บทที่100 มาเยือน
1/
บทที่100 มาเยือน
ทนายคนนี้เป็นแฟนฉัน
(
)
已经是第一章了
บทที่100 มาเยือน
บทที่100 มาเยือน “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ไม่คิดเลยว่าคุณจะโทรมาหาผม” ถังฉีตงไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่กลัวจนต้องหนีเขาจะเป็นคนโทรมาหาเขา น้ำเสียงของเธอฟังดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร “อย่าพูดจาไร้สาระกับฉัน ไอ้บ้าฉูเจ๋อหยางนั่นอยู่ที่ไหน” เหตุผลที่ซือซือโทรหาถังฉีตงก็เพราะว่าเธอต้องการตามหาฉูเจ๋อหยาง เธอคิดว่าถ้าหากว่าถังฉีตงและฉูเจ๋อหยางเป็นกลุ่มแก๊งค์เดียวกัน เขาจะต้องรู้จักที่อยู่ของฉูเจ๋อหยางอย่างแน่นอน ที่จริงถังฉีตงก็รู้ และยัง… เขามองไปที่ผู้ชายเย็นชาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม เขายิ้มอย่างมีเลศนัยและถามผู้หญิงที่กำลังโมโหอยู่ที่ปลายสาย “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ผมขอถามอะไรคุณสักคำได้ไหม เขาทำผิดอะไรกับคุณรึ” “ไม่ได้” ซือซือปฏิเสธและหยุดนิ่งไปชั่วครู่ น้ำเสียงเธอยิ่งดูอันตรายกว่าเดิม “ตอนนี้ฉูเจ๋อหยางอยู่กับคุณ” “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของผมฉลาดที่สุด” ถังฉีตงไม่ต้องรู้สึกผิดจากการทรยศพี่น้อง หนำซ้ำเขายังรู้สึกสนุกอีกต่างหาก จะว่าไปแล้วพี่น้องที่ดีก็เหมือนแขนขา ผู้หญิงก็เหมือนเสื้อผ้า ใครมาใส่เสื้อผ้าของผมจะต้องถูกตัดแขนตัดขา ดังนั้นผู้หญิงของตัวเองจึงสำคัญยิ่งกว่า ผมคิดว่าอาเจ๋อก็คิดเช่นนี้เหมือนกันล่ะ “บอกฉันมาเร็วว่าตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหน” ซือซืออดกลั้นความโกรธเอาไว้ไม่ได้ ถังฉีตงยักไหล่อย่างไม่แคร์และบอกพิกัดของตัวเองไป ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ตัดไป ดูเหมือนว่าเธอจะรีบร้อนเอาเสียจริง สายตาถังฉีตงเต็มไปด้วยความพอใจ ฉูเจ๋อหยางก็สังเกตเห็นได้แต่เขาก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เขาก้มลงดูเอกสารในมือต่อไป และพูดขึ้นลอยๆว่า “พูดจบแล้ว เสร็จแล้วก็มาคุยธุระต่อ” ถังฉีตงกางแขนทั้งสองข้างขึ้นวางบนขอบโซฟาอย่างเกียจคร้าน ท่าทางนี้แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้รีบร้อนที่จะคุยธุระ เขายังถามขึ้นอย่างเป็นนัย “อาเจ๋อ คุณไม่สงสัยหรือว่าผมคุยอะไรกับเธอ” “ไม่สนใจ” ฉูเจ๋อหยางตอบโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง “น่าเสียดายนะ ดูเหมือนว่าครั้งนี้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จะไม่ได้มาหาผม แต่เธอจะมาหาคุณ” ถังฉีตงรู้สึกว่าเพื่อนควรที่จะมี “เจตนาดี” โดยการเตือนให้เขารู้ล่วงหน้าจะได้รับมือได้ทัน “ฟังจากน้ำเสียงเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของผมแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้มาดีนักนะ คุณไปทำเรื่องอะไรไว้ให้เธอสาปแช่ง” ฉูเจ๋อหยางพลิกเอกสารในมือดูอย่างสบายใจ น้ำเสียงเขาไม่สะทกสะท้าน “วางใจเถอะ รสนิยมของผมกับคุณไม่เหมือนกัน” “อาเจ๋อ คุณหมายความว่ายังไง พูดให้ชัดเจนหน่อยได้ไหม คุณจะบอกว่าผู้หญิงของผมกับผู้หญิงของคนเป็นคนละประเภทกัน พวกเธอไม่ได้เติบโตมาด้วยกันอย่างนั้นเรอะ” ใบหน้าของถังฉีตงเหมือนจมอยู่กับความทรงจำ “ผมรู้จักผู้หญิงคนนั้นมานานสิบกว่าปี ผมไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเวยเวยเป็นอย่างไร” ในที่สุดฉูเจ๋อหยางก็มีการตอบสนอง เขาค่อยๆเก็บไฟล์เอกสาร ดวงตาเขาจ้องมองลึกไปที่ถังฉีตง บอกเป็นนัยว่าให้เขาพูดต่อไปได้ เขายังบอกว่าไม่สนใจ เขาคุยธุระขึ้นมาแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกแล้ว สายตาถังฉีตงเห็นชัดในคราหนึ่ง “ช่างเหมือนตุ๊กตาลายครามอันสงบนิ่ง ในตอนนั้นผมกับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ยังคิดว่าเวยเวยช่างโง่นัก ไม่คิดเลยว่าพอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ยิ่งดูก็ยิ่งสวยนะ” ถังฉีตงส่งเสียงฟุตฟิตและแผดเสียงในจมูก “ผมว่านะ เวยเวยออกจะว่าง่าย เป็นผู้หญิงที่อ่อนหวานมาก พ่อแม่ก็ไม่อยู่ เป็นเด็กที่มีเพียงยายซึ่งแก่แล้วเพียงคนเดียวคอยดูแล” ถังฉีตงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ผมรู้ว่าพ่อแม่ของเวยเวยบอกกับคนอื่นว่าพวกเขาไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศ แท้ที่จริงแล้วก็แอบทิ้งลูกไว้ จนตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา ยังมีความผิดชอบชั่วดีที่ยังโทรกลับมาถามเป็นครั้งคราว” เมื่อฉูเจ๋อหยางได้ยินว่าเป้ยฉ่ายเวยเป็นเด็กกำพร้า สายตาของเขาก็หรี่ลง เมื่อเปิดตาขึ้นก็เปล่งประกาย “คุณกลายเป็นคนชอบซุบซิบนินทาตั้งแต่เมื่อไหร่” ความหมายเป็นนัยก็คือ ถังฉีตงเปลี่ยนไปมีนิสัยขี้เม้าท์แบบผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ “อาเจ๋อจะมากเกินไปแล้วนะ ฟังจบแล้วยังมาว่าผมอีก” ถังฉีตงไม่ชอบใจ ใครกันที่ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ตรงหน้า อยู่ดีนึกจะเปลี่ยนอารมณ์ก็เปลี่ยนเสียอย่างนั้น ถ้ารู้แต่แรกว่าเขานิสัยอย่างนี้ คงมีไม่กี่คนที่จะทนได้หรอก “อาเจ๋อ ผมรู้แล้วว่าทำไมคุณมีเพื่อนน้อย” ฉูเจ๋อหยางเหลือบไปมองและพูดเบาๆ “ผมจำเป็นต้องมีเพื่อนด้วยหรอ” “เอาเถอะ เอาเถอะ ผมกลัวคุณแล้วล่ะ เป็นทนายจะต้องทำตัวนักเลงอย่างคุณด้วยหรือยังไง เป็นคนที่คุยด้วยดีๆไม่ได้เลยจริงๆ” ถังฉีตงพูดอย่างเหลืออด ฉูเจ๋อหยางเลิกคิ้วและมองกลับไป “ไม่รู้ว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์มาแล้วหรือยัง” ไม่เจอกันหนึ่งวันเหมือนผ่านไปนานสามปี เขาไม่ได้เห็นหน้าเธอตั้งสองสามปี คิดถึงจัง เสียงของถังฉียังไม่ทันจะหายไป ประตูใหญ่ก็ถูกคนเตะเปิดออก ดวงตาอันหลักแหลมของชาวตันเฟิ่งกวาดมองไปทั่วห้องอยู่สองรอบ ไม่นานเธอก็เห็นเป้าหมาย เธอสาวเท้าไปไม่กี่ก้าว ก็หยุดอยู่ตรงหน้าฉูเจ๋อหยาง เธอคำรามอยู่ตรงหน้าผู้ชายที่ยังคงท่าทีสงบนิ่ง “ไอ้บ้าฉูเจ๋อหยาง แกยังมีหน้ามานั่งชิวๆอยู่ตรงนี้อีกหรอ” ถังฉีตงเห็นประกายแสงในแววตาที่ซือซือมองฉูเจ๋อหยาง เขากระโดดลุกขึ้นจากโซฟาในทันที เขาเอาตัวเองขวางไว้ตรงหน้าของซือซือและพยายามเกลี้ยกล่อม “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของผม มีอะไรเราค่อยๆคุยกันดีกว่านะ ไม่ต้องโมโหอย่างนี้หรอก” ซือซือผลักมือของถังฉีตงออก สายตาดุร้ายของเธอจ้องไปที่ฉูเจ๋อหยาง “ถังฉีตงนี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ คุณหลบไปเดี๋ยวนี้ วันนี้ฉันจะต้องล้างแค้นให้เวยเวยให้ได้” เมื่อเอ่ยชื่อเวยเวย นี่เป็นครั้งแรกที่ชายตรงหน้าเหลือบตามองเธอ แววตาอันเยือกเย็นราวกับจะหยุดซือซือเอาไว้ “เวยเวยเป็นอะไร” “ฮ่าฮ่าฮ่า ฉูเจ๋อหยาง มารู้จักเป็นห่วงเอาตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว” เมื่อซือซือเห็นหน้าฉูเจ๋อหยางเธอก็โมโหได้แต่อยากจะแก้แค้น ตอนนี้โมโห ได้ทำอะไรลงไปแล้ว “ซือซือ ผมจะถามคุณอีกครั้งว่าเวยเวยเป็นอะไร” ร่างสูงของฉูเจ๋อหยางลุกขึ้นจากเก้าอี้ เหมือนภูเขาที่ตั้งตระหงาดอยู่เบื้องหน้าซือซือ ซือซือได้แต่กลืนน้ำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเธอก็นึกถึงเพื่อนที่กำลังนอนพะงาบอยู่ที่บ้าน เธอก็เท้าสะเอวและพูดเยาะเย้ยเขา “อย่าบอกฉันว่าคุณไม่รู้ คุณดูแลผู้หญิงของคุณเองไม่ดี วันหลังฉันจะช่วยดูแลให้” ถังฉีตงเห็นเพื่อนรักของเขากำฝ่ามือแน่น เขารู้ว่านี่เป็นสัญญาณของความโกรธ เขาจึงรีบพูดขึ้นมา “ซือซือ ใครรังแกเวยเวย บอกผมสิ ผมจะไปช่วยสั่งสอนไอ้คนนั้นให้” “จะใครล่ะ ก็หนานฉิงยังไงล่ะ เพราะคิดว่าเวยเวยแย่งฉูเจ๋อหยาง เลยตบตีเวยเวยจนช้ำไปทั้งตัว หน้านี้บวมอย่างกับลูกฟุตบอล ผู้หญิงโง่นั่นก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาลอีก ยังจะมีหน้าบอกให้ฉันช่วยลางานพรุ่งนี้ให้ คุณว่าน่าขันไหมล่ะ” ซือซือพูดเอง น้ำตายังเกือบจะทะลักออกมา แม่งเอ้ย ปัญญาอ่อน ถังฉีตงฟังแล้วก็มีสีหน้าไม่ดี แต่เขารู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา มีคนที่น่าจะโมโหมากกว่าเขา
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่100 มาเยือน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A