทรทุ้ม ที่มีน้อยมากที่จะมีผู้หญิงไม่เชื่อฟังคำพูดของเขา เพ็ญนีติ์ที่อยู่ที่หน้าต่างเกินความคาดคิดว่าจะเฉยเมยกับคำพูดของเขา หรือว่าเขาอยู่ต่อหน้าเธอจะแสดงอิทธิพลออกมาไม่พอ ดังนั้น เธอก็เลยไม่กลัวเขาเลยสักนิด เพ็ญนีติ์ยังคงไม่ขยับ “ฉันรอฟ้าสว่างแล้วค่อยหลับ” ไม่อยากนอน จะพลาดภาพที่พวกเขาจากไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด มีเพียงได้เห็นพวกเขาจากไปกับตาของตัวเอง เธอถึงจะสบายใจ ปุริม ครั้งนี้ ขอให้คุณดูแลพวกลูกๆให้ดี อ้อยและส้มเป็นลูกของคุณจริงๆนะ เป็นจริงๆ คำพูดนี้ เธอไม่มีโอกาสพูดมาโดยตลอด ถ้าอย่างนั้นเวลานี้ ก็มองไปที่นอกหน้าต่างอันสว่างพูดเบาๆละกัน ณภัทรขมวดคิ้ว ลูกน้องของเขาบอกเขาว่า เธอตั้งแต่กลับมาก็ยืนอยู่ที่บานหน้าต่าง ไม่ขยับเลย เขาโกรธขึ้นมาทันที ยกมือขึ้นยิง”ปัง” แค่นัดเดียวก็ยิงถุงรังนกบนต้นไม้แก่ข้างนอกหน้าต่าง เสียง”ความโกลาหล” ก็มีนกบินขึ้นบนท้องฟ้า และในขณะเดียวกันมีตัวหนึ่งหล่นลงมาจากต้นไม้ เพ็ญนีติ์ไม่ได้ยินเสียงนกตกลงมา แต่ใจของเขากลับหนักอึ้งขึ้นมา เอามือปิดหน้าต่าง ณภัทรยังอยู่ข้างหลังของเธอ เธอเหมือนมองไม่เห็นเขาแล้วเดินตรงเข้าไปที่เตียงใหญ่อันเดียวในห้อง แล้วนอนลงย่างเงียบๆ หลับตา เธอนึกว่าเธอจะไม่นอนหลับ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่ได้รับรู้สึกถึงลมหายใจที่ทำให้ตกใจของผู้ชายคนนี้ ทำให้เธอนอนหลับเข้าสู่ความฝันอย่างไม่รู้ตัว ถ้าหากเธอไม่นอนหลับ กระสุนที่เขาจะยิงนัดต่อไปจะเป็นใครหรือสัตว์อะไรกัน ณภัทร เขาใจเหี้ยมจริงๆ ฟ้า แปปเดียวก็สว่างแล้ว มีเรื่องในใจ จิตใต้สำนึกของเพ็ญนีติ์ตื่นขึ้นมา ในห้องเงียบมาก ตอนที่มองไปรอบๆสี่ด้าน ไม่รู้ว่าผู้ชายออกไปตอนไหน ประตูของเธอปิดอย่างดี ทั้งคืนไม่มีคนมารบกวนเธอ หรือว่าณภัทรจะไม่โดนตัวเธอในสิบวันนี้จริงหรอ ตอนที่เธอคิดไปต่างๆนาๆ ก็มีคนเคาะประตู เป็นเสียงสาวรับใช้เคาะ “เข้ามา” เธอพูดอย่างอ่อนๆ คนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ทันใดนั้นกลับพบว่าชุดราตรีที่เธอใส่อยู่นั้น ไม่รู้เปลี่ยนเป็นชุดนอนสบายๆได้อย่างไร พระเจ้า คือใครกันนะ ในชั่วขณะ เธอมีคำถามมากมาย ใบหน้าของเพ็ญนีติ์แดงมากจนถึงลำคอ ต้องไม่เป็นณภัทร เป็นเขาไม่ได้ เธอเปิดชุดนอนขึ้น ร่างกายยังมีรอยของปุริมที่อยู่ในป่านั้นเมื่อคืน “คุณผู้หญิง คุณผู้ชายบอกว่าพวกคุณปุริมได้ออกเดินทางแล้ว คุณมีคำพูดอะไรอยากจะบอกกับพวกเขาไหม เพ็ญนีติ์รีบเดินไปที่หน้าต่างอีก นอกหน้าต่าง มีรถออฟโรดสองคันที่เอเคยนั่งมาจอดอยู่ เธอเห็นปุริมก่อน เวลานี้เขาได้เงยขึ้นกวาดสายตามองตึกเล็กหลังนี้ เห็นได้ชัดว่า เขาไม่รู้ว่าเธอพักอยู่ไหน ใช่แล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าหลายวันนี้พวกเขาพักที่ไหน การทำงานของณภัทรนั้นลึกลับมาแต่ไหนแต่ไร แล้วก็ไม่ให้เวลาพวกเขาไปรับรู้ถึงเรื่องเหล่านี้ หน้าอกเกิดความตื่นตระหนกขึ้นมา เธออยากจะไปบอกลากับพวกเขา “ฉันจะลงไปข้างล่าง” เธอวิ่งไปที่หน้าประตู สาวรับใช้ข้างหลังร้องเรียก “คุณผู้หญิง อย่าออกไป” จริงอย่างคาดคิด เธอเพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตู คนที่เหมือนรูปปั้นสองคนนั้นก็ขยับ มากั้นเธอไว้ “คุณผู้หญิง กรุณากลับไป” “ถอยไป” เธอตั้งใจจะผลักพวกเขา กลับค้นพบว่าหลังจากที่เธอใช้แรงทั้งหมดแล้ว ผลที่ได้คือรูปปั้นสองอันนั้นไม่ขยับเลยสักนิด ยังคงยืนตรงอยู่ “คุณผู้หญิง คุณผู้ชายบอกว่ามีคำพูดอะไรจะบอกพวกเขา รีบพูด มิฉะนั้น คนก็ไปแล้ว” หันหน้ากลับไป สาวรับใช้กำลังวางเครื่องส่งรับวิทยุ เห็นได้ชัดว่า ณภัทรเพิ่งจะสื่อสารกับสาวรับใช้ไป “ให้ฉัน” เธอพุ่งไปแย่งเครื่องส่งรับวิทยุในมือของสาวรับใช้ “ณภัทร ฉันต้องเจอกับพวกเขา” อย่างน้อย ก็ให้เขาได้บอกลากับพวกเขาหน่อย ไปครั้งนี้ เธอไม่รู้จริงๆว่าภายหลังจะเกิดอะไรขึ้น ชาตินี้อาจจะ ไม่มีทางได้บอกลา แต่เธอ ปล่อยวางอ้อยและส้มไม่ได้จริงๆ นั่นคือก้อนเนื้อที่ออกมาจากร่างกายของเธอนะ อ้อย ส้ม พวกหล่อนจะทำยังไงต่อล่ะ ลูกที่ไม่มีแม่แท้ๆน่าสงสารแค่ไหน เหมือนกับตอนเธอยังเด็ก “คุณผู้หญิง” มือของเธอเร็ว แย่งมาได้แล้วจริงๆ สาวรับใช้ตะลึง กำลังจะแย่งกลับมาเพ็ญนีติ์กดมั่วๆอย่างรีบร้อน จริงอย่างคาดคิดมีเสียงส่งมา “ณภัทร ฉันต้องเจอกับพวกเขา ต้องเจอ” “ไม่ได้” น้ำเสียงอันเย็นชาส่งเข้ามา “แต่ว่า ถ้าหากเธอมีคำพูดอะไรก็สามารถส่งผ่านได้ เธอพูดมาเถอะ เพ็ญนีติ์รู้ว่าณภัทรพูดแล้วต้องทำได้ ดูเหมือนว่า เธอจะเจอกับพวกเขาไม่ได้จริงๆ “ฉันพูดอะไร คุณก็ส่งต่อได้หมดหรอ” “ไม่ได้ คนหนึ่งประโยคเดียว รีบหน่อย ฉันไม่มีความอดทนขนาดนั้น” “ได้ คุณบอกกับฉารา พี่จู๋ตเป็นคนดี ให้หล่อนจะพลาดจากเขาไม่ได้” ณภัทรหันไปพูดกันใครคนหนึ่ง พูดซ้ำประโยคที่เพ็ญนีติ์พูด ถึงแม้ว่ามองไม่เห็น แต่ก็คงจะเป็นฉาราแหละ เพ็ญนีติ์ฟังไปด้วยและเดินไปที่หน้าต่าง แต่ว่าที่หน้าต่าง รถออฟโรดสองคันนั้นกับปุริมไม่อยู่แล้ว และคนอื่น เธอก็ไม่ได้เห็นก่อนแล้ว ดูเหมือนว่า เธอเมื่อตะกี้นี้ไม่ควรจะออกไป ไม่ควรเพ้อเจ้อจะพุ่งออกไป เมื่อตะกี้นี้ เธอพลาดจากพวกเขาแล้ว “อันต่อไป”จิตใจกำลังสับสนวุ่นวาย เสียงของณภัทรก็ส่งมา “บอกพี่จู๋ตว่า ต้องดูแลนภนต์ให้ดี ช่วยเขาเลิกยาให้ได้” ในรถออฟโรด ปุริมนั่งอย่างเงียบๆ ข้างนอกรถ ณภัทรได้ส่งต่อคำพูดของเพ็ญนีติ์ให้กับพวกเขา เป็นฉาราก่อน จากนั้นก็พี่จู๋ต ใจของเขาเต้นแรงขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอจะพูดอะไรกับตัวเองหรือเปล่า ไม่มีเวลาไหนเท่าเวลานี้ที่เขาอยากจะได้ยินเสียงเธอ แต่ว่า นอกรถ มีคนถือปืนจ่ออยู่ ทำให้เขาไม่กล้าที่จะทำอะไร คนไปก่อน ไปทีละคน สำหรับเพ็ญนีติ์ เขายังจะกลับมา กลับมาอีก เขาต้องพาเธอไปด้วยตัวเอง เธอให้ณภัทรบอกกับนภนต์ เธอบอกกับนภนต์ เธอจะรอเขามารับเธอกลับไป บอกกับนภนต์ว่าทำตามสัญญาของพวกเขาให้สำเร็จทุกอย่าง นั่นคือสัญญาอะไรล่ะ แค่ฟังก็รู้สึกลึกลับ แต่ว่า พวกนั้น เพ็ญนีติ์แค่พูดกับนภนต์ อะไรก็บอกกับเขาหมด ณภัทรยังถือเครื่องส่งรับวิทยุ ปุริมร้อนใจแล้ว ก็แผดเสียงใส่ณภัทร “เพ็ญนีติ์ ไม่มีอะไรจะบอกฉันหรอ” “คุณเพ็ญนีติ์ ยังมีคำพูดอะไรอีกไหม” เพ็ญนีติ์ถือเครื่องส่งรับวิทยุอย่างมือสั่น ปุริม เธอต้องพูดอะไรกับเขาหรือเปล่านะ ทันใดนั้น เธอไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาดีไปชั่วขณะ เห็นเพ็ญนีติ์ไม่มีเสียง ณภัทรก็ยักไหล่พูดกับปุริม “คุณปุริม เธอไม่ได้พูดอะไร ฉันคิดว่า คงจะเป็นเพราะไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ ตอนนี้ พวกคุณออกเดินทางได้แล้ว จำคำสัญญาของพวกเราไว้ หลังจากสิบวันแล้ว รอข่าวจากคุณ” สายตาของปุริมมองไปที่เครื่องส่งรับวิทยุที่อยู่กับณภัทร แต่ว่า ณภัทรกลับวางลงแล้ว เห็นได้ชัดว่าเพ็ญนีติ์ได้วางสายแล้ว ใจของเขาแน่น มือที่กำลังจะสตารท์รถนั้นหยุดลง ภายใต้สายตาของทุกคน เขาเกินความคาดคิดได้ลงจากรถ ผู้ชายข้างนอกรถจ่อปืนมาท่อกของเขา”ขึ้นรถ” ผู้ชายแผดเสียง มือได้ชักปืนแล้ว เสียงดัง”ข่าข่า” ทำให้ฉาราที่อยู่บนรถตกใจมาก “ปุริม กลับมา” ฉาราอดไม่ได้ที่จะแผดเสียงอย่างเสียงต่ำ แต่ว่าพี่จู๋ตกับนภนต์ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร สองคนเดาออกแล้วว่าเขาจะทำอะไร บนร่างมีปืนจ่ออยู่ ปุริมก็เดินไปทางณภัทรทีละก้าว ผู้ชายที่ถือปืนก็ไม่เคยเห็นมาก่อนว่าคนที่โดนปืนจ่อยังจะกล้าเดิน ก็อึ้งขึ้นมา เขาลือยิงปืน แค่มองไปทางณภัทร คล้ายกับว่าได้ถามณภัทรอยู่ว่าจะทำอย่างไร ณภัทรปัดมือ คนนั้นรีบเอาปืนที่จ่อนั้นออกจากปุริมเหมือนกับเป็นนิรโทษกรรม ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวมาก โดนปืนจ่อ ตาของเขาไม่กระพริบ เขาไม่กลัวตายหรอ ราวกับว่า ไม่กลัวจริงๆ “ให้ฉัน” ปุริมมองเครื่องรับส่งวิทยุในมือของณภัทรอยากไม่ขยับ “ให้ฉัน” “หล่อนไม่ส่งเสียง วางไปแล้ว” “ฉันไม่เชื่อ ให้ฉัน” ใบหน้าปุริมขึ้นเส้นเลือดเขียว เธอพูดกับคนอื่นหมด แม้กระทั่งฉาราก็ด้วย กลับไม่มีเขาคนเดียว เห็นณภัทรเฉยเมย เขาพูดอย่างเย็นชา “หรือว่าเธอพูดอะไรกับฉัน แต่คุณไม่ได้ส่งต่อนะ” “ฮ่าๆ คุณคิดว่ามีความจำเป็นด้วยหรอ ปุริม คุณอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ฉันนี่ก็ให้คุณ ถ้าหากเธอไม่พูด ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้ว ณภัทรกลับใจกว้าง มองใบหน้าซีดของปุริมแวบหนึ่งอย่างยิ้มๆ ในโลกนี้ ดูเหมือนว่าทุกคนก็มีจุดอ่อนของตน จุดอ่อนของปุริมคนนี้ ก็คือเพ็ญนีติ์ ดูเหมือนว่า เพ็ญนีติ์ไม่ได้พัวพันแต่กับนภนต์แล้ว ยังมีปุริมอีก ผู้หญิงคนนี้เขาต้องใช้สอยดีๆ พลาดไปแล้วก็น่าเสียดาย ปุริมแย่งเครื่องรับส่งวิทยุมาทันที แต่ว่าในเครื่องรับส่งวิทยุเงียบจริงๆ เพ็ญนีติ์ไม่ได้พูดอะไรจริงด้วย “เพ็ญนีติ์” เขาเรียกหาอย่างรีบร้อน คำตอบที่เขาได้ยังคงเป็นเสียงเงียบ เพ็ญนีติ์ไม่ได้ขานตอบใดๆทั้งสิ้น
已经是最新一章了
加载中