บทที่202 เธอไม่ยอมแพ้หรอก   1/    
已经是第一章了
บทที่202 เธอไม่ยอมแพ้หรอก
บทที่202 เธอไม่ยอมแพ้หรอก “อืม ฉันเข้าใจค่ะ พี่วางใจเถอะนะ” จิดาภาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วยิ้มออกมาเพื่อปลอบใจพี่นัฎ “เธอพักก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวพี่ไปดูอีเมล์ที่คุณตฤณส่งมาให้ก่อน” ในเมื่อผู้จัดการที่แสนลึกลับของเธอยังไม่เผยโฉมหน้าออกมา เธอก็คงจะต้องดูตารางงานในช่วงสองสามวันนี้ก่อน จะได้ไม่มีปัญหา พี่นัฎว่าพลางหยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมาช่วงเวลาสัมภาษณ์เป็นวันพรุ่งนี้ตอนช่วงสายๆ เป็นกรุ๊ปUNICที่มีอิทธิพลระดับนานาชาติ ไม่เพียงเป็นแค่ เครื่องสำอางแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ทั้งยังรวมไปถึงเครื่องประดับหรูหรามากมายอีกด้วย เพียงแต่สถานการณ์ของจิดาภาในตอนนี้นั้น.... พี่นัฎมองเธออย่างกังวล สภาพร่างกายแบบนี้จะสามารถรับการสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้ไหวหรือเปล่ากัน? ไม่นาน Rick ก็มาถึงโรงแรม หลังจากที่พี่นัฎเห็นเขาแล้วนั้น รู้สึกตกตะลึง แต่ถ้าหากผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภาเป็นผู้อำนวยการศิลปินคนนี้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ในวงการนี้Rickนับว่าเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีคนหนึ่ง ถ้าหากเป็นเขานำจิดาภาล่ะก็คงจะกำจัดเรื่องยุ่งยากไปได้ไม่น้อยเลย แต่ ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริงๆ ทำไมเขาไม่บอกมาตั้งแต่แรกกัน? ทางด้านRickเองก็ทุ่มเทกับความเสี่ยงนี้เช่นกัน เพราะBrand ambassadorของUNICครั้งนี้คงจะไม่ได้มาง่ายๆ “ถ้าหากคุณจิดาภากำลังพักผ่อนอยู่ พรุ่งนี้ผมค่อย...” เขากำลังจะกลับออกไป ก็ได้ยินเสียงตึงดังมาจากด้านในห้องนอน พี่นัฎและRickรีบพากันวิ่งเข้าไปด้านใน เห็นจิดาภาที่มีสีหน้าซีดเผือด พยุงตัวเองขึ้นจากเตียงแล้วอาเจียนไม่หยุด... “ไปโรงพยาบาลเร็ว!” หมอสรุปผลให้ว่า เป็นอาการหลังจากที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วเดินทางไกล ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ทางเดินอาหาร... “แล้วแบบนี้เธอจะสามารถฟื้นฟูได้เมื่อไหร่กันคะ?”พี่นัฎมองนาฬิกา เวลาจากการสัมภาษณ์อีกเพียงไม่ถึงแปดชั่วโมงเท่านั้น “อย่างน้อยต้องนอนพักผ่อนสองวัน” แล้วการสัมภาษณ์ล่ะ? พี่นัฎส่งสายตาถามกลับไปยังRick สถานการณ์เช่นนี้ คงจะต้องให้เขาเป็นคนตัดสินใจ Rickไม่อยากทำให้เสียเวลา จึงรีบออกไปรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ให้จิรภาสรับรู้ จิดาภากลัวว่าจิรภาสจะเป็นกังวล จึงบอกให้Rickไม่ต้องบอกเรื่องที่เธอนอนโรงพยาบาลนี้กับเขา แต่หลังจากที่Rickออกไปจากห้องพักผู้ป่วยแล้ว ก็ยังคงบอกเรื่องทั้งหมดนี้กับจิรภาสอยู่ดี “ผมรีบให้เธอรับงานBrand ambassadorเกินไป” “ถ้าไม่อย่างนั้น เราปล่อยสัญญาของUNICในครั้งนี้ไปก่อนดีไหมครับ?”Rickเสนอแนะ เนื่องจากจจิรภาสไม่ได้มาเห็นสภาพของจิดาภาในตอนนี้ แต่จากความคิดของเขานั้น ถ้าจะให้จิดาภาฟื้นฟูร่างกายให้กลับสู่สภาพที่ดีที่สุดนั้นภายในเวลาเพียงแปดชั่วโมงนั้นจะเป็นการฝืนมากเกินไปจริงๆ เค.เอฟ ไม่เคยดุว่าศิลปินคนไหนเพียงเพราะผลประโยชน์ของบริษัทมาก่อน หลังจากทิ่จิรภาสครุ่นคิดอยู่ซักพักหนึ่ง แล้วส่ายหน้า “เธอจะยังคงมุ่งมั่นต่อไปให้ได้” ในชีวิตของจิดาภา ไม่มีคำว่ายอมปล่อยอะไรง่ายๆอยู่แล้ว “ถ้าอย่างนั้นท่านประธานครับ...” “ทำตามความคิดของเธอ ก่อนอื่นจะต้องยืนยันได้ว่าสุขภาพเธอจะไม่มีปัญหาอะไร แล้วช่วยเธอให้ได้งานBrand ambassadorนี้มาให้ได้ หากมีปัญหาอะไร โทรหาผมได้ทันที” หลังจากที่Rickวางโทรศัพท์ลงนั้น จึงเดินกลับเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง ขณะนั้นเองมือถือของเขายังคงต่อสายอยู่ “ท่านประธานบอกว่าให้ฟังจากการตัดสินใจของคุณครับ ถ้าหากคุณไม่อยาก....” “ฉันไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไปหรอกค่ะ! การก่อนสัมภาษณ์ ฉันจะฟื้นฟูสภาพให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ค่ะ” จิดาภากล่าวด้วยความมุ่งมั่น บนโลกนี้ คนที่เข้าใจความคิดของจิดาภามากที่สุดก็คือจิรภาส ความเชื่อใจระหว่างเขาทั้งสองคน สนับสนุนซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่าจะอยู่กันคนละฝั่งของมหาสมุทร ก็ยังสามารถได้ยินความคิดของอีกฝ่ายหนึ่งได้ Rickยื่นส่งโทรศัพท์มือถือให้กับจิดาภา เวลานี้ พวกเขาคงจะมีเรื่องที่จะต้องคุยกันมาก “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ....” หลังจากที่เธอเอ่ยประโยคนี้จบแล้วนั้น ก็ฟังในสิ่งที่จิรภาสพูดออกมาแทน “อย่าฝืนนะครับ!” “ต่อไปไม่อนุญาตให้คุณดื่มแล้วนะ” “ส่วนเรื่องBrand ambassadorครั้งนี้ ถ้าหากไม่ได้ คุณก็ห้ามตำหนิตัวเองนะ ผมเชื่อคุณครับ...” ที่แท้ท่านประธานผู้แสนจะเย็นชาของพวกเขาเวลาอยู่ต่อหน้าภรรยาของเขา จะกลับอบอุ่นอ่อนโยนถึงเพียงนี้ หัวใจของเขามักจะให้ความสนใจกับจิดาภาอยู่เสมอ ใครก็คงนึกไม่ถึงว่าจิรภาสจะมีมุมแบบนี้ แต่ถ้าหาก ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกเผยแพร่ออกไปจริงๆ ยังจะยังรักกันมากแบบนี้ต่อไปหรือเปล่า? Rickสะบัดความคิดที่ไม่ควรคิดเหล่านั้นทิ้งไป ในวงการนี้ถึงแม้จะมีละครน้ำเน่าอยู่มากมาย แต่บางทีพวกเขาอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ จิดาภาไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ เธอเป็นศิลปิน เธอรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร เช่นเดียวกับการสัมภาษณ์ของUNICในครั้งนี้ Rickและพี่นัฎเชื่อว่าเธอจะแสดงความสามารถได้ออกมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร อย่างน้อยๆจิดาภาก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ทิ้งไป ....... Rickขับรถให้พวกเธอลงมา แล้วขับไปจอดรถ หลังจากนั้นพี่นัฎก็พยุงจิดาภาเดินกลับเข้าโรงแรมไป เพิ่งจะเดินเข้าประตูโรงแรมมา เห็นจันวิภาที่สวมเสื้อโค๊ทสีเทามีราคาแพง และรองเท้าบู๊ทยาวเท่าหัวเข่า ที่ดูสดใสมีพลังเช่นนั้น เมื่อเทียบกับสีหน้าอันแสนอิดโรยของจิดาภานั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จันวิภาช่างดูสะดุดตาเหลือเกิน เธอเหลือบมองมายังจิดาภา “ไม่สบายก็กลับไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่แบบนี้หรอก” ผู้ช่วยของเธอก็ช่วยเพิ่มประเด็นด้วยเช่นกัน “UNICไม่ใช่แบรนด์โนเนมธรรมดาๆ Brand ambassadorอ่อนแอแบบนี้ จะส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ของเขาเสียเปล่าๆ!” จิดาภาไม่มีแรงที่จะมาทะเลาะกับพวกเขา เพียงแต่ดึงพี่นัฎให้เลี่ยงไปเบาๆเพียงเท่านั้น พี่นัฎเข้าใจความหมายของเธอ และเตรียมจะพยุงจิดาภาให้เดินอ้อมผ่านพวกเขาไป เวลานี้ พี่นัฎเองก็ไม่เหมือนกับเวลาปกติ เธอไม่ได้สนใจที่จะโต้แย้งกลับไป ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องสุขภาพร่างกายของจิดาภา เพียงแต่ตอนที่เดินผ่านไปนั้น เธอจ้องมองไปยังพวกเขาอย่างไม่เกรงใจ อย่างให้พวกเขารู้ไว้ว่าจิดาภาไม่ใช่คนที่ใครจะมารังแกได้ง่ายๆ รูปร่างหน้าต่างของจันวิภาไม่ได้โดดเด่น แต่ได้เปรียบตรงที่เธอมีจมูกโด่ง ตาโต และใบหน้ารูปไข่นั้นทำให้คนมองดูแล้วรู้สึกดูเป็นมิตรและมีชีวิตชีวา ภาพลักษณ์ที่เธอสร้างขึ้นในหน้าจอทีวีนั้นก็เป็นเสมือนสาวสวยสูงส่งผู้มีความอ่อนโยนและเย่อหยิ่ง ทำให้เป็นที่ชื่นชอบจากบรรดาผู้คน ตอนนี้เธอสามารถกลายมาเป็นศิลปินที่โด่งดังของช่องบลูไลท์ได้นั้น ก็สามารถพิสูจน์ความสามารถของเธอให้เห็นได้เพียงพอแล้ว ในส่วนนี้ จิดาภาเองก็รู้ดี ตำแหน่งตรงนั้น จะไม่รู้สึกภูมิใจก็คงจะยาก Rickรีบตามมา บังเอิญเห็นกับฉากนั้นเข้าพอดี แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปแทรก อย่างแรกคือเชื่อว่าจิดาภาจะจัดการเรื่องการปะทะกันเช่นนี้ได้ อย่างที่สองเนื่องจากความสามารถและผู้อยู่เบื้องหลังของจันวิภาไม่ธรรมดา ซึ่งหากสุดท้ายแล้วคนที่เข้ารอบสุดท้ายจะเป็นเธอและจิดาภา นั่นก็เท่ากับว่าจิดาภาก็สามารถเอาชนะไปได้มากกว่าครึ่งแล้ว ถึงแม้ว่าจิดาภาจะมีจิรภาสคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง แต่เธอไม่ใช่คนที่จะชอบมาโอ้อวดความรู้สึกชีวิตตัวเองแบบนั้น แน่นอนว่าเธอจะไม่ใช้อิทธิพลของจิรภาสมาช่วยให้เธอแย่งงานไปได้อย่างแน่นอน จันวิภาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่รอยยิ้มเย้ยหยันที่ปรากฏออกมานั้นแสดงออกถึงความรู้สึกเธอได้เป็นอย่างดี เธอเดินนำผู้ช่วยของเธอออกมาไปทางประตูโรงแรมอย่างสบายใจ แล้วขึ้นรถเบนท์ลีย์ออกไป พี่นัฎส่งเสียงออกมาอย่างไม่อยากจะยอมซักเท่าไหร่ “อวดเก่งจริงๆ! ตอนนี้เธอไม่ใช่ว่าเป็นคนของบลูไลท์ จริงๆแล้ว...” ที่จันวิภาปฏิบัติกับจิดาภาเช่นนี้เป็นเพราะจิดาภาเคยถูกช่องบลูไลท์ปฏิเสธทั้งยังถูกภายในประกาศแบนเธออีกด้วย “เธอมีทุนเดิมที่เธอจะรู้สึกภูมิใจแบบนั้นได้”Rickเอ่ยบอกพวกเธออย่างตรงไปตรงมา “เดือนที่แล้วยอดขายตั๋วภาพยนตร์ ภาพยนตร์สองเรื่องที่จันวิภาร่วมแสดงจัดมียอดขายมาเป็นสองอันดับแรก ตอนนี้เธอยังนำหน้าคุณจิดาภาอยู่” พี่นัฎขมวดคิ้ว จู่ๆก็รู้สึกว่าคนแต่แข็งเป็นท่อนไม้อย่างตฤณอย่างไรก็น่ารักกว่าอยู่ดี จิดาภายิ้มออกมาอย่างอ่อนเพลีย “ศิลปินของช่องบลูไลท์นั้นมีความสามารถมาก สิ่งที่เธอทำก็ถือว่าไม่เกินไปหรอกค่ะ” “ผมเชื่อว่าคุณจะทำมันได้สำเร็จ”Rickยิ้มแล้วกดลิฟต์ให้พวกเธอ จิดาภาจะอดทนกับอาการปวดท้องของเธอ เพื่อที่จะเข้าร่วมการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ถึงอย่างไรตอนนี้จิดาภาก็ไม่ได้ขาดอะไร จะมีก็เพียงแค่ขาดโอกาสไปเสียหน่อยเท่านั้น “อืม ฉันก็เชื่อแบบนั้นค่ะ” จิดาภาเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ Rickไม่แปลกใจในตัวผู้หญิงคนนี้ของจิรภาสเลย....
已经是最新一章了
加载中