บทที่26 เจ้ายังไม่หลับเหรอ   1/    
已经是第一章了
บทที่26 เจ้ายังไม่หลับเหรอ
บทที่26 เจ้ายังไม่หลับเหรอ “ท่านแม่ ข้ารักษาขาให้ท่านพ่อได้แล้ว” หลิ่วหม้านหยุนพูดไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่าย แต่กลับทำเอาเฉินซื่อใจเต้นรัว จนถึงตอนนี้ เฉินซื่อยังคงไม่อยากจะเชื่อว่านางจะรักษาได้“สะใภ้ เจ้า…เจ้าพูด…พูดกระไรกัน?พูดอีกครั้งได้หรือไม่…” “ท่านแม่ ข้าบอกว่า ข้าสามารถรักษาขาของท่านพ่อได้แล้ว ข้าเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างครบแล้ว” หลิ่วหม้านหยุนยิ้มๆ ชี้ไปที่เข็มบนโต๊ะที่นางเตรียมไว้ “เช่นนั้น…เช่นนั้นยังรออะไรอีกล่ะ…เร็วเข้า…รีบทำเร็วเข้า……” พอคิดว่าขาของสามีตัวเองจะหายแล้ว นางก็ดีใจอย่างมาก เฉินซื่อสาบานว่า ขอแค่หลิ่วหม้านหยุนรักษาขาของสามีนางได้ เฉินซื่อก็จะดีกับนางเป็นสองเท่า แม้จะต้องเป็นทาสรับใช้นาง รับใช้สองสามีภริยาไปตลอดชีวิต นางก็ยอม! โล่ยี่เหลียนไปเอาเก้าอี้มา โล่เหวินเฟิงนั่งลงไป เฉินซื่อก็เลิกกางเกงเขาขึ้นมา หลิ่วหม้านหยุนจับดู ที่แท้ก็เป็นเพราะเส้นเลือดอุดตัน เลยทำให้เลือดที่ขาไม่ไหลเวียน หลิ่วหม้านหยุนหาจุดเจอแล้ว เป็นปัญหาของต้นขามีจุดสำคัญอยู่สามจุด แบ่งเป็นจุดที่หนึ่งเส้นลมปราณเท้าไท่อินม้าม จุดที่สองเส้นลมปราณเท้าจุเหวียอินตับ จุดที่สามเส้นลมปราณเท้าเส้าอินไต จุดทั้งสามผสานตัวกันเป็นหนึ่งเดียว “เป็นเพราะเลือดค้าง……” หลิ่วหม้านหยุนฝังไปก็เห็นเลือดค้างเลย โล่กงยี่พูดต่อว่า“หลายปีก่อน ท่านพ่อก็เคยไปตรวจที่ในเมือง พวกเขาก็บอกว่าเป็นเพราะเลือดค้าง แต่พวกเขาไม่กล้าแตะ…บอกว่าถ้าผิดพลาดขึ้นมาอาจจะตายได้…” แน่นอน การฝังเข็มในโบราณแม้จะเป็นสุดยอดแล้ว แต่การฆ่าเชื้อโรคและการทำความสะอาดกลับยังไม่พัฒนาพอ มีหลายโรคต้องรักษาโดยการผ่าตัด แต่คนโบราณไม่กล้าเพราะมีหมอหลายคนถ้าผ่าตัดให้ผู้ป่วยแล้ว ไม่รู้จะฆ่าเชื้อโรคอย่างไร จนทำให้ผู้ป่วยได้รับโรคติดต่อจนตาย แต่หลิ่วหม้านหยุนไม่เหมือนพวกเขา! “ไปเอาเหล้ามา และฝ้ายหนึ่งก้อน จากนั้นก็เผา!” หลิ่วหม้านหยุนสั่ง โล่ยี่เหลียนรีบไปเตรียมทันที หลิ่วหม้านหยุนเอาเข็มที่แช่ลู่จ่าวจิงมา วางไว้ในเหล้าที่ฆ่าเชื้อมาแล้ว แน่ใจว่าไม่มีเชื่อโรค ฝังเข้าไปในเส้นลมปราณเท้าไท่อินม้าม เส้นลมปราณเท้าจฺเหวียอินตับ เส้นลมปราณเท้าเส้าอินไต สามตำแหน่งที่สำคัญ นางฝังเข็มอย่างรวดเร็ว วิธีการนี้เรียกว่า“ทักษะฝังเข็มหจิ่วเหมิน” ทักษะฝังเข็มหจิ่วเหมินนี้ เป็นวิชาที่หลิ่วหม้านหยุนเอาไว้ใช้ประกอบอาชีพ หารายได้ นางฝังลงไปเรื่อยๆ จากนั้นเลือดก็ไหลออกมาเรื่อยๆ เลือดที่ออกมาแต่ล่ะที่ หลิ่วหม้านหยุนใช้ก้อนปุยฝ้ายที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว เช็ดดูดซับเลือดไปเรื่อยๆ จากนั้นก็ทำเช่นนั้นหลายครั้ง ขั้นตอนนี้ ต้องทำถึงชั่วโมงกว่า ขาของโล่เหวินเฟิงที่อยู่ในความด้านชามาตลอด ตอนนี้ก็ได้รับการฝังเข็มอาการด้านชาก็เริ่มคลายตัวลง จากนั้นก็มีความเจ็บปวดมาแทน เขาทนไม่ได้ร้องขึ้นมาว่า“เจ็บ!เจ็บ!โอ๊ย เจ็บ!” “พ่อเด็ก เจ็บจริงๆเหรอ?” เฉินซื่อดีใจจนอยากจะร้องไห้ ถ้าตัวเองจำไม่ผิด นี้เป็นรอบสอบปีที่พ่อของกงยี่มีความรู้สึกเจ็บอีกครั้ง! นี้เป็นเรื่องดีๆ! โล่เหวินเฟิงขาข้างหนึ่งไม่มีความรู้สึก จนต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงให้เดินได้ วันนี้กลับรู้สึกเจ็บได้แล้ว บอกได้ว่าเส้นเลือดที่อุดตันตอนนี้ได้คลายตัวลงแล้ว “เจ้า……!” โล่กงยี่ตกใจอย่างมาก นางบอกว่าขอเวลาสามวันก็สามารถรักษาขาของท่านพ่อได้ นางพูดแล้วก็ทำได้จริงๆ “ตายแล้ว พี่สะใภ้เก่งจริงๆ!” โล่ยี่เหลียนรีบพูดชมหลิ่วหม้านหยุน หมิงถางก็เช่นกัน “สะใภ้ สะใภ้ของข้า……” เฉินซื่อดึงนางเข้ามากอด “ท่านพ่อ ตอนนี้ท่านลองลุกขึ้นมาสิ!” หลิ่วหม้านหยุนมองดูขาโล่เหวินเฟิงไม่ห่าง ด้านนี้มีสายตาที่รอคอยของหลิ่วหม้านหยุน อีกด้านมีสายตาของลูกและภริยารออยู่ ตัวเองก็มีแรงบันดาลใจ โล่เหวินเฟิงรู้ว่า ครั้งนี้ตัวเองจะต้องไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ไม่คิดว่า การทดลองของโล่เหวินเฟิง เขามีความรู้สึกที่ขาแล้วก็จริงแต่ก็ยังลุกขึ้นมาไม่ได้ “ไม่ได้อยู่ดี” โล่เหวินเฟิงรู้สึกผิดหวัง หลิ่วหม้านหยุนก็พูดว่า“เหตุผลนี้ ข้ารู้ดีเพราะท่านพ่อพึ่งฟื้นฟูดีขึ้น ไม่ต้องรีบ พรุ่งนี้จะต้องได้แน่นอน ไม่ต้องพึ่งไม้เท้าอีกต่อไป เชื่อข้าเถอะ!” มืดแล้ว ตระกูลโล่เริ่มจุดเทียน ตอนกินข้าว คนทั้งโต๊ะต่างเงียบกริบไม่มีใครพูด เฉินซื่อก็ตักอาหารให้หลิ่วหม้านหยุนเป็นบางครั้ง จากนั้นหลิ่วหม้านหยุนก็ตักข้าวให้พ่อแม่ แต่ทั้งโต๊ะก็ยังคงเงียบกริบ พอสองสามีภริยาเข้าห้องไป โล่กงยี่ก็นอนลงบนเตียง เห็นสามีนอนหันหลังให้ตัวเอง หลิ่วหม้านหยุนก็รู้ว่าตอนนี้โล่กงยี่คิดอะไรอยู่“กงยี่ ตอนนี้เจ้าจะต้องคิดมากเป็นแน่ ใช่หรือไม่” โล่กงยี่ไม่พูดจา “กงยี่เจ้าไม่เชื่อในความสามารถข้างั้นเหรอ ข้าทำให้ท่านพ่อมีความรู้สึกที่ขาได้แต่กลับทำให้เขายืนขึ้นไม่ได้ ใช่หรือไม่ เจ้าคดเช่นนี้ใช่หรือไม่?” หลิ่วหม้านหยุนเดินไปหาเขา ตบลงบนบ่าเขาแรงๆ แต่กลับเห็นว่าโล่กงยี่หลับไปแล้ว แม้นางจะใช้แรงตีมากแค่ไหนก็ไม่ได้ผล ท่าทางเขาเช่นนี้ หลิ่วหม้านหยุนก็คิดว่าเมื่อคืนเขาคงใช้แรงมาก วันนี้เลยเหนื่อยมาก คิดแล้วก็สมน้ำหน้า ใครให้เขาใช้แรงเยอะขนาดนั้น นี้คงเป็นเวรกรรม หลิ่วหม้านหยุนคิดได้ดังนั้น นางก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน พอหลิ่วหม้านหยุนแต่งตัวเสร็จกำลังจะนอนลงไปข้างๆโล่กงยี่ ใครจะไปคิดว่า โล่กงยี่กลับนอนกลิ้งมาทับตัวนาง “อ๊า!ช่วยด้วย!เจ้าไม่ได้หลับงั้นเหรอ!” หลิ่วหม้านหยุนเกือบกระโดดออกมา เขาหลอกตัวเองเหรอ เขาไม่ได้นอนแต่กลับรอนางแต่งตัวเสร็จมานอนข้างตัวเขาเอง จากนั้นเขาค่อย“ลงมือ” “เจ้าช่างน่ารังเกียจมาก ทำไมไม่ไปตายเสียที?”หลิ่วหม้านหยุนด่าโล่กงยี่ฉอดๆ “ข้าแข็งแรงเกิน ฟ้าสวรรค์ก็เลยไว้ชีวิตข้าก่อน ข้าดูแล้วเจ้าก็ไม่อยากให้ข้าตายไปใช่หรือไม่?” หลายวันมานี้ โล่กงยี่รู้ว่าร่างกายนางอ่อนไหวในจุดไหนบ้าง ดังนั้น โล่กงยี่ก็คอยแกล้งนางที่จุดนั้นตลอด หลิ่วหม้านหยุนกลับทำอะไรไม่ได้ หลิ่วหม้านหยุนกลับต้องทนถูกรังแก พอได้ยินเสียงไก่ขันในวันถัดไป ตอนเช้าตรู่ โล่เหวินเฟิงตื่นขึ้นพร้อมแรงมหาศาล ครั้งนี้ เขาลองลุกขึ้นโดยการไม่ใช้ไม้เท้าดู ตั้งแต่นั่งจนลุกขึ้น ตั้งแต่ลุกขึ้นและเดินไปช้าๆ จากนั้นก็เร่งขึ้น เขากลับวิ่งได้แล้ว…… “สวรรค์ทรงเมตตาข้าเหลือเกิน!” เขาที่คิดว่าชาตินี้จะเดินไม่ได้อีก ไม่คิดว่าผ่านไปสิบกว่าปีของวันนี้ เขากลับลุกขึ้นมาเดินได้อีก
已经是最新一章了
加载中