บทที่207 การถ่ายทำอันหนักหน่วง

บทที่207 การถ่ายทำอันหนักหน่วง จิดาภาลุกขึ้นมานั่งบนเตียง “ไม่รู้สิคะ...” “แล้วเธอพอจะเดาถึงสถานะตัวตนของผู้จัดการเธอคนนี้ได้ไหม? พี่รู้สึกว่าเธอเหมือนจะรู้แล้วเลย! หรือว่าเขาแอบติดต่อกับเธอ?”จู่ๆพี่นัฎก็รู้สึกว่าจิดาภาวันนี้ดูนิ่งกว่าทุกวัน เธอจึงพุ่งเข้าไปถามด้วยความสงสัย “พอจะเดาได้นะค่ะ” จิดาภาหยิบกาน้ำร้อนขึ้นมา แล้วเทน้ำร้อนให้กับพี่นัฎ ตอนนี้เหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนอยู่ที่ต่างประเทศแบบนี้ แน่นอนว่าจะต้องดูแลซึ่งกันและกันไปก่อน มิเช่นนั้นเธอกลัวว่าพอกลับไปแล้ว ตฤณจะมาโทษเธอแน่ๆ “ใครหรือ?” “พี่คิดว่าคุณจิรภาสจะจัดให้ใครมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวฉันกันคะ?”จิดาภาจับแก้วน้ำยัดเข้าไปในมือของพี่นัฎ“ดื่มน้ำเยอะๆค่ะ!” พี่นัฎขมวดคิ้วอย่างสงสัย ถือแก้วน้ำไปและครุ่นคิดไปด้วย “ต้องมีความสามารถในการประชาสัมพันธ์และความสามารถในเรื่องของความร่วมมือได้โดดเด่นแบบนี้!” “อีกทั้งยังมีเส้นสายในวงการบันเทิงนี้อีก บวกกับการมองการณ์ไกล คาดการณ์เส้นทางในอนาคตของเธอได้ครอบคลุมแบบนี้อีก!” พี่นัฎค่อยๆคิดพิจารณาตาม.... “ดังนั้น คำตอบล่ะ?” จิดาภามองเธอแล้วยิ้มออกมา พี่นัฎสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยออกมา“เขานั่นเอง!” จิดาภาพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย นี่เป็นเพียงคำตอบเดียวที่เธอนึกออก นอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครสามารถจะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ทั้งหมดได้อีกแล้ว พี่นัฎยกแก้วขึ้นด้วยความตกใจ แต่เป็นเพราะปฏิกิริยาเมื่อครู่นี้ จึงทำให้สำลักน้ำ เธอไอออกมา แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น “เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่มากเลยนะ! ไม่นึกเลยว่าบอสใหญ่จะยอมมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เธอเองแบบนี้!” “มิน่าล่ะ แม้แต่คุณRickเองก็ยังไม่กล้าบอกสถานะของเขากับพวกเราเลย!” พี่นัฎพยายามจับตัวของพี่นัฎที่แทบจะกระโดดด้วยความตื่นเต้นนั้นไว้เสียก่อน “อืม เมื่อก่อนเขาเคยพูดไว้ค่ะ เพียงแต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะเริ่มมีการเคลื่อนไหวไปบ้างแล้ว” จริงๆมาคิดดูแล้ว ถ้าหากได้จิรภาสมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอจริงๆแล้วนั้น นั่นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก เพียงแต่เธอรู้สึกมาตลอดว่าแค่งานของเค.เอฟเหล่านั้นเขาเองก็ยุ่งมากพอแล้ว แล้วถ้าเขาต้องมาแบ่งเวลาให้กับเธอ ไปกับเธอในทุกๆที่ จิดาภาเองก็รู้สึกปวดใจเหมือนกัน เธอไม่อยากเห็นเขาต้องเหนื่อยกับงานเสียจนต้องเจ็บป่วยล้มลงไปเสียก่อน “ดีเหลือเกิน! ต่อไปพี่จะได้วางใจได้จริงๆเสียที!”พี่นัฎพูดออกมาจากใจ “ทั้งวงการนี้ นอกจากเธอแล้ว จะยังมีใครที่ทำให้เขายอมลดฐานะตัวเองเพื่อมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้แบบนี้อีกกัน!” ถ้าหากข่าวนี้แพร่ออกไปนั้น เกรงว่าในวงการนี้จะมีพายุพัดผ่านเข้ามาอีกระลอกหนึ่งเป็นแน่ สำหรับจิรภาสแล้วนั้น จิดาภาเป็นสิ่งที่มีค่าเพียงหนึ่งเดียวในโลกใบนี้ เขาจะยอมให้คนอื่นมาเป็นคนนำภรรยาสุดที่รักเขาได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเขาจะได้อยู่กับเธอทุกเวลา “เธอคิดว่าดีไหม?” จิดาภาส่ายหน้าด้วยความกังวล “ฉันกลับไม่คิดอย่างนั้นค่ะ...” ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะใช้เวลาร่วมกันกับเขา แต่เธอกังวลและเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเขามากกว่า พี่นัฎได้ยินดังนั้น แล้วกระพริบตา เธอพอจะเข้าใจในความคิดของจิดาภา ซึ่งหลังจากที่ตื่นเต้นไปแล้วนั้น จึงหุบยิ้มลง “แต่เธอก็ต้องเชื่อเขา ในเมื่อบอสกล้าที่จะแบ่งงานแบบนี้แล้ว นั่นก็แสดงว่าเขาสามารถแบ่งเวลาให้เหมาะสมได้ แล้วอีกอย่าง มีเขาอยู่ด้วยข้างๆแบบนี้ เวลาที่เธอทำงานเธอก็จะยิ่งสบายใจด้วยไง!” “จิดาภา อย่าคิดมากเลยนะ ตอนนี้ที่เธอต้องการที่สุดคือผู้จัดการที่สามารถจะมาปกป้องเธอได้ บอสมีความความสามารถที่ยอดเยี่ยมรอบด้านแบบนั้น แน่นอนว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด พวกเธอเป็นสามีภรรยากัน ยิ่งได้มาทำงานร่วมกันอีก นั่นก็เป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบมากๆเลยนะ!” “ที่ได้งานBrand ambassadorของUNICครั้งนี้มา นั่นก็เป็นผลงานของบอสสินะ!” “เรื่องราวที่ผ่านมาแต่ละครั้งสามารถพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า เขาคือผู้จัดการที่ดีที่สุดของเธอ ถ้าหากเธอเป็นห่วงเรื่องสุขภาพเขาล่ะก็ แบบนี้เขาก็อยู่ข้างๆเธอตลอด เธอก็สามารถจะควบคุมเรื่องการทานอาหาร นอนหลับพักผ่อนของเขาได้...ดีจะตาย...” คำพูดของพี่นัฎทำให้จิดาภาต้องครุ่นคิดตาม เรื่องนี้เกิดขึ้นเร็วมาก จนเธอยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ แน่นอนว่าจิรภาสจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่ดีที่สุดในโลกนี้ เธอก็แค่กังวล ว่าภายนอกจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกับเรื่องนี้กันอย่างไร แล้วอีกอย่าง ก็คือเรื่องสุขภาพของเขา และด้วยเวลาในการถ่ายทำโฆษณาของUNICที่ใกล้เข้ามา จิดาภาเองก็ไม่มีเวลาที่จะไปหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้แล้ว เธอจะต้องแสดงความสามารถในทุกๆด้านและพลังของเธอออกมาในการทำงานครั้งนี้ เนื่องจากศิลปินที่จะต้องถ่ายร่วมซีนกับเธอนั้นเป็นนักแสดงหญิงที่โด่งดังมากในประเทศฝรั่งเศส หลังจากที่เธอถ่ายทำติดต่อกันเป็นเวลาห้าชั่วโมงแล้ว พละกำลังของร่างกายเธอนั้นราวกับจะรับต่อไปไม่ไหวแล้ว พี่นัฏคอยถือน้ำและของกินให้เธอ รอคอยอยู่ข้างๆด้วยความกังวล งานระดับชั้นนี้นั้นจะไม่สามารถหยุดลงเพราะใครคนใดคนหนึ่งได้ เนื่องจากทุกๆคนล้วนแต่จะต้องมุ่งมั่นและอดทนไปด้วยเช่นกัน พี่นัฎที่เป็นผู้ช่วยทำได้เพียงเตรียมงานที่อยู่เบื้องหลังจากนี้เพียงเท่านั้น เรื่องอื่น เธอเองก็ไม่มีความสามารถพอเช่นกัน นอกจากBrand ambassadorหลักทั้งสามคนแล้วนั้น ยังมีนางแบบบางส่วนที่มาร่วมการถ่ายทำในครั้งนี้ด้วย ความผิดพลาดของใครคนหนึ่ง ทำให้ส่งผลกับทุกคนที่จะต้องเริ่มใหม่กันอีกครั้ง...ในสถานการณ์เช่นนี้จึงทำให้การถ่ายทำนั้นยากขึ้นและเพิ่มเวลาในการทำงานออกไปอีกด้วย ไม่ง่ายเลยที่กว่าจะถึงโอกาสของช่วงเวลาพักผ่อน พี่นัฎจึงรีบส่งน้ำให้กับจิดาภา “โอเคไหม? ให้พี่คิดหาวิธีช่วยอะไรไหม?” ไม่ว่าจะทำอะไร ขอเพียงแค่ช่วยให้จิดาภาได้ผ่อนคลายกำลังของร่างกายเธอได้บ้างก็พอ “ฉันยังไหวค่ะ” จิดาภาพยายามที่จะทำให้ตัวเองสงบลง “แม้ว่าจะเร่งรีบ แต่ก็ไม่น่าจะเร่งถ่ายกันขนาดนี้นี่นา พี่เห็นคนอื่นๆก็แทบจะทนกันไม่ไหวอยู่แล้ว!” พี่นัฎบ่นเบาๆ ที่หลังม่านถัดออกไปไม่ไกลมีนางแบบคนหนึ่งเป็นลมล้มพับลงไปแล้ว “สถานการณ์แบบนี้ก็เจอกันออกจะบ่อยนี่คะ” จิดาภาหัวเราะแล้วยื่นผ้าขนสัตว์กลับเข้าไปในมือของพี่นัฎอีกครั้ง และในขณะนั้นเอง ที่ทางทีมงานตะโกนขึ้น “หมดเวลาพักแล้วครับ เริ่มกันใหม่นะ....” พี่นัฎมองดูจิดาภาอย่างเห็นใจ ใส่รองเท้าส้นสูงเดินไปเดินมาแบบนี้ ต้องเหนื่อยมากแน่ๆ “เป็นอะไรไปคะ? เมื่อก่อนก็ถ่ายทำกันแบบนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะฉันเซ็นสัญญากับทางเค.เอฟ ไม่ใช่เป็นเพราะเขารักฉัน แล้วจะเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าฉันเป็นนักแสดงคนนึงได้นะคะ ฉันจะต้องรับผิดชอบงานของฉันให้ได้” จิดาภาเอ่ยปลอบพี่นัฎ เมื่อก่อนที่เธออดทนกับความยากลำบากและความเหน็ดเหนื่อยยิ่งกว่านี้เสียอีก และในขณะที่จิดาภากำลังจะหันกลับไป เพื่อเตรียมจะไปเติมเครื่องสำอางนั้น ร่างสูงก็ปรากฏอยู่ด้านหลังของเธอ ใช้แรงดึงจิดาภาจึงหันกลับเข้ามาสู่อ้อมกอดของเขา เสื้อคลุมสีดำได้ปกคลุมมายังร่างกายของเธอ ความอบอุ่นและลมหายใจที่แสนคุ้นเคยนี้....จิดาภาหัวใจเต้นแรง เธอเงยหน้าขึ้นมา พบกับดวงตาที่ลึกซึ้งของจิรภาส เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? พี่นัฎเองก็นิ่งอึ้งไปเช่นกัน ส่วนคนอื่นๆที่อยู่ในกองถ่ายก็มองมายังทิศทางนี้กันอย่างตกตะลึง เนื่องจากรูปร่างหน้าตาของผู้ชายคนนี้นั้นทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงได้จริงๆ เขาลูบศีรษะ และโอบกอดจิดาภาไว้ก่อนที่จะพาเธอไปนั่งพักอยู่พื้นที่ด้านข้าง หลายๆคนคิดว่าเขาเป็นดารานักแสดง ทั้งยังเป็นนักแสดงระดับต้นๆอีกเสียด้วยซ้ำ คนธรรมดาจะดูมีออร่าขนาดนี้ได้อย่างไรกัน จิดาภาอยากจะเปิดปากพูดออกมา แต่ถูกสายตาของจิรภาสห้ามเอาไว้เสียก่อน ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับอัญมณี จิดาภาจึงพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วนั่งลงตามความต้องการของเขา พี่นัฎยกมือขึ้นราวกับได้รับชัยชนะอยู่ข้างๆ บอสใหญ่มาแล้ว เรื่องราวจะได้พลิกผันไปเสียที!