บทที่201 อันตรายรอบด้าน

บทที่201 อันตรายรอบด้าน ระหว่างทางที่พี่นัฎไปส่งจิดาภาที่สนามบินนั้น ยังรู้สึกกังวลอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าหลังจากที่เค.เอฟมีการแถลงข่าวไปแล้วนั้น พวกนักข่าวยังจะไปติดตามเรื่องราวที่พวกแอนตี้แฟนปล่อยข่าวไปแบบนั้นอยู่หรือเปล่า มองดูจิดาภาที่ปวดหัวเล็กน้อยจากการดื่มหนักเกินไปเช่นนั้น แล้วถอนหายใจ "เธอนี่นะ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เยอะ แล้วยังจะฝืนอีก!" พี่นัฎจอดรถไว้ตรงที่จอดรถของสนามบิน หยิบยาแก้อาการเมาค้างให้จิดาภาไปพลางแล้วประคองเธอเดินไปยังห้องโถงที่จะเดินทางออกไปพลาง จิดาภาไอขึ้นมาสองสามครั้ง แล้วรับยาจากเธอไป "ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้แล้วค่ะ" เพียงแต่เธอพบว่าพี่นัฎไม่ได้ดูล้อเล่นเหมือนเวลาปกติ แต่กลับเอ่ยพูดกับเธออย่างจริงจังขึ้นมา "เป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร เพราะอย่างน้อยก็ทำให้พี่ได้เห็นเธอในแบบที่เคยเป็นอีกครั้ง" "อะไรหรือคะ?" "ใช้ชีวิตได้ดูอิสระกว่าเดิมไงล่ะ" พี่นัฎเอาแก้วกระดาษที่จิดาภาดื่มเสร็จแล้วนั้นทิ้งลงในถังขยะ "ตั้งแต่ที่เธอเลิกกับคุณชเยศนั้น เธอก็ไม่เคยที่จะเผชิญหน้ากับใครๆได้อย่างดูมีชีวิตชีวาได้อีกเลย เธอจะคอยแต่ปิดกั้นตัวเองอยู่ตลอด.." "นอกจากคุณจิรภาสแล้ว เธอก็ไม่ยอมเปิดใจให้กับใครอีกเลย" "เธอที่ปกป้องตัวเองไว้เป็นอย่างดีแบบนั้น แต่พี่ไม่อยากเห็นจิดาภาที่กลายเป็นคนที่เย็นชาแบบนั้น" จิดาภามองพี่นัฎ ค่อยๆปรากฏรอยยิ้มบางๆออกมา เธอเองก็ไม่ตั้งใจที่จะทำแบบนี้ แต่เธอในตอนนี้มีความกล้ามากขึ้นที่จะเผชิญหน้ากับทุกอย่างในวงการนี้ นั่นเป็นเพราะตำแหน่งที่เธออยู่ในตอนนี้นั้นไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอมีความสามารถที่จะเข้ามาอยู่ในเค.เอฟ และมีคนรักที่จริงใจกับเธอ ความรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้ทำให้เธอยิ่งรู้สึกมีความมั่นใจ "ผู้จัดการยังไม่ติดต่อเธอมาอีกหรือ?" "คุณRickบอกว่าผู้จัดการส่วนตัวของฉันอยู่ที่สำนักงานใหญ่UNICแล้วค่ะ วันพรุ่งนี้เขาจะรอพวกเราอยู่ที่นั่น" พี่นัฎนึกถึงคำพูดของRick "เขาคงจะไปอยู่ที่นั่นมาซักระยะเวลานึงแล้วสินะ" จิดาภาพยักหน้ารับ เธอได้รับการคุ้มกันจากเค.เอฟแบบนี้ หลังจากที่เธอเข้ามายังสนามบินแล้วนั้นไม่ได้รับการก่อกวนจากพวกนักข่าวเลย ไม่มีใครกล้าที่จะมาท้าทายกับความอดทนของเค.เอฟได้เลย ขณะที่พวกเธอเพิ่งจะเดินเข้ามาในโซนVIPนั้น มีคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ด้านนอกไม่ไกลจากเธอนัก พากันยกไมค์และกล้อง เพื่อสัมภาษณ์ศิลปินคนที่อยู่ท่ามกลางการล้อมรอบของพวกเขาไว้เช่นนั้น "คุณจันวิภา!" จันวิภาอย่างนั้นหรือ? จิดาภาที่กำลังจะหลับตาลงนั้นลืมตาขึ้นมา นั่นราชินีแห่งเรทติ้งของช่องบลูไลท์ จันวิภา! เธอมองจันวิภาที่โดนล้อมรอบโดยนักข่าวและแฟนคลับเดินเข้ามาด้านใน หลังจากนั้นจันวิภาก็สังเกตเห็นเธอด้วยเช่นกัน แต่หลังจากความประหลาดใจและตกใจของเธอเพียงครู่เดียว เธอก็ละสายตาออกไปทันที เป็นนักแสดงดังของช่องบลูไลท์จริงๆ เดินตามผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ทั้งยังมีผู้ช่วย ช่างแต่งหน้าและคนอื่นๆอีกตั้ง8คน แตกต่างจากทางจิดาภาที่มากันเพียงแค่สองคนโดยสิ้นเชิง จากที่พวกเขาดูแล้วนั้น ที่จิดาภาเซ็นสัญญากับทางเค.เอฟ ก็คงจะเป็นบทบาทเล็กๆที่ไม่ได้ถูกให้ความสำคัญอะไรมากเพียงเท่านั้น ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ตอนนั้นที่จิดาภาถูกช่องบลูไลท์แบนนั้น ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนได้ไม่น้อย ตอนนี้เธอกลายมาเป็นศิลปินของเค.เอฟ เกรงว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของช่องบลูไลท์ได้เลย "ดูแล้วช่องบลูไลท์ก็ให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับUNICมากเหมือนกันนะ" "คงเป็นอย่างนั้นแหล่ะค่ะ" พี่นัฎมองดูรอยยิ้มบางๆของจิดาภา ราวกับไม่ได้เอาเรื่องนี้มาใส่ใจ ดูมีความมั่นใจมากขึ้น จิดาภาจำสิ่งที่จาริณีพูดกับเธอในค่ำคืนนั้นได้ดี ว่าเค.เอฟไม่เคยแพ้ให้ใครมาก่อน ตอนนี้เธอเป็นศิลปินในสังกัดของเค.เอฟ แน่นอนว่าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น อีกทั้ง ระหว่างเธอกับช่องบลูไลท์ยังมีบัญชีที่ต้องสะสางกันอีกอยู่แล้ว คนของช่องบลูไลท์ที่เดิมทีจะเดินไปเยาะเย้ยจิดาภา เพื่อให้เธอถอนตัวออกจากการแข่งขันเสียก่อน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร การ์ดส่วนตัวของจิดาภาก็เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ทางด้านหลังเธอถึง4คน มาดท่าทางของการ์ดที่ดูมีระดับเช่นนั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย จิดาภาจึงก้มหน้าอ่านนิตยสาร โดยไม่ได้เก็บเอาพวกเขามาใส่ใจเลยซักนิด จันวิภาขยิบตาให้กับผู้ช่วยเป็นสัญญาณ ในเมื่อรอบๆตัวจิดาภามีคนอื่นอยู่ด้วยนั้น พวกเธอก็คงไม่สามารถจะทำอะไรนอกเหนือจากนั้นในที่แห่งนี้ได้ ว่ากันตามความสามารถแล้ว ช่องบลูไลท์นั้นไม่สามารถเทียบกับเค.เอฟได้เลย แต่บริษัทนี้มาทางดารานักแสดงภาพยนตร์เป็นหลัก การจัดอันดับนักแสดงภาพยนตร์ดังระดับต้นๆก็ล้วนแต่มากจากช่องบลูไลท์ หรือเคยเป็นคนในสังกัดบลูไลท์มาก่อนทั้งนั้น หลายปีก่อน จิดาภาเองก็เคยเอาเรื่องที่เธอเข้าไปอยู่ที่ช่องบลูไลท์นี้เป็นเป้าหมายในการต่อสู้ดิ้นรนของเธอ ตอนนี้เธอสามารถมองพวกเขาได้อย่างภูมิใจ ความรู้สึกที่อยากจะเอาชนะพวกเขาได้พิสูจน์ความมั่นใจและความศรัทธาของตัวเธอเองนี้ เป็นสิ่งที่เธอใฝ่หามากกว่าการเข้าไปยังช่องบลูไลท์เสียอีก และในเวลาเดียวกัน จิรภาสก็กำลังจะขึ้นเครื่องไปที่ฝรั่งเศสเช่นกัน แต่ว่าในตอนที่เขากำลังจะเตรียมตัวไปสนามบินนั้น ตฤณที่ดูท่าทางรีบร้อนวิ่งเข้าในออฟฟิศของเขา “คุณจิรภาสครับ การร่วมมือกับบริษัทภาพยนตร์ของTangเกิดปัญหาขึ้นครับ ทางประธานบริษัททางนั้นอยากจะพบคุณจิรภาสเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ครับ” บริษัทภาพยนตร์ของTangนั้นเป็นเพื่อนร่วมงานที่สำคัญบริษัทหนึ่งของเค.เอฟ ในปีหน้าพวกเขามีรายการใหญ่ระดับนานาชาติที่จะต้องร่วมงานกันถึงสามรายการ จะให้เกิดปัญหาขึ้นไม่ได้ เขามองดูเวลา แล้วพิจารณาก่อนจะเอ่ยกับตฤณไป “ให้Rickบินไปที่สนามบินก่อนตอนนี้เลย ช่วยให้คุณจิดาภาได้เป็นBrand ambassador ในครั้งนี้และนางเอกภาพยนตร์ของผู้กำกับธีระให้ได้” “แต่ว่าทางUNICเห็นเพียงแค่คุณRickออกหน้ามาแบบนี้ จะไม่....” ในเมื่อUNICมีอิทธิพลมากถึงระดับนานาชาติเช่นนี้ และนี่ก็เป็นศึกครั้งแรกของจิดาภาหลังจากที่เซ็นสัญญากับทางเค.เอฟ หากพ่ายแพ้อย่างดูไม่ได้ล่ะก็ คงจะส่งผลกระทบต่อทางเดินในวันข้างหน้าของเธอเป็นอย่างมาก ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ จิรภาสไม่สามารถไปอยู่ด้วยกันกับจิดาภาได้ เขาทำได้เพียงจะต้องแก้ปัญหาที่แก้ได้ยากทางนี้ก่อนเพียงเท่านั้น... “ถ้าเจอเรื่องยุ่งยาก ให้เขาโทรหาผม” ตฤณรับคำสั่ง แล้วจึงรีบไปดำเนินการทันที ทางด้านRickเองก็รีบจองตั๋วเครื่องบินไฟท์ที่ช้าไปกว่าสองสามชั่วโมง เพื่อบินไปฝรั่งเศสทันที หลังจากที่จิดาภาถึงฝรั่งเศสแล้วนั้น เธอรู้สึกสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก นานแล้วที่เธอไม่ได้มาต่างประเทศด้วยความรู้สึกผ่อนคลายเช่นนี้ รอหลังจากที่เข้าพักในโรงแรมที่ทางบริษัทจัดให้แล้วนั้น พี่นัฎจึงติดต่อไปหาตฤณ สอบถามงานต่อไป และในขณะนั้นทางจิรภาสกำลังประชุมด่วนกับทางตัวแทนบริษัทภาพยนตร์ของTang “ตารางงานโดยรวมผมส่งเข้าอีเมล์ของคุณแล้วครับ ส่วนผู้จัดการส่วนตัวของคุณจิดาภาอีกไม่นานเขาจะไปหาพวกคุณครับ” “ท่านประธานกำลังประชุมอยู่ เดี๋ยวผมต้องเข้าไปแล้ว มีเรื่องอะไรส่งข้อความมานะครับ” พี่นัฎวางโทรศัพท์ลง รู้สึกสับสนเล็กน้อย เดี๋ยวก็จะต้องพบกับเจ้าของแบรนด์และผู้กำกับคนดังแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าผู้จัดการส่วนตัวของเธอคือใคร.... จิดาภาที่เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมใส่ชุดที่สบายขึ้นนั้น เห็นอาการของพี่นัฎที่ผิดปกติไป จึงยิ้มแล้วเอ่ยถามขึ้น “เป็นอะไรคะ?” “พี่รู้สึกว่าผู้จัดการส่วนตัวคนนี้ที่เค.เอฟจัดให้เธอเขาดูแปลกๆนะ มีที่ไหนจนตอนนี้แล้วยังไม่มาให้เห็นหน้าอีก เขายุ่งขนาดไหนกันเชียว!” ขณะนั้นจิดาภารู้สึกปวดท้องเล็กน้อย เธอนั่งพิงอยู่ตรงหัวเตียงแล้วพลิกดูนิตยสารไตรมาสนั้นของUNIC พี่นัฎกลัวว่าเธอจะทนไม่ไหว “พี่เอายากระเพาะมาด้วย เธอทานยาก่อนนะ ถ้าหากตอนกลางคืนแล้วยังไม่ดีขึ้น เราค่อยไปหาหมอกัน” “วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นเสียหน่อย” จิดาภายิ้มออกมา “ถ้าเธอไม่สบายตรงไหน บอสจะต้องฆ่าพี่ตายแน่ๆ!” พี่นัฎวางยาไว้ตรงโต๊ะ อดไม่ได้ที่จะจุกจิกเสียหน่อย “หลังจากเซ็นสัญญากับเค.เอฟแล้ว นี่เป็นงานแรกของเธอ ทางนั้นก็มีคนของช่องบลูไลท์ที่คอยจ้องมองเธออยู่อีก เธอก็รู้ว่าช่วงนี้ความนิยมของจันวิภานั้นพุ่งแรงแค่ไหน พี่กังวลว่าเธอ...” งานBrand ambassadorโฆษณาครั้งนี้ สำคัญมากจริงๆ