บทที่193 เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ   1/    
已经是第一章了
บทที่193 เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ
บทที่193 เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ “ทางเค.เอฟ ไม่กังวลกับเรื่องการประเมินค่าคุณจิดาภาจากโลกภายนอกเลยหรือคะ?” “ศิลปินที่ทางเราเลือกจะเซ็นสัญญาด้วยล้วนแต่เป็นที่ยอมรับของผู้บริหารของบริษัทเราแล้วทั้งนั้นครับ พวกเราไม่ฟังข่าวลือเรื่องซุบซิบนินทาในอินเตอร์เน็ตหรอกครับ เราจะไม่อาศัยเอาความจริงทุกอย่างไปเป็นคำพูดเพ้อเจ้อให้กับศิลปินอีกคนด้วยครับ ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่อยากจะให้ทุกคนตาสว่าง ในวงการนี้ไม่เคยที่จะไม่มีพวกแอนตี้แฟนพวกนี้หรอกครับ” คำพูดของRickนั้นเป็นที่เข้าใจกันแล้ว แต่ยังมีนักข่าวที่ไม่เห็นด้วยเอ่ยขึ้น “แต่เรื่องราวระหว่างคุณเจนจิราและคุณจิดาภาเป็นเรื่องจริงนี่คะ!” “อีกทั้งตอนนี้มีคนเบนทิศทางในการโจมตีจากโอเล มาเป็นเค.เอฟแล้ว คุณRick คะเรื่องนี้พวกคุณเตรียมตัวเผชิญหน้ารับมือกันอย่างไรบ้างคะ!” สายตาของRickเย็นชาลง นักข่าวต่างก็พากันยกไมโครโฟนสูงขึ้น พวกเขารอคอยให้Rickได้ปล่อยข่าวอะไรออกมาบ้าง แต่ไม่มีใครคิดเลยว่า เขาจะเลือกวิธีพูดเกลี้ยกล่อมที่สุดตอบกลับมา “วันพรุ่งนี้ช่วงสายๆ จะมีการเซ็นสัญญาระหว่างเค.เอฟกับคุณจิดาภา” “คุณจิดาภากับผู้บริหารของเค.เอฟจะมาร่วมงานนี้ หากตอนนั้นคนที่มีหลักฐานสามารถเอาหลักฐานนั้นออกมายืนยันกันต่อหน้าได้เลยครับ” “บริษัทเค.เอฟไม่เคยตาบอดเข้าข้างแต่ศิลปินอยู่แล้วครับ แต่ความจริงอย่างไรก็เปลี่ยนแปลงไปไม่ได้อยู่แล้วครับ ทางเค.เอฟเองก็จะไม่ยอมให้ศิลปินในสังกัดได้รับความไม่ยุติธรรมและถูกใส่ร้ายเช่นกัน” “คุณจิดาภาเซ็นสัญญากับทางเค.เอฟนั้นเป็นความจริง ทางเค.เอฟเองก็ต้องรับผิดชอบและมีหน้าที่ไปหาความจริง เพื่อปกป้องเธอด้วยเช่นกัน” หลังจากกล่าวจบแล้วนั้น Rickจึงลุกขึ้น เดินออกไปจากห้องโถง คำพูดของเขานั้นช่างมีกลยุทธ์และมีแรงโน้มน้าวได้เป็นอย่างดี ในเมื่อจิดาภาเป็นศิลปินในสังกัดของเค.เอฟแล้วนั้น ใครก็ไม่สามารถจะสร้างเรื่องมาใส่ร้ายเธอได้ทั้งนั้น เค.เอฟไม่เหมือนกับโอเล ที่ใช้วิธีการคลุมเครือมาคุกคามชีวิตและชื่อเสียงของศิลปินเช่นนี้ หรือแม้กระทั่งว่าในสถานการณ์ที่ยังไม่ได้สำรวจหาข้อเท็จจริง จึงแบนศิลปินเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทตัวเองแบบนั้น เค.เอฟราวกับมีพลังบางอย่างที่มาทำลายโอเลได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง นักข่าวที่อยู่ในงานนั้นต่างก็รับรู้ได้ว่า เค.เอฟกำลังปกป้องจิดาภาอยู่ อีกทั้งหากเป็นไปอย่างที่Rickพูดด้วยแล้วนั้น เค.เอฟ.คงจะไม่ยอมให้จิดาภาต้องได้รับการกล่าวหาอย่างรุนแรงและความไม่เป็นธรรมนี้อีกอย่างเด็ดขาดแน่นอน หลังจากที่แอนตี้แฟนและบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องนั้นได้ทราบข่าวนี้แล้ว ยังคงมีเสียงด่าว่าออกมาอยู่บ้าง แต่แนวโน้มนั้นเบาลงไปกว่าเดิมมาก ไม่นึกว่าเค.เอฟจู่ๆจะออกมาพูดแทนจิดาภาเช่นนี้ เดิมทีหลายๆคนที่คิดจะมีข้อซักถามกับทางเค.เอฟ แต่ตำแหน่งที่อยู่ตรงนั้นในวงการนี้ของเค.เอฟ ศิลปินของบริษัทเขาล้วนแต่มีความโดดเด่น ได้รับการชื่นชอบจากบรรดาแฟนคลับกันอย่างมากมาย เป็นเช่นนี้แล้ว หลายๆคนจึงเริ่มที่จะเชื่อเค.เอฟ และเชื่อจิดาภาขึ้นมา ส่วนทางด้านโอเลที่พยายามจะเอาจิดาภาออกไปจากวงการนี้นั้นก็ถูกตีแสกหน้ากลับมาเสียแล้ว ครั้งนี้ราวกับถูกเค.เอฟตบหน้าเข้าอย่างจัง จนตอนนี้บริษัทโอเลจึงได้กลายเป็นเรื่องตลกในวงการไปเสียแล้ว ตอนนั้นคำพูดที่คมสรพูดต่อหน้านักข่าว ได้ถูกชาวเน็ตนำมาทำเป็น รูปเคลื่อนไหว GIF ไปแล้ว พนักงานในบริษัทโอเลทนรับกับแรงกดดันไม่ไหว จึงพากันยื่นเรื่องลาออก บริษัทนี้หาเรื่องบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเค.เอฟแล้ว จะดิ้นรนต่อไปได้อีกนานแค่ไหนกัน? ครั้งนี้ เรือของโอเลคงจะพลิกคว่ำจริงๆแล้ว แม้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ จะยังมีแอนตี้แฟนที่ต่อต้านจิดาภาอย่างรุนแรงอยู่ แม้กระทั่งการสร้างข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเค.เอฟ ข่มขู่ว่าไม่ใช่เป็นเพราะเค.เอฟปกป้องจิดาภาเช่นนี้แล้วจะปล่อยฆาตกรคนนี้ไปได้ “เธอยังเซ็นสัญญากับเค.เอฟได้อีกหรือ? จะต้องใช้วิธีอะไรที่ไม่ดีแล้วกลัวใครจะรู้แน่ๆ คนเป็นฆาตกรจะลบอย่างไรก็ล้างไม่ออกหรอก แม้ว่าจะเข้าไปอยู่ที่เค.เอฟแล้วก็ตาม อย่างไรก็เป็นผู้หญิงเลวๆที่สมควรตายอยู่ดี” “เมื่อก่อนฉันชอบศิลปินของทางเค.เอฟมาโดยตลอด ตอนนี้พวกเขาเซ็นสัญญากับจิดาภาแล้ว ฉันว่าบริษัทนี้จะต้องโดนทำลายแน่ๆ” “พวกผู้บริหารของเค.เอฟมีความสัมพันธ์อะไรกับจิดาภารึเปล่า? ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมถึงออกหน้ารับแทนเธอแบบนั้นกัน!” ……… จิดาภาที่พิงอยู่ที่ไหล่ของจิรภาสนั้น เปิดดูข่าวในวงการบันเทิงที่อัพเดทล่าสุด ชื่อของเธอได้ผูกอยู่กับบริษัทเค.เอฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเธอเห็นคำพูดที่น่าตกตะลึงเหล่านั้น กลับไม่รู้สึกว่าน่ากลัว แต่กลับรู้สึกทุกข์ใจเสียมากกว่า เธอวางโทรศัพท์มือถือของเธอลง แล้วกอดผู้ชายคนที่อยู่ข้างๆเธอไว้ เอ่ยพูดด้วยเสียงเบาๆ “คุณจิรภาสคะ...ฉันทำให้คุณเดือดร้อนอีกแล้ว” จิรภาสได้ฟังดังนั้น จึงตั้งใจที่จะคว้ามือเธอมาจับไว้ เขาไม่ต้องเอ่ยถามอะไร เขาก็รู้ความคิดของเธอ เขาปลอบโยนผู้หญิงคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา “เค.เอฟไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิดหรอก ผมเพียงต้องการให้คุณปรากฏตัวในงานเซ็นสัญญา ส่วนเรื่องอื่น คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ” “แล้วผู้จัดการส่วนตัวของฉันล่ะคะ? ฉันจะต้องเจอเขาก่อนหรือเปล่า” มีเรื่องเมื่อก่อนอย่างเรื่องของภพธรแล้วนั้น จิดาภาค่อนข้างจะใส่ใจกับเรื่องนี้ จิรภาสยิ้มแล้วตอบกลับเธอไป “ตอนนี้ทางผู้บริหารของบริษัทกำลังปรึกษากันเรื่องคนที่เหมาะสมที่สุดอยู่ครับ เชื่อผมนะ ไม่มีปัญหาแน่นอน” “ฉันเชื่อคุณอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่...ในใจรู้สึกพะวง” จิดาภายอมรับออกมา เธอเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่เค.เอฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พอถึงเวลาที่จะก้าวออกไปจริงๆนั้น เธอมักจะคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจิรภาส หากภายนอกรู้ จะเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นอีกกัน เมื่อเห็นเธอพูดเช่นนี้ จิรภาสจึงจ้องมองไปยังดวงตาของเธอ “หาได้ยากนะ ที่จะเห็นคุณดูลนลานแบบนี้” “แค่เซ็นสัญญากับบริษัทใหม่บริษัทนึงเท่านั้นเองครับ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย คุณก็ยังเป็นคุณ เป็นจิดาภาเพียงคนเดียวในโลกนี้” จิดาภาเลียริมฝีปาก สีหน้าเริ่มมีสีแดงเป็นเลือดฝาด เธอเอ่ยออกมาเสียงเบา “ถ้าอย่างนั้นต่อไปฉันคงจะหลบเลี่ยงจากสายตาคุณไปไม่ได้แล้วสิคะ?” จิรภาสรู้ว่าเธอพิจารณาดีแล้ว เขาลูบผมเธอด้วยแววตาที่เป็นปกติ นัยน์ตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “อืม ทุกๆเรื่อง จะต้องได้รับการอนุญาตจากผมก่อนนะ” “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะได้รับการปฏิบัติที่พิเศษกว่าคนอื่น.....” จิรภาสทำท่าทางลังเล “เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนครับ ถ้าหากจะได้รับการปฏิบัติที่พิเศษจริงๆล่ะก็ ผมก็คงจะเข้มงวดกับคุณให้มากขึ้น เพราะตัวคุณเองที่ให้ความสำคัญกับการใช้ความสามารถเพื่อให้ได้ชัยชนะและรางวัลนั้นมา” ตฤณและพี่นัฎค่อยๆถอยออกมาตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มต้นการสนทนากันตั้งแต่แรกแล้ว ได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งสองคนที่ดังออกมาจากด้านในแล้ว พวกเขาจึงถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ตฤณชอบที่สุดเวลาที่เห็นพวกเขาสามีภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันเช่นนี้ ส่วนพี่นัฎเองที่แอบมองตฤณมาตลอดนั้น เพียงแค่ได้เห็นเขา เธอก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก และก็มักจะหน้าแดงขึ้นมาเองอยู่บ่อยๆ ราวกับว่าตฤณรู้สึกเหมือนว่ามีคนกำลังมองเขาอยู่ จึงหันไปมอง พี่นัฎจึงรีบละสายตาไปจากเขา แล้วกดเลื่อนดูโทรศัพท์มือถือแทน แสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ........ ในช่วงที่การวิพากษ์วิจารณ์ด้านนอกนั้นยังคงมีอย่างไม่หยุดง่ายๆ ตอนที่ศิลปินของเค.เอฟเข้าร่วมงานนั้น ก็มักจะถูกถามถึงเรื่องที่เค.เอฟเซ็นสัญญากับจิดาภาด้วยเช่นกัน อย่างมากพวกเขาก็ทำได้เพียงถือไมโครโฟน แล้วยิ้มตอบกลับไปอย่างอ่อนโยน “ฉันไม่ได้รู้เรื่องนี้ดีซักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะประเมินค่าสำหรับเรื่องนี้ได้ แต่ที่ฉันอยากจะพูดนั่นก็คือ ตั้งแต่ที่ฉันได้เซ็นสัญญากับเค.เอฟมา การตัดสินใจของบริษัทและศิลปินที่เซ็นสัญญากับทางบริษัทนั้นล้วนมีแต่ศิลปินดีๆทั้งนั้น ฉันเชื่อมั่นในบริษัทของฉันค่ะ” “คุณจิดาภาเป็นคนมีความสามารถมาก ฉันเองก็รอคอยที่จะได้ร่วมงานกับเธอค่ะ ต่อไปได้มาอยู่ในบริษัทเดียวกันแล้ว คงจะมีโอกาสนั้นนะคะ!” “ฉันและกลุ่มศิลปินของฉันต่างก็ชอบดูการแสดงละครของเธอทั้งนั้น เชื่อว่าเธอจะพัฒนาต่อไปได้ดียิ่งขึ้นที่บริษัทเค.เอฟแห่งนี้ค่ะ”
已经是最新一章了
加载中