บทที่ 183 อารมณ์   1/    
已经是第一章了
บทที่ 183 อารมณ์
บทที่ 183 อารมณ์ จิรภาสมีเวลาอยู่กับภรรยา นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่คนที่เป็นเลขาและผู้ช่วยอย่างตฤณจะต้องอยู่ที่โรงแรมแทนเขาเพื่อที่จะจัดการการประชุมผ่านทางวิดีโอและเอกสารการประชุมต่างๆ รวมทั้งการทำสรุป ตฤณได้แต่คิดอย่างเจ็บปวดว่า ถ้าต้องทำอย่างนี้ต่อไป เขาจะต้องขอเกษียณก่อนแน่นอน ผู้สืบข่าวของสตูดิโอที่จ้องมองจิดาภาเมื่อเขาได้ยินว่าเธอเริ่มเดินทางแล้ว เขาก็รีบมุ่งไปทางนั้นทันที ถ้าทำงานอยู่ตลอดเวลา ตารางของจิดาภาก็ไม่ลึกลับและยากที่จะตรวจสอบขนาดนี้หลัง แต่การที่เขาติดตามขนาดนั้น จิดาภาก็ยังสลัด เขาสำเร็จ เดี๋ยวกลับประเทศเดี๋ยวกลับมาปารีส เห็นได้ชัดว่า เธอกำลังซ่อนอะไรบางอย่าง ความรู้สึกของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับชีวิตของจิดาภา เขารู้สึกว่าฉากหน้าที่ลึกลับนั้น เบื้องหลังจะต้องมีข่าวใหญ่ซ่อนอยู่แน่นอน เพียงแค่ชายผู้ลึกลับคนนั้นยังไม่เลิกกับจิดาภา เขาจะต้องถ่ายรูปพวกเขาได้แน่นอน ……… คมสรให้ลูกน้องสืบข้อมูลของเด็กสาวคนนั้นจากช่องทางติดต่อที่ให้ไว้ และในสถานการณ์ที่เป็นความลับมากขนาดนี้เขาก็หาที่อยู่ของเธอเจอ พอเธอเขา เธอคิดว่าเขามีข่าวคราวของจิดาภา เธอเลยรีบเชิญเขาเข้ามาในบ้าน “จิดาภาจะมาเมื่อไหร่” คมสรกระแอมไอออกมา ยิ้มเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “ฉันคิดว่า คุณสามารถบอกอาการคร่าวๆเจนจิราให้ฉันทราบได้ไหม” เด็กสาวมองไปที่เขา โดยไม่สงสัย “ฉันเป็นเพียงเพื่อนสนิทคนหนึ่งของ เจนจิราเท่านั้น ร่างกายของเธอไม่ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนที่เราไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยกัน ตรวจพบมะเร็งเม็ดเลือดขาว หาผู้บริจาคที่เข้ากันได้มาโดยตลอด” “หลังจากนั้น เมื่อทนต่อไปไม่ได้แล้ว ครอบครัวของเธอก็พาเธอกลับประเทศ มีครั้งหนึ่งพี่ชเยศพาจิดาภามารับการทดสอบ ผลออกมาว่าเข้ากันได้” เด็กสาวพ่นลมหายใจออกมาและ จับนิ้วของตัวเอง “หลังจากนั้นบริษัทs.jก็เกิดเรื่องนั้นขึ้น เจนจิรารู้ว่าพี่ชเยศทำผิดกับจิดาภาไว้ เลยไม่เคยพูดถึงเรื่องการบริจาค เพราะว่าจริงๆแล้ว ตระกูลภัทระนิธิธาราติดหนี้จิดาภา” “เจนจิรา ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่ให้คนของตระกูลภัทระนิธิธาราติดต่อกับจิดาภา จนทำให้เธอทะเลาะกับครอบครัว” “ที่ฉันมาตามหาจิดาภาครั้งนี้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องจำเป็น เจนจิราทนต่อไปไม่ไหวแล้ว หมอลองทำทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว แต่ ….. ฉันไม่สามารถมองดูเจนจิราตายลงต่อหน้าได้” เด็กสาวมองไปที่คมสร “จิดาภาเป็นศิลปินในค่ายของคุณ ดังนั้น ฉันเลยไปหาพวกคุณ” เธอเพียงแค่กังวลเกี่ยวกับอาการป่วยของเจนจิรา โดยไม่รู้ด้านมืดของธุรกิจบันเทิงและไม่รู้ว่าตอนนี้ โอเลกำลังมีเรื่องบาดหมางกับจิดาภา “ฉันคิดว่า จิดาภาตกลงยอมช่วยด้วยตัวเอง แต่ทำไมอยู่ดีๆถึงมายกเลิก มีแค่เธอเท่านั้นที่ช่วยเจนจิราได้” พอฟังจบคมสรเงียบไปสักพัก และถามออกมาว่า “สถาณการน์มันร้ายแรงขนาดไหน” “หมอบอกว่า ร่างกายของเจนจิรานั้นยื้อต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอเริ่มผอมลงเรื่อยๆ การควบคุมก็ … กินยาพวกนั้นเข้าไปทุกวัน แต่ว่าเธอ … ” เด็กสาวพูดออกมาได้ครึ่งเดียวก็ร้องไห้โฮออกมา คมสรจับมือของเธอและพูดออกมาว่า “ที่จริงเราได้บอกเรื่องนี้กับจิดาภาแล้ว แต่ว่าเธอ เหมือนตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยง ส่งข่าวไปบอกเธอแล้ว แต่เธอไม่ตอบกลับมาเลย เธอไปถ่ายนิตยสารที่ปารีส ฉันไม่สามารถที่จะติดตามเธอได้” เด็กสาวช็อกและมองคมสร นิ่งไปสักพัก เธอค่อยๆก้มหัวลง ดูเหมือนกับว่าเธอจะยอมรับความเป็นจริงนี้ได้ “ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณคุณมาก” คมสรลุกขึ้น ก้มหัวเล็กน้อยและเดินจากไป แต่เขาไม่พลาดที่จะเห็นสายตาที่เคียดแค้นของเธอ จากที่เธอมอง จิดาภาก็เหมือนกับพวกศิลปินผู้หญิงพวกนั้น ใช้มารยาให้ได้ขึ้นไปอยู่บนจุดที่สูง ภายนอกดูงดงามสดใส แต่ภายในนั้นสกปรกสิ้นดี เธอคงคิดไม่ถึงว่า คมสรไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปบอกจิดาภา ถึงแม้ว่าเรื่องมันจะเกี่ยวข้องกับชีวิตของคน แต่เพื่อการแก้แค้นจิดาภาเขาไม่สนว่าจะต้องใช้วิธีการอะไรก็ตาม การใส่ร้ายยุยงแบบนี้ เขาเคยทำมานับครั้งไม่ถ้วน ……… ปารีสตอนกลางคืนงดงามเป็นอย่างมาก แต่ในคฤหาสน์ที่ห่างไกลจากตัวเมืองนั้น จิดาภากำลังเตรียมอาหารคำให้กับคนรักของเธอ เพื่อที่จะให้เขาได้พักผ่อนและเพลิดเพลินกับวันหยุดที่หาได้อยากแบบนี้อย่างเต็มที่ จิดาภาขอให้เขาทำงานไม่เกินวันละสองชั่วโมง เวลานอกจากนั้นขอให้เขาพักผ่อน จิรภาสไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่เขาจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในการดูแลโดยคนที่เขารัก ได้มองจิดาภายุ่งอยู่กับเขา ฟังเธอบอกให้เขาพักผ่อนให้ตรงเวลา กินข้าวให้ตรงเวลา มันเป็นความสุขที่ไม่สามารถพูดอธิบายออกมาได้ อาหารค่ำอันหอมหวานผ่านไป พวกเขาทั้งสองคนนั่งมองความงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนอยู่ที่โซฟา จิรภาสนอนหนุนอยู่ที่ตักของจิดาภา มองไปที่ผิวขาวของเธอ และยื่นมือไปจับที่ใบหน้าของเธอ และพูดออกมาอย่างจริงจัง “ฉันไม่สามารถเห็นคุณรู้สึกไม่ดีแบบนี้อีก ฉันทนไม่ได้จริงๆ” “ฉันสัญญา”จิรภาสกุมมือของเธอไว้ เขาไม่ได้ต้องการที่จะเห็นเธอร้องไห้เพราะตัวเขาเองอีก “ฉันจะไม่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศคนเดียวอีกต่อไป” จิรภาสลุกขึ้นนั่ง ค่อยๆดึงจิดาภาเข้ามากอดอย่างนุ่มนวล และสัญญากับเธออีกครั้งว่า “ฉันจะไม่ทำให้เธอต้องเป็นกังวลอีก ฉันสัญญา” เมื่อมีจิดาภา ชีวิตของเขาเหมือนเจอแสงสว่างอันใหม่ ตลอดชีวิตนี้ เขาไม่มีทางที่จะปล่อยมือของเธอ ความรู้สึกที่คนอื่นเอาใจใส่เขานี้มันดีจริงๆ จิดาภาอยู่ในอ้อมกอดของเขา ศีรษะของเธออยู่ที่อกของเขา และสูดหายใจเขาลึกๆ ซึมซับกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา “จิรภาส…” “ฉันอยู่ตรงนี้” จิรภาสอาจจะเป็นพระราชาที่ครอบครองวงการบันเทิงและเป็นสามีที่ใกล้ชิดที่สุดของเธอ เขายอมที่จะถอดหัวโขนออกเมื่อยามที่อยู่หน้าเธอและปล่อยวางความเข้มงวดที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น เขายอมแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าเธอ ยอมที่จะให้เธอเป็นคนดูแลเขา เรื่องราวระหว่างพวกเขาไม่มีคนที่เข้มแข็งกว่า ไม่มีใครชนะหรือว่าแพ้ ถูกรัก ไม่ได้หมายความว่าคุณยอมแพ้ “รอให้ตารางงานพรุ่งนี้ถ่ายทำเสร็จ แล้วเรากลับบ้านกัน” จิรภาสขมวดคิ้วเล็กน้อย “เกรงว่าจะไม่ได้ หลายวันมานี้ฉันเชื่อฟังเธอมาพักผ่อนที่นี่ แต่ว่าคุณไม่รู้ว่า ตั้งแต่ที่โฆษณาของบริษัทWMปล่อยออกไป มีแบรนด์ใหญ่หลายๆแบรนด์ติดต่อเข้ามาต้องการที่จะร่วมงานกับคุณ โอกาสครั้งนี้มันสำคัญมากๆเลยนะ ปล่อยให้หลุดไปไม่ได้” จิดาภายู่ปาก “แล้วคุณ….” “ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อยไม่ได้ป่วย” จิดาภากระพริบตา เธอกำลังใช้ความคิด เนื่องจากโอกาสเหล่านี้นั้นหายาก ถ้าหากว่าเธอปล่อยให้มันผ่านไปล่ะก็ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีโอกาสแบบนี้เข้ามาอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณอยู่ พักผ่อนกับฉันอีกสองวัน!” “รับทราบ”จิรภาสยิ้ม และลูบเบาๆที่ผมของจิดาภา “อยู่ที่บ้าน ฉันก็เชื่อฟังคุณ อยู่ข้างนอก ฉันก็เชื่อฟังคุณ” เขากอดเธอแน่นขึ้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็จะพึ่งพาซึ่งกันและกัน
已经是最新一章了
加载中