บทที่191มีแต่ถูกด่าว่า

บทที่191มีแต่ถูกด่าว่า "เพราะว่าทุกคนอยากจะเห็นตอนที่ศิลปินหญิงผู้ที่มีคุณธรรมอันสูงส่งคนนั้นถูกเปิดโปงความจริงออกมาที่สุด ดูว่าจะยังยิ้มออกมาได้อยู่หรือเปล่า!" "น่าเสียดายนะคะ คุณจะไม่ได้เห็นฉันแบบนั้นอย่างแน่นอน" จิดาภามองออกไปยังวิวด้านนอกหน้าต่าง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา "คุณคิดว่าฉันจะแบกรับเพื่อข้ามผ่านมันไปไม่ได้ คิดว่าเบื้องหลังฉันมีความลับที่ไม่สามารถบอกใครได้อย่างนั้นหรือ....." "หรือไม่ใช่กัน? บริษัทไม่ได้ให้คุณรับผิดชอบอะไร นั่นก็ถือว่าให้ความเมตตากับคุณมากที่สุดแล้วนะ!"จนวินาทีสุดท้ายญาณินีก็ยังคงไม่ยอมแพ้ จิดาภานวดขมับ รอยยิ้มค่อยๆปรากฏจนมุมปากของเธอเริ่มสั่นเล็กน้อย "ถ้าเช่นนั้นฉันคงต้องขอบคุณคุณสินะคะ" "รอดูแล้วกัน งานแถลงข่าวตอนบ่ายทุกอย่างจะถูกเปิดเผยออกมาแน่!" ญาณินีไม่ได้สนใจช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้เลย คิดเพียงแค่อยากจะเหยียบย่ำจิดาภาซ้ำอีกเพียงเท่านั้น "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" จิดาภาพูดออกไปอย่างไม่ได้สนใจอะไรนัก เธอจะไม่ยอมก้มหัวให้กับญาณินีอย่างแน่นอน น้ำเสียงของเธอจึงยังคงแสดงถึงความไม่ยอมแพ้กลับไป แต่ญาณินีรู้สึกว่าจิดาภากำลังฝืนทนอยู่ ไม่มีใครที่มาตรงจุดนี้ แล้วจะยังสามารถลุกขึ้นยืนใหม่ได้อีกหรือ? ในสายตาของเธอนั้น จิดาภาเพียงแค่ต้องการรักษาหน้าของเธอไว้เท่านั้นเอง หลังจากที่วางสายไปแล้ว ญาณินีจึงเรียกคมสรมายังออฟฟิศ แล้วเอ่ยกับเขาด้วยความโมโห "จิดาภาจะยกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการแล้ว เรื่องที่เหลือคุณไปจัดการให้เรียบร้อย เพราะถึงอย่างไรคุณก็ไม่เคยเห็นฉันที่เป็นประธานบริษัทอยู่ในสายตาอยู่แล้ว" "ผมเพียงแค่ทำแทนคุณในเรื่องที่คุณเองไม่ได้คิดจะทำมันเท่านั้นเอง" คมสรโต้แย้งกลับไป "ใช่หรือ?" ญาณินีกวาดตามองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วเริ่มจัดการกับเอกสารตรงหน้าต่อ คมสรทำเรื่องเหล่านั้นข้ามหน้าเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เธอเองก็รู้สึกโมโหทุกครั้ง ที่คมสรล้ำเส้นเธอมาเช่นนี้ "คุณไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ? หลายปีมานี้ ผมยืนหยัดเพื่อโอเล ผมพยายามและทุ่มเทขนาดไหน ผมไม่เคยคิดจะหักหลังคุณ ระหว่างผมกับคุณ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เพื่อนกันธรรมดาแค่นั้น..." ญาณินีหัวเราะออกมา "ก่อนที่เรื่องนี้จะจบลง ฉันจะไม่เชื่อคำพูดของคุณเลยแม้แต่คำเดียว" เวลานี้ พวกแอนตี้แฟนที่อยู่ที่สนามบินรอเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของจิดาภาเลย จนสุดท้ายแล้วจึงรับรู้ได้ว่าพวกเขาคงจะดักรอไม่เจอเจ้าตัวเสียแล้ว ดังนั้นในอินเตอร์เน็ตจึงเริ่มมีกระแสด่าว่าจิดาภาขึ้นอีก นั่นเป็นเพราะว่าจิดาภามาเล่นกับพวกเขาเช่นนี้นั่นเอง หรือเธอควรจะต้องมายืนถูกด่าเช่นนี้ต่อหน้าทุกคนกัน ถึงจะถือว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ? จิตใจของคนพวกนี้มืดมนกันจนถึงที่สุดแล้ว จิดาภาเพียงแค่หลบเลี่ยงไปก็ไม่ได้เสียอย่างนั้น พวกเขารู้สึกว่าจิดาภาทำผิด เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ไม่สามารถแก้ตัวได้ ไม่สามารถหลบซ่อนได้ จะต้องถูกพวกเขามองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม ด่าว่า ที่เธอต้องหลบซ่อนตัวนั่นก็เป็นเพราะเธอร้อนตัว ไร้ยางอาย ส่วนความจริงเป็นอย่างไรนั้น ไม่มีใครสนใจ... เมื่อพวกแอนตี้แฟนไปดักรอที่สนามบินแล้วไม่เจอตัวคนนั้น จึงพากันไปที่โอเล แต่พนักงานที่โอเลบอกพวกเขาไปว่า ไม่เห็นจิดาภาตั้งแต่แรกแล้ว หลังจากนั้น จึงมีการประกาศแจ้งออกมา ว่าจะมีการจัดการแถลงข่าวขึ้น หวังว่าบรรดานักข่าวและแอนตี้แฟนจะหยุดก่อความวุ่นวายนี้ แอนตี้แฟนไม่ยอมแพ้ ทั้งยังกล่าวหาว่าโอเลกำลังปกป้องจิดาภาอีกด้วย! "เพื่อสร้างรายได้ ศิลปินแบบไหนพวกคุณก็เอาไว้หมดเลยหรือ ไม่มีบรรทัดฐานเลยจริงๆ!" "นี่คือธาตุแท้ในวงการบันเทิงของพวกคุณสินะ!" "ถ้าผู้หญิงสารเลวคนนั้นยังไม่ไสหัวออกไปจากวงการนี้ พวกคุณโอเลก็อย่าหวังว่าจะอยู่ได้อย่างสงบสุขเลย!" .......... ณ ห้องประชุม ชั้นบนบริษัทเค.เอฟ จิรภาสเรียนประชุมผู้บริหารระดับสูง เอาเรื่องที่จะเซ็นสัญญากับจิดาภาชี้แจงกับพวกเขา ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึง วิธีการและการตัดสินใจของจิรภาสในวงการนี้ไม่มีใครกล้ามีข้อสงสัย แต่ครั้งนี้จะเซ็นสัญญากับศิลปินหญิงที่มีแฟนคลับต่อต้านมากมายขนาดนี้ ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงมากอยู่พอสมควร.....อีกทั้ง เซ็นสัญญากับจิดาภาโดยไม่มีสาเหตุแบบนี้ ไม่เหมือนกับเป็นจิรภาสเลยเสียด้วยซ้ำ “คุณจิรภาสครับ เรื่องใหญ่โตวุ่นวายขนาดนี้ พวกเราเซ็นสัญญากับคุณจิดาภา จะเป็น....” จิรภาสวางปากกาในมือลง แล้วมองไปยังบุคคลนั้น “คุณเป็นคนประเภทเชื่อข่าวลืออะไรแบบนั้น ทำไมถึงมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ได้อย่างไรกัน?” “ระดับผู้บริหารของเค.เอฟ ขาดความรู้กันถึงขั้นนี้แล้วหรือ? ที่จะพิจารณากันไม่ได้ว่าข่าวนั้นน่าเชื่อถือหรือคิดไปเอง ทั้งยังเชื่อข่าวลือที่สร้างขึ้นมาจากการพิมพ์ออกมาแบบนั้นอีกอย่างนั้นหรือ?” “ถ้าไม่อยากจะต้องไปลาออกที่ฝ่ายบุคคลล่ะก็ ทำงานของพวกคุณให้ดี ยังมีความคิดอื่นๆอีกไหมครับ?” ในห้องประชุมเงียบสงัดไม่มีเสียงตอบรับใดๆ พวกระดับหัวหน้าที่เข้ามาอยู่ที่เค.เอฟเป็นเวลาหลายปีแล้วนั้น ต่างก็รู้ดีในสไตล์การทำงานของจิรภาส คนที่เขาไม่เชื่อจะไม่มีวันได้เข้ามายังเค.เอฟ ในเมื่อเขาเลือกที่จะเซ็นสัญญากับจิดาภา พวกเขาจึงไม่มีความคิดเห็นใดๆ “ไม่มีครับ คุณจิรภาส” อีกทั้งยังมีบางส่วนที่เห็นในความสามารถของจิดาภาด้วยเช่นกัน พวกเขารู้สึกว่าเธอมีความสามารถมากพอที่จะสามารถเข้ามาอยู่ที่เค.เอฟได้ เพียงแต่ว่ารอบๆตัวเธอนั้นมีข่าวลือต่างๆมากมาย พวกเขากังวลว่าจิรภาสอาจจะรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องพวกนี้ จึงไม่มีใครเสนอขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่คิดเลยว่าจิรภาสจะเซ็นสัญญากับจิดาภาเองในช่วงที่กำลังวุ่นวายเช่นนี้ “หากไม่มีอะไรแล้ว ก็เลิกประชุมครับ” “Rick คุณอยู่ที่นี่ก่อน” บรรดาผู้บริหารต่างพากันออกจากห้องประชุมไป เหลือเพียงแค่ผู้อำนวยการศิลปินอย่าง Rick ตฤณที่ยืนอยู่ข้างๆนำข้อมูลเรื่องการประกาศการเซ็นสัญญาส่งให้เขาดู โดยให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบในการแจ้งประกาศเรื่องนี้ Rickดูข้อมูลสัญญาแล้วนั้น มองจิรภาสอย่างตกใจ “ผู้จัดการส่วนตัว...” “ผมจะเป็นเอง” จิรภาสมีปฏิกิริยาตอบกลับไปด้วยความนิ่งของเขา “แต่นอกจากคุณแล้ว ตอนนี้ผมไม่อยากจะให้ใครรู้เรื่องนี้ รวมทั้งตัวของคุณจิดาภาเองด้วย ผมจะหาโอกาสบอกกับเธอเอง” Rickไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร ทำไมจิรภาสถึงได้จัดการทุกอย่างให้กับจิดาภาพิเศษถึงเพียงนี้ จากแววตาของเขา จิรภาสมองทะลุเข้าใจหมดทุกอย่าง เขาจึงยิ้มออกมาแล้วเอ่ยกับเขาไปว่า “ผมคิดว่าคุณจิดาภามีค่าพอที่จะได้รับสิ่งเหล่านี้” “ได้ครับ คุณจิรภาส คุณวางใจได้ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ดีครับ” หลังจากที่Rickออกไปจาห้องประชุมแล้วนั้น จึงมีการตรวจสอบข้อมูลและประวัติที่ผ่านมาของจิดาภา ที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจนั่นก็คือ ไม่นึกว่าโอเลจะแย่และไร้ยางอายเช่นนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการป่วยของเจนจิราในครั้งนี้ วิธีการของโอเลทำให้เจ้าตัวเดือดดาลได้ถึงเพียงนี้ บางทีอาจเป็นเพราะเห็นใจจิดาภา เขาจึงเริ่มรอคอยปฏิกิริยาตอบกลับของโอเล มีเพียงเช่นนั้น เขาถึงจะออกหน้ามายืนได้อย่างตรงไปตรงมา ............ หลังจากที่คมสรเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนั้น โอเลที่ตัดสินใจจะแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์สื่อนั้น ได้จัดงานขึ้นที่ประตูทางเข้าบริษัทโอเล คมสรพาผู้ช่วยมาด้วยสองสามคนมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้านักข่าว เขาเผชิญหน้ากับเลนส์กล้อง ตอบรับเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ไปอย่างมีมารยาท “ผมขอเป็นตัวแทนบริษัทโอเล และศิลปินในสังกัดอย่างคุณจิดาภา ขอโทษต่อหน้าสาธารณชนด้วยครับ” “ทางเราได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว สามารถยืนยันได้ว่า คุณจิดาภาศิลปินในสังกัดของเราเคยรับปากว่าจะบริจาคเลือดเพื่อคุณเจนจิรา แต่เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงหลังนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์และยืนยันได้ครับ” “เดิมทีแล้วทางบริษัทคิดที่จะไปแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับคุณจิดาภา แต่วันนี้ช่วงสายๆทางคุณจิดาภาเป็นฝ่ายที่ยื่นว่าจะขอยกเลิกสัญญาก่อน อีกทั้งยังปฏิเสธในการให้ความร่วมมือกับงานของบริษัททั้งหมด ดังนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้ไป คุณจิดาภาไม่ได้เป็นศิลปินในสังกัดของโอเลอีกต่อไป เนื่องจากว่าพวกเราเป็นบริษัทที่มีคุณภาพและมีความซื่อสัตย์ จะไม่ยอมศิลปินแบบนี้เป็นอันขาด” “จากเรื่องนี้ พวกเราก็ขอแรงสนับสนุนจากประชาชน ในการปฏิบัติกับศิลปินที่ไร้คุณธรรมไร้เหตุผลเหล่านั้น ควรจะต่อต้านพวกเขา คุณจิดาภาเป็นตัวอย่างหนึ่ง เธอเป็นศิลปินคนแรกที่โอเลขอประกาศออกมาว่าขอแบนเธอครับ” “ขอขอบคุณทุกท่านที่มากันในวันนี้ ขอบคุณครับ....”