บทที่ 188 ฆ่าคน

บทที่ 188 ฆ่าคน “อย่า อย่าแจ้งตำรวจ ฉันจะทำตามที่คุณบอก” พยาบาลร้อนรนที่จะร้องขอเขา ตฤณเก็บหลักฐานเรียบร้อย เพราะคมสรทำตัวของเขาเอง เขาไม่สามารถที่จะไปโทษคนอื่นได้ หลังจากการยื้อชีวิตผ่านพ้นไป แม้ว่าอาการของเจนจิราจะบรรเทาลง แต่ว่ายังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เหล่าแพทย์ประชุมกันอย่างเร่งรีบ หลังจากประชุมเสร็จ ตัดสินใจที่จะดำเนินการขั้นตอนการผ่าตัดทันทีขั้นต่อไปทันที แต่ว่า สถานการยิ่งแย่ลงไปอีกเจนจิราอาจจะไม่สามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ หมอได้เดินออกมาจากห้องผ่าตัดอีกครั้งเพื่อที่จะแจ้งให้ญาติทำใจ ตฤณยังคงดูแลอยู่ที่โรงพยาบาล พอได้ยินข่าวนี้เขารีบทำเรื่องขอย้ายโรงพยาบาลทันที ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมือง หวังว่าอาการของเธอจะดีขึ้น ณ เวลาเดียวกันนั้นคมสรก็ได้รับข่าว ว่าทางหมอได้แจ้งให้คนในครอบครัวทำใจแล้ว คมสรก็รีบเปิดเผยอาการป่วยของเจนจิราทันที สวรรค์ช่างเข้าข้างเขา เขาโพสต์โดยไม่ระบุชื่อ บอกว่าตัวเองเป็นเพื่อนสนิทของเจนจิรา มุ่งเป้าไปที่จิดาภาว่าทำอะไรไว้ก็ต้องได้ผลตอบแทนแบบนั้น ไม่สนใจชีวิตของคนอื่น เพราะว่าเธอไม่รักษาสัญญา เลยทำให้เจนจิราต้องพลาดโอกาสที่จะหาผู้รับบริจาคคนอื่นที่อาจจะเข้ากันได้และพลาดโอกาสการรักษาทำให้เธอเกือบต้องจากโลกนี้ไป นี่คือหลักฐาน จิดาภาทำร้ายชีวิตของเพื่อนมนุษย์ นี่ก็คือการฆ่าคน ใครจะไปสนใจเกือบไปแล้ว สามคำนี้ เมื่อโพสต์นี้ถูกปล่อยออกไป ทุกคนจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์จิดาภา เพราะพฤติกรรมแบบนี้จะไปสะกิดเอาความสนใจจากทุกคน ไม่สนว่าสุดท้ายแล้วเจนจิราจะเป็นอย่างไร ความจริงก็คือว่าเจนจิราเกือบจะตายอยู่ในห้องผ่าตัดแล้ว ไม่มีใครมาสนใจเรื่องอื่นๆหรอก เพียงแค่เอาความผิดทั้งหมดผลักไปที่จิดาภาเท่านั้น พูดง่ายๆก็คือ จิดาภาฆ่าคน หลังจากเรื่องถูกปล่อยออกมา เจนจิราพึ่งถูกช่วยชีวิตกลับมา ดาวิกากังวลใจเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอจึงไม่ได้บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น “นายคมสรทำไมน่ากลัวอย่างนี้ ใช้อาการป่วยของเจนจิราทำร้ายจิดาภา ฉัน … ถูกเขาหลอกใช้ใช่ไหม ฉันรู้สึกผิดกับจิดาภาจริงๆ” ดาวิการู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก “จะทำอย่างไรดี ถ้าหากทำให้จิดาภามีปัญหาละก็ ….” ตฤณตอบอย่างใจเย็น “ไม่มีเรื่องอะไรหรอก สื่อเหล่านั้นเป็นเพียงเสนอข่าวที่หลอกลวงเท่านั้น พวกเขาบอกว่าจิดาภาฆ่าคนตาย แต่ว่าเจนจิราก็ยังมีชีวิตอยู่ แล้วจะบอกว่าฆ่าคนตายได้อย่างไร คมสรนั่นรีบร้อนเกินไป” “แต่ว่า คำพูดพวกนั้นมันน่ากลัวมากเลย” ดาวิกาคิดไม่ออกเลยว่าเวลาที่ถูกด่าว่า เป็นฆาตกรฆ่าคนตาย จิดาภาจะมีความรู้สึกอย่างไร “นายหญิงของเรา เจอเรื่องแบบนี้มาเยอะแล้ว เธอคงจะไม่ใส่ใจมันสักเท่าไรหรอก” “แต่คราวนี้เธอถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนนะ” เหตุผลที่คมสรกล้าลงมือในเวลานี้ ก็เพราะว่า จิดาภาเคยสัญญาว่าจะบริจาค ประจวบเหมาะกับอาการของเจนจินรานั้นทรุดหนัก จิดาภาไม่ช่วยคนนั้นคือความจริง ตอนนี้เป็นยุคของนักเลงคีย์บอร์ด ใครจะไปสนใจอย่างอื่นกัน จิดาภาเห็นคนอื่นมีปัญหาแต่ไม่เข้าไปช่วย! “จิดาภาทำเกินไปแล้ว ครั้งนี้ฉันจะไม่เชื่อเธออีก นี่มันชีวิตคนทั้งคนเลยนะ!” “ดาราก็ชอบโอ้อวดผลงานของตัวเอง เธอไม่เคยคิดที่จะช่วยเหลือคนอื่นอยู่แล้ว” “เป็นข่าวอีกแล้ว ครั้งก่อนๆหน้าก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรอ เป็นข่าวบ่อยๆ เดี๋ยวก็ดังเอง” “เหอๆ ฉันไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว หลังจากนี้ฉันจะไม่ดูละครที่เธอแสดงอีกแล้ว รีบๆหายไปจากวงการเถอะไป ให้พวกฉันได้อยู่เงียบๆกันบ้าง” แต่สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือ พวกที่ด่าจิดาภาอยู่นี่สัปดาห์ที่แล้วยังบอกว่าจะสนับสนุนจิดาภาตลอดไปอยู่เลย นี่แหละคือวงการมายา และนี่ก็คือสันดานของคน คมสรพอใจที่เห็นความคิดเห็นอย่างล้นหลามในอินเตอร์เน็ต หลายคนตกลงที่จะร่วมมือกัน แบนผลิตภัณฑ์ที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ ละครที่เธอเล่น จนกว่าจิดาภาจะถูกขับออกจาวงการบันเทิง เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ขัดแย้งกันมา เรื่องนี้เขาทำให้มันส่งผลกระทบต่อจิดาภามากที่สุด แต่ว่าจิดาภายังอยู่ที่ปารีส ความคิดเห็นเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลรบกวนเธอ เพราะว่าในความคิดของชาวตะวันตก เรื่องนั้นมันไม่ใช่หน้าที่ของเธอ เมื่อจิดาภาทำงานเสร็จและได้เห็นข่าวเหล่านั้น …. จิรภาสเคยโทรมาเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังแล้ว ทำให้เธอได้พอเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังคงโมโหอยู่ดี ความจริงแล้วเธอเคยบอกว่าเธอจะบริจาค นี่คือสิ่งที่คนภายนอกสงสัย จิรภาสคิดว่าทางออกสำหรับเรื่องนี้มีอยู่ทางเดียว เขาจะต้องช่วยจิดาภาจัดการความวุ่นวายและเรื่องราวในอดีตเหล่านี้ให้เรียบร้อย หลังจากนี้ทางที่เธอต้องเดิน เธอยังต้องเดินไปให้ไกลกว่านี้ “ฉันคิดว่านอกจากบริษัทเค.เอฟแล้ว เธอไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้” จิรภาสไม่ต้องการที่จะรอต่อไปแล้ว เขาบอกกับจิดาภาเสียงแข็งว่า มาอยู่ที่บริษัทเค.เอฟ ฉันจะปกป้องเธอเอง บนโลกในนี้ไม่มีความยุติธรรม เพียงแค่จิดาภามาอยู่ในบริษัทเค.เอฟ เขาถึงจะวางใจ จิรภาสเป็นคนทำบริษัทเค.เอฟขึ้นมา เขาสามารถรับประกันโอกาสของความเท่าเทียมกันที่นี่ หากมีข้อบังคับที่ไม่ดีหรือมีจุดดำเพียงเล็กน้อย เขาสามารถกำจัดมันทิ้งได้ จิดาภาไม่ได้ปฏิเสธในทันที แต่ก็ยังไม่ได้ตอบตกลง เธอไม่ได้กลัวที่จะต้องเข้าไปอยู่ในบริษัทเค.เอฟ เพราะว่าตอนนี้เธอนั้น แข็งแกร่งมากพอที่จะเข้ามาเป็นศิลปิลของบริษัทเค.เอฟ ………. ข่าวนี้กระจายไปทั่วทั้งวงการจิดาภาไม่มีโอกาสที่จะโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น ดูเหมือนว่าวงการบันเทิงทั้งหมดกำลังต่อต้านเธอ เพราะว่าเธอมีคำว่าฆาตกรห้อยอยู่ที่ตัวเธอ ถึงแม้ว่าจิดาภาจะมีความเป็นมีอาชีพมากแค่ไหนเธอก็ไม่สามารถเรียกการกระทำของพวกนักเลงคีย์บอร์ดที่โจมตีเธอกลับไปได้ คมสรเคยเห็นวิธีการจัดการกับข่าวลือของจิดาภาแต่ครั้งนี้ เขาได้จัดการให้คนทั้งประเทศคว่ำบาตรเธอ ตราบใดที่ทุกคนปฏิเสธที่จะเห็นจิดาภาบนหน้าจอ เธอก็ไม่มีทางที่จะจัดการมันได้ เมื่อใดก็ตามที่มีคนมาแก้ตัวแทนจิดาภาในอินเตอร์เน็ต ก็จะถูกโจมตีโดยพวกจิดาภาทันที สองวันหลังจากเกิดเรื่องขึ้น ไม่มีใครกล้าที่จะพูดแทนจิดาภา แม้แต่บริษัทWMที่เคยทำงานด้วยกัน แม้แต่พวกผู้กำกับที่ชื่นชมจิดาภา ก็เลือกที่จะหลบเลี่ยงเรื่องนี้ ถ้าหากพวกเขาออกหน้าในตอนนี้ มีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง แม้แต่บริษัทเอเจนซี่ของเธออย่างโอเลยังคงได้รับการตอบสนองในเชิงลบ พอญาณินีเห็นข่าว รีบเรียกคมสรเข้ามาพบ “คุณบ้าไปแล้วหรอ ? ตอนนี้จิดาภากำลังมีชื่อเสียงอย่างมากในต่างประเทศ เธอกำลังพาบริษัทไปได้ด้วยดี บริษัทได้รับกำไรมากมายจากเธอ คุณทำเรื่องแบบนี้ในเวลาอย่างนี้ คุณจะให้ฉันจัดการมันอย่างไร” วิธีการของคมสรส่งผลกระทบกับการเติบโตของโอเล ญาณินีไม่สามารปล่อยเรื่องที่เขาทำไปอย่างง่ายดาย “ตอนนี้ฉันเหมือนยืนอยู่บนเรือลำเดียวกันกับจิดาภา คุณจะจัดการอย่างไรกับจิดาภาฉันไม่สน แต่ถ้ามันกระทบถึงบริษัท ถ้าฉันทำอะไรไม่ไว้หน้าคุณขึ้นมาอย่าได้มาโทษฉัน” ญาณินีโกรธมากได้แต่เคาะมือไปบนโต๊ะ ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะดูราคาหุ้นของบริษัท ภายในใจของคมสรนั้นมีความกังลง แต่ถ้าคิดเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด เขายืนหยัดตอบกลับไปว่า “ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ คุณวางใจเถอะ” “วางใจหรอ” ญาณินียิ้ม “คุณคิดว่าคุณสามารถควบคุมความคิดของทุกคนได้? ฉันคิดว่าคุณจะเก่งกว่า และใจเย็นกว่า จงกลกับภพธร แต่ว่าตอนนี้ ฉันคิดว่าฉันคิดผิด”