บทที่199 อย่าเปิดเผย

บทที่199 อย่าเปิดเผย Rickกำลังรอเธออยู่หน้าประตูทางเข้างาน ถึงอย่างไรก็เป็นครั้งแรกที่เธอมา เพื่อเลี่ยงไม่ให้เธอรู้สึกเก้อเขิน เขาจึงมาพาเธอเข้างานด้วยตัวเอง พวกเขาที่เดินเข้ามาในงาน เห็นการตกแต่งอันแสนงดงามสไตล์ยุโรป เสียงเพลงดนตรีคลาสสิกที่ดังขึ้นรอบๆ ราวกับอยู่ในพระราชวังอย่างไรอย่างนั้น หลังจากที่จิดาภาสังเกตดูแล้วนั้น ศิลปินที่มาร่วมงานในค่ำคืนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ไอดอลดังๆเพียงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นดาราภาพยนตร์ นักร้องดัง ราชินีโฆษณาระดับเอเชียที่เธอเคยเจอเพียงแค่ครั้งเดียว และนักแสดงชื่อดังอย่างจาริณี เธอนั่งอยู่ที่ด้านข้างบาร์ ดื่มแชมเปญอยู่เพียงลำพัง ชุดกระโปรงยาวสีม่วงทำให้เธอดูโดดเด่นและสง่างามยิ่งนัก Rickพาเธอไปแนะนำให้กับดาราภาพยนตร์ท่านหนึ่ง "คุณโตษณ นี่ศิลปินใหม่ของเราครับ คุณจิดาภา" ถึงแม้ว่าจิดาภาจะไม่ได้รับงานภาพยนตร์เป็นมืออาชีพเช่นนั้น แต่บุคคลนี้อยู่ในตำแหน่งไหนของวงการภาพยนตร์ เธอเองก็รู้ดี สิบปีก่อนเขาได้สร้างสถานที่หนึ่งในภาพยนตร์ฮอลลีวูด เขาอยู่ในภาพยนตร์แอคชั่นมากมาย จนวันนี้เขาได้รับความสำเร็จ ที่หลายๆคนอาจจะไม่สามารถสู้กับมันได้ทั้งชีวิต จิดาภาพยักหน้ายิ้มรับ แล้วตอบรับกลับไปอย่างมีมารยาท "คุณโตษณ...." “ครับ มีโอกาสเรามาแลกเปลี่ยนกันได้นะ” “เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ” “คุณจิดาภามาแล้ว?” ทุกคนที่เห็นสถานการณ์ทางนี้ แล้วต่างก็พากันถือแก้วแชมเปญมาทักทายเธอ Rickเองก็แนะนำเธอด้วยรอยยิ้ม หวังว่าจิดาภาจะสามารถเข้าสังคมได้เร็วขึ้น รอจนการพบปะจนจะครบแล้วนั้น จิดาภาจึงเลือกนั่งลงตรงข้างๆจาริณี เธอทั้งสองคนเคยถูกนักข่าวเปรียบเทียบกัน แต่จาริณีเข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก เธอเล่นละครกับดาราระดับโลกในตอนที่เธออายุยังน้อย ความสามารถของเธอแทบจะไม่ต้องประเมินเลย เธอหันมายิ้มให้กับจิดาภา “เป็นอย่างไรบ้างคะ?คุ้นเคยรึยัง?” “โอเคอยู่ค่ะ....” “ค่อยๆปรับตัวนะคะ นี่เป็นจุดที่เค.เอฟไม่เหมือนกับที่อื่น เขาสามารถรวบรวมคนที่มีความสามารถในวงการนี้มาอยู่ด้วยกันได้” จาริณีจิบแชมเปญ แล้วใช้มือจับคางพลางเอ่ยถาม “ผู้จัดการของคุณล่ะคะ?ไม่ได้มาด้วยหรือ?” “ฉันยังไม่เคยได้พบกับผู้จัดการส่วนตัวของฉันเลยค่ะ” เธอเอ่ยไปตามความจริง “ฉันได้ยินมาว่าคุณจะไปถ่ายโฆษณาที่ฝรั่งเศส ยี่ห้อนั้นมีชื่อเสียงที่นั่นมากเลยนะคะ ศิลปินหลายคนเลยที่อยากจะแย่งกันให้ได้โฆษณานี้ หนึ่งในนั้นก็มีศิลปินของช่องบลูไลท์ด้วยค่ะ” เธอหยุดไปแล้วจึงพูดขึ้นต่อ “ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณเคยมีเรื่องส่วนตัวกับพวกเขา ต่อไปคงจะได้พบปะกับพวกเขาบ่อยขึ้นตามงานต่างๆ ระวังตัวไว้ด้วยนะคะ” จิดาภามองอาการของเธอแล้วพยักหน้ารับ “ฉันเชื่อว่าคุณรู้สึกคุ้นเคยกับมันดีเรื่องการแย่งงานหรือแหล่งสนับสนุนกันแบบนี้ เพียงแต่ที่เค.เอฟนี่ไม่เหมือนที่อื่น คุณจะค่อยๆเข้าใจเองนะคะ แน่นอนว่าต้องดูความสามารถของผู้จัดการส่วนตัวของคุณ และความเข้ากันได้ของพวกคุณด้วยนะคะ” จิดาภาเองก็รู้ดี ว่าบางครั้งอาศัยความสามารถ แต่บางครั้งจะไม่พึ่งพาคนที่อยู่เบื้องหลังเลยก็คงไม่ได้ ยิ่งมีแหล่งสนับสนุนสูงมากแค่ไหน การแข่งขันกันในมุมมืดแบบนี้ก็ยิ่งมีความรุนแรง แต่ตอนนี้แม้แต่ผู้จัดการส่วนตัวของเธอเองเธอยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร แล้วจะได้ข้อสรุปที่แน่ชัดได้อย่างไรกัน? เธอกับจาริณีพูดคุยกันอย่างสบายใจ ทั้งสองคนมีความคิดและมุมมองเหมือนกัน Rickที่เดินผ่านมาด้านข้างเธอนั้น เอ่ยกับทุกคนอย่างมีลับลมคมใน “จริงๆแล้ว วันนี้คุณจิรภาสท่านประธานของพวกเราก็มาร่วมงานนี้ด้วยนะครับ” ทุกคนต่างมีรอยยิ้มที่มีความประหลาดใจปรากฏออกมา ทั้งยังพากันปรบมือกันอย่างตื่นเต้นอีกด้วย เป็นถึงประธานบริษัทเค.เอฟ จิรภาสเข้าออกบริษัทโดยลิฟต์ส่วนตัวที่มีไว้สำหรับเขาโดยเฉพาะ และเขาเองก็มักจะมาปรากฏตัวอยู่ท่ามกลางบรรดาศิลปินเช่นนี้ไม่บ่อยครั้งนัก สำหรับทุกคนแล้วผู้ชายคนนั้นราวกับเป็นจักรพรรดิผู้ลึกลับ เป็นที่ตื่นตาตื่นใจมากกว่าดาราดังคนไหนๆเสียอีก จาริณีเห็นการแสดงออกจากอาการของจิดาภาโดยบังเอิญ พบว่าท่ามกลางผู้คนมากมายขนาดนี้รอยยิ้มของเธอช่างดูเป็นธรรมชาติโดดเด่นเหลือเกิน รวมทั้งดาราภาพยนตร์ดังอย่างคุณโตษณก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของจิรภาสเลย แต่จิดาภากลับดูไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงกับอาการของเธอเลย “คุณกับคุณจิรภาส สนิทกันไหมคะ?” “อืม ก็นับว่าคุ้นเคยกันนะคะ” จิดาภาไม่ได้ปิดบังอะไร “คุณจิรภาสเวลาอยู่ที่บริษัทน้อยครั้งมากที่เขาจะมาร่วมงานแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าเขาดูลึกลับแล้ว จะเป็นการดีกว่าถ้าหากจะบอกว่าเขาเองก็คงอยากจะมีชีวิตเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป เขาไม่ได้มีชีวิตเหมือนกับคนในวงการอย่างเราๆ” จาริณียิ้มออกมา แล้วก้มลงจิบแชมเปญ จิดาภามองดูจาริณี กลับรู้สึกคุ้นเคยกับคนๆนี้ ลักษณะนิสัยที่ดูเป็นธรรมชาติแบบนั้นช่างคล้ายกับตัวเธอเหลือเกิน หรือบางทีเธออาจจะไม่ต้องระวังตัวมากขนาดนี้ก็ได้ หลังจากนั้นไม่กี่นาที เสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงต้อนรับก็ดังขึ้นทั้งห้องโถง จิดาภาเห็นจิรภาสที่กำลังเดินเข้ามาจากประตู เรือนร่างที่สูงใหญ่หล่อเหลาทำให้ทุกคนพากันหวั่นไหว ตอนที่เขาออกมาบ้านไปตอนเช้า เขาสวมใส่เสื้อโค๊ทสักหลาดตัวนี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเปล่า จิดาภารู้สึกอยากจะพุ่งตรงเข้าไปกอดเขาเหลือเกิน ในหัวของเธอกลับนึกถึงแต่ท่าทางตอนที่เขาอยู่บ้าน จิรภาสกล่าวทักทายบรรดาศิลปิน จนกระทั่งสายตามาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของจิดาภา สบตากัน แววตาของพวกเขานั้นต่างก็ร้อนผ่าวพอๆกัน เขาเข้าใจอาการเช่นนี้ของจิดาภา จึงหรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการส่งสัญญาณบอกเธอว่าให้เธออย่าดื่มมากนัก ในขณะเดียวกันก็พยายามยับยั้งความคิดที่อยากจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆเธอด้วย จิดาภายกแก้วแชมเปญขึ้น พลางพยักหน้าให้เขา “คุณจิดาภา มาครับ....”Rickที่เห็นว่าจิดาภายืนอยู่ตรงที่ไม่ใกล้ไม่ไกลตรงนั้นโดยไม่ได้ขยับไปไหนเลย จึงตะโกนเรียกเธอขึ้น จิดาภาถือแก้วแชมเปญ แล้วเดินไปหาเขา พร้อมกับมองไปยังจิรภาสอย่างเงียบๆ “คุณก็ดื่มให้กับคุณจิรภาสซักแก้วสิครับ” จิดาภาไม่มีการบอกปัดบ่ายเบี่ยงแต่อย่างใด เธอจึงเอ่ยพูดกับจิรภาส“เป็นเกียรติอย่างมากค่ะที่ได้พบคุณจิรภาสอีกครั้ง...” จิรภาสยกแก้วขึ้น แล้วชนแก้วกับจิดาภาเบาๆ การกระทำของทั้งสองเป็นที่รู้กันดีของทั้งสองฝ่าย ราวกับว่าได้ชนแก้วกันแบบนี้มานับพันนับหมื่นครั้งแล้ว หากไม่ได้เป็นเพราะการอยู่ด้วยการมานาน ก็คงไม่สามารถเข้าใจนิสัยของอีกฝ่ายได้มากขนาดนี้ ราวกับจาริณีเข้าใจทุกอย่าง เธอยิ้มแล้วละสายตาไปจากพวกเขา หากพวกเขายังคงดูมีสัญญาลับกันเช่นนี้ล่ะก็ คงจะยากหากจะไม่ถูกคนอื่นสงสัยเรื่องนี้เข้า สามารถมาอยู่ตำแหน่งในตอนนี้ของวงการนี้ได้ คงไม่มีใครไม่เข้าใจ ในงานแบบนี้ มีแต่คนแทบอยากจะมีดวงตาไว้คอยสอดส่องกันทั้งนั้น หากเรื่องแค่นี้ยังเห็นแล้วไม่เข้าใจ ก็ไม่สมควรที่จะมาร่วมงานในค่ำคืนนี้เลยเสียด้วยซ้ำ ทางด้านRickเองก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว หากพูดถึงตอนแรกเรื่องเกี่ยวกับผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภานั้นเขาเองก็ยังคงสงสัยอยู่ แต่ตอนนี้จิรภาสอยากจะเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วยตัวเองเพราะเป็นงานเลี้ยงครั้งแรกที่จิดาภามาร่วมงานด้วย นั่นก็ชัดเจนทั้งหมดแล้ว จิรภาสราวกับต้องการบอกกับทุกคน ว่าตำแหน่งของจิดาภานั้นไม่ใช่เพียงแค่ที่ทุกคนเห็นกันง่ายๆเช่นนั้น ทุกคนก็ร่วมใจกันเก็บไว้เป็นความลับ ในเมื่อจิดาภาได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเดียวกันกับพวกเขาแล้วนั้น ก็ควรจะดูแลเธอด้วยเช่นกัน หลังจากการสนทนา จิรภาสได้พูดคุยปรึกษากับนักแสดงภาพยนตร์ดังสองสามคนถึงเรื่องปัญหาการโฆษณาในครั้งต่อไป เนื่องจากว่าจิรภาสเป็นคนที่มีกลยุทธ์ที่เฉียบขาด วิสัยทัศน์โดดเด่น การสร้างสรรค์ผลงานของเค.เอฟจึงทำรายได้สูงได้มาโดยตลอด เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว คนฉลาดก็จะไม่มีวันปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือ จิดาภากลับมานั่งข้างๆจาริณีเหมือนเดิม อารมณ์ที่ตื่นเต้นในตอนแรก เป็นเพราะการมาปรากฏตัวของจิรภาสจึงทำให้ตอนนี้เธอรู้สึกผ่อนคลายลงไปมาก ท่ามกลางผู้คน ขอเพียงแค่เธอได้มองเห็นเขา นั่นก็เป็นการปลอบใจเธอได้มากพอแล้ว สายตาของจาริณีที่อยู่ข้างๆเธอนั้นเปลี่ยนไป แล้วจึงใช้เสียงที่สามารถได้ยินกันเพียงแค่สองคนพูดกับเธอ “ถ้าหากคุณยังอยากเดินไปได้อีกไกลกว่านี้ ก็อย่าเพิ่งเปิดเผยเลยนะคะ”