บทที่206 แย่งไปก่อน   1/    
已经是第一章了
บทที่206 แย่งไปก่อน
บทที่206 แย่งไปก่อน ในคอของจันวิภาราวกับมีไฟลุก เธออยากจะโต้แย้งคำพูดของJolsonกลับไปเป็นอย่างมาก แต่เธอ....คิดไม่ออกว่าจะเอาหลักฐานอะไรมาโต้ตอบเขากลับไป! ตั้งแต่เธอเข้าวงการบันเทิงจากรายการคัดเลือกนักแสดง อาศัยผู้อยู่เบื้องหลังและแหล่งสนับสนุนจากช่องบลูไลท์ก้าวมาจนถึงวันนี้ได้ เธอไม่ได้อาศัยกำลังของตัวเองเลย หากเปลี่ยนเป็นใครคนอื่นที่มีแหล่งสนับสนุนแบบเธอก็จะเป็นดาราได้ทุกคน แต่กับจิดาภาไม่เหมือนกัน จะมีซักกี่คนที่หลังจากผ่านเรื่องราววุ่นวายเหล่านั้นมาแล้ว จะยังสามารถกลับเข้ามาในวงการบันเทิงอีกครั้งได้หลังจากที่หายไปถึงสามปีเช่นนี้! จันวิภารู้ดีถึงกฎเกณฑ์ของวงการนี้ ถ้าหากเป็นเธอ เธอถามตัวเองบางทีเธออาจจะทำไมไม่ได้อย่างจิดาภาก็ได้ “ตอนนี้พวกเราจะต้องคุยเรื่องสำคัญกันแล้ว ขอเชิญคุณสองคนกลับไปด้วยครับ”Jolsonกล่าวกับพวกเขา จันวิภายังคงรักษาท่าทางอันแสนเย่อหยิ่งของเธอไว้ ริมฝีปากแดงนั่นยกขึ้น “พวกเรายังต้องเจอกันอีกแน่นอนค่ะ” เธอจะต้องชนะจิดาภา! เมื่อรอจนเธอพาผู้จัดการส่วนตัวของเธอกลับออกไปจากสำนักงานของUNICแล้วนั้น ผู้จัดการของเธอนั้นยังคงโมโหอยู่ “คิดว่าตัวเองเป็นใคร! กล้ามาแย่งงานของบลูไลท์ ช่างน่าอายเสียจริงๆ!” “พอแล้วล่ะ แค่นี้ยังขายหน้าไม่พอหรือไง?” ในใจของจันวิภาก็รู้ดี สิ่งที่Jolsonพูดมานั้นก็ไม่ผิด เธอแพ้แล้วจริงๆ “ฉันเป็นกังวลแทนเธอนะ ไม่ได้งานBrand ambassadorนี้ไป กลับไปแล้วจะไปบอกเขาอย่างไรกัน?” ผู้จัดการรู้สึกปวดหัวพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “แพ้ให้ใครไม่แพ้ แต่นี่คู่แข่งเธอคือจิดาภานะ ศิลปินเล็กๆคนนึงที่เพิ่งจะเซ็นสัญญาไปเอง นี่ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปคงจะเป็นเรื่องตลกน่าดู!” “ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว คุณจะให้ฉันทำอย่างไร?” “ไม่! เพียงแค่การเซ็นสัญญาไม่สำเร็จ เธอก็ยังไม่แพ้ อย่างมากก็แค่เสมอกัน” ผู้จัดการเอ่ยพูดเสียงเบา จันวิภาชะงักก้าวที่กำลังจะเดินต่อแล้วหันมายังผู้จัดการที่อยู่ข้างๆ “ตอนนี้ยังมีวิธีที่จะขัดขวางจิดาภาอย่างนั้นหรือคะ? เธอไม่ใช่คนที่คุณจะขู่แล้วจะยอมถอยออกไปง่ายๆแบบนั้นนะ” “ก็ไม่แน่หรอกนะ ฉันได้ยินมาว่าRickยังไม่ยอมเปิดเผยสถานะของผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภาเสียที บางทีเขาอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับจิดาภาเลยตั้งแต่แรกก็ได้นะ? ฉันกลับไปหาข้อมูลก่อน จะต้องมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้แน่ๆ!” จันวิภาได้ยินดังนั้นแล้ว จึงขึ้นรถพลางคิดตามกับสิ่งที่ได้ยินมา ผู้จัดการเธอพูดถูก ณ ตำแหน่งของเธอในตอนนี้ หากแพ้ให้กับจิดาภาจะเป็นที่น่าอับอายจริงๆ อีกทั้งหากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป....ไม่ ช่องบลูไลท์จะมาแพ้ให้กับเค.เอฟไม่ได้! เพียงแต่พวกเขาคงนึกไม่ถึงว่าผู้จัดการผู้ที่แสนจะลึกลับของจิดาภานั้นได้คาดการณ์ทุกอย่างไว้หมดแล้ว เขานั่งอยู่ที่ออฟฟิศก็สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดไว้ได้แล้ว เมื่อได้รับเรื่องที่ว่าจิดาภาได้เซ็นสัญญากับUNIC เขาก็ให้ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ประกาศข่าวดีเรื่องนี้ออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จิดาภากลายเป็นBrand ambassador คนต่อไปของUNIC! ผู้จัดการของจันวิภาที่ยังไม่ทันได้หาข้อมูลอะไร ก็แพ้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อหลังจากที่เห็นประกาศเรื่องนี้ออกไปแล้วนั้น ผู้อำนายการของช่องบลูไลท์จึงติดต่อไปยังจันวิภาทันที ถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้เอาโอกาสในมือไปให้จิดาภาเช่นนั้น! จากที่พวกเขามองแล้ว จิดาภาไม่น่าจะชนะจันวิภาได้อยู่แล้ว จันวิภาถือโทรศัพท์ไว้อย่างเงียบๆ เธอไม่รู้ว่าควรจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรดี ผู้จัดการส่วนตัวของเธอก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ข้างๆเธอ คิดว่าเค.เอฟนั้นตั้งใจจะหาเรื่องพวกเขานั่นเอง มีเจตนาที่จะให้จิดาภาที่เพิ่งจะกลับมา แย่งชิงงานBrand ambassadorของจันวิภาไป เพื่อจะขัดกับทางช่องบลูไลท์ เรื่องทั้งหมดได้ถูกแพร่ออกไปทั่วทั้งวงการแล้ว จิดาภาแย่งตำแหน่งBrand ambassadorของจันวิภาไป ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ก็ล้วนแต่จะถูกปาปารัซซี่พวกนั้นจับตามอง ดังนั้นพวกเธอจึงต้องยอมปล่อยแผนเดิมทิ้งไป อีกทั้งยังภาวนาให้จิดาภาถ่ายทำได้อย่างราบรื่น มิเช่นนั้น หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น คงจะถูกผู้คนเพ่งเล็งไปยังจันวิภาอย่างแน่นอน “จันวิภา ฉันก็ยังหาสถานะของผู้จัดการส่วนตัวจิดาภาไม่ได้เลย!” ผู้จัดการของจันวิภารู้สึกกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก เธอใช้เส้นสายในวงการนี้ทั้งหมดแล้ว แต่การเก็บความลับของเค.เอฟนั้นช่างแน่นหนาเหลือเกิน เธอจึงหาช่องว่างที่จะลงมือทำอะไรไม่ได้เลย จันวิภาที่ได้ยินประโยคนี้แล้ว จึงหัวเราะออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ดูแล้ว เธอหาบ้านหลังใหม่ได้ดีเสียจริงๆ” สังกัดที่สร้างความยุ่งยากในวงการบันเทิงนี้เพื่อเธอ! เมื่อดูจากจุดนี้แล้ว จันวิภาก็ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่า Brand ambassadorครั้งนี้เธอคงจะแย่งมาไม่ได้แล้ว “จัดการให้หน่อยนะคะ พวกเราจะกลับกันเลย” ผู้จัดการตอบรับอย่างไม่สบอารมณ์นัก เธอยิ่งรู้สึกสงสัยในสถานะของผู้จัดการของจิดาภามากขึ้นไปอีก ว่าสรุปแล้วเขาเป็นใครกันแน่ ถึงได้ลงหมากได้ดีขนาดนี้! เค.เอฟจะมีผู้จัดการที่เก่งขนาดนี้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลงอะไร แต่ที่แปลกนั่นคือ ผู้บริหารคิดอะไรกันอยู่กันแน่ ถึงได้จัดผู้จัดการที่เก่งขนาดนี้ให้กับจิดาภา? หรือว่าพวกเขาคิดจะดันจิดาภาอย่างนั้นหรือ? อีกทางด้านหนึ่ง จิดาภาเองก็กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่เช่นกัน เธอรู้สึกได้มาตลอดว่า ผู้จัดการคนนี้ของเธอถึงแม้จะดูลึกลับ อีกทั้งวิธีของเขาอย่างดูเฉียบขาดและรวดเร็ว แต่ราวกับเขาอยู่ข้างๆเธอตลอด รู้อารมณ์ความรู้สึก และสภาพของเธออยู่ตลอดเวลา หากสมมติว่าใช้อาศัยเพียงคำพูดของRick คงจะไม่ได้ราบรื่นขนาดนี้ ถ้าเช่นนั้นแล้วเพียงคนเดียวที่จะเป็นไปได้นั้น คนนี้เข้าใจเธอมากว่าใคร! นอกจากเขาแล้ว ยังจะมีใครได้อีก? เธอนึกไปถึงเมื่อก่อนที่จิรภาสเคยพูดไว้กับเธอ เพียงแต่ตอนนั้นเธอไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ ตอนนี้ดูแล้ว เขาคงจะคาดการณ์เรื่องราวในวันนี้เอาไว้หมดแล้ว “คุณRickคะ ผู้จัดการแสนลึกลับคนนี้เขายังคงไม่ยอมเผยโฉมหน้าออกมาอีกหรือคะ? แม้แต่นักข่าวเองก็ยังไม่สามารถหาข้อมูลของเขาได้เลย” จิดาภาวางหนังสือพิมพ์ลง แล้วเอ่ยถามเขา ถ้าหากคนๆนี้ตั้งใจจะทำให้คนภายนอกสับสน เพื่อช่วยจิดาภาฝ่าวงล้อมเหล่านั้นได้ พี่นัฎเองก็เข้าใจได้ แต่แม้แต่พวกเธอยังไม่รู้สถานะของเขาเลย แบบนี้ยิ่งแปลกเกินไปแล้ว Rickมองจิดาภาด้วยความลังเล กลับรู้สึกว่าเธอดูไม่แปลกใจเหมือนกับพี่นัฎ จึงยิ้มออกมาอย่างเคอะเขิน “ทางเขานั้นมีเรื่องด่วนจริงๆครับ เขาถึงมาไม่ได้ แต่เชื่อผมนะครับ ว่าเขาเป็นผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ความสามารถก็โดดเด่น!” หลังจากที่Rickพูดจบนั้น จึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วดูไฟท์บิน “งานของผมสิ้นสุดลงแล้ว คืนนี้ผมต้องบินกลับแล้วครับ” พี่นัฎหันมาหาจิดาภา แล้วจึงเอ่ยขึ้น “เร็วขนาดนี้เลยหรือคะ? อยู่ต่ออีกซักสองวันได้ไหมคะ?” “ผมก็มีงานที่รอผมกลับไปจัดการอยู่เหมือนกันครับ”Rickโบกมือ เพื่อแสดงออกท่าทางรีบร้อนของเขา แต่ก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่ได้รับการแจ้งเรื่องด่วนอะไรเลย “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”พี่นัฎเอ่ยแล้วดื่มยาของมื้อนี้ ความขมของยาแทรกซึมผ่านลำคอ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แล้วรีบดื่มน้ำตามลงไป “แต่ คุณทำงานทั้งๆที่ไม่สบายแบบนี้...ควรจะหาผู้ชายซักคนมาดูแลได้แล้วนะครับ” “คุณไม่มีอะไรทำแล้วหรือคะ? รีบๆกลับไปเลยดีกว่านะ!” พี่นัฎมองค้อนRick เพื่อให้เขารู้สึกได้เอง จริงๆแล้วRickเป็นคนที่สามารถสังเกตจากสีหน้าและคำพูดของคนได้เป็นอย่างดี ช่วงเวลาสั้นๆนี้ เขาสามารถรับรู้และสัมผัสถึงสไตล์การทำงานและความเคยชินต่างๆของทั้งจิดาภาและพี่นัฎได้ การทำงานกับคนอย่างเขา อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก Rickพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มให้ “ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะครับ มีเรื่องอะไรก็ติดต่อผมได้นะ” เขากลับหวังว่าจะไม่ได้รับโทรศัพท์ด่วนจากทางนี้อีก พูดจบแล้วนั้น Rickจึงลากกระเป๋าเดินทางออกไปจากโรงแรม พี่นัฎที่มองเขาเดินออกไปจากทางหน้าต่าง เอ่ยด้วยเสียงอู้อี้ “ถามจากปากเขาก็ไม่ได้อะไรเลย เธอว่าเขาจะไม่รู้จริงๆหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กัน?”
已经是最新一章了
加载中